Tuesday, 29 April 2025
AION

‘ไอออน’ ชูยุทธศาสตร์ดันไทยฮับฐานผลิตอีวี ‘อาเซียน’ เดินหน้าเร่งผลิตรุ่นใหม่ ขยายโชว์รูม - สถานีชาร์จ

(8 ต.ค.67) ‘ไอออน’ ยักษ์ใหญ่อีวีจีน ประกาศยุทธศาสตร์ขยายตลาดไทย ชูเป็นฮับหลักผลิตรถยนต์อีวีในภูมิภาค เดินหน้าเร่งเครื่องการผลิต เล็งเปิดตัว 2-3 รุ่นใหม่ วางโรดแมปขยายโชว์รูมและศูนย์บริการให้ครบ 200 แห่ง เพิ่มซูเปอร์ชาร์จให้ครบ 1,000 จุด ใน 2570 มุ่งสร้างบุคลากรอีวีไทยแข็งแกร่ง

นายโอเชี่ยน หม่า ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไอออน ออโตโมบิล เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด และประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไอออน ออโตโมบิล แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด (AION) กล่าวในงานสัมมนา ASEAN Economic Outlook 2025:The Rise of ASEAN, A Renewing Opportunity ซึ่งจัดโดย กรุงเทพธุรกิจว่า ตลาดอาเซียนมีพลวัตและมีแนวโน้มที่ดีสุดในโลก รวมถึงดึงดูดการลงทุนจากนักลงทุนทั่วโลก 

สำหรับไทยเป็นผู้ผลิตรถยนต์ขนาดใหญ่สุดในอาเซียน และเป็นตลาดขนาดใหญ่อันดับ 2 มีอีโคซิสเต็มอุตสาหกรรมยานยนต์ขยายตัว รวมถึงมีภาครัฐบาลได้ร่วมสนับสนุนรถยนต์พลังงานใหม่และมาตรการทางภาษีในด้านต่างๆ อย่างครอบคลุม พร้อมมีแผน 30@30 ในการส่งเสริมการผลิตรถยนต์ปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ให้ได้ 30% ของการผลิตรถยนต์ทั้งหมดภายในปี 2573

ทั้งนี้บริษัทได้วางยุทธศาสตร์ลงทุนและขับเคลื่อนรถยนต์พลังงานไฟฟ้าระยะยาวในประเทศไทย ที่มีความสอดคล้องกับแผนของภาครัฐ ทำให้บริษัทได้มีการสร้างโรงงานประกอบรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย และเป็นโรงงานแห่งแรกในต่างประเทศ เพื่อร่วมยกระดับภาคอุตสาหกรรมพลังงานใหม่กับยานยนต์ไฟฟ้าและร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทยให้ขยายตัว

สำหรับโรงงานประกอบรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในประเทศไทย เริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 17 ก.ค.2567 ในโรงงานที่ระยอง อยู่ในพื้นที่อีอีซี โดยเป็นฐานการผลิตในระดับโลก และถือว่าไทยเป็นฐานผลิตหลักในภูมิภาคอาเซียน รองรับการทำตลาดในประเทศไทย ส่งออกไปในภูมิภาคและขยายตลาดประเทศต่างๆ ทั่วโลก

ขณะเดียวกันโรงงานในไทย ได้ใช้เทคโนโลยีการผลิตระดับเดียวกับประเทศจีน ที่เป็นเทคโนโลยีอัจฉริยะ และมีการใช้ชิ้นส่วนในประเทศไทยสัดส่วน 45% พร้อมมุ่งส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาด

ทั้งนี้ที่ผ่านมาบริษัทได้เปิดตัวรถยนต์ เข้ามาทำตลาดประเทศไทยแล้ว โดยมีรุ่นเรือธง ได้แก่ AION Y PLUS, AION ES และ Hyper HT ที่เป็นรุ่นพรีเมียม ซึ่งรถยนต์ที่ได้เปิดตัวในรุ่นต่างๆ ได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้าในประเทศไทย พร้อมกันนี้มีแผนเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ในไทย จำนวน 2-3 รุ่น เข้ามาทำตลาดในไทยอย่างต่อเนื่องในทุกปี

