Wednesday, 23 April 2025
3จังหวัดชายแดนภาคใต้

คนร้าย ป่วนระเบิด วินาศกรรม ร้านสะดวกซื้อ พื้นที 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้

ศูนย์วิทยุตำรวจ สภ.จังหวัดนราธิวาส รายงานว่า...เมื่อวันที่ (17 ส.ค. 65) เกิดเหตุคนร้ายไม่ทราบจำนวน กระจายกำลังก่อเหตุ ในช่วง ช่วงเวลา 00.20 ถึง 00.40 น. ที่ผ่านมา ได้มีกลุ่มคนร้ายไม่ทราบจำนวน วางแผนนัดแนะกระจายกันก่อเหตุร้ายขึ้นในพื้นที่ 6 อำเภอ ประกอบด้วย บาเจาะ ศรีสาคร สุไหงโก-ลก เจาะไอร้อง รือเสาะ และจะแนะ ด้วยพฤติกรรมคนร้าย ก่อเหตุในลักษณะขว้างและวางระเบิดภายในชั้นวางของในร้านสะดวกซื้อ ร้านสะดวกซื้อ เซเว่นอีเลฟเว่น มินิบิ๊กซี และปั๊มจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิงจนได้รับความเสียหาย

โดยแยกเป็น 1. อ.บาเจาะ จำนวน 1 จุด ซึ่งเป็นปั๊มจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิง ปตท. ตั้งอยู่ริมถนนเพชรเกษม หมู่ 4 ต.บาเจาะ อ.บาเจาะ เป็นเหตุให้ร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่น ได้รับความเสียหาย
2. อำเภอศรีสาคร จำนวน 1 จุด เป็นร้านสะดวกซื้อเซเฃว่นอีเลฟเว่น ซึ่งตั้งอยู่ภายในปั๊มจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิง ปตท. ซึ่งตั้งอยู่เขตเทศบาลตำบลศรีสาคร ได้รับความเสียหาย
3. อำเภอเจาะไอร้อง จำนวน 2 จุด เป็นร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่นและมินิบิ๊กซี ซึ่งตั้งอยู่บ้านเจาะไอร้อง หมู่ 1 ต.จวบ อ.เจาะไอร้อง ได้รับความเสียหาย
4. อำเภอรือเสาะ เป็นร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่น ซึ่งตั้งอยู่ริมถนนรือเสาะ ศรีสาคร หมู่ 2 ต.รือเสาะ ซึ่งจุดนี้คนร้ายได้วิ่งเข้าไปวางระเบิดแล้วแจ้งให้พนักงานได้ทราบ หลังพนักงานวิ่งออกมาจึงเกิดระเบิดขึ้น
5. อำเภอจะแนะ เป็นร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่น ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางตลาด ต.ดุซงญอ จนได้รับความเสียหาย ซึ่งจุดเกิดเหตุแต่ละจุดเจ้าหน้าที่ได้กันพื้นที่ นำกำลังรถดับเพลิง ในการสกัดเพลิงไหม้อาคารและสิ้นค้า ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานและเกี่ยวข้อง จะเข้าทำการตรวจสอบจุดเกิดเหตุ ในอีกครั้ง
กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า แจ้งเหตุระเบิดป่วนร้านสะดวกซื้อ

จากกรณีเหตุการณ์คนร้ายได้ก่อเหตุสร้างสถานการณ์กระจายพร้อมกัน 17 จุด ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย จำนวน 7 ราย ร้านสะดวกซื้อ ปั้มน้ำมัน และทรัพย์สินได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก

‘โฆษกรัฐบาล’ แย้ม!! ทิศทาง ‘พรก.ฉุกเฉิน’ 3 จว.ชายแดนใต้ มีแนวโน้มผ่อนคลาย และเอื้อต่อสิทธิเสรีภาพปชช.มากขึ้น

(18 ก.ย. 66) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงการพิจารณาขยายเวลาบังคับใช้พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (พรก.ฉุกเฉิน) ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ว่า เรื่อง พรก.ฉุกเฉินเป็นเรื่องที่ค่อนข้างละเอียดอ่อน ตนไม่อยากแถลงอะไรมาก เพราะฝ่ายความมั่นคงจะแถลงเองภายใน 1-2 วันนี้ ส่วนตนนั้นสามารถพูดได้ตอนนี้เพียงว่า ทิศทางของเรื่องนี้ จะดำเนินไปในทิศทางที่มีการผ่อนคลายมากขึ้น เอื้อต่อสิทธิเสรีภาพของประชาชนมากขึ้น ส่วนคำว่าดีกว่าเดิม แล้วจะดีขนาดไหน ไม่สามารถตอบที่นี่ได้ตอบได้แค่ว่าอยู่ในทิศทางที่ดีขึ้น ขอให้รอฟังจากฝ่ายความมั่นคงเป็นผู้แถลง

