Wednesday, 23 April 2025
โรงเรียน

ครู โพสต์เฟซบุ๊ก ระบายความอัดอั้น หลังนร.ไม่ใส่ใจ ใฝ่ศึกษา เพราะคิดว่า ยังไงก็สอบผ่านอยู่แล้ว ไม่มีการเรียนซ้ำชั้น

(3 มี.ค.67) ครูสุชญา ได้ ระบายความอัดอั้น เกี่ยวกับเรื่องที่มีนักเรียนบางคน ไม่ใฝ่รู้ใฝ่เรียน ไม่คิด ไม่อ่าน ไม่มีความเพียร แม้แต่เรื่องระเบียบวินัย ความรับผิดชอบ หรือมารยาทก็ยังไม่มี โดยได้โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า ...

แค่อยากบอกความรู้สึกในมุมของครูผู้สอนบ้าง เมื่อเจอครูใจดี ควรเกรงใจ ไม่ใช่มักง่ายจะทำอะไรก็ได้ แล้วคิดว่ายังไงครูก็ให้ผ่านอยู่แล้ว ใครเคยเรียนกับครูจะรู้ว่าครูสุชญาไม่ใช่คนเรื่องมาก แต่แบบนี้มันเกินจะรับไหว 

รู้มั้ยว่าสิ่งที่นักเรียนบางคนทำ (ย้ำว่าบางคน) มันบั่นทอนความเป็นครูมากแค่ไหน นอกจากไม่ใฝ่รู้ใฝ่เรียน ไม่คิด ไม่อ่าน ไม่มีความเพียรแล้ว ระเบียบวินัยก็ไม่ผ่าน ความรับผิดชอบก็ไม่มี มารยาทก็ติดลบ แบบนี้จะเรียกตัวเองว่า นักเรียน ได้ยังไง

ในฐานะครูคนหนึ่ง ครูได้ทำหน้าที่ของครูอย่างสุดความสามารถแล้ว แต่มันคงไม่มากพอที่จะขัดเกลาบางคนให้ฉลาดหลักแหลมได้ แม้แต่ตัวเธอเองเธอยังไม่รัก ไม่พยายามทำเพื่อตัวเอง อย่างอื่นก็คงไม่ต้องพูดถึง

ขอเป็นอีกหนึ่งเสียงสนับสนุนให้โรงเรียนประกาศนโยบาย #เรียนซ้ำชั้น สักทีเถอะ อย่าปล่อยให้เด็กพูดต่อหน้าครูว่า “ไม่ทำ ไม่ส่ง เพราะยังไงก็ผ่านอยู่แล้ว” คนเป็นครูน้ำตาตกใน ดิ่งขั้นสุด ไฟมอดดับลงทุกวัน

เกาให้ถูกที่คัน ไม่ใช่สรรหาแต่คำมาบั่นทอนครูผู้สอน #ผู้ปกครองร้องเรียน บ้างหละ #ครูไม่ใส่ใจ บ้างหละ #ครูไม่ติดตามเด็ก บ้างหละ ยกเด็กขึ้นหิ้ง แล้วเหยียบครูให้จมดิน #การศึกษาไทย     

‘รร.ในชุมพร’ ประกาศยกเลิกระเบียบการแต่งกายนักเรียน หลังโดนดรามาสนั่น เหตุห้ามเด็ก ‘กันคิ้ว-แต่งหน้า-ใส่คอนแทคเลนส์-พกมือถือ’ ถ้าเจอจะยึดไม่คืน

(2 เม.ย.67) จากกรณีโลกโซเชียลมีการวิพากษ์วิจารณ์ โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.สวี จ.ชุมพร เผยแพร่กฎระเบียบและเครื่องแบบการแต่งกาย บนเฟซบุ๊กแฟนเพจของโรงเรียน โดยห้ามนักเรียนพกมือถือ-อุปกรณ์แต่งหน้า หากตรวจพบจะถูกยึดและไม่คืนให้ทุกกรณี รวมถึงห้ามกันคิ้ว ห้ามแต่งหน้า ห้ามใส่คอนแทคเลนส์ ซึ่งปรากฏอยู่ในข้อ 11, 12, 14, 15 และ 16 มีรายละเอียดดังนี้