เร่งแผนขยายโชว์รูม 100 แห่งในปี 2568
ขณะเดียวกันหลังเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยกว่าหนึ่งปีแล้ว มีแผนขยายช่องทางจำหน่าย ผ่านการมีตัวแทนจำหน่าย โดยปัจจุบันมีโชว์รูมและบริการหลังการขายประมาณ 50 แห่ง และในปี 2567 พร้อมขยายเป็น 70 แห่ง ส่วนในปี 2568 มุ่งขยายให้ครบ 100 แห่ง ครอบคลุมทุกภูมิภาค เพื่อทำให้กลุ่มลูกค้าคนไทยได้รับประสบการณ์ที่ดี และได้รับความสะดวก เข้าถึงมากยิ่งขึ้น

สำหรับสถานีชาร์จความเร็วสูง โดยบริษัทเป็นแบรนด์เดียวได้ที่พัฒนาในด้านนี้ โดยได้มีการลงทุนสร้างไปแล้ว 8 แห่ง พร้อมวางแผนไว้ในปี 2567 จะก่อสร้างแล้วเสร็จได้ครบจำนวน 25 แห่ง รวมถึงประเมินระยะยาว ภายในปี 2570 จะขยายเพิ่มสถานีชาร์จให้ได้ 200 แห่ง และมีหัวชาร์จรวม 1,000 จุด ครอบคลุมรวม 100 เมือง ทั่วประเทศ เพื่อทำให้ลูกค้าได้รับความสะดวกมากขึ้น

“แผนในระยะต่อไป บริษัทมีความสนใจขยายการลงทุนใหม่ในไทยเพิ่มขึ้น รองรับการขยายรถยนต์ไฟฟ้าและพลังงานสะอาดเพิ่มมากขึ้นในอนาคต”

มุ่งสร้างศูนย์พัฒนาวิจัย-บุคลากรอีวีในไทย 
พร้อมกันนี้ ยังมุ่งมั่นพัฒนาบุคลากรในอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าในไทย โดยส่งมอบรถยนต์ฝึกอบรมให้สถาบันการศึกษา 2 แห่ง ในไทย พร้อมฝึกอบรมพนักงานในพื้นที่จำนวนมาก เพื่อร่วมส่งเสริมการจ้างงาน ร่วมกระตุ้นเศรษฐกิจ พร้อมทำให้ประเทศไทยมีบุคลากรในอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้น รองรับการเติบโตของอุตสาหกรรม

อีกทั้งบริษัทได้ให้ความสำคัญในการลงทุนวิจัยและพัฒนาในไทยและในภูมิภาคอาเซียนอย่างต่อเนื่อง เพื่อร่วมส่งเสริมการสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ล้ำหน้า พร้อมร่วมสร้าง สังคมคาร์บอนต่ำในภูมิภาคอาเซียน และทำให้ในภูมิภาคอาเซียนมีโซลูชันพลังงานสีเขียวที่มีความยั่งยืน ทั้งหมดสอดรับกับนโยบายของบริษัทที่มุ่งมั่นเป็นผู้นำในระดับโลกในด้านนี้

“ตลอดการลงทุนสร้างโรงงานในไทย ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล พันธมิตร และภาคส่วนต่าง ๆ ของสังคม ซึ่งตอกย้ำความเชื่อมั่นว่าการลงทุนและการพัฒนาในประเทศไทยเป็นทางเลือกที่ชาญฉลาด พร้อมร่วมทำงานขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงและยกระดับอุตสาหกรรมรถยนต์พลังงานใหม่ของประเทศไทยต่อไป และมีส่วนสนับสนุนต่อความก้าวหน้าทางสังคมและเศรษฐกิจของประเทศ”

อย่างไรก็ตาม สำหรับแบรนด์รถยนต์อีวี "ไอออน (AION) ก่อตั้งขึ้นปี 2560 ในจีน โดยภาพรวมตลาดโลกครองตำแหน่งแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าอันดับ 2 ของจีนและอันดับที่ 3 ของแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าโลก 

