Wednesday, 23 April 2025
EU

‘ดร.อักษรศรี’ ชี้!! EU ปรับเรทเก็บภาษีรถ EV จากจีน ดูฉาบฉวยและเลือกปฏิบัติ เอื้อค่ายรถฝรั่งผลิตในจีน แต่ยังโหดกับรถค่ายจีน

(21 ส.ค. 67) รองศาสตราจารย์ ดร.อักษรศรี พานิชสาส์น คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก กรณี อียูลดภาษีนำเข้า EV ผลิตในจีน 🇨🇳 จากอัตราเดิมที่เคยประกาศไว้ ดูฉาบฉวยก็เหมือนจะดี แต่จริง ๆ แล้วยังคงเป็นการเลือกปฏิบัติกับจีนอยู่ดี ว่า...

รถ EV ที่ผลิตโดยค่ายรถฝรั่ง 🇪🇺 อียูจะลดภาษีให้ตรึมนะ

- ค่ายเทสล่า ลดจาก 20.8% เหลือ 9%
- ค่ายโฟล์คสวาเกน ลดจาก 37.6% เหลือ 21.3%

ส่วนรถ EV ผลิตโดยค่ายรถสัญชาติจีน 🇨🇳 จะได้รับการลดภาษีพอเป็นพิธี 😅
-ค่าย BYD จาก 17.4% เหลือ 17%
-ค่ายรถ Geely จาก 19.9% เหลือ 19.3%
-ค่ายรถ SAIC จาก 37.6% เหลือ 36.3% 

ผู้นำสหภาพยุโรป ขอร้อง ‘ฝรั่งเศส-อังกฤษ’ แบ่งปันนิวเคลียร์ หลังจากที่ โดนัลด์ ทรัมป์ เริ่มพาสหรัฐฯ ตีตัวออกห่าง EU

(5 มี.ค. 68) ผู้นำสหภาพยุโรป เรียกร้องให้ฝรั่งเศสและสหราชอาณาจักร ขยายขอบเขตอาวุธนิวเคลียร์ให้ครอบคลุมยุโรปใช้ในการต่อกรกับรัสเซีย เนื่องจากสหรัฐฯ เริ่มไม่สนใจภูมิภาคนี้มากขึ้นเรื่อยๆ 

การขยายพลังงานนิวเคลียร์ของสหรัฐฯ ไปจนถึงสหภาพยุโรป เคยเป็นสิ่งที่ยอมรับกันโดยทั่วไปในแง่ของเสถียรภาพระหว่างประเทศ ซึ่งตอนนี้ไม่ใช่แบบนั้นอีกต่อไป 

โดยสหรัฐอเมริกา ถือเป็นผู้ผลิตพลังงานนิวเคลียร์รายใหญ่ที่สุดในโลก คิดเป็นประมาณร้อยละ 30 ของการผลิตไฟฟ้าจากนิวเคลียร์ทั่วโลก

อย่างไรก็ตามการปฏิรูปนโยบายต่างประเทศของอเมริกาอย่างสุดโต่งของโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ซึ่งดำเนินมายาวนาน นำมาสู่การเปลี่ยนแปลงทางพันธมิตรที่ดูเหมือนจะห่างจากสหภาพยุโรป และเข้าใกล้รัสเซียแบบเผด็จการมากขึ้น

ส่งผลให้บรรดาผู้นำยุโรป หรือ EU กังวลว่าพวกเขาไม่สามารถฝากชีวิตไว้กับทางสหรัฐฯ ได้อีกต่อไป พวกเขาจึงกลับหันไปขอความช่วยเหลือจากฝรั่งเศสและสหราชอาณาจักร ซึ่งเป็นมหาอำนาจด้านนิวเคลียร์เพียงสองแห่งในยุโรป 

ฟรีดริช แมร์ซ ว่าที่นายกรัฐมนตรีเยอรมนี กล่าวเมื่อเดือนที่แล้วว่า “การที่เราต้องพูดคุยกับอังกฤษและฝรั่งเศส ว่าการคุ้มครองทางนิวเคลียร์ของพวกเขาสามารถขยายมาถึงเราด้วยได้หรือไม่ เราต้องพูดคุยกันว่ามันจะเป็นอย่างไร” 

ขณะที่สำนักนักข่าว Euractiv รายงานว่า เจ้าหน้าที่ทหารฝรั่งเศสได้มีการเจรจาเป็นความลับกับพันธมิตรในสหภาพยุโรปเมื่อเร็วๆ นี้ เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับการถอนตัวของสหรัฐฯ จากองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (NATO) และสหประชาชาติ โดยก่อนหน้านี้ประธานาธิบดีทรัมป์ และผู้นำคนอื่นๆ ในรัฐบาลสหรัฐฯ เคยวิพากษ์วิจารณ์ NATO หลายครั้งและมักตั้งคำถามถึงคุณค่าของการเป็นพันธมิตร

