Sunday, 8 June 2025
5G

อัปเดตแผนที่สัญญาณ 5G ในอาเซียน ประเทศไทยครอบคลุมที่สุดในย่านนี้

เมื่อไม่นานมานี้ ookla.com ได้เปิดเผยแผนที่ 5G ภูมิภาค แสดงให้เห็นชัดเจน ประเทศไทย สัญญาณแรงชัด และครอบคลุมทุกภูมิภาค ซึ่งเป็นปัจจัยที่ส่งเสริมเศรษฐกิจสมัยใหม่อย่างมาก ด้วยความเร็วและประสิทธิภาพในการสื่อสารที่สูงกว่าสร้างโอกาสให้ประเทศไทยในหลาย ๆ ด้านดังนี้

1.เพิ่มความเร็วและประสิทธิภาพในการสื่อสาร โดย 5G มีความเร็วสูงถึง 100 เท่าของเครือข่าย 4G ซึ่งช่วยให้การสื่อสารและการส่งข้อมูลเร็วขึ้นมากขึ้น ทำให้ธุรกิจสามารถทำงานได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

2. สนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ 5G เปิดโอกาสให้ธุรกิจและผู้สร้างเทคโนโลยีใหม่ได้ใช้งานเครือข่ายที่มีความเร็วสูง เช่น รถยนต์ไร้คนขับ (self-driving cars) หรือการใช้งาน Augmented Reality (AR) และ Virtual Reality (VR) ได้มีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว

3. สร้างโอกาสใหม่ในธุรกิจ เครือข่าย 5G เปิดโอกาสให้ธุรกิจใหม่ๆ และธุรกิจเดิมสามารถพัฒนาและขยายธุรกิจได้ในรูปแบบใหม่ เช่น การให้บริการ Internet of Things (IoT) หรือการพัฒนา Smart Cities

4.สร้างงาน การพัฒนาเครือข่าย 5G ต้องการความชำนาญและแรงงานที่มีความรู้ความสามารถที่สูง ซึ่งจะสร้างโอกาสใหม่ในการจ้างงานและสร้างงานใหม่ในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีและการสื่อสาร

'ต่างชาติ' อึ้ง!! สัญญาณ 5G ของไทยสุดครอบคลุม  ทั่วถึงทุกพื้นที่ 'บนภูเขา-กลางทะเล' ก็ยังมีสัญญาณ

(4 เม.ย.67) เป็นไวรัลที่ถูกพูดถึงไม่น้อย เมื่อผู้ใช้ X รายหนึ่งได้โพสต์รูปแผนที่สัญญาณ 5G ของเอเชีย หากพื้นที่ใดปรากฏจุดสีม่วงมากแสดงว่ามีสัญญาณ 5G ครอบคลุม

ผลลัพธ์คือนอกจาก สิงคโปร์ ฮ่องกง และไต้หวัน ไทยยังเป็นอีกหนึ่งพื้นที่ที่มีสัญญาณ 5G ครอบคลุม ขึ้นจุดสีม่วงโดดเด่นออกมาจากประเทศเพื่อนบ้านอย่าง ลาว กัมพูชา และเมียนมา ทำเอาทางเจ้าของโพสต์ถึงกับเอ่ยชมว่า ‘สัญญาณ 5G ของไทยนั้นบ้าไปแล้ว’

ซึ่งโพสต์ครั้งนี้ถูกแชร์ออกไปอย่างกว้างขวางทั้งชาวไทยและต่างชาติ สำหรับชาวไทยแล้ว บ้างก็รู้สึกว่าอินเทอร์เน็ตไทยยังช้าอยู่ บ้างก็ร่วมแชร์ประสบการณ์การใช้อินเทอร์เน็ตไทยที่สุดแสนจะครอบคลุม แม้แต่ในน้ำ กลางทะเล ก็ยังมีอินเทอร์เน็ตให้เล่น

นอกจากนี้ยังมีชาวเน็ตจากประเทศอาเซียนจำนวนมากที่แห่เข้ามาคอมเมนต์ โดยเฉพาะชาวอินโดนีเซีย เพราะต่างรู้สึกอิจฉาที่ไทยมีสัญญาณ 5G ครอบคลุม แตกต่างจากประเทศพวกเขาที่พบในบางพื้นที่เท่านั้น