พร้อมกันนี้สร้างสถิติการผลิตและขายรถยนต์ 1 ล้านคันเร็วที่สุดในโลก ด้วยใช้เวลา 4 ปี 8 เดือน รวมถึงบริษัทติดอันดับ Fortune Global 500 ส่วนในไทยพบว่ากลุ่มจีเอซี กรุ๊ป (GAC Group) บริษัทแม่จากจีน ประกาศแผนลงทุนผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้ามูลค่า 6,400 ล้านบาทในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) พร้อมมีแผนตั้งสำนักงานในไทยอย่างเป็นทางการ

‘AION’ จัดกิจกรรมสร้างการรับรู้รถยนต์รุ่น ‘AION ES’ ตอกย้ำ!! รถแท็กซี่ไฟฟ้ายุคใหม่ ต้องใส่ใจสิ่งแวดล้อม

(16 ต.ค 67) AION THAILAND ร่วมมือกับสมาคมประสานงานรถรับจ้างสุวรรณภูมิ จัดกิจกรรมพิเศษสำหรับคนขับแท็กซี่ ณ ลานจอดรถแท็กซี่ สนามบินสุวรรณภูมิ ระหว่างวันที่ 24 - 26 กันยายนที่ผ่านมา โดยกิจกรรมนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อโปรโมทและสร้างการรับรู้เกี่ยวกับ AION ES รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ขับขี่และผู้โดยสารในบริการขนส่งสาธารณะอย่างแท็กซี่ โดยเน้นถึงประสิทธิภาพสูงและความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

โดยในกิจกรรมครั้งนี้ ทาง AION THAILAND ได้มอบสิ่งของอำนวยความสะดวกให้แก่คนขับแท็กซี่ที่เข้าร่วมกิจกรรม เช่น ยาดม ทิชชูเปียก ผ้าเย็น และน้ำดื่ม นอกจากนี้ ผู้เข้าร่วมยังได้รับโค้ดชาร์จไฟฟรีสำหรับใช้งานที่ EV Station Pluz สถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าชั้นนำของประเทศไทย ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า พร้อมส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาดในอุตสาหกรรมขนส่งสาธารณะ โดยมี EVme ผู้ให้บริการรถยนต์ไฟฟ้า และไทยสมาย ลีสซิ่ง ผู้นำด้านธุรกิจรถแท็กซี่แบบครบวงจร เข้าร่วมงานในครั้งนี้

สำหรับรถยนต์ไฟฟ้ารุ่น AION ES ได้รับการออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์การใช้งานของคนขับรถแท็กซี่โดยเฉพาะ ทั้งในด้านการประหยัดพลังงาน การขับขี่ที่เงียบ และการลดค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาอย่างมีนัยสำคัญ รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นนี้ใช้พลังงานไฟฟ้า 100% ซึ่งช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และไม่ปล่อยไอเสียที่ทำให้เกิดมลพิษทางอากาศ ทั้งยังมีระบบขับเคลื่อนที่มีประสิทธิภาพและสามารถชาร์จไฟได้ทั้งที่บ้านและสถานีชาร์จไฟที่มีให้บริการทั่วประเทศ

ในแง่ของประสิทธิภาพ AION ES สามารถวิ่งได้ระยะทางไกลถึง 442 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ซึ่งเพียงพอสำหรับการใช้งานในแต่ละวันของคนขับแท็กซี่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล นอกจากนี้ ตัวรถ AION ES ยังมีพื้นที่ภายในที่กว้างขวาง มอบความสะดวกสบายให้ทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ห้องโดยสารถูกออกแบบมาเพื่อตอบสนองการเดินทางระยะยาว ด้วยเบาะนั่งที่รองรับสรีระอย่างเหมาะสม ทำให้ขับขี่ได้อย่างสบายและลดความเหนื่อยล้า

เทคโนโลยีขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าเต็มรูปแบบของ AION ES ยังช่วยลดค่าใช้จ่ายในการขับขี่อย่างมาก โดยค่าใช้จ่ายในการชาร์จพลังงานต่อกิโลเมตรอยู่ที่เพียง 60-70 สตางค์ นอกจากจะช่วยลดต้นทุนในการเติมพลังงานแล้ว AION ES ยังมีค่าบำรุงรักษาที่ต่ำกว่ารถยนต์สันดาปแบบดั้งเดิม เพราะไม่มีระบบเครื่องยนต์ซับซ้อนเหมือนกับรถยนต์ที่ใช้น้ำมัน ส่งผลให้มีการสึกหรอน้อยกว่า จึงไม่ต้องเสียค่าซ่อมบำรุงที่สูง

