สธ. เผยผู้ติด 'โอมิครอน' อาการน้อยถึงไม่มี ส่วน 90% ของเชื้ออยู่หลอดลมมากกว่าลงปอด
ที่กระทรวงสาธารณสุข สธ. นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข แถลงฉากทัศน์การแพร่ระบาดโควิด-19 ในประเทศไทย และอัปเดตสถานการณ์เชื้อโอมิครอน ว่า...
ประเทศไทยพบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์โอมิครอนตั้งแต่วันที่ 26 พ.ย. - 18 ธ.ค. 64 เป็นต้นมา สะสม 514 รายที่เป็นต้นเชื้อ กระจายใน 14 จังหวัด ซึ่งส่วนใหญ่มาจากระบบเข้าประเทศทั้ง 3 ระบบ ได้แก่ ระบบไม่กักตัว (Test and go), ระบบแซนด์บอกซ์ (Sand box) และระบบกักตัว (Quarantine) แล้วเราตรวจจับได้หลังจากนั้นคนเหล่านี้จะกลับไปพื้นที่ต่างๆ ส่วนใหญ่อยู่ในการควบคุม แต่บางส่วนเล็ดลอดออกไป พบเป็นการสัมผัสใกล้ชิดผู้เดินทางจากต่างประเทศประมาณ 20% เช่น ไปเยี่ยมญาติ ก็อาจทำให้เกิดการแพร่ระบาดได้ จึงต้องระมัดระวังให้มาก
นพ.เกียรติภูมิ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับอาการโอมิครอน ของผู้ติดเชื้อมีดังนี้...
>> อาการน้อยจนถึงไม่มีอาการ 90%
>> มีอาการเล็กน้อย 10%
>> อาการมาก 3-4%
ขณะที่ โอมิครอนพบที่หลอดลมมากกว่าลงปอด
ดังนั้นอาการที่พบได้มากคือ ‘ไอ’ แต่หากลงปอดก็จะมีความรุนแรงเช่นเดียวกับเดลตา
ส่วนการศึกษาจากผู้ติดเชื้อโอมิครอน 41 รายที่เราทำการรักษาอยู่ พบว่า อาการไอ 54%, เจ็บคอ 37%, ไข้ 29%, ปวดกล้ามเนื้อ 15%, มีน้ำมูก 12%, ปวดศีรษะ 10% หายใจลำบาก 5% และไม่ได้กลิ่น 2%
ทั้งนี้เราพบอาการไม่ได้กลิ่นน้อย พบเพียง 1 ราย โดยเราให้ยาที่มีอยู่คือ ฟาวิพิราเวียร์ จำนวน 5 วันตามมาตรฐาน เราจึงพบว่า หากให้ยาตั้งแต่ต้น อาการจะดีขึ้นภายใน 24-72 ชั่วโมง อาการฟื้นกลับมาเป็นปกติได้
นพ.เกียรติภูมิ กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขได้มีเสนอฉากทัศน์พยากรณ์ในกรณีที่มีการแพร่ระบาดของโอมิครอนใน 3 รูปแบบ…
