Sunday, 8 June 2025
KNU

'เพจวงในพม่า' ถามนักข่าวดัง 'ฐปณีย์ เอียดศรีไชย' ข้ามแดนไปทำข่าวให้ KNU แบบนี้ ถูกต้องหรือไม่?

ไม่นานมานี้ เพจ 'LOOK Myanmar' ซึ่งนำเสนอมุมมอง แนวคิดและชีวิตความเป็นอยู่วัฒนธรรมของคนพม่า ได้โพสต์ภาพและข้อความ ระบุว่า...

"ขอสอบถามไปทางคุณแยม ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองและกระทรวงการต่างประเทศหน่อย

ข้อแรกคุณแยมเข้าไปทำข่าวในแผ่นดินกะเหรี่ยงไปทางไหน ข้ามแดนถูกต้องตามกฎหมายไทยหรือเปล่า แล้วถ้าไม่ได้ผ่านแดนแบบถูกต้องตามกฎหมายไทย คุณแยมทำผิดกฎหมายไทยหรือไม่ ประเด็นนี้ฝากคุณแยมช่วยชี้แจง และตำรวจตรวจคนเข้าเมืองช่วยตรวจสอบด้วย

#เพราะคนไทยย่อมอยู่ภายใต้กฎหมายไทยไม่มียกเว้น

ข้อ 2 ในฐานะสื่อมวลชน การนำเสนอข่าวแบบนี้จะกระทบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไหม ฝากกระทรวงการต่างประเทศ ฝ่ายปกครองและท่านนายกรัฐมนตรีพิจารณาที"

ทั้งนี้ คอมเมนต์ของชาวโซเชียลได้แสดงความห่วงใยการรายงานข่าวดังกล่าวเช่นกัน อาทิ...

- สื่อควรเป็นกลางนะ เรื่องระหว่างประเทศด้วย
- หาเรื่องให้คนพม่าเข้าใจว่าประเทศไทยเข้าข้างกะเหรี่ยง ทำเป็นโชว์เหนือ เข้าคลุกวงใน 
- ด่านที่เมียวดี น่าจะยังเปิดนะครับ
- ผมเคยยุให้คุณนักข่าวไปทำสกู๊ป ไอ้เดวิด กับ FBS ว่ามันทำอะไรในไทยบ้าง ไม่เห็นจะตอบ น่าสนใจกว่าเยอะ 
- ระวังลูกหลงบ้างนะแยม เขาต่อสู้กันคงไม่มีเวลามาป้องกัน 
- ฝากถามด้วย เอาเงินซื้ออาวุธมาจากไหน? 
- ขอเตือนสักคำนะคะน้อง ในฐานะคนไทยด้วยกัน แค่พรี่เป็นประชาชน ข้าแผ่นดินธรรมดา ที่ถือเอาชาติและแผ่นดินไทย เป็นสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิตค่ะ... ปัญหาในดินแดนเพื่อนบ้าน เป็นเรื่องละเอียดอ่อน ที่ประเทศไทย คนไทย โดยเฉพาะสื่อ ต้องระมัดระวังในการทำข่าว หาข่าว เสนอข่าวนะคะ...ใช่ค่ะ สื่อมีสิทธิเสรีภาพในการหาเสนอข่าว #แต่ให้ระมัดระวังการแสดงออกและข่าวที่นำเสนอ 

กลุ่มติดอาวุธ KNU ถอนกำลังออกจากเมียวดีชั่วคราว  หลังทหารฝ่ายรัฐกลับเข้าพื้นที่ และมีกองหนุนอาสาช่วย

(24 เม.ย.67) สหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNU) ได้ถอนกำลังออกจากเมืองเมียวดีชั่วคราว โฆษกของกลุ่มระบุ หลังจากทหารฝ่ายรัฐบาลได้กลับเข้าไปยังพื้นที่ยุทธศาสตร์สำคัญที่เป็นช่องทางการค้าต่างประเทศมูลค่ากว่า 1,000 ล้านดอลลาร์ต่อปี

“กองกำลังทหารของ KNLA จะทำลายทหารฝ่ายรัฐและกองหนุนของพวกเขาที่เคลื่อนพลไปยังเมืองเมียวดี” ซอ ตอ นี โฆษกของสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยงกล่าว โดยอ้างถึงกองทัพปลดปล่อยแห่งชาติกะเหรี่ยงที่เป็นฝ่ายกองกำลังติดอาวุธของพวกเขา

แต่อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้ระบุว่าความเคลื่อนไหวครั้งต่อไปของกลุ่มคืออะไร

ทั้งนี้ การต่อสู้ปะทุขึ้นเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาในเมืองเมียวดี ที่ส่งผลให้พลเรือนมากถึง 3,000 คน ต้องอพยพหลบหนีภายในวันเดียว ในขณะที่กลุ่มติดอาวุธต่อสู้เพื่อขับไล่ทหารฝ่ายรัฐที่ซ่อนตัวอยู่บริเวณเชิงสะพานมิตรภาพ