‘แม็คเกรเกอร์’ ลั่นพร้อมชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีไอร์แลนด์ ชูจุดยืนต้านข้อตกลงผู้อพยพ EU

(21 มี.ค. 68) คอเนอร์ แม็คเกรเกอร์ (Conor McGregor) อดีตนักสู้ศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสาน (UFC) เจ้าของฉายา ‘ไอ้หมาบ้า’ ประกาศสร้างแรงสั่นสะเทือนในเวทีการเมืองไอร์แลนด์ ด้วยการเปิดตัวลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีเมื่อวันที่ 20 มีนาคมที่ผ่านมา พร้อมชูจุดยืนที่ชัดเจนต่อต้านข้อตกลงผู้อพยพฉบับใหม่ของสหภาพยุโรป (EU)

แม็คเกรเกอร์ ซึ่งเป็นบุคคลที่ได้รับความนิยมในไอร์แลนด์มาอย่างยาวนาน ไม่เพียงแต่เป็นที่รู้จักในฐานะนักกีฬาชื่อดัง แต่ยังเป็นบุคคลที่แสดงความคิดเห็นอย่างตรงไปตรงมาเกี่ยวกับประเด็นทางสังคมและการเมือง โดยเขาประกาศว่า จะยืนหยัดเพื่อ “อธิปไตยของชาติ” และปกป้องไอร์แลนด์จากนโยบายที่เขามองว่าอาจเป็นภาระเกินไปสำหรับประเทศ

“เราต้องควบคุมอนาคตของเราเอง ไอร์แลนด์ต้องตัดสินใจเรื่องผู้อพยพด้วยตัวเอง ไม่ใช่ให้บรัสเซลส์ (สื่อถึง EU) เป็นผู้กำหนด” แม็คเกรเกอร์กล่าวในการแถลงข่าวเปิดตัว

ทั้งนี้ ข้อตกลงใหม่ของ EU ที่อดีตนักสู้วัย 36 ปี คัดค้านนั้น คือการกำหนดให้ประเทศสมาชิกต้องรับภาระพิจารณาคำร้องขอลี้ภัยจากผู้อพยพ หรือหากปฏิเสธ ต้องมีส่วนร่วมในโครงการให้เงินสนับสนุนแทน ซึ่งแม็คเกรเกอร์มองว่าเป็นการบังคับให้ไอร์แลนด์ต้องแบกรับภาระเกินความจำเป็น

แม้ว่ายังไม่มีความชัดเจนว่าเส้นทางทางการเมืองของแม็คเกรเกอร์จะดำเนินไปในทิศทางใด แต่การลงสมัครของเขาสร้างความฮือฮาในวงการเมือง และทำให้เกิดการถกเถียงอย่างกว้างขวางว่า อดีตนักสู้ UFC รายนี้จะสามารถเปลี่ยนเวทีมวยเป็นเวทีการเมืองได้สำเร็จหรือไม่

สำหรับ ​คอเนอร์ แม็คเกรเกอร์ เป็นนักศิลปะการต่อสู้แบบผสม (MMA) ชาวไอริชที่มีชื่อเสียงระดับโลก พ่วงสถิติการต่อสู้ตลอดชีพ ชนะ 22 ครั้ง แพ้ 6 ครั้ง ซึ่งเจ้าตัวประกาศแขวนนวมไปแล้วหลายครั้ง แต่ครั้งล่าสุดเกิดขึ้นช่วงเดือนมิถุนายน ปี 2020

ดีกรีแชมป์รุ่นเฟเธอร์เวท (Featherweight) ของ UFC และ แชมป์รุ่นไลต์เวท (Lightweight) ในสถาบันเดียวกัน ส่วนไฟต์ที่น่าจดจำคือ การเอาชนะ โชเซ่ อัลโด้ (José Aldo) ในเวลาเพียง 13 วินาที ในศึก UFC 194 ซึ่งถือเป็นการชนะที่เร็วที่สุดในการชิงแชมป์ และการคว้าแชมป์รุ่นไลต์เวทด้วยการเอาชนะ เอ็ดดี้ อัลวาเรซ (Eddie Alvarez) ในศึก UFC 205 ทำให้เขาเป็นนักสู้คนแรกที่ครองแชมป์สองรุ่นน้ำหนักของ UFC พร้อมกัน

นอกจากนี้ แม็คเกรเกอร์ยังเคยเข้าร่วมการแข่งขันมวยสากลกับ ‘เดอะมันนี่’ ฟลอยด์ เมย์เวทเธอร์ จูเนียร์ (Floyd Mayweather Jr.) สุดยอดนักมวยชาวอเมริกันในปี 2017 แม้ว่าเขาจะแพ้ด้วยการถูกน็อกเอาต์ทางเทคนิค (TKO) แต่แมตช์นี้ได้รับความสนใจอย่างมากจากสื่อและแฟนๆ ทั่วโลก


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top