“อินโดนีเซียทำไม่ได้หรอก”, “อินโดนีเซียก็ทำได้แค่ฝัน โดยเฉพาะตรงเกาะสุมาตรา ไม่น่าแปลกใจเลยที่ฉันไม่เคยเห็น 5G แบบนี้บนหน้าจอโทรศัพท์ของฉันเลย แม้จะมีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถรองรับ 5G ได้มากแค่ไหนก็ตาม”, “อินโดนีเซียล้าหลังไปตลอดกาล 555 ฉันอาศัยอยู่ในกาลิมันตัน 4G ของเรายังรู้สึกเหมือน 3G เลย”, “เห็นความต่างของอินเทอร์เน็ต ตอนที่ฉันเดินทางจากพะเยากลับมาเลเซีย ฉันเลยคิดว่าอยากไปอยู่พะเยาแทน”

'ญี่ปุ่น' สร้างอุปกรณ์ 'รับ-ส่ง' สัญญาณ 6G ได้เป็นครั้งแรกของโลก เร็วกว่า 5G ถึง 20 เท่า กุญแจสำคัญพายานพาหนะไร้คนขับรุดหน้า

(7 พ.ค. 67) TNN Tech รายงานว่า โดโคโมะ (DOCOMO) เอ็นทีที (NTT Corporation) เน็ก (NEC Corporation) และฟูจิสึ (Fujitsu) ร่วมกันพัฒนาอุปกรณ์ที่สามารถรับและส่งข้อมูลในย่านคลื่นความถี่ 6 กิกะเฮิร์ตซ (GHz) ซึ่งเป็นย่านคลื่นความถี่ที่เชื่อว่าจะถูกนำไปใช้งานกับการสื่อสารยุค 6G ได้เป็นครั้งแรกของโลก โดยมีความเร็วในการส่งสัญญาณที่ 100 กิกะบิตต่อวินาที (Gbps) หรือมากกว่า 5G ถึง 20 เท่า

สำหรับการทดลองส่งข้อมูลด้วยอุปกรณ์ 6G ครั้งแรกของโลก ได้เริ่มพัฒนามาตั้งแต่ปี 2021 โดยออกแบบให้รับและส่งสัญญาณที่ย่านความถี่ 6 GHz ซึ่งมีอีกชื่อว่า ซับเทระเฮิร์ตซ (Sub-terahertz) โดยอุปกรณ์ได้ส่งสัญญาณในช่วงความถี่ (Band) 100 - 300 GHz ต่างจาก 5G ที่มี Band ในการส่งสัญญาณที่ 40 GHz โดยสามารถส่งข้อมูลได้ที่ความเร็ว 100 Gbps รองรับระยะการส่งแบบไร้สายที่ 100 เมตร

การพัฒนาในครั้งนี้ เป็นการนำความสามารถในการวิเคราะห์การตั้งค่าสัญญาณไร้สาย (Wireless system configuration) ที่ DOCOMO เชี่ยวชาญ ร่วมกับการพัฒนาตัวอุปกรณ์ให้รองรับการส่งสัญญาณได้จริงโดย NTT 

ในขณะที่ NEC ได้เข้ามาร่วมวิจัยและพัฒนาเสาสัญญาณแบบใหม่แบบเรียงที่เรียกว่า เอพีเอเอ (APAA: Active Phased Array Antenna) ส่วน Fujitsu มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาชิปเพื่อขยายกำลังคลื่นในการรับและส่งสัญญาณในครั้งนี้

สำหรับอนาคตของ 6G จากฝั่งญี่ปุ่น จากการทดลองนี้ ยังทำให้ Fujitsu มีชิปที่สามารถขยายกำลังสัญญาณ 6G ได้มีประสิทธิภาพมากที่สุดในโลกในปัจจุบันด้วย ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาระยะการส่งสัญญาณ 6G ให้ไกลยิ่งขึ้นในอนาคต ในขณะเดียวกัน 6G ยังเป็นเทคโนโลยีที่เชื่อว่าเป็นกุญแจสำคัญในการพัฒนาระบบยานพาหนะไร้คนขับ (Autonomous vehicle) อีกด้วย

