Tuesday, 22 April 2025
iPhone16

สำรวจ 'สเปก-ราคา-สี-ความจุ' iPhone 16 เปิดจอง 13 วางจำหน่ายจริง 20 ก.ย.นี้

(10 ก.ย. 67) TNN Tech เปิดเผยว่า Apple ได้ประกาศเปิดตัว iPhone 16 ทั้ง 4 รุ่น อย่างเป็นทางการแล้วเมื่อเที่ยงคืนของวันที่ 10 ก.ย. ตามเวลาในประเทศไทย

โดยในปีนี้ iPhone 16 มาพร้อมวัสดุอะลูมิเนียมเกรดเดียวกับอุตสาหกรรมการบินและมีสีใหม่ ๆ มากขึ้น ได้แก่ 'อุลตรามารีน' / 'เขียวอมฟ้า' และสีชมพู 

Apple ยังคงจุดเด่นด้านความทนทานกันน้ำและฝุ่นได้มากขึ้น และมีหน้าจอเซรามิกกระจกแบบใหม่ แข็งแกร่งกว่ารุ่นก่อนหน้า 50% และแข็งแกร่งกว่า 'สมาร์ตโฟนอื่น ๆ' ถึงสองเท่า หน้าจอสามารถแสดงความสว่างได้ระหว่าง 2,000 นิตถึง 1 นิต

ขนาดหน้าจอ iPhone 16 มีให้เลือกทั้งขนาด 6.1 นิ้วและ 6.7 นิ้วในรุ่นพื้นฐานและรุ่น Plus ทั้งสองรุ่นจะมีปุ่ม Action ที่ปรับแต่งได้ใหม่ทางด้านซ้าย 

เทคโนโลยีประมวลผลข้อมูลขับเคลื่อนด้วยชิป Apple Silicon รองรับฟีเจอร์ปัญญาประดิษฐ์ Apple Intelligence พร้อมติดตั้งชิปเปลี่ยนจาก A16 Bionic เป็น A18 บน iPhone 16 ใช้พลังงานน้อยกว่าชิป A16 Bionic ถึง 30 เปอร์เซ็นต์ เทียบชั้นคอมพิวเตอร์เดสก์ท็อป

การถ่ายภาพยังคงเป็นจุดเด่นด้วย 'ระบบอัจฉริยะด้านภาพ' ที่มาพร้อมกับระบบควบคุมกล้องใหม่ของ iPhone 16

กล้องบน iPhone 16 ติดตั้งเลนส์เทเลโฟโต้ 2x 12MP ใช้ข้อมูลจากเซ็นเซอร์หลักมารวมกับเลนส์ พร้อมกล้อง Fusion 48MP ถ่ายวิดีโอ 4K 60p พร้อมรองรับ HDR และกล้อง Ultrawide

ความคมชัดกล้องถ่ายภาพหลัก 48MP Fusion Camera กล้อง Tele Photo 12MP รองรับภาพถ่าย Macro และวิดีโอแบบ Spatial Video

การเชื่อมต่อข้อมูลรองรับการส่งข้อมูลไร้สาย Wi-Fi 7 ความจุเริ่มต้น 128GB ทั้ง 2 รุ่น

จุดเด่นมาพร้อมกับปุ่ม Camera Control ช่วยให้ถ่ายภาพและดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ทันทีทำงานร่วมกับ ChatGPT และ Google กดถ่ายรูปง่ายมากขึ้น 

ราคาจำหน่าย
iPhone 16 
- 128GB: 29,900 บาท
- 256GB: 33,900 บาท
- 512GB: 41,900 บาท

iPhone 16 Plus
- 128GB: 34,900 บาท
- 256GB: 38,900 บาท
- 512GB: 46,900 บาท

โดยจะเริ่มเปิดให้จองสั่งซื้อล่วงหน้าในวันที่ 13 กันยายน ตั้งแต่เวลา 19.00 น และ เริ่มวางจำหน่ายจริง 20 ก.ย.นี้