AION ES ถูกออกแบบมาให้เน้นที่ความนุ่มนวลในการขับขี่ ไม่ว่าจะเป็นในสภาพถนนที่ขรุขระหรือต้องเผชิญกับการจราจรที่หนาแน่นของกรุงเทพฯ ระบบช่วงล่างและระบบควบคุมที่ล้ำสมัยช่วยให้การขับขี่เป็นไปอย่างราบรื่น ลดความเมื่อยล้าของคนขับ อีกทั้งยังมีเสียงรบกวนจากเครื่องยนต์น้อยลง ทำให้ทั้งคนขับและผู้โดยสารรู้สึกสบายและผ่อนคลายมากขึ้น ด้วยการออกแบบที่ให้ความสำคัญกับการใช้งานในชีวิตประจำวันของคนขับแท็กซี่ AION ES ได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้โดยสารที่ได้ใช้บริการ พวกเขาชื่นชมถึงความสะดวกสบายของห้องโดยสาร ความเงียบสงบขณะเดินทาง และพื้นที่เก็บสัมภาระที่กว้างขวาง สามารถรองรับกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ได้อย่างง่ายดาย

AION จัดทริป Y So Amazing พาลูกค้า AION Y Plus เปิดประสบการณ์ท่องเที่ยว นครราชสีมา - ปราจีนบุรี - นครนายก

AION เปิดประสบการณ์ท่องเที่ยวสุดเอ็กซ์คลูซีฟ 'Y So Amazing Trip' ให้กับลูกค้า AION Y Plus ได้สัมผัสประสบการณ์ท่องเที่ยวธรรมชาติและวัฒนธรรมแบบปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์ สัมผัสอากาศดี ๆ ในเส้นทาง นครราชสีมา - ปราจีนบุรี - นครนายก โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์และสร้างชุมชน ในกลุ่มผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้า AION Y Plus โดยกิจกรรมครั้งนี้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 3 และมีแผนที่จะจัดกิจกรรมต่อไปอย่างต่อเนื่องในอนาคต เพื่อเสริมสร้างความประทับใจและความภาคภูมิใจในการเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว AION Y Plus

ทริปนี้เริ่มต้นขึ้นในเช้าของวันที่ 18 ตุลาคม 2567 โดยขบวนคาราวาน AION Y Plus ได้ออกเดินทางจากโชว์รูม AION โกลด์ อินทิเกรท มีนบุรี ท่ามกลางบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้นของผู้ร่วมเดินทางที่มารวมตัวกันตั้งแต่เช้า หลังจากลงทะเบียนและรับของที่ระลึก ผู้เข้าร่วมทริปได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น พร้อมทั้งได้รับคำแนะนำเกี่ยวกับเส้นทางและรายละเอียดของกิจกรรมก่อนจะเริ่มออกเดินทางไปยังจุดหมายปลายทางแรก คือ จังหวัดนครราชสีมา

จุดหมายแรกของทริปอยู่ที่ ร้านอาหารบ้านไร่ปลายเนิน เพื่อรับประทานอาหารกลางวันร่วมกัน ท่ามกลางบรรยากาศสบายๆ ท่ามกลางธรรมชาติและภูเขา ผู้เข้าร่วมทริปต่างเพลิดเพลินกับอาหารรสเลิศ พร้อมชมทิวทัศน์สวยงามของพื้นที่โดยรอบ

หลังจากรับประทานอาหารกลางวันเสร็จแล้ว ขบวนคาราวานได้เดินทางไปยังโรงไฟฟ้าลำตะคองชลภาวัฒนา จังหวัดนครราชสีมา โรงไฟฟ้าแห่งนี้เป็นโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำแบบสูบกลับ (Underground Powerhouse) ซึ่งมีเอกลักษณ์ที่น่าสนใจในฐานะโรงไฟฟ้าใต้ดินแห่งแรกของประเทศไทย ผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้เรียนรู้เกี่ยวกับพลังงานสะอาดและเทคโนโลยีการผลิตไฟฟ้า รวมถึงได้สัมผัสกับธรรมชาติรอบข้างที่งดงาม สะท้อนถึงความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีของ AION ในการสนับสนุนพลังงานสะอาดที่ยั่งยืน