- ข้อ 11 คิ้ว ไม่ถอน ไม่โกน ไม่กัน ไม่เขียนคิ้ว
- ข้อ 12 ใบหน้า ไม่ตกแต่งใบหน้าด้วยเครื่องสำอางทุกชนิด
- ข้อ 14 ห้ามใส่คอนแทคเลนส์ กรณีสายตาสั้นให้ใส่แว่นตา
- ข้อ 15 ห้ามนำอุปกรณ์การใช้โทรศัพท์ทุกชนิดมาโรงเรียน หากตรวจพบทางโรงเรียนจะเก็บอุปกรณ์เหล่านั้นและไม่คืนให้ในทุกกรณี
- ข้อ 16 ห้ามนำอุปกรณ์การแต่งหน้า ทำผม และเครื่องประทินผิวทุกชนิดมาโรงเรียน หากตรวจพบทางโรงเรียนจะเก็บอุปกรณ์เหล่านั้นและไม่คืนให้ในทุกกรณี

หลังจากข้อความนี้ถูกเผยแพร่ออกไป มีผู้ใช้เฟซบุ๊กเข้าไปแสดงความคิดเห็นในเพจของโรงเรียนเป็นจำนวนมาก อาธิ เป็นการละเมิดสิทธินักเรียนหรือไม่ กฎดังกล่าวมีความเข้มงวดจนเกินไป ควรปรับเปลี่ยนกฎให้ทันโลกนั้น 

ล่าสุด เว็บไซต์ของโรงเรียนได้ออกประกาศ ยกเลิกระเบียบการแต่งตัวนักเรียน หลังมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ กรณีห้ามใส่คอนแทคเลนส์-ห้ามนำโทรศัพท์มือถือทุกชนิดมาโรงเรียน

เปิดเรียน 6 วัน ถังแช่นมว่างเปล่า เพราะนมโรงเรียนมาไม่ถึง  ผู้ปกครองทำได้แค่โวย ผู้อำนวยการปวดใจไร้นมแจกเด็ก

ปัญหาความล่าช้าในการจัดสรรพื้นที่ผลิต-จำหน่ายนมโรงเรียนก่อปัญหาแล้ว เมื่อนมโรงเรียนไม่ถึงมือเด็ก ทำให้เด็กไม่ได้กินนม

ผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่งเปิดเผยว่า ตอนนี้เปิดเรียนมาแล้วเป็นเวลา 6 วันแล้ว แต่ยังไม่มีนมแจกเด็กนักเรียนสักชั้น ทาง อบต.เปิดเผยมีหน้าที่จัดซื้อออกเงินแต่ในพื้นที่ยังหาผู้ส่งนมไม่ได้อยู่ในขั้นตอนจัดหาบริษัทคาดจะได้เร็ววันนี้

ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังโรงเรียนไทยรัฐวิทยา 58 (ห้วยคตสามัคคี) หมู่ที่ 3 บ้านป่าผาก ตำบลห้วยคต อำเภอห้วยคต จังหวัดอุทัยธานี ซึ่งทางนายขวัญชัย บารมี ผู้อำนวยการโรงเรียนเปิดเผยว่า ในตอนนี้ถังนมที่เคยแพ็กนมแล้วก็แช่นมไว้ว่างเปล่า ยังไม่มีผู้รับจ้างหรือรับเหมาในอำเภอห้วยคตมาส่งนมให้นักเรียนเลย 

โรงเรียนแห่งนี้มีศูนย์พัฒนาเด็กเล็กของทาง องค์การบริหารส่วนตำบลห้วยคตมาอยู่ด้วยและมีเด็กจำนวน 38 คนและในส่วนของโรงเรียนไทยรัฐวิทยาเองนั้น มีเด็กจำนวน 214 คน ตั้งแต่ชั้นอนุบาลถึง ป.6 