เผยผลวิจัย ‘iPhone’ รับกระแสการเปิดตัวรุ่นใหม่ ในไทย Gen Z ชอบซื้อผ่อน Gen Y มองเป็นเครื่องชี้วัด ‘ความสำเร็จ’

(21 ก.ย.67) The 1 Insight เปิดผลวิเคราะห์เทรนด์พฤติกรรมผู้บริโภค iPhone ในประเทศไทย รับกระแสการเปิดตัว iPhone 16 โดยพบว่า 40% ของผู้ใช้ iPhone ในไทยนิยมเปลี่ยนเป็นรุ่นใหม่ทุกปี สะท้อนถึงความสำเร็จในแง่ของตลาดไปจนถึงความสนใจที่มีต่อนวัตกรรมของผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง

จากฐานข้อมูล The 1 ในช่วงปี 2562-2567 ชี้ให้เห็นถึง 5 กลุ่มหลักของผู้ใช้ iPhone ไทย ที่มีเทรนด์พฤติกรรมการซื้อและการใช้งานที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน ดังนี้

1. กลุ่ม Gen Z มุ่งท่องโลกโซเชียล แต่ยังเน้นความคุ้มค่า
กลุ่มคนรุ่นใหม่อายุ 18-24 ปี ใช้งาน iPhone เพื่อการเชื่อมต่อกับโซเชียลมีเดียเป็นหลัก รวมถึงการสร้างสรรค์คอนเทนต์

จากข้อมูล พบว่า คนกลุ่มนี้ซื้อ iPhone 15 และ iPhone 15 Plus รวมไปถึงอาจซื้อรุ่นก่อนหน้าที่ให้ความคุ้มค่ามากกว่า โดยเลือกใช้รุ่นที่มีความจุ 128GB ซึ่งเพียงพอกับการใช้งานและสอดคล้องกับข้อจำกัดด้านรายได้ โดยสีที่นิยมสูงสุดคือ Black กลุ่มวัยรุ่นโซเชียลมักอัปเกรด iPhone ทุกปี และนิยมใช้การผ่อนชำระ 0% ซึ่งช่วยให้เข้าถึง iPhone รุ่นพรีเมียมได้มากยิ่งขึ้น โดยมีแนวโน้มว่าในปีนี้จะซื้อ iPhone 16 และ iPhone 16 Plus

2. กลุ่ม Gen Y ผู้มอง iPhone เป็นสัญลักษณ์ของความสำเร็จ
กลุ่มชายวัยทำงานอายุ 25-40 ปี มองว่า iPhone รุ่นท็อปเป็นสัญลักษณ์ของความสำเร็จและสถานะทางสังคม รวมถึงมีความพร้อมด้านรายได้ที่สูงขึ้นตามความก้าวหน้าทางอาชีพและมีความสนใจในเทคโนโลยีล้ำสมัย ในปี 2023 จึงเลือกซื้อ iPhone 15 Pro และ iPhone 15 Pro Max ที่มีความจุ 512GB หรือ 1TB เพื่อรองรับการใช้งานได้ครบครันทั้งด้านการทำงานและความบันเทิง

โดยสีที่นิยมสูงสุดคือ Black และ Natural Titanium หนุ่มออฟฟิศกลุ่มนี้มักอัปเกรด iPhone ทุกปี และเป็นกลุ่มสำคัญที่ขับเคลื่อนยอดขายรุ่นท็อปในไทย และมีแนวโน้มว่าในปีนี้จะซื้อ iPhone 16 Pro และ iPhone 16 Pro Max

3. กลุ่ม Millennial Parents เน้นฟังก์ชันใช้งานสำหรับทั้งครอบครัว
กลุ่มคนมีครอบครัวที่มีอายุ 30-45 ปี มักให้ความสำคัญกับฟังก์ชั่นการใช้งานจริงและขนาดความจุที่เพียงพอเพื่อรองรับการใช้งานในระยะยาวสำหรับทั้งครอบครัว

