‘หนุ่มไทย’ แชร์ประสบการณ์ติดโควิดสายพันธุ์ใหม่ในออสเตรเลีย เผย อาการหนัก ตาอักเสบรุนแรงจนแทบมองไม่เห็น!!
เมื่อวันที่ 16 เม.ย. 66 มีรายงานว่า หนุ่มไทยรายหนึ่งที่อาศัยอยู่ในประเทศออสเตรเลีย ได้ออกมาโพสต์ข้อความบอกเล่าอาการของตนเองหลังติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ ‘Arcturus’ โดยมีลักษณะอาการที่หนัก ๆ คือ ตาอักเสบรุนแรง แทบมองไม่เห็น ทั้งนี้ผู้โพสต์ได้ระบุข้อความว่า…
“บันทึกโควิดสายพันธุ์ใหม่ Arcturus
ไม่ได้มีการตรวจเชื้ออย่างเป็นทางการ (ตรวจเอทีเค) แต่คาดว่าโดนตัวนี้เพราะกำลังระบาดในออสเตรเลีย และสายพันธุ์นี้จะทำลาย soft tissue บริเวณใกล้เคียงที่ติดเชื้อ เช่น ตา และโพรงจมูก
วัคซีนไฟเซอร์ 3 เข็มแทบไม่ช่วยอะไร หรือช่วยไม่ได้เลย อาการหนักเหมือนคนที่ติดแรก ๆ สมัยยังไม่มีวัคซีน
วันแรกรู้สึกแปลก ๆ ในลำคอ แต่ตรวจ ATK ผลยังเป็นลบ
วันที่ 2 รู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัว เลยตรวจอีกที ผลบวกแล้ว เลยรีบกักตัวเองทันที และจากนั้นไข้ขึ้นสูงตลอดระยะเวลา 3 วัน โดยยาพาราฯ สามารถลดไข้ได้เพียงไม่เกิน 2 ชม.ไข้จะกลับมาสูงปรี๊ดใหม่ ต้องนอนทนอยู่แบบนั้น โดยไม่สามารถขยับหรือช่วยเหลือตัวเองได้ เพราะไม่สามารถให้ใครเข้ามาช่วยเช็ดตัวลดไข้ได้ ต้องบอกว่าเป็นช่วงที่เหมือนจะขาดใจตายได้ตลอดเวลา
โดยตั้งแต่วันที่ 2 เป็นต้นมาอาการไอแบบมีเสมหะสีเขียวข้น ขากออกมาเป็นก้อน ๆ มีน้ำมูกสีเขียวข้นสั่งออกมาได้จำนวนมากทุกเช้า ถ้าเทียบปริมาณก็เหมือนได้เต็มถ้วยน้ำจิ้มขนาดพอเหมาะหรือประมาณ 1 กอบมือ จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นชา ชาแบบรู้สึกว่ามันชา
วันที่ 4 เริ่มมีอาการเคืองตา จากนั้นตาทั้ง 2 ข้างก็อักเสบรุนแรงแทบมองอะไรไม่เห็น เหมือนมองผ่านผ้าม่านบาง ๆ สีขาว
วันที่ 6 เริ่มมีเลือดสดออกมากับน้ำมูกเขียว บางทีไอแรงมีเลือดพุ่งออกมาจากจมูกจำนวนมาก คาดว่าเป็นเลือดกำเดา แต่เข้าใจว่าน่าจะมีอาการไซนัสอักเสบ เพราะเลือดนึกจะไหลออกมาก็ไหลซะงั้น แต่แค่ซึม ๆ ออกมา ไม่น่าใช่เลือดกำเดา
หลังจากผ่านอาทิตย์แรกไป ยังคงมีไข้ต่ำ ๆ เวลากลางคืน เลือดยังออกจากจมูกเป็นบางครั้ง ยังไอมีเสมหะพร้อมน้ำมูกเขียวปนเลือดจำนวนมาก ตายังคงแดงแต่อาการดีขึ้นเป็นลำดับ เพราะหยอดตาตลอด เริ่มรู้สึกแข็งแรงขึ้นหลังผ่านไป 13 วัน”
