Tuesday, 22 April 2025
BLINK

เกิร์ลกรุ๊ปชื่อดัง ‘BLACKPINK’ เดบิวต์อย่างเป็นทางการ

หากเอ่ยชื่อ แบล็กพิงก์ (BLACKPINK) ชั่วโมงนี้ คงไม่มีใครที่ไม่รู้จัก เพราะนี่คือเกิร์ลกรุ๊ปชื่อดังของประเทศเกาหลีใต้ ภายใต้สังกัด YG Entertainment ประกอบด้วยสมาชิกจำนวน 4 คน คือ จีซู, เจนนี่, โรเซ่ และ ลิซ่า นั่นเอง

BLACKPINK เดบิวต์อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2559 พร้อมกับซิงเกิลอัลบั้ม Square One โดยมีซิงเกิลเปิดตัวอย่าง ‘Whistle’ และ ‘Boombayah’ ขึ้นถึงอันดับ 1 บน Gaon Digital Chart ในเกาหลีใต้ และ Billboard World Digital Song Chart ตามลำดับ ทำให้วงคว้ารางวัล Golden Disc Awards และ Seoul Music Awards สาขาศิลปินหน้าใหม่แห่งปี 2016

หลังจากนั้นก็ได้ปล่อยผลงานเพลงฮิตออกมามากมาย อาทิ Playing with Fire, Stay, As If It's Your Last และ Ddu-Du Ddu-Du รวมถึงได้ร่วมร้องกับนักร้องต่างประเทศชื่อดังอย่าง Selena Gomez ในเพลง Ice Cream, Dua Lipa ในเพลง Kiss and Make Up และ Lady Gaga ในเพลง Sour Candy

ทั้งนี้ ชื่อวง BLACKPINK นั้นสื่อความหมายถึงธรรมชาติของสมาชิกในวงที่มีความหลากหลายทางมิติ ทั้งความงามของหน้าตา บุคลิกลักษณะ และความสามารถที่เพียบพร้อม เต็มเปี่ยมไปด้วยพรสวรรค์และการฝึกฝนที่จริงจัง

นอกจากนี้สมาชิกทุกคนต่างมีความเป็นผู้นำในแต่ละด้านได้ ทางค่ายและวงจึงตัดสินใจว่าจะไม่มีหัวหน้าวง อีกทั้งชื่อแฟนคลับอย่างเป็นทางการของ BLACKPINK คือ BLINK (บลิงก์) ที่เป็นการรวมกันของคำว่า BLACK และ PINK ซึ่งมีความหมายว่า คนที่รักและปกป้อง BLACKPINK เสมอ

ปัจจุบัน BLACKPINK เป็นหนึ่งในเกิร์ลกรุ๊ปที่ประสบความสำเร็จและเป็นที่ยอมรับไม่เพียงแต่ในเกาหลีใต้เท่านั้น แต่ยังมีชื่อเสียงโด่งดังในระดับโลก 

เฉลยที่มา ท่อน LA-la-Lisa, can you teach me Japanese? จากเพลง Rockstar อดีตเคยโดน ‘ดูถูก-แอนตี้-บูลลี่’ ก่อนที่วันนี้ จะได้ดี ดังระดับโลก

เมื่อวานนี้ (28 มิ.ย. 67) ผู้ใช้เฟซบุ๊กที่ชื่อว่า ‘Gitanjali Ae Saengsang’ ได้โพสต์ข้อความเกี่ยวกับ ‘ลิซ่า ลลิษา มโนบาล’ และเพลงฮิต เพลงใหม่ล่าสุดที่ชื่อว่า Rockstar โดยได้ระบุว่า

ทำไมเพลงลิซ่า จะต้องมีท่อน LA-la-Lisa, can you teach me Japanese?

เอาสั้นๆ สำหรับคนขี้เกียจอ่าน ... พวกแฟนคลับที่ติดตามลิซ่ามานาน คิดว่าท่อนนี้มันมาจากการที่ ลิซ่าเคยโดนถามจาก anti-fan ที่พยายามด้อยค่าลิซ่าสมัยที่เธอยังไม่ดังระดับโลก >>> นี่คือคำตอบ

ส่วนใครพร้อมอ่านยาวๆ มาต่อกันทางนี้จ้า บอกก่อนว่าไม่ได้คิดเอง แต่รวบรวมเอามาจากแฟนคลับลิซ่ามาเล่าต่อ...