‘นายกฯ’ ย้ำ!! ‘กอ.รมน.’ ตั้งใจจริงแก้ปัญหาดับไฟใต้ พร้อมน้อมรับคำวิจารณ์ หากวิธีแก้ต่างกับบางฝ่าย

(4 ม.ค.67) จากนั้นเวลา 14.30 น.นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.การคลัง ชี้แจงการอภิปรายของนายรอมฎอน ปันจอร์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ว่า ขอบคุณสมาชิกที่ให้ข้อคิดเกี่ยวกับงบประมาณของ กอ.รมน. วิธีการบริหารจัดการปัญหาในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งหลายประเด็นก็น่าหยิบยกมาพูดคุย และให้ทีมงานนำไปขยายผลต่อเพื่อปัญหาจะได้ลดลง

ทั้งนี้ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นปัญหาที่สะสมมานาน แต่ถ้าดูจากช่วงระยะหลัง เรื่องของความรุนแรงก็ลดน้อยลงอย่างมีนัยยะ ก็ต้องขอขอบคุณ สส. และตัวแทนของพรรคการเมืองที่เข้าไปมีส่วนร่วมให้เกิดความสงบ พูดคุยกับพี่น้องประชาชน ทำให้ปัญหาความรุนแรงลดน้อยลง และขอบคุณฝ่ายความมั่นคง กอ.รมน. ซึ่งท่านอาจจะไม่ค่อยเห็นด้วย แต่ตนเห็นความตั้งใจจริง อาจจะมีวิธีการทำงานที่แตกต่างกันไป แต่ตนเชื่อว่าทั้งตันท่านเอง ฝ่ายความมั่นคง และ กอ.รมน. ก็มีจุดประสงค์เดียวกันคือต้องการคืนความสงบ และความมั่งคั่งให้พี่น้องสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ทุกคน

นายกฯ กล่าวต่อว่า เรื่องนี้ตนเชื่อว่าเป็นเรื่องที่หลายคนให้ความสนใจ และใน 100 วันที่ตนได้ดำรงตำแหน่งนายกฯ ก็ได้มีโอกาสลงไปในพื้นที่ โดยในเดือน พ.ย.66 นัดเจอนายกฯ มาเลเซีย พูดคุยเกี่ยวกับด้านความสงบ ความมั่นคงความเรียบร้อย และปัญหาทางด้านเศรษฐกิจ ความเชื่อมโยงการค้าระหว่างประเทศของทั้งสองประเทศ ซึ่งจริงๆ แล้วตรงนี้เรามีการพัฒนากันมาในหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างสะพานสุไหง-โกหลก 2, การพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ, การทำให้การเข้าเมืองของทั้งสองฝ่ายดีขึ้น และหลังจากที่มีการยกเลิก ตม.6 ทำให้นักท่องเที่ยวเข้ามาในประเทศไทย 3 หมื่นคน จากหมื่นคนในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ โรงแรมเต็มหมด คงไม่เป็นที่แปลกใจว่าถ้าพี่น้องประชาชนมีเงินในกระเป๋า มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น เรื่องปัญหาความรุนแรงก็น่าจะลดน้อยลงไป ควบคู่ไปกับการทำงานของฝ่ายความมั่นคงของทั้งสองประเทศ ซึ่งทางมาเลเซีย ก็ชื่นชมมาว่าเรามีพลเรือนเป็นหัวหน้าทีมเจรจา และยินดีที่จะทำงานร่วมกันอย่างต่อเนื่อง

ดังนั้นการใส่ใจหรือไม่ใส่ใจ ตนว่าเป็นความคิดของแต่ละคนมากกว่า แต่ตนเชื่อว่า สส.ทุกคนมีความใส่ใจในแง่ของความสงบ ความเรียบร้อยของพี่น้องประชาชนในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าใคร ฉะนั้นเรื่องงบของ กอ.รมน. ที่ท่านพูดถึง ตนก็จะน้อมรับไปพิจารณา พูดคุยว่าจะทำอย่างไรต่อไปเพื่อให้มีประโยชน์สูงสุด ส่วนเรื่องว่าถ้ามีความสงบแล้วไม่รู้ว่า กอ.รมน.จะไปทำอะไร ท่านไม่ต้องเป็นห่วงตนพูดคุย กับ ผบ.ทบ.เรียบร้อยแล้ว มีหลายเรื่องที่ท่านอยากทำให้พี่น้องประชาชน เรื่องการแก้ไขอุทกภัย แก้ไขภัยแล้ง ทั้งขุดบ่อเก็บกักน้ำ เมื่อมีภัยพิบัติทางธรรมชาติ ท่านก็มีความตั้งใจจะออกมาช่วยกัน ลงพื้นที่ซ่อมแซมช่วยซ่อมบ้านผู้ประสบอุทกภัย ซึ่ง กอ.รมน. ก็ให้ความใส่ใจ 