อย่างไรก็ตาม การพัฒนาระบบโครงข่ายสัญญาณ 6G จะมีความแตกต่างจากการเปลี่ยนผ่านสมัย 4G มายัง 5G เนื่องจากสัญญาณในระดับ Sub-terahertz จะมีกำลังและรูปแบบคลื่นที่ต่างจาก 5G ส่งผลให้ผู้ให้บริการโครงข่าย 6G ในอนาคตจำเป็นต้องลงทุนอุปกรณ์ในระบบใหม่ทั้งหมด ซึ่ง TNN Tech มองว่านี่อาจเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้การพัฒนาโครงข่าย 6G ยังต้องใช้เวลาอีกสักระยะ

‘จีน’ เผย ‘5G’ เชิงพาณิชย์ ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจในประเทศ สร้างเม็ดเงินราว 28.12 ล้านล้านบาท ลุยเดินหน้าพัฒนาต่อ

(7 มิ.ย. 67) สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า จ้าวจื้อกั๋ว หัวหน้าวิศวกรประจำกระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศของจีน อ้างอิงผลการวิจัยจากสถาบันเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารแห่งประเทศจีน ระบุว่า การใช้งาน 5G เชิงพาณิชย์ช่วยกระตุ้นผลผลิตทางเศรษฐกิจโดยตรงราว 5.6 ล้านล้านหยวน (ราว 28.12 ล้านล้านบาท) ในจีนตลอด 5 ปีที่ผ่านมา

ระหว่างงานประชุมด้านโทรคมนาคมเคลื่อนที่ จ้าวจื้อกั๋ว ได้กล่าวว่า 5G ยังขับเคลื่อนผลผลิตทางเศรษฐกิจทางอ้อม 14 ล้านล้านหยวน (ราว 70.3 ล้านล้านบาท) ซึ่งสะท้อนว่าเทคโนโลยีใหม่นี้มีส่วนส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพสูงของจีนอย่างมาก

จ้าวจื้อกั๋ว ระบุว่าจีนครองตำแหน่งผู้นำระดับโลกด้านโครงสร้างพื้นฐานเครือข่าย 5G สร้างความก้าวหน้าในเทคโนโลยีหลักที่สำคัญอย่างต่อเนื่อง และมีผลลัพธ์ที่โดดเด่นในการผสมผสานการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลกับโลกจริงทางกายภาพ นับตั้งแต่มีการออกใบอนุญาตใช้งาน 5G เชิงพาณิชย์ เมื่อวันที่ 6 มิ.ย. 2019

จีนมีสถานีฐาน 5G เกือบ 3.75 ล้านแห่ง หรือคิดเป็นราว 26 แห่งต่อประชากร 10,000 คนเมื่อนับถึงสิ้นเดือนเมษายน โดยจีนยังได้ยื่นจดสิทธิบัตรสำคัญด้านมาตรฐาน 5G คิดเป็นสัดส่วนกว่าร้อยละ 42 ของสิทธิบัตรทั้งหมดทั่วโลก

อนึ่ง เทคโนโลยี 5G ถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลายในอุตสาหกรรมหลัก อาทิ การทำเหมือง ไฟฟ้า และการดูแลสุขภาพ อีกทั้งยังค่อย ๆ กระจายไปสู่แวดวงที่สำคัญอย่างการวิจัยและพัฒนา การออกแบบ และการผลิต

ทั้งนี้ จ้าวจื้อกั๋ว ยังระบุว่า ในขั้นต่อไป กระทรวงฯ จะเดินหน้าทำงานเพื่อขยายความครอบคลุมของเครือข่าย 5G เร่งขยายการประยุกต์ใช้ 5G และส่งเสริมการปรับปรุงอุตสาหกรรมข้อมูลและการสื่อสารให้ทันสมัย

'หัวเว่ย' ส่งสัญญาณโอเปอเรเตอร์ไทย ขานรับ '5.5G' หนุนเทคโนโลยีใหม่ๆ 'ทรู-เอไอเอส' จ่อแจม หลัง 60 โอเปอเรเตอร์ทั่วโลกเปิดตัวในเชิงพาณิชย์แล้ว