หลังจากจบทริปที่โรงไฟฟ้าลำตะคองชลภาวัฒนา ขบวนคาราวานได้เดินทางต่อไปยังโรงแรมเดอะเภรี เขาใหญ่ เพื่อเข้าพักผ่อนตามอัธยาศัย พร้อมกิจกรรมทำผ้าบาติก ในช่วงเย็นได้จัดงานเลี้ยงอาหารค่ำในบรรยากาศที่อบอุ่น โดยสมาชิกผู้เข้าร่วมทริปต่างนั่งพูดคุยและแลกเปลี่ยนประสบการณ์การใช้รถยนต์ไฟฟ้า AION Y Plus ในบรรยากาศที่เป็นกันเอง

วันที่สองของการเดินทาง ขบวนคาราวาน AION Y Plus มุ่งหน้าสู่ GranMonte หนึ่งในไร่องุ่นชื่อดังของเขาใหญ่ ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางที่ได้รับความนิยมจากผู้ที่ชื่นชอบไวน์ ผู้เข้าร่วมทริปได้สัมผัสและเรียนรู้กระบวนการทำไวน์ตั้งแต่การปลูกองุ่นไปจนถึงการผลิตไวน์ รวมถึงสัมผัสกับวิถีชีวิตที่เรียบง่ายท่ามกลางธรรมชาติของไร่องุ่นอีกด้วย

หลังจากเยี่ยมชมไร่องุ่นกันอย่างจุใจแล้ว ก็ได้เดินทางต่อไปยังอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ สถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังที่เป็นแหล่งรวมสัตว์ป่าและพืชพรรณหลากหลายสายพันธุ์ ผู้เข้าร่วมทริปได้มีโอกาสเดินเส้นทางศึกษาธรรมชาติ พร้อมทั้งฟังคำบรรยายจากเจ้าหน้าที่ เกี่ยวกับพืชพันธุ์และสัตว์ป่าที่อาศัยอยู่ในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่แบบเต็มที่ สร้างความประทับใจให้กับทุกคน ที่ได้สัมผัสความสวยงามและอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ ณ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่

ขบวนคาราวานได้มุ่งหน้าต่อไปยังบ้านเล่าเรื่อง ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่มีการจัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับการใช้สมุนไพรและอาหารเป็นยา ผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้เรียนรู้วิถีชีวิตดั้งเดิมและภูมิปัญญาพื้นบ้าน นอกจากนี้ ยังได้แวะชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติปราจีนบุรี ซึ่งเป็นสถานที่เก็บรวบรวมโบราณวัตถุและแสดงประวัติศาสตร์ความเป็นมาของภูมิภาคตะวันออกของประเทศไทย

ในวันสุดท้ายของทริป ขบวนคาราวาน AION Y Plus ได้เดินทางไปยังอ่างเก็บน้ำจักรพงษ์ เขาอีโต้ จังหวัดนครนายก เพื่อเข้าร่วมกิจกรรมปล่อยปลาลงสู่แหล่งน้ำธรรมชาติ เป็นกิจกรรมที่มีวัตถุประสงค์เพื่อฟื้นฟูและสร้างสมดุลให้กับระบบนิเวศ พร้อมทั้งสร้างความตระหนักรู้เรื่องการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม หลังจากทำกิจกรรมร่วมกัน ผู้เข้าร่วมทริปได้เพลิดเพลินกับการชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของจุดชมวิวผาหินซ้อน และจุดชมวิวเขาอีโต้ ซึ่งสามารถมองเห็นทัศนียภาพที่กว้างไกลของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ก่อนจะปิดท้ายการเดินทางด้วยการรับประทานอาหารกลางวันที่ร้านอาหารวินเทจ การ์เด้น ผู้เข้าร่วมทริปร่วมกันถ่ายภาพเพื่อเป็นที่ระลึกและเดินทางกลับบ้านโดยสวัสดิภาพ