ต้องปูพื้นฐานก่อนว่าประเทศเกาหลีเป็นหนึ่งในประเทศที่มีปัญหาการด้อยค่า จนเกิดการฆ่าตัวตายหรือที่สื่อสมัยนี้พูดอย่างสุภาพว่า การจบชีวิตตัวเอง ติดท็อปเท็นโลกชนิดไม่เคยตกอันดับ

หนึ่งในการบูลลี่กันเองก็ไม่พ้นสีผิว รูปร่างหน้าตา ความรวยความจน นั่นจึงเป็นคำตอบว่า ทำไมคนเกาหลีถึงศัลยกรรมกันทั้งบ้านทั้งเมือง และประเทศที่คนเกาหลีมองว่าหน้าบู้บี้ ยากจน ด้อยพัฒนา ก็คือพวกเรา ชาวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพราะสายพันธุ์ของพวกเรานั้นหน้าตาผิวพรรณ ห่างไกลกับคนประเทศเกาหลี และห่างไกลกับมาตรฐานความงาม (หลังศัลยกรรม) ของเกาหลีลิบลับ

อ่านถึงตรงนี้ไม่ได้ยุยงให้เกลียดเขานะ ที่เขาเป็นแบบนี้มันมีเหตุปัจจัย ซึ่งยังไม่ขอพูด เดี๋ยวจะยาว 

ทีนี้พอลิซ่าปรากฏตัวขึ้นในฐานะนักร้อง girl group ซึ่งเป็นต่างชาติคนเดียวในวงสาวเกาหลี แฟนคลับจำนวนมากจึงรับไม่ได้ ถึงกับเรียกร้องให้ไล่ลิซ่าออกจากวง ทำนองว่าเอาคนบ้านนอกมาร่วมจะทำให้วงโลว์คลาส วงสาวเกาหลีจะตกต่ำ ถึงขนาดมีการลงชื่อส่งไปถึง YG ต้นสังกัด Black Pink ให้เปลี่ยนตัวสมาชิกกันเลยทีเดียว 

แต่ YG ก็วางเฉย เพราะในฐานะเด็กฝึก ลิซ่าคือเพชรเม็ดงาม เธอได้คะแนนการซ้อมต่อสัปดาห์สูงสุดอย่างต่อเนื่อง เรียกว่า ขยัน พยายามและอดทนสุด ๆ ยิ่งตอนปล่อยเพลงออกมา แม้ในประเทศเกาหลีลิซ่าจะดังน้อยที่สุด โดนเกลียดมากที่สุด แต่นอกประเทศลิซ่าดังสุด หาเงินเข้าบริษัทโดยเฉพาะจากแม่จีนได้เยอะสุดๆ 

แต่ถึงจะดังนอกประเทศแล้ว ด้วยความอิจฉาที่เธอดังมากหรืออะไรไม่ทราบได้ ลิซ่าโดนด้อยค่าจากแฟนเพลงเกาหลีด้วยการไม่ยอมรับของที่ระลึกจากมือเธอ เมิน (น่าตบมาก) หน้าใส่ ไปรับของจากสมาชิกวงคนอื่นแทน 

ยิ่งดังนอกประเทศมากเท่าไร เธอก็ถูกตั้งกระทู้ด่าทอเรื่องรูปร่างหน้าตา และได้รับการปฏิบัติจากค่ายราวกับพลเมืองชั้นสองมากขึ้นเท่านั้น ไม่ว่าจะเรื่องชุดที่ต้องเลือกทีหลัง หรือเตรียมชุดซ้ำ ๆ มาให้ใส่ ในขณะที่สมาชิกวงคนอื่นได้เปลี่ยนไป 3 ชุด ลิซ่าจะมีใส่เพียงชุดเดียว 

และที่ยังฝังใจ blink (blink คือคำเรียกแฟนคลับแบล็คพิ้งก์) ก็คือแอนตี้แฟนพูดกับลิซ่าว่า “ลิซ่า..สอนพูดญี่ปุ่นหน่อย” ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าเธอคือคนไทย คำว่า สอนพูดญี่ปุ่นหน่อย... ทำไมถึงเป็นการพยายามด้วยค่า นั่นก็เพราะมีศิลปินญี่ปุ่นซึ่งเป็นนักร้องนักแต่งเพลงชื่อว่า โอริเบะ ริซะ ซึ่งใช้ชื่อในวงการว่า LiSA พวกแอนตี้จงใจถามลิซ่าไปอย่างนั้นเพื่อแสดงว่าหล่อนไม่ดัง ฉันไม่ได้สนใจหล่อน ฉันก็เคยได้ยินคนชื่อลิซ่านะ ที่เป็นคนญี่ปุ่นใช่ไหมอ่ะ...