(15 ส.ค. 67) นายอาเบล เติ้ง ประธานกรรมการ ฝ่ายขายกลุ่มธุรกิจเครือข่ายโทรคมนาคม ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ของ Huawei กล่าวในงาน Asia-Pacific ICT Summit 2024 ถึงศักยภาพของเทคโนโลยี 5.5G และบทบาทในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลและการเติบโตทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ว่าในขณะที่ 4G เคยสร้างรูปแบบธุรกิจใหม่และโอกาสในการทำงานของหลายประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่ 5G จะยิ่งเร่งการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลในอุตสาหกรรมในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก คาดว่าการเพิ่มขึ้นของการใช้งาน 5G ทุก ๆ 10% จะทำให้ GDP เติบโต 1% ถึง 1.8% และ 5G สามารถเพิ่มผลผลิตให้อุตสาหกรรมดั้งเดิมได้ 10% ถึง 20% สถิติเหล่านี้จึงสะท้อนทิศทางที่สดใสของตลาด 5.5G ในภูมิภาค

"เทอร์มินัลมากกว่า 30 ประเภทรองรับ 5.5G และผู้ให้บริการมากกว่า 60 รายได้เปิดตัว 5.5G ในเชิงพาณิชย์แล้ว โดยโอเปอเรเตอร์บางรายได้นำ 5.5G มาใช้ในเครือข่ายขนาดใหญ่ จึงชัดเจนว่าการผสมผสานระหว่าง AI และ 5.5G จะขับเคลื่อนการสร้างสรรค์นวัตกรรมที่สำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเอเชีย ซึ่งในการจัดส่งสมาร์ทโฟน AI ทั่วโลกที่จะสูงถึง 170 ล้านเครื่องในปี 2024 ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกอาจคิดเป็น 40-50% ของการจัดส่งเหล่านี้"

อาเบลย้ำว่าวันนี้มีโครงการ 5G B2B มากกว่า 13,000 โครงการทั่วโลก ทำให้บริการด้าน 5G รูปแบบใหม่กำลังเกิดขึ้นเป็นดอกเห็ด โอเปอเรเตอร์จึงเริ่มสร้างรายได้จากการมอบประสบการณ์ที่หลากหลายให้ผู้ใช้ ที่จะได้ใช้งานดิจิทัลแบบลื่นไหลบนความสามารถของ 5.5G ตั้งแต่การปรับปรุงความเร็วแบนด์วิดท์ การรองรับความหนาแน่นของการเชื่อมต่อได้มากขึ้น ความแม่นยำในการระบุตำแหน่งที่ทำให้เล่นเกมได้ดีขึ้น และประสิทธิภาพด้านพลังงานที่ประหยัดกว่าเมื่อเทียบกับ 5G

5.5G ของ Huawei จะรองรับแอปพลิเคชันใหม่ที่ใช้เทคโนโลยี XR (extended reality) เสมือนจริง การส่งสัญญาณระบบภาพความละเอียดสูงพิเศษ และการเชื่อมต่อของอุปกรณ์ IoT ที่ทุกสิ่งล้วนต้องออนไลน์ ทั้งหมดนี้เป็นผลจากความเร็วในการดาวน์โหลดสูงสุด 10 กิกะบิตต่อวินาที (เร็วกว่า 5G ถึง 10 เท่า) ความหน่วงต่ำกว่า 1 มิลลิวินาทีจนผู้ให้บริการสามารถรับประกันคุณภาพหรือ SLA ได้แบบกำหนดเอง ที่สำคัญคือรองรับ AI และเครือข่ายอัตโนมัติดีกว่าเพราะประสิทธิภาพและการจัดการเครือข่ายที่ดีขึ้น