ทริป 'Y So Amazing Trip' ครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งระหว่างลูกค้าผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้า AION Y Plus ผ่านประสบการณ์การท่องเที่ยวและกิจกรรมที่น่าประทับใจ ไม่เพียงแต่สร้างความพึงพอใจให้กับผู้ร่วมทริป แต่ยังเป็นการส่งเสริมภาพลักษณ์ของ AION ในฐานะแบรนด์ที่ใส่ใจลูกค้าและสร้างสรรค์กิจกรรมที่มีคุณค่า นอกจากนี้ ทริปดังกล่าวยังเป็นการเปิดโอกาสให้ลูกค้าได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์การใช้งานรถยนต์ AION Y Plus และสร้างเครือข่ายในกลุ่มผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้า สะท้อนถึงแนวทางของบริษัทที่เน้นความเป็นมิตรและใส่ใจลูกค้า การจัดทริป 'Y So Amazing Trip' ในครั้งนี้จึงไม่เพียงแต่เป็นการท่องเที่ยวธรรมดา แต่เป็นการมอบประสบการณ์ที่เหนือชั้นและสร้างความประทับใจให้กับลูกค้า

‘อัครเดช’ ชู!! ‘เอกนัฏ’ มีวิสัยทัศน์ สนับสนุน ผู้ผลิตชิ้นส่วนในประเทศ ผลักดัน!! ให้ไทย เป็นฐาน ‘อุตสาหกรรมรถ EV’ มีการลงทุนอย่างต่อเนื่อง

(9 พ.ย. 67) นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี เขต 4 พรรครวมไทยสร้างชาติ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า 

เมื่อเร็ว ๆ นี้ ทาง GAC AION ได้จัดงาน AION Sourcing Day มีผู้ผลิตชิ้นส่วนในประเทศได้รับคัดเลือกให้เจรจาธุรกิจเป็นรายบริษัทกับ GAC AION จำนวน 74 บริษัท คาดจะก่อให้เกิดมูลค่าซื้อขายชิ้นส่วนในประเทศ 2,250 ล้านบาท

ทั้งนี้ ความสำเร็จดังกล่าว เกิดขึ้นจาก GAC AION ได้ตัดสินใจสร้างฐานการผลิตแห่งแรกนอกประเทศจีนที่ประเทศไทย ด้วยมูลค่าเงินลงทุนกว่า 5,600 ล้านบาท เพื่อผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ (BEV) กำลังการผลิต 20,000 คันต่อปี และยังมีแผนจะขยายการลงทุนในไทยอย่างต่อเนื่อง

นายอัครเดช กล่าวต่อว่า การลงทุนของ GAC AION ในครั้งนี้ยังได้มีการใช้ชิ้นส่วนรถยนต์จากผู้ผลิตในประเทศไทยมากกว่าที่ BOI กำหนดไว้ที่ 40% จึงเป็นความสำเร็จอย่างยิ่งของการเติบโตแบบยั่งยืนในอุตสาหกรรมรถยนต์ EV ของประเทศ

ความสำเร็จในครั้งนี้เกิดขึ้นจากวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนของนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม โดยก่อนหน้านี้คณะกรรมาธิการการอุตสาหกรรมได้เชิญนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ ซึ่งในขณะนั้นดำรงตำแหน่ง เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ  ร่วมพบปะและหารือกับผู้บริหารระดับสูงของ GAC AION 

ในคราวนั้นนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ ได้ขอให้ทาง GAC AION สนับสนุนการใช้ชิ้นส่วนยานยนต์จากผู้ผลิตในประเทศให้มากกว่าที่ทาง BOI กำหนดที่ 40% เพื่อส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(SME) รวมถึงผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ในประเทศไทย อีกทั้งพิจารณาให้ผู้ผลิตของไทยเป็นคู่ค้าที่สำคัญของทาง GAC AION และเพิ่มศักยภาพในการผลิตผ่านการถ่ายโอนองค์ความรู้และเทคโนโลยีในการผลิต จนนำมาสู่ความร่วมมือตามที่ได้มีการจัดงานAion Sourcing Day ไปเมื่อเร็ว ๆ นี้