ดราม่าและกระแสแอนตี้ลิซ่าในเกาหลีนั้นมีเยอะและยาวเหยียด… กว่าจะมาเป็นลิซ่าเจ้าแม่ทุบสถิติอย่างทุกวันนี้ ด.ญ.ลลิษา มโนบาล ต้องใช้ความอดทนอดกลั้น และมองโลกในแง่บวก ดีที่สมาชิกวงอีก 3 เป็นเกาหลีใจงาม คอยให้กำลังใจลิซ่าตลอด ไม่อย่างนั้นคงจะถอดใจกลับเมืองไทยเหมือนที่เด็กไทยบางคนทนไม่ไหว หนีกลับบ้านมาแล้ว 

พอหลุดจาก YG มาได้ ภาพแรกที่ปล่อยออกมาคือการทาผิวแทน สร้างกระแสดิ้นพล่านในเกาหลี ที่มีมาตรฐานความงามคือขาวใส เอาซี้... อีแอนตี้แฟนเกา

ส่วนไอ้ท่อน 
"La-la-Lisa, can you teach me Japanese?"

ลิซ่าก็บอกว่า
I said, "はい, はい" ฉันตอบว่า ไฮ..ไฮ...
That's my life, life, baby, I'm a Rockstar นี่มันชีวิตของฉัน ฉันคือร็อคสตาร์

ก่อนจะฟาดด้วยท่อน
Yes, yes, I can spend it แม่นแล้ว แม่นแล้ว ฉันจ่ายได้หมด
Yes, yes, no pretendin' แม่นแล้ว แม่นแล้ว ไม่มีเวลามาเสแสร้ง
Tight dress, LV sent it ชุดแซ่บ ๆ ของฉัน LV (หลุยส์ วิตตอง) เขาส่งมาให้ย่ะ 

เป็นไงล่ะแอนตี้ รู้ไว้ซะด้วย.....
ฉันคือลิซ่า ฉันคือร็อคสตาร์ ทุกเมืองที่ฉันไปคือที่ของฉัน ไม่ได้อยู่แค่เกา ฉันจะผิวแทน ฉันจะโปร (สนับสนุน) LGBTQ มันก็เรื่องของฉันเว้ยเฮ้ย.....

อารมณ์ร่วมอาจมากไปหน่อย แต่รวบรวมมาจากความคิดเห็นเหล่า Blink (จริงๆ นะ)

‘อ.สันติ’ ยกเคส ‘ลิซ่า ลลิษา มโนบาล’ กับความดังระดับโลก เป็นกรณีศึกษา นี่คือ!! Soft Power ที่มาจาก ‘ความพากเพียร-อุตสาหะ-มุมานะ-มีวินัย’

(29 มิ.ย. 67) ผู้ช่วยศาสตราจารย์ สันติ กีระนันทน์ เลขานุการคณะที่ปรึกษาว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้โพสต์ข้อความเกี่ยวกับ ‘ลิซ่า ลลิษา มโนบาล’ โดยได้ยกเป็นกรณีศึกษา ซึ่งได้ระบุว่า

กรณีศึกษาของ Lisa สอนอะไรผมบ้าง

ถ้าจะไม่เขียนถึง Lisa หรือคุณลลิษา มโนบาล ก็ดูจะตก trend ไป เมื่อไปเปิดดู YT เพลง ROCKSTAR ก็จะเห็นยอดพุ่งไป 32 ล้านวิวแล้ว

ผมไม่ได้ติดตามคุณลลิษามาตั้งแต่ต้น ก็คงเป็นเพราะวัยของผมและความชอบส่วนตัวของผม ไม่ได้ชอบดนตรีแนว K-Pop และแม้คุณลลิษาจะไม่ได้อยู่ค่าย YG แล้ว คงเปลี่ยนแนวดนตรีไป ก็คงจะยังไม่ใช่จริตของผมอีกเช่นกัน แต่คุณลลิษาเป็นระดับ world superstar ก็คงจะมีผลงานดีเลิศระดับ world class อย่างไม่ต้องสงสัย เพียงแต่รสนิยมชมชอบดนตรีของแต่ละบุคคลก็ย่อมแตกต่างกันไป

