Sunday, 20 April 2025
IFMA

‘มวยไทย’ ยกทัพเยือน ‘ฮ่องกง’ หนุนซอฟต์พาวเวอร์ไทยสู่ระดับโลก พร้อมโชว์ลีลาเด็ดในงานดวลหมัด ‘อีสต์ เอเชียน มวยไทย แชมเปียนชิป’

(24 พ.ย. 66) การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.), กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ (NSDF), คณะกรรมการกีฬามวย, สมาคมกีฬามวยไทยสมัครเล่นแห่งประเทศไทยฯ, สมาคมกีฬามวยอาชีพแห่งประเทศไทย และสหพันธ์สมาคมมวยไทยนานาชาติ (IFMA) ร่วมกันจัดโครงการประชาสัมพันธ์ และเผยแพร่ศิลปะมวยไทยสู่ต่างประเทศ พร้อมกับจัดการแข่งขันรายการ ‘อีสต์ เอเชียน มวยไทย แชมเปียนชิป 2023’ โดยมีนักมวยไทยจาก 9 ชาติ จากภูมิภาคเอเชียตะวันออก ร่วมขึ้นสังเวียนชิงชัย ที่ควีน อลิซาเบธ สเตเดียม เขตปกครองพิเศษฮ่องกง สาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างวันที่ 23-26 พฤศจิกายน 2566 ซึ่งเป็นซอฟต์พาวเวอร์ของประเทศไทยให้เผยแพร่ไปสู่ระดับนานาชาติ และกำหนดมาตรฐานมวยไทย ‘One Standard Muaythai’ (OSM) นำโดย ดร.ปัญญา หาญลำยวง คณะกรรมการติดตามการใช้จ่ายงบประมาณของกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ รวมทั้ง ดร.เช้า วาทโยธา ครูมวยไทยนานาชาติชื่อดัง และ ‘กัปปิตัน เพชรยินดีอะคาเดมี’ อนึ่ง คัฒมารศรี ยอดนักมวยไทยชื่อดัง และคณะ ร่วมเปิดคลินิกสอนทักษะมวยไทยให้กับผู้เข้ารับการอบรมทั้งภาคทฤษฎี และภาคปฏิบัติ ซึ่งได้รับการตอบรับจากชมรม และสมาคมกีฬามวยไทยแห่งฮ่องกง ส่งนักกีฬามวยไทยเข้าร่วมอย่างคึกคัก

โครงการเผยแพร่ศิลปะมวยไทยสู่ต่างประเทศ จัดขึ้นเพื่อประชาสัมพันธ์กีฬามวยไทย ซอฟต์พาวเวอร์ของประเทศไทย ส่งเสริมให้เป็นที่รู้จักแพร่หลายยิ่งขึ้นในฮ่องกง โดยจะเป็นการส่งเสริมอุตสาหกรรมมวยไทยสู่นานาชาติอย่างครบวงจร และสามารถต่อยอดสินค้ามวยไทยสู่ต่างประเทศได้อย่างแพร่หลาย ทั้งในรูปแบบสินค้า และบริการด้านมวยไทยได้อย่างเป็นรูปธรรม รวมทั้งส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม อันเป็นอัตลักษณ์ของความเป็นไทยสู่ฮ่องกง ส่งเสริมความนิยมไทย และความเป็นไทยให้เป็นที่รู้จักทุกภูมิภาคของโลก โดยสามารถต่อยอดไปสู่การท่องเที่ยว การค้าการลงทุนในประเทศไทย และอาหารไทย

โครงการดังกล่าวจัดขึ้นตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ซึ่งได้ให้ความสำคัญกับการกีฬา และนันทนาการบนพื้นฐานวิทยาศาสตร์การกีฬา เพื่อเป็นเครื่องมือในการส่งเสริมพัฒนากีฬา พัฒนาทรัพยากรมนุษย์ พัฒนาคุณภาพชีวิต สร้างชื่อเสียง และเกียรติภูมิของประเทศ รวมถึงการส่งเสริมอุตสาหกรรมกีฬา การท่องเที่ยวเชิงกีฬาเพื่อสร้างคุณค่า และมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับประเทศไทย

ดังนั้น สมาคมกีฬามวยอาชีพแห่งประเทศไทยที่มีบทบาทหน้าที่ในการดำเนินกิจกรรมกีฬามวยอาชีพในการส่งเสริม และเผยแพร่กีฬามวยไทยอาชีพให้เป็นที่รู้จักในระดับนานาชาติ รวมทั้งการส่งเสริมอุตสาหกรรมมวยไทยทั้งในรูปแบบสินค้า และบริการเพื่อเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจด้วยธุรกิจอุตสาหกรรมมวยไทย สร้างรายได้ให้บุคลากรมวยไทย จึงจัดโครงการเผยแพร่ศิลปะมวยไทยในประเทศฮ่องกง ขึ้นเพื่อนำกีฬามวยไทยไปเผยแพร่ และยังเป็นการเชื่อมความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น