“ส่วนเรื่องของไบโพลาร์ ผมก็ไม่ได้เป็นหมอ ก็ไม่ทราบว่าท่าน เป็นหรือไม่ แต่เท่าที่สัมผัสมาพบว่าเป็นคนที่สม่ำเสมอ และดูเรื่องผลประโยชน์ประชาชนเป็นที่ตั้ง และจะมีการประชุมที่หลังบัลลังก์ เกี่ยวกับเรื่องนี้ต่อไป” นายเศรษฐา กล่าว

หลังจากนั้น นายรอมฎอน จึงได้ชี้แจงเพิ่มเติมว่า “ประเด็นเรื่องไบโพลาร์ว่า ตนไม่ได้วิจารณ์ในแง่ของสุขภาพ แต่เป็นคำเปรียบเปรยถึงความไม่คงเส้นคงวาของการดำเนินนโยบาย การแปลงไปสู่ภาคปฏิบัติของ กอ.รมน.ที่เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย ไม่ได้ละลาบละล้วงไปถึงผู้ใดเป็นการส่วนตัว ส่วนที่นายกฯ ระบุว่า กอ.รมน.หมดงานจะไปทำเรื่องอื่น ตนก็ยิ่งตกใจคงต้องเตือน สส.คนอื่นๆ ว่าอาจจะต้องรับมือกับ กอ.รมน.ที่เข้าไปยุ่ง ทั้งนี้อยากให้นายกฯ เซ็นรับรองตัวร่าง พ.ร.บ. ยุบ กอ.รมน. กลับมาให้สภาฯ ได้พิจารณาต่อ”

กมธ.ทหารและความมั่นคงของรัฐ วุฒิสภา ลงพื้นที่ติดตามการแก้ไขปัญหาพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย

(4 ธ.ค.67) เวลา 09.30 นาฬิกา ณ ห้องประชุมหาดวาสุกรี ชั้น 4 อาคาร 3 ศาลากลางจังหวัดปัตตานี นายสมบูรณ์ หนูนวล รองประธานคณะกรรมาธิการการทหารและความมั่นคงของรัฐ วุฒิสภา คนที่หนึ่ง พร้อมด้วยกรรมาธิการ อนุกรรมาธิการทางทหารด้านความมั่นคงแบบองค์รวม ได้ประชุมร่วมกับนายสนั่น สนธิเมือง รองผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี หัวหน้าส่วนราชการในพื้นที่เพื่อรับฟังผลการดำเนินงานขับเคลื่อนฮูกุมปากัตธรรมนูญหมู่บ้าน 9 ดี และธรรมนูญโรงเรียน 9 ดีในห้วงที่ผ่านมา รวมถึงการขยายผลในห้วงถัดไป ตลอดจนปัญหาและอุปสรรคในการขับเคลื่อนฮูกุมปากัต หรือ 'กฎสังคม' ที่ได้รับความเห็นชอบจาก 'เสาหลักชุมชน 4 ฝ่าย' คือ ผู้นำศาสนา ผู้นำท้องถิ่น ผู้นำท้องที่ และผู้นำทางธรรมชาติ เรียกว่า 'ผู้นำ 4 เสาหลัก'ประกอบด้วย ดีที่ 1 การเป็นคนดี ดีที่ 2 มีปัญญา ดีที่ 3 รายได้สมดุล ดีที่ 4 สุขภาพแข็งแรง ดีที่ 5 สิ่งแวดล้อมสมบูรณ์ ดีที่ 6 สังคมอบอุ่น ดีที่ 7 หลุดพ้นอาชญากรรม ดีที่ 8 จัดตั้งกองทุนพึ่งตนเอง และดีที่ 9 กรรมการหมู่บ้านเข้มแข็ง เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการป้องกันการกระทำที่ผิดหลักศาสนา และป้องกันการบิดเบือนคำสอนทางศาสนา เพื่อให้หน่วยงานส่วนที่เกี่ยวข้องต่าง ๆ ได้นำไปขยายผลเพื่อใช้กับหมู่บ้านอื่น ๆ ในการแก้ไขปัญหาของจังหวัดชายแดนภาคใต้ให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม

ทั้งนี้ คณะกรรมาธิการฯ จะนำข้อมูลและข้อคิดเห็นต่าง ๆ มาประกอบการพิจารณาตามหน้าที่และอำนาจตามรัฐธรรมนูญและกฎหมายต่อไป


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top