ดังนั้น คนกลุ่มนี้จึงเลือกซื้อ iPhone 15 หรือ iPhone 15 Plus โดยเลือกรุ่นที่มีความจุ 128GB หรือ 256GB เพื่อรองรับการใช้งานที่หลากหลาย โดยสีที่นิยมสูงสุดคือ Colorful เช่น ฟ้า เหลือง ชมพู เขียว นอกจากนี้ยังเป็นกลุ่มที่มีรายจ่ายหลากหลาย จึงไม่เปลี่ยนเครื่องบ่อยนัก โดยมักอัปเกรดทุก 3-4 ปี โดยในปีนี้มีแนวโน้มที่จะซื้อ iPhone 16 หรือ iPhone 16 Plus

4. กลุ่ม Gen X ที่พร้อมลงทุนกับเทคโนโลยีเพื่อประสิทธิภาพสูงสุด
กลุ่มผู้บริหารที่มีอายุ 45-60 ปี มักเลือก iPhone ในรุ่นที่มีประสิทธิภาพสูงสุด โดยมองว่า เป็นการลงทุนระยะยาวเพื่ออัปเดตเทคโนโลยีในแต่ละครั้ง จึงเลือกซื้อ iPhone 15 Pro Max ในความจุ 512GB หรือ 1TB เพื่อตอบสนองความต้องการที่ครอบคลุมทั้งการทำงานและการใช้งานส่วนตัว

สีที่นิยมสูงสุดคือ Blue Titanium โดยมีรอบการอัปเกรดอุปกรณ์ทุก 2-3 ปี และไม่เน้นการเปลี่ยนตามกระแสสังคม ในปีนี้ มีแนวโน้มที่จะซื้อ iPhone 16 Pro Max

5. กลุ่ม Silver Spenders ใช้งานเพื่อสื่อสารทั่วไปและฟังก์ชันสุขภาพ
กลุ่มผู้สูงวัยที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป มีพฤติกรรมการใช้ iPhone ที่เน้นการใช้งานพื้นฐานและฟังก์ชั่นติดตามข้อมูลสุขภาพ เลือกซื้อ iPhone SE หรือ iPhone 15 หรืออาจเป็นรุ่นก่อนหน้า โดยใช้ควบคู่กับ Apple Watch Series 9 เพื่อเชื่อมต่อฟังก์ชันการติดตามข้อมูลสุขภาพอย่างละเอียด

ข้อมูลชี้ว่า กลุ่ม Silver Spenders ส่วนใหญ่เลือก iPhone รุ่นความจุ 64GB หรือ 128GB สีที่นิยมสูงสุดคือ Colorful เช่น ฟ้า เหลือง ชมพู เขียว โดยมักอัปเกรดทุก 4-5 ปี และมีแนวโน้มที่จะซื้อ iPhone 16 และ Apple Watch ในปีนี้

‘เคทีซี’ จับมือพันธมิตรร้านมือถือและไอทีชั้นนำ จัดดีลเด็ดซื้อ iPhone16 ผ่อน 0% นานสูงสุด 24 เดือน

(23 ก.ย. 67) นายณัฐสิทธิ์ สุนทราณู ผู้บริหารสูงสุด ฝ่ายการตลาดบัตรเครดิต ‘เคทีซี’ หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “Apple เป็นแบรนด์เลิฟที่เป็นที่นิยมและคอยติดตามกระแสความเคลื่อนไหวในสินค้าและบริการใหม่ ๆ อยู่เสมอ สำหรับประเทศไทยกลุ่มสาวก Apple มีทุกเจนเนอเรชั่น โดยเฉพาะไอโฟนเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมสูงมาก 