กิจกรรมที่เขตปกครองพิเศษฮ่องกง แบ่งออกเป็น กิจกรรมในช่วงเช้าเป็นการจัดเวิร์กชอปเปิดคลินิกสอนทักษะมวยไทยให้กับผู้เข้ารับการอบรมทั้งภาคทฤษฎี และภาคปฏิบัติ โดย ดร.เช้า วาทโยธา ครูมวยไทยนานาชาติชื่อดัง และ ‘กัปปิตัน เพชรยินดีอะคาเดมี’ อนึ่ง คัฒมารศรี นักมวยไทยชื่อดัง ร่วมติวเข้มทักษะแม่ไม้มวยไทยให้กับผู้เข้ารับการอบรม จากนั้นในช่วงเย็นเป็นพิธีเปิดการแข่งขัน ‘อีสต์ เอเชียน มวยไทย แชมเปียนชิป 2023’ อย่างเป็นทางการ โดยมี ‘สเตฟาน ฟ็อกซ์’ เลขาธิการสหพันธ์สมาคมมวยไทยนานาชาติ (IFMA) พร้อมด้วย ปุย ควาน เกย์ ประธานกิตติมศักดิ์ สมาคมกีฬามวยไทยแห่งฮ่องกง, ซิน ลัม ยุก ประธานสมาคมกีฬามวยไทยแห่งฮ่องกง, ตัวแทนหน่วยงานที่เกี่ยวกับกีฬาของฮ่องกง และนักกีฬามวยไทย 9 จากชาติที่เข้าร่วมชิงชัย ประกอบด้วย บังกลาเทศ, อินเดีย, เกาหลีใต้, มองโกเลีย, มาเก๊า, ญี่ปุ่น, ไต้หวัน, จีน และฮ่องกง เจ้าภาพ เข้าร่วมในพิธีเปิด

พิธีเปิดการแข่งขันได้มีการแสดงศิลปะแม้ไม้มวยไทยโบราณ จากคณะลานนาไฟท์ติ้งมวยไทย นำโดย ‘ครูดิน’ นายวิทวัส ค้าสม นำคณะนักมวยไทยไปโชว์อัตลักษณ์มวยไทยที่เป็นศิลปะการต่อสู้ประจำชาติไทย รวมทั้งการแสดงคีตะมวยไทย จากทีมมหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ วิทยาเขตเพชรบูรณ์ ทีมชนะเลิศจากการแข่งขันมวยไทยสมัครเล่นเยาวชนชิงแชมป์ประเทศไทย ประจำปี 2566 ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้เข้าร่วมงานสุดตื่นตาตื่นใจ

สำหรับ ฮ่องกง ถือเป็นหนึ่งในมหาอำนาจมวยไทยของเอเชีย และเป็นหนึ่งในสมาชิกผู้ก่อตั้งสหพันธ์สมาคมมวยไทยนานาชาติ (IFMA) ได้จัดการแข่งขันรายการ ‘อีสต์ เอเชียน มวยไทย แชมเปียนชิป 2023’ ที่ควีน อลิซาเบธ สเตเดียม ซึ่งถือเป็นการแข่งขันมวยไทยที่ยิ่งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในมวยไทยสมัยใหม่ และยิ่งใหญ่ที่สุดที่จัดขึ้น ณ ฮ่องกง หลังจากรอคอยมา 3 ปี โดยจะเป็นการช่วยส่งเสริมมวยไทยให้ได้รับความนิยมมากยิ่งขึ้นในภูมิภาคเอเชียตะวันออก รวมถึงการต่อสู้ และองค์ประกอบดั้งเดิม และการไหว้ครูมวยไทย

สรุปผลการแข่งขันรายการ ‘อีสต์ เอเชี่ยน มวยไทย แชมเปียนชิป 2023’ รอบแรก ดังนี้

รุ่นน้ำหนักไม่เกิน 45 กก.หญิง ‘นามูอูนา อาร์เดเนบายาร์’ (มองโกเลีย) ชนะอาร์เอสซียก 2 ‘ทิเคสชวารี ซาฮู’ (อินเดีย)

รุ่นน้ำหนักไม่เกิน 48 กก.หญิง ‘เพียว ลิง อึน’ (ฮ่องกง) ชนะคะแนน ‘อูรานกู โอดอนทูยา’ (มองโกเลีย)