ผมนิยมชมชอบคุณลลิษา ไม่ใช่เพราะความดังของเธอ แต่เป็นเพราะความน่ารัก และในหลาย ๆ ความเคลื่อนไหวของเธอ แม้จะเต็มไปด้วยพลังอำนาจดึงดูดผู้คน แต่ในขณะเดียวกัน เธอก็เต็มไปด้วยความอ่อนน้อมถ่อมตน มีมารยาทที่ผมไม่อยากจะเรียกว่ามารยาทแบบไทย ๆ แต่เธอมีมารยาทที่เป็นที่ยอมรับและน่ารักในระดับสากล ... ไม่น่าแปลกใจว่าไม่เพียงชาวไทยเท่านั้น แต่ชาวโลกก็ล้วนแต่รักเธอ เพราะเธอมีคุณสมบัติที่เพียบพร้อม

ความเพียบพร้อมนั้น ไม่ได้มาเพราะโชคช่วย ไม่ได้มาเพราะชาติตระกูล ไม่ได้มาเพราะความร่ำรวยในระดับมหาเศรษฐี แต่เป็นเพราะความอุตสาหะ ความพากเพียร ความมุมานะ ความมีวินัย คุณลลิษาได้สะสมทักษะ สะสมความงาม สะสมความน่ารัก ด้วยความอุตสาหะมาตลอดชีวิตของเธอ ดังนั้น ความสำเร็จที่เธอได้รับในขณะนี้ ไม่สามารถปฏิเสธได้ว่ามาจากความเพียรพยายามอย่างไม่ย่อท้อของเธอ

คนจำนวนมากพูดถึง soft power แต่เธอแสดงให้เห็นว่า soft power ของเธอนั้นไม่ได้เกิดจากการประชาสัมพันธ์หรือโฆษณาแบบผิวเผิน แต่มันเต็มไปด้วยความสามารถ 'ดึงดูด' ให้คน 'สมัครใจ'

เกิดความ 'รัก' ในตัวเธอและผลงานรวมไปถึงทุกอย่างที่เป็นเธอ

ผมอยากจะเขียนอะไรมากกว่านี้ แต่ไม่อยากพาดพิงถึงคนที่มีแต่ 'เปลือก' และพยายามจะสร้าง soft power แบบไม่เข้าใจ คิดว่าการประชาสัมพันธ์หรือโฆษณาแบบผิวเผิน ก็จะสามารถนำสิ่งดี ๆ ของประเทศไทยไปเป็น soft power ได้ ... ความคิดที่เป็นระบบ การส่งเสริมที่ทำอย่างเป็นธรรมชาติแบบคำนึงถึงองค์รวม การดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ไม่ได้หวังให้เกิดผลแบบปัจจุบันทันด่วน ฯลฯ จึงจะทำให้ Thai attribute กลายเป็น soft power ได้ ซึ่งอันที่จริงหลายอย่างก็เป็นอยู่แล้ว เพียงแต่ความไร้สติปัญญาทำให้ไม่เห็นสิ่งเหล่านั้น

หยุดอ้างทุกเรื่องเพื่อเศรษฐกิจ หยุดคิดแบบเช้าชามเย็นชาม หยุดทำแบบหาเช้ากินค่ำ แต่ต้องมี 'สติปัญญา' เป็นฐานเบื้องต้นในการพัฒนาทุกสิ่งทุกอย่าง

ความพอประมาณ มีเหตุผล มีภูมิคุ้มกันที่ดี บนฐานความรู้และคุณธรรม ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงที่ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ได้พระราชทานไว้ให้พลเมืองของโลกนี้ เป็นหลักในการทำงานทุกเรื่องที่จะทำให้เกิดผลที่ดีทั้งในระยะสั้น กลาง ยาว ... ย้ำว่า "ฐานความรู้และคุณธรรม" เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งที่จะนำไปสู่ผลสำเร็จ ซึ่งหมายถึงประโยชน์ของคนไทยทั้งประเทศ ไม่ใช่ประโยชน์ของคนเพียงบางคนบางกลุ่มเท่านั้น


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top