เมื่อนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ ได้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ได้มีการนัดหารือกับผู้บริหารของบริษัท GAC AION พร้อมด้วย นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ ประธานคณะกรรมาธิการการอุตสาหกรรม และนายณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เพื่อผลักดันโครงการดังกล่าว ส่งเสริมให้โครงการดังกล่าวเป็นโครงการต้นแบบสำหรับนักลงทุนหรือผู้ผลิตรถยนต์ EV ที่จะใช้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตในการส่งเสริมการใช้ชิ้นส่วนภายในประเทศจากผู้ประกอบการของคนไทยหรือผู้ประกอบการ SME ไทย

สำหรับแนวทางดังกล่าวจะเห็นว่า เป็นเรื่องที่นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ก่อนรับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และเมื่อได้รับตำแหน่งดังกล่าวแล้ว จึงได้ส่งเสริมแนวนโยบายดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง 

นายอัครเดช กล่าวต่ออีกว่า ในเดือนธันวาคมที่จะถึง ทาง GAC AION ได้เชิญนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมไปเยือนมณฑลกวางตุ้ง สาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อพบผู้นำระดับสูงของมณฑลเพื่อสานต่อความร่วมมือทั้งในด้านการค้าและการลงทุนในอุตสาหกรรมอื่น ๆ อีกด้วย

AION พาสื่อทดลองขับรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นล่าสุด ‘AION V’ ก่อนประกาศราคาขายอย่างทางการในงาน Motor Expo 2024

(13 พ.ย. 67) กรุงเทพฯ – AION ผู้นำด้านยานยนต์ไฟฟ้าระดับโลก จัดกิจกรรม AION V My V, My Version พาสื่อมวลชนร่วมทดลองขับ AION V รถเอสยูวีไฟฟ้าอัจฉริยะรุ่นใหม่ล่าสุด ที่พร้อมตอบโจทย์ทุกการใช้งานของผู้บริโภคยุคใหม่ ก่อนการเปิดราคาขายอย่างเป็นทางการในงาน Motor Expo 2024 ที่บูท AION (A12) อิมแพค ชาเลนเจอร์ 1 - 3 เมืองทองธานี โดยกิจกรรมนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 7 - 8 พฤศจิกายน 2567 ณ Take a Breath Café & Eatery ถนนพุทธมณฑล สาย 1 ซึ่งในงานครั้งนี้ สื่อมวลชนที่เข้าร่วมได้สัมผัสประสบการณ์การขับขี่ AION V บนถนนจริง ทำให้ได้ทดสอบสมรรถนะ ความสะดวกสบาย และนวัตกรรมที่ล้ำสมัยของรถยนต์ไฟฟ้า AION V อย่างเต็มที่

กิจกรรม AION V My V, My version จัดขึ้นเพื่อให้สื่อมวลชนร่วมสัมผัสประสบการณ์การขับขี่รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ล่าสุด AION V เอสยูวีไฟฟ้าที่มาพร้อมเทคโนโลยีล้ำสมัยและการออกแบบที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ มุ่งเน้นให้ผู้เข้าร่วมได้สัมผัสกับสมรรถนะและความสะดวกสบายที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของ AION V ที่ถูกออกแบบให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ยุคใหม่ มาพร้อมเทคโนโลยีการขับขี่อัตโนมัติระดับ L2 และฟีเจอร์ความบันเทิงและฟังก์ชันอำนวยความสะดวกมากมาย ทำให้ผู้ขับขี่สามารถปรับแต่งการใช้งานให้เหมาะสมกับความต้องการส่วนตัวได้อย่างเต็มที่ ภายใต้แนวคิด My V, My version ที่เน้นให้ผู้ขับขี่สามารถเลือกสไตล์การใช้งานที่ตรงกับตัวเอง