และในโอกาสเปิดตัว iPhone 16 ครั้งนี้ เคทีซีได้เตรียมสิทธิพิเศษเพื่อให้สมาชิกบัตรเคทีซีได้เป็นเจ้าของ iPhone 16 โดยสมาชิกบัตรเครดิตเคทีซีสามารถผ่อน 0% ได้นานสูงสุด 10 เดือนพร้อมรับเครดิตเงินคืนหรือส่วนลดรวมสูงสุด 35% และสมาชิกบัตรกดเงินสด ‘เคทีซี พราว’ สามารถผ่อน 0% ได้นานถึง 24 เดือน ด้วยซึ่งเป็นการสร้างความคุ้มค่าสูงสุด 

โดยสามารถรับสิทธิพิเศษได้ทั้งการซื้อผ่านช่องทางหน้าร้านและออนไลน์ ณ ร้านมือถือและไอทีชั้นนำที่ร่วมรายการ ได้แก่  Advice, Jaymart, True, Dtac, iStudio by Uficon, Power Mall, JIB, iStudio by Copperwired, .life, iStudio by SPVI, Studio7, BaNANA, IT city | CSC, Power Buy, AIS และ TG” 

ผู้สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.ktc.co.th/promotion/iphone16/index หรือติดต่อ KTC PHONE 02 123 5000 สำหรับผู้สนใจสมัครบัตรเครดิตเคทีซีทุกประเภท คลิก https://ktc.today/apply-card หรือติดต่อ KTC PHONE โทร. 0-2123-5000 หรือศูนย์บริการสมาชิก ‘เคทีซี ทัช’ ทุกสาขาทั่วประเทศ ทั้งนี้ ผู้ถือบัตรเครดิตควรใช้จ่ายเท่าที่จำเป็นและชำระคืนได้เต็มจำนวนตามกำหนด จะได้ไม่เสียดอกเบี้ย 16% ต่อปี สำหรับผู้ถือบัตรกดเงินสด ‘เคทีซี พราว’ ควรกู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว 

Apple ง้อ อิเหนา!! ทุ่มเงินลงทุนอีก 100 ล้านดอลลาร์ หวังอินโดนีเซียปลดแบนขายไอโฟน 16

บริษัทแอปเปิล (Apple) ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีจากสหรัฐอเมริกาได้ยื่นข้อเสนอเพิ่มการลงทุนในอินโดนีเซียเป็นจำนวนถึง 100 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 3,400 ล้านบาท) ในช่วง 2 ปีข้างหน้า เพื่อพยายามโน้มน้าวให้รัฐบาลอินโดนีเซียยกเลิกคำสั่งห้ามขายไอโฟน 16

ตามรายงานจากบลูมเบิร์ก (Bloomberg) วันนี้ (19 พ.ย.67)  แหล่งข่าวที่ไม่เปิดเผยชื่อกล่าวว่า ข้อเสนอใหม่นี้มีเป้าหมายเพิ่มการลงทุนในอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในอาเซียน เป็นจำนวนเงิน 10 เท่าจากแผนการลงทุนเดิม

ก่อนหน้านี้ แอปเปิลเคยมีแผนการลงทุนมูลค่าเกือบ 10 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 346 ล้านบาท) ในการตั้งโรงงานผลิตอุปกรณ์เสริมและส่วนประกอบในเมืองบันดุง ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของกรุงจาการ์ตา

อย่างไรก็ตาม หลังจากแอปเปิลยื่นข้อเสนอใหม่เพื่อเพิ่มการลงทุน กระทรวงอุตสาหกรรมอินโดนีเซียที่เคยสั่งห้ามการขายไอโฟน 16 ได้เรียกร้องให้แอปเปิลปรับแผนการลงทุน โดยให้ความสำคัญกับการวิจัยและพัฒนาสมาร์ทโฟนในอินโดนีเซียมากขึ้น กระทรวงยังไม่ได้ตอบรับข้อเสนอล่าสุดจากแอปเปิล