รุ่นน้ำหนักไม่เกิน 51 กก.หญิง ‘ยูริกะ จิมโป’ (ญี่ปุ่น) ชนะคะแนน ‘หลิว ซินเหอ’ (ไต้หวัน)

รุ่นน้ำหนักไม่เกิน 54 กก.ชาย ‘จางฮุน ออน’ (เกาหลีใต้) ชนะคะแนน ‘ฝ่าน กวงเจ้อ’ (จีน) และ ‘บาตดอร์จ ซูมิยาซูเรน’ (มองโกเลีย) ชนะคะแนน ‘ฟาฮัด อนัคคายี่’ (อินเดีย)

รุ่นน้ำหนักไม่เกิน 57 กก.ชาย ‘หลี่ หยูหง’ (ไต้หวัน) ชนะคะแนน ‘ดีพานคาร์ โบรา’ (อินเดีย)

รุ่นน้ำหนักไม่เกิน 60 กก.ชาย ‘บาตโบลด์ กานซูร์คห์’ (มองโกเลีย) ชนะคะแนน ‘บิดยาชานดรา ซิงห์ ไลชาห์ม’ และ ‘กวน เว่ยเฮ’ (มาเก๊า) ชนะอาร์เอสซียก 1 ‘เฉิน เบาจอง’ (ไต้หวัน)

รุ่นน้ำหนักไม่เกิน 63.5 กก.ชาย ‘อาเชม ทอนดอนบา ซิงห์’ (อินเดีย) ชนะอาร์เอสซียก 1 ‘ซู่ ยองจู’ (ไต้หวัน)

รุ่นน้ำหนักไม่เกิน 67 กก.ชาย ‘ชุง เป่ยรง’ (ฮ่องกง) ชนะอาร์เอสซียก 1 ‘หวง เจิ้งฉี’ (จีน), ‘อี ซังมิน’ (เกาหลีใต้) ชนะคะแนน ‘โมรัมบ้า ซาโกลเซ็ม’ (อินเดีย) ‘หวง เหาหยวน’ (มาเก๊า) ชนะคะแนน ‘บาต-อิตเกลต์ ชิจีร์บาตาร์’ (มองโกเลีย)

รุ่นน้ำหนักไม่เกิน 70 กก.ชาย ‘ลี่ จวนเซียน’ (ฮ่องกง) ชนะอาร์เอสซียก 2 ‘เป่ง เวิ่นเบา’ (ไต้หวัน)

‘WAKO’ ร่อนจดหมายค้านแนวคิด ‘เสธ.ยอด’ ปมยกเลิก ‘คิกบอกซิง’ แล้วหนุน ‘มวยไทย’ แทน

(26 ก.พ. 67) จากการที่ พล.ต.อินทรัตน์ ยอดบางเตย หรือ ‘เสธ.ยอด’ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ในหัวข้อ“ต้องการให้ยกเลิกคิกบอกซิงและส่งเสริมมวยไทย ใครเห็นด้วยบ้าง” เมื่อวันที่ 17 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยมีข้อความดังนี้

“มวยไทยเป็นสิ่งที่อยู่คู่กับคนไทยมานาน อยากให้ช่วยกันส่งเสริมมวยไทย เพราะเป็นศิลปะการต่อสู้ที่เก่าแก่และทรงพลัง ที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานกว่า 700 ปี และเป็นกีฬาที่ได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศไทย และได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นทั่วโลกในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา”

- มวยไทยเป็นกีฬาที่ส่งเสริมความแข็งแกร่ง ความคล่องตัว และความยืดหยุ่น

- มวยไทยเป็นกีฬาที่เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัยและทุกระดับความสามารถ

- มวยไทยเป็นกีฬาที่สนุกและน่าตื่นเต้นที่จะดูและฝึกฝน

- มวยไทยเป็นกีฬาที่มีคุณค่าทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ที่สำคัญ

“Kickboxing เป็นกีฬาการต่อสู้ในลักษณะการปะทะ ที่มีรูปแบบการต่อยและเตะเป็นหลัก จัดการแข่งขันบนสังเวียนโดยมีอุปกรณ์ทั่วไป เช่น นวม ฟันยาง กางเกง ไม่ใส่รองเท้าเพื่อการเตะ การเล่นกีฬาคิกบอกซิง มีจุดประสงค์เพื่อการป้องกันตัวเอง เพื่อสมรรถภาพทางกาย หรือเพื่อการแข่งขัน โดย รูปแบบที่ถือว่าเป็นกีฬาคิกบอกซิงเช่น คาราเต้มวยไทย คิกบอกซิงญี่ปุ่น ซ่านโฉ่ว และซาวัต”

“โดยกีฬา Kickboxing ถือว่าเป็นคู่แข่งของมวยไทย จึงอยากให้รัฐบาลช่วยส่งเสริมมวยไทย และยกเลิก Kickboxing ในประเทศไทย เพื่อรักษาเสน่ห์ของมวยไทย ซึ่งถือมรดกทางวัฒนธรรมไทยที่สำคัญ ได้รับการยอมรับและเป็นที่นิยมทั้งในประเทศและต่างประเทศ ใครเห็นด้วยบ้าง?”