อย่างไรก็ตาม ในวันพุธ (24 เม.ย.) ไทยกล่าวว่า การต่อสู้คลี่คลายลงแล้ว และหวังว่าจะสามารถเปิดจุดผ่านแดนได้อีกครั้ง หลังจากการค้าได้รับผลกระทบจากการสู้รบ โดยระบุว่า พลเรือนส่วนใหญ่เดินทางกลับประเทศแล้ว และยังเหลืออยู่เพียง 650 คน

“สถานการณ์ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แต่อย่างไรก็ตาม เรากำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ซึ่งมีความไม่แน่นอนสูงและสามารถเปลี่ยนแปลงได้” โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของไทยระบุ

ไทยได้รับรายงานว่าการเจรจาอาจกำลังเริ่มต้นขึ้นระหว่างกลุ่มต่าง ๆ ในฝั่งพม่า และไทยได้เสนอให้ลาว ประธานสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) จัดการประชุมเพื่อหาข้อยุติวิกฤตพม่า

กองทัพพม่าเผชิญกับความท้าทายครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เข้าควบคุมพม่าเป็นครั้งแรกในปี 2505 โดยติดอยู่กับความขัดแย้งในหลายแนวรบ และพยายามที่จะต่อสู้เพื่อรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจที่พังลงนับตั้งแต่รัฐประหารในปี 2564 ที่ยุติการปกครองระบอบประชาธิปไตย และการปฏิรูปที่ดำเนินมาได้เพียงไม่นาน

ประเทศติดอยู่กับสงครามกลางเมืองระหว่างกองทัพฝ่ายหนึ่งและอีกฝ่ายหนึ่งคือพันธมิตรที่จับมือกันอย่างหลวม ๆ ของกองทัพชนกลุ่มน้อยชาติพันธุ์และขบวนการต่อต้านที่เกิดขึ้นจากการปราบปรามนองเลือดของรัฐบาลทหารต่อผู้เห็นต่างต่อต้านการรัฐประหาร

รัฐบาลทหารสูญเสียการควบคุมพื้นที่ชายแดนสำคัญให้กลุ่มติดอาวุธ และภาพถ่ายที่โพสต์ในกลุ่มโซเชียลมีเดียที่สนับสนุนรัฐบาลทหารบางกลุ่มเผยให้เห็นทหารจำนวนหนึ่งกำลังชูธงที่ฐานทหารแห่งหนึ่งซึ่ง KNU ควบคุมไว้เมื่อไม่กี่วันก่อนและได้ชูธงของตนเอง

ด้าน โฆษกของ KNU ระบุว่า รัฐบาลทหารที่ดำเนินการตอบโต้เพื่อยึดคืนเมืองเมียวดี ได้กลับเข้ามาในพื้นที่ด้วยความช่วยเหลือจากกองกำลังทหารอาสาในพื้นที่ ที่เคยเคียงข้าง KNU เมื่อครั้งเข้าปิดล้อมเมืองเมื่อต้นเดือน เม.ย.

รัฐบาลทหารและกองกำลังกะเหรี่ยงแห่งชาติ (KNA) ที่เคยเป็นกองกำลังพิทักษ์ชายแดนรัฐกะเหรี่ยง (หรือกะเหรี่ยงบีจีเอฟ- Karen BGF) ไม่ตอบรับโทรศัพท์ที่รอยเตอร์ติดต่อเพื่อขอความคิดเห็น

KNA ที่ก่อนหน้านี้เป็นฝ่ายเดียวกับรัฐบาลทหาร ได้ยืนยันที่จะแยกตัวออกจากกองทัพพม่าที่อ่อนแอลงในปีนี้ แต่ไม่ได้ให้คำมั่นต่อสาธารณะว่าจะเข้าพวกกับฝ่ายต่อต้านรัฐบาลทหาร

อดีตกองกำลังพิทักษ์ชายแดนรัฐกะเหรี่ยงกลุ่มนี้อยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของ พ.อ.ซอ ชิด ตู่ และมีผลประโยชน์เชิงพาณิชย์อย่างมากในเมืองเมียวดีและพื้นที่โดยรอบ ที่รวมทั้งกาสิโน บ่อนการพนันออนไลน์ และแก๊งคอลเซ็นเตอร์

เปิดเบื้องลึก!! หลัง KNU ร่อนประกาศชัยชนะ ถึงฝั่งไทย ตีค่ายแตกปุ๊บ!! กองทหารเมียนมา ร่วม 200 หนีทัพมาฝั่งไทย