การห้ามขายไอโฟน 16 เกิดขึ้นหลังจากที่กระทรวงอุตสาหกรรมอินโดนีเซียระบุว่าแอปเปิลไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดในการใช้วัสดุภายในประเทศในการผลิตสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตอย่างน้อย 40 เปอร์เซ็นต์

ข้อมูลจากรัฐบาลอินโดนีเซียระบุว่า แอปเปิลลงทุนในประเทศนี้เพียง 95 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 3,200 ล้านบาท) ผ่านศูนย์พัฒนาซอฟต์แวร์ ซึ่งยังไม่ถึงข้อตกลงที่กำหนดไว้ที่ 107 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 3,700 ล้านบาท) โดยมีกรณีเดียวกันเกิดขึ้นกับการระงับการขายโทรศัพท์พิกเซลของกูเกิล

การดำเนินนโยบายเข้มงวดของอินโดนีเซียดูเหมือนจะประสบผลสำเร็จ โดยการห้ามจำหน่ายไอโฟน 16 ได้กลายเป็นเครื่องมือหนึ่งที่รัฐบาลของประธานาธิบดีปราโบโว ซูเบียนโต ใช้กดดันให้บริษัทต่างชาติลงทุนและเพิ่มการผลิตในประเทศ เพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรมภายในประเทศให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น

อินโดฯ ปัดดีล Apple ลงทุน 100 ล้านดอลลาร์ ชี้ข้อเสนอน้อยไปเมื่อเทียบที่ลงทุนในไทย-เวียดนาม

(26 พ.ย. 67) รัฐมนตรีกระทรวงอุตสาหกรรมอินโดนีเซียเผยว่า ข้อเสนอการลงทุนมูลค่า 100 ล้านดอลลาร์จาก Apple ยังไม่เพียงพอที่จะยกเลิกคำสั่งห้ามขาย iPhone 16 ในประเทศ หลังบริษัทไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดใช้ชิ้นส่วนผลิตในประเทศอย่างน้อย 40% ซึ่งบังคับใช้กับสมาร์ทโฟนทุกแบรนด์ รวมถึง Google  

Apple ยื่นข้อเสนอเงินลงทุนเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อให้รัฐบาลทบทวนคำสั่งแบน แต่รัฐมนตรีอากัส กุมิวัง ระบุว่าข้อเสนอนี้ "ไม่เป็นธรรม" เมื่อเทียบกับการลงทุนในไทยและเวียดนาม หรือคู่แข่งอย่าง Samsung และ Xiaomi ที่ลงทุนในอินโดนีเซียถึง 8 ล้านล้านและ 55 ล้านล้านรูเปียห์ตามลำดับ  

Apple เคยให้คำมั่นลงทุน 1.7 ล้านล้านรูเปียห์ โดยได้ดำเนินการไปแล้ว 1.5 ล้านล้านรูเปียห์ แต่ยังเหลืออีก 10 ล้านดอลลาร์ที่ต้องส่งมอบตามสัญญาเดิม และต้องปรับแผนลงทุนเพิ่มสำหรับปี 2567-2570  

ทั้งนี้ อินโดนีเซียมีมาตรการปกป้องเศรษฐกิจในประเทศมาโดยตลอด เช่น บังคับให้ TikTok แยกฟีเจอร์ช็อปปิ้งออกเพื่อปกป้องค้าปลีกจากสินค้าจีน  

ตลาดอินโดนีเซียเป็นที่จับตามองของบริษัทยักษ์ใหญ่ ด้วยประชากรหนุ่มสาวและผู้ใช้งานสมาร์ทโฟนกว่า 350 ล้านเครื่อง การเจาะตลาดระยะยาวในประเทศที่กำลังเติบโตนี้จึงเป็นกลยุทธ์สำคัญสำหรับ Big Tech ทั่วโลก


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top