ในขณะที่ย้ำว่าเทคโนโลยี 5.5G ช่วยให้โอเปอเรเตอร์สามารถให้บริการแนวใหม่ เช่น Massive IoT ประสบการณ์ 3D/MR/XR การสื่อสาร V2X และแอปพลิเคชัน AI ที่ขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์ Huawei ได้ส่งสัญญาณกำลังร่วมมือกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในอุตสาหกรรมและสถาบันการศึกษาเพื่อสร้างระบบนิเวศ 5.5G ที่แข็งแกร่งในประเทศไทย ทั้งเอไอเอสและทรูที่เข้าร่วมแสดงวิสัยทัศน์บนเวทีงานประชุมเมื่อวันที่ 14-15 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นงานที่จัดแสดงการใช้งานเทคโนโลยี 5G และ 5.5G ในรูปแบบต่าง ๆ ตั้งแต่โรงงานอัจฉริยะ รถแท็กซี่ไร้คนขับ และการชอปปิ้งด้วย AI

มาร์ก ชง ชิน กก (Mark Chong Chin Kok) รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส กล่าวว่าเครือข่าย 5G ของ AIS นั้นครอบคลุมพื้นที่ 95% ของไทย ทำให้ไทยเป็นประเทศที่มีพื้นที่เครือข่าย 5G ครอบคลุมมากที่สุด และบริษัทจะยังคงขยายการลงทุนเพื่อให้ลูกค้ามั่นใจในศักยภาพของเครือข่าย ขณะที่ นายฮาว ริ เร็น (How Lih Ren) หัวหน้าสายงานการพาณิชย์ พันธมิตรเชิงกลยุทธ์และเทเลคอม-เทค บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทใช้ AI ในการพัฒนาบริการลูกค้าทั้งดีแทคและทรูอย่างเป็นเนื้อเดียว และในปี 2024 คนไทยจะได้เห็นบริการแชตบอตของบริษัทในรูปผู้ช่วยส่วนตัวชื่อมะลิ ซึ่งแม้ทั้งคู่จะไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดการลงทุน แต่ก็ถือเป็นสัญญาณการเปิดทางให้บริการและโอกาสทางธุรกิจใหม่ในไทยในช่วง 5 ปีที่ 6G จะยังไม่เกิด

สำหรับงาน Asia-Pacific ICT Summit 2024 นั้นเป็นงานแสดงโมเดลอัจฉริยะหลากหลายสำหรับชีวิตดิจิทัล ทั้งด้านการทำงาน การแพทย์ รวมถึงบ้านอัจฉริยะ Wi-Fi 7 และนวัตกรรมระดับอุตสาหกรรม ซึ่งส่วนใหญ่เปิดให้งานในหลายเมืองใหญ่ของจีนเรียบร้อย

‘จีน’ เผย!! สถานีฐาน 5G ทะลุ 4 ล้านแห่งแล้ว เตรียมขยายคลุมสถานที่สำคัญทั่วประเทศต่อ

(26 ก.ย. 67) สำนักข่าวซินหัว เปิดเผยว่า กระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศของจีน ได้รายงานจำนวนสถานีฐาน 5G ในจีนสูงเกิน 4.04 ล้านแห่ง เมื่อนับถึงสิ้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาแล้ว

รายงาน ระบุว่า จำนวนข้างต้นคิดเป็นร้อยละ 32.1 ของจำนวนสถานีฐานโทรศัพท์เคลื่อนที่ทั้งหมดของประเทศ ส่วนจำนวนผู้สมัครใช้งานสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ 5G ในจีนอยู่ที่ 966 ล้านราย

ทั้งนี้ เครือข่ายสัญญาณ 5G และการใช้งานสัญญาณ 5G เชิงพาณิชย์ของจีนได้พัฒนาอย่างรวดเร็วตลอดหลายปีที่ผ่านมา โดยปัจจุบันเครือข่ายสัญญาณ 5G ครอบคลุมทุกเมือง รวมถึงหมู่บ้านมากกว่าร้อยละ 90

ขณะการแสดงความเป็นเจ้าของสิทธิบัตรที่เป็นมาตรฐานอุตสาหกรรม 5G ของจีนครองสัดส่วนร้อยละ 42 ของทั้งหมดในโลก

กระทรวงอุตฯ เสริมอีกว่า จีนจะเดินหน้าการพัฒนา 5G และขยายความครอบคลุมของเครือข่ายสัญญาณ 5G ในสถานที่ต่าง ๆ เช่น สถานที่ทางวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว สถานดูแลสุขภาพ มหาวิทยาลัย ศูนย์กลางการขนส่ง และระบบรถไฟใต้ดินต่อไป


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top