(11 พ.ค. 68) เหมือนอาทิตย์ที่ผ่านมาสื่อต่างๆรีบงับข่าวประกาศที่ทาง KNU ที่เมืองมะริดและทวายประกาศยึดฐานได้ อย่างครึกโครม แต่สำหรับเอย่าที่อยู่ในวงการข่าวเมียนมานั้น  ประกาศนั้นเหมือนเป็นการส่งสัญญาณเยาะเย้ยไทยเสียมากกว่า เอามาเป็นว่าวันนี้เอย่าจะมาวิเคราะห์ให้ผู้อ่านลองคิดเล่นๆกัน

1. แปลกไหมตีค่ายแตกปุ๊บกองทหารเมียนมาร่วม 200 นายหนีทัพมาฝั่งไทย เพื่อต้องการให้ฝะ่งไทยผลักดันกลับแถมพร้อมกลับทันทีด้วยนะ  ฝั่งเมียนมาก็ไม่รอช้ารีบจัดแจงการรับกลับโดยมารับที่ด่านเกาะสองโดยให้ทั้งหมดเนรเทศออกจากไทยที่ด่านระนอง 

เอาให้ลึกกว่านี้ดีกว่าเผื่อยังไม่เข้าใจ ในเมียนมาโทษของการหนีทัพคือประหารชีวิต  แต่นี่คนกลับก็อยากกลับ ตกลงกลับไปตายหรือเป็นแผนที่ฝั่งเมียนมาต้องการจะทิ้งฐานเพื่อรักษาชีวิตทหารกันแน่

2. ฝั่งกองทัพกะเหรี่ยงอ้างถึงความไม่ปลอดภัยจากการสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ เอย่าอยากจะบอกนะคะ ไม่ว่าจะสร้างโรงไฟฟ้าแบบไหนก็ตามเขามีวิศวกร และผู้ชำนาญงานมาควลคุมดูแล เขาไม่ใช่สร้างมั่วๆนะคะ  ถามหาความปลอดภัยจริงๆควรบอกพวกตนดีกว่าไหมคะ ไปทำอะไรไม่มีความรู้ตูมตามขึ้นมาอันตรายกว่าไม่รู้กี่เท่า  อีกเรื่องคือทวายห่างจากด่านพุน้ำร้อนไทยเกือบ 150 กิโลเมตร เส้นทางคดเคี้ยวเป็นป่าเขา ไม่ต้องห่วงจะกระทบถึงไทยคะ ห่วงพวกตัวเองเถอะไม่ต้องเอาไทยมาอ้าง เพราะไทยไม่ใช่คู่ขัดแย้งของเมียนมา

3. ทางกะเหรี่ยงยึดได้แล้วประชาชนมีชีวิตดีขึ้นไหม  คนไทยทิ้งแผ่นดินที่อยู่ในบริเวณแถบนั้นมีความเป็นอยู่ดีขึ้นไหม ตลอด 75 ปีที่กะเหรี่ยงพยายามปลดแอกนั้น ประชาชนคนกะเหรี่ยงทะลักเข้าไทยนับล้านสร้างภาระให้แก่ไทย มีอะไรดีขึ้นมาบ้าง นั่นคือสิ่งที่ฝั่งกะเหรี่ยงควรตอบกับประชาชนของตนและนำพาคนของตนไปสร้างประเทศได้แล้ว

4. สุดท้ายสงครามนี้ให้ประโยชน์กับกองทัพไทยอย่างหนึ่งในขณะที่วัยรุ่นไทยไม่อยากเป็นทหารเกณฑ์แต่พวกวัยรุ่นเชื้อสายกะเหรี่ยงที่ได้บัตรไทยอยากเป็นทหารเกณฑ์เพราะเอาความรู้ที่ได้ไปใช้ในการรบจริงในกะเหรี่ยงได้ 

อีกทั้งล่าสุดมีคลิปว่อนโซเชียลเมียนมาที่มีคุณแม่ชาวกะเหรี่ยงพูดว่าคิดถึงลูกมากไม่ได้เจอนานเพราะลูกไปเป็นทหารเกณฑ์ฝั่งไทย  แหม...ดีใจแทนกองทัพไทยและกลาโหมจนน้ำตาไหลเลยคะ

อ้อเอย่าลืมบอกคนกะเหรี่ยงไปรบนี่ได้เงินนะคะ  หลายคนรบจนสร้างตัวได้ละก็หนีเข้าไทยมาซื้อบัตรไทยทั้งครอบครัวประกอบสัมมาอาชีพตามชายแดน  เดี๋ยวพูดไปข้าราชการแถวนั้นก็จะหากินยากอีกเอาเป็นว่าเอย่าไม่พูดละกัน 

วันนี้ก็ขอจบเรื่องราวเพียงเท่านี้ดีกว่าคะ ไว้ว่างๆเมื่อไหร่เอย่าคงได้เล่าเพิ่มเติมอีก


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top