AION V มาพร้อมแนวคิดการออกแบบ Cyber Design สะท้อนถึงความล้ำสมัยและความแข็งแกร่งในทุกมุมมอง โดดเด่นด้วยไฟหน้าและไฟท้ายที่ออกแบบมาอย่างลงตัว เส้นข้างตัวรถที่เฉียบคม พร้อมด้วยระยะทางวิ่งสูงสุด 602 กิโลเมตร ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง AION V จึงเหมาะสำหรับผู้ใช้งานที่ต้องการเดินทางระยะไกล โดยไม่ต้องกังวลเรื่องการชาร์จ ด้วยเทคโนโลยีแบตเตอรี่ Magazine Battery 2.0 แบบ lithium ion phosphate ขนาด 75.3 kW พร้อมเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 3C ทำให้การชาร์จไฟเป็นเรื่องง่ายและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น สามารถชาร์จไฟได้ระยะทาง 300 กิโลเมตรภายในเวลาเพียง 15 นาที เทียบเท่ากับการแวะดื่มกาแฟ 1 แก้วเท่านั้น

ภายในห้องโดยสารของ AION V ได้รับการออกแบบให้หรูหราและทันสมัย มอบความสะดวกสบายให้กับผู้ขับขี่และผู้โดยสารอย่างเต็มที่ พร้อมด้วยเบาะนั่งขนาดใหญ่ที่รองรับสรีระของร่างกายอย่างดีเยี่ยม นอกจากนี้ยังมีเบาะนวดไฟฟ้า 8 จุดที่สามารถปรับโหมดการทำงานได้มากถึง 5 โหมด รองรับทุกความต้องการในการผ่อนคลายระหว่างการเดินทาง และยังมี ตู้เย็นอัจฉริยะ ขนาด 6.6 ลิตร ที่สามารถปรับอุณหภูมิได้ตั้งแต่ -15°C ถึง 50°C สามารถใส่เครื่องดื่มและสร้างความเย็นได้ในทุกการเดินทาง

AION V มาพร้อมกับ AEP 3.0 (AION Electric Platform 3.0) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่ออกแบบเฉพาะสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า เพิ่มพื้นที่ภายในห้องโดยสารได้มากขึ้นถึง 20% เมื่อเทียบกับรถยนต์ในระดับเดียวกัน นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยีความปลอดภัยที่ครบครัน เช่น ถุงลมนิรภัยกลางสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้านหน้า ที่ช่วยลดการบาดเจ็บจากการชน และม่านถุงลมนิรภัยด้านข้างขนาดยาวพิเศษ 2.3 เมตร ซึ่งสามารถพองตัวเต็มที่ได้ในเวลาเพียง 0.008 วินาที และสามารถคงแรงดันได้นาน 6 วินาที ให้การปกป้องรอบด้านในกรณีรถพลิกคว่ำ

นอกจากนี้ AION V ยังมาพร้อมกับระบบ ADiGO SPACE ห้องโดยสารอัจฉริยะที่สามารถสั่งการด้วยเสียงได้ถึง 4 โซน รองรับคำสั่งเสียงทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ เพิ่มความสะดวกสบายในการควบคุมและสั่งการระหว่างการขับขี่ โดยไม่ต้องละมือจากพวงมาลัย นอกจากนี้ยังรองรับแอปพลิเคชันหลากหลาย รวมถึง Apple CarPlay และ Spotify (OTA ในเดือนธันวาคม) เพื่อตอบสนองทุกความต้องการของผู้ใช้งาน พร้อมด้วยชิปประมวลผล Qualcomm SA8155P ที่ให้สมรรถนะการประมวลผลที่โดดเด่นในรถยนต์ระดับเดียวกัน รองรับระบบขับขี่อัจฉริยะระดับ L2 ที่ครอบคลุมฟังก์ชันต่าง ๆ เช่น ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันพร้อมฟังก์ชัน Stop & Go (ACC with S&G) ระบบเตือนการชนด้านหน้า (FCW) ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ (AEB) และระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน (LKA) และระบบช่วยเหลือการขับขี่อื่น ๆ อีกมากมาย เพื่อมอบความปลอดภัยและความสะดวกสบายสูงสุดในการขับขี่

สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า AION V รถยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะรุ่นใหม่ล่าสุดจาก AION มีกำหนดการเปิดตัว พร้อมประกาศราคาอย่างเป็นทางการ ในงาน Motor Expo 2024 ที่จะมีขึ้นในวันที่ 29 พฤศจิกายน - 10 ธันวาคม 2567 นี้


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top