จนมีชาวเน็ตเข้าไปแสดงความคิดเห็นกันเป็นจำนวนมาก ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกันคือ ไม่สนับสนุนแนวคิดดังกล่าวของ ‘เสธ.ยอด’ อาทิ

- “ใจแคบไปหน่อยครับ ทำใจกว้างๆ ยอมรับศิลปะการต่อสู้ของต่างชาติ ดูให้สนุกครับ”

- “มวยไทยเป็นศิลปะการต่อสู้เป็นมรดกของชาติ แต่คิกบอกซิงเป็นการต่อสู้ที่ไม่ต้องใช้ศิลปะแน่น การต่อสู้อย่างดุดันและเข้มแข็ง เขาควรอยู่คนละส่วนกันน่าดีกว่า”

- “ส่งเสริมศิลปะมวยไทยครับ… ส่วน KickBoxing ก็เป็นการต่อสู้ที่ได้รับความนิยมมาก… ต่างมีวิถีทางเติบโต และส่งเสริมกันและกันทางอ้อม”

ล่าสุดทาง ‘รอย เบเกอร์’ ประธานสหพันธ์คิกบอกซิงโลก (WAKO) ออกแถลงการณ์ไม่สบายใจกับกรณีดังกล่าว โดยมีข้อความว่า สมาคมคิกบอกซิงโลก (WAKO) เป็นสมาชิกคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (IOC) เมื่อทบทวนการเรียกร้องของ พล.ต.อินทรัตน์ ยอดบางเตย แล้วจะเห็นได้ว่ามีความรู้เกี่ยวกับกีฬาคิกบอกซิง สาขาวิชาต่างๆ และความสัมพันธ์อันใกล้ชิดระหว่าง WAKO และสมาคมมวยไทยนานาชาติ (IFMA) ที่ IOC ให้การรับรองด้วยเช่นกัน

ต้องสังเกตว่า ‘มวยไทย’ ภายใต้ IFMA และ ‘คิกบอกซิง’ ภายใต้ WAKO ได้รับการพิจารณาบรรจุเข้าแข่งขันในมหกรรมกีฬาหลักอย่างเวิลด์เกมส์, เวิลด์คอมแบทเกมส์, เอเชียนอินดอร์ และมาร์เชียลอาร์ตเกมส์ อีกทั้ง WAKO และIFMA ยังเป็นสมาชิกของ Sport Accord คิกบอกซิงได้รับการยกย่องอย่างมากในประเทศไทย ในฐานะถิ่นกำเนิดของมวยไทย

ทาง WAKO ไม่เชื่อว่านายกรัฐมนตรีของประเทศไทยจะเห็นด้วยกับความคิดเห็นของ พล.ต.อินทรัตน์ ยอดบางเตย ในขณะที่ตนสามารถเจาะลึกความแตกต่างพื้นฐานระหว่างคิกบอกซิง และ มวยไทย เช่น เทคนิคในการต่อสู้ที่แตกต่างกันขอแนะนำว่า หากมีข้อสงสัยหรือต้องการศึกษาค้นคว้าข้อมูลใดๆ เกี่ยวกับคิกบอกซิงให้เข้าไปที่ www.wako.sport/

แถลงการณ์ของ WAKO ยังระบุต่อไปว่า กีฬาที่ IOC ให้การรับรองทุกชนิด มีสิทธิพื้นฐานในการเข้าร่วมการแข่งขันระดับโลกและระดับชาติ และในความเป็นจริงข้อเรียกร้องของ พล.ต.อินทรัตน์ ทำให้สังคมกีฬาเข้าใจประเทศไทยผิดด้วยความตั้งใจที่จะสร้างความไม่สามัคคี และความขัดแย้ง เรียกได้ว่าไม่เป็นมืออาชีพ WAKO อยากส่งสัญญาณไปยัง พล.ต.อินทรัตน์ ว่า ค่านิยมของกีฬาโอลิมปิกคือ การเล่นอย่างยุติธรรม ควรป้องกัน และสร้างนักกีฬาให้ปลอดจากสารกระตุ้น เพื่อชื่อเสียงของประเทศไทย


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top