นักเรียนส่วนใหญ่นั้นมีฐานะค่อนข้างยากจน ซึ่งพ่อและแม่ฝากให้อยู่กับตายาย เพราะต้องทำงานหาเงินมาเลี้ยงดูครอบครัวที่ต่างจังหวัด 

ตอนนี้ครูที่สอนอยู่นั้นต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าเปิดเรียนมา 6 วันแล้วแต่นมโรงเรียนนั้นไม่มีให้เด็กดื่มเลย จึงอยากให้แก้ปัญหาดังกล่าวอย่างรวดเร็วว่ามันติดขัดตรงไหนถึงล่าช้าแบบนี้ซึ่งเป็นเรื่องที่เด็กนั้นขาดโอกาสไปมาก

ทั้งนี้ ทางโรงเรียนได้ทำตามนโนบายของกระทรวงศึกษาทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องห้องน้ำก็ทำการปรับปรุงให้สะอาดอยู่เสมอ เพื่อพลานามัยของเด็กนักเรียน และได้งบประมาณค่าอาหารกลางวันหัวละ 22 บาท ซึ่งก็เพียงพอต่อความต้องการทำให้เด็กนั้นอิ่มท้องกันทุกวันอย่างไม่ขาดแคลน ไม่มีปัญหาอะไรเหมือนโรงเรียนต่างๆ ที่เป็นข่าว เพราะได้บริหารจัดสรรค์อย่าลงตัวมาตลอด โดยมีครูช่วยกันเพื่อเด็กนักเรียนจะได้พัฒนาการเรียนควบคู่กับการกินอยู่ระหว่างที่เด็กนักเรียนนั้นอยู่ในโรงเรียน แต่ในตอนนี้กลับมาติดขัดในเรื่องนมที่กล่าวมา และไม่รู้ว่าจะต้องรอจนถึงเมื่อไหร่ ซึ่งก็ไม่มีใครออกมาชี้แจงหรือกำหนดได้

กล่าวสำหรับการจัดสรรพื้นที่ผลิต-จำหน่ายนมโรงเรียนนั้น ทางหน่วยงานกำกับจะมีการจัดสรรตามปริมาณน้ำนมดิบที่โรงนมทำสัญญาซื้อขายไว้กับสหกรณ์ผู้เลี้ยงโคนม

แต่สำหรับปีนี้ตัวเลขจำนวนน้ำนมดิบถูกเก็บงำไว้ที่ส่วนกลาง จนโรงเรียนใกล้เปิดเทอม คือเมื่อวันที่ 11 พฤษภาคมที่ผ่านมา จึงแจ้งปริมาณน้ำนมดิบของแต่ละโรงนม เพื่อให้คณะอนุกรรมการจัดสรรพื้นที่ผลิต-จำหน่าย เรียกประชุมผู้ประกอบการโรงนมนักเรียน

คณะอนุกรรมการจัดสรรโควตา เรียกประชุมผู้ประกอบการโรงนมวันเสาร์ ให้ไปประชุมวันจันทร์ที่ 13 พฤษภาคม และเมื่อได้โควตา ถูกสั่งกำชับให้เร่งผลิตให้ทันแจกในวันที่ 16 พฤษภาคม วันเปิดเรียนวันแรก แต่เข้าใจว่าโรงนมบางแห่งอาจจะมีเวลาเตรียมตัวน้อย จึงผลิต และเสนอขายผ่านท้องถิ่นไม่ทัน จึงไม่สามารถส่งนมให้โรงเรียนได้ทันวันเปิดเรียน

ข้ามมาที่นครศรีธรรมราช ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากผู้ปกครองนักเรียนในพื้นที่ อ.ถ้ำพรรณรา จ.นครศรีฯ ว่า มีโรงเรียนบางแห่งไม่ได้รับนมโรงเรียนเช่นกัน ทราบแต่เพียงว่า อบต.บางแห่งยังไม่ทำสัญญาซื้อขายนมโรงเรียนกับทางผู้ผลิต

"ไม่ทราบว่า ทาง อบต.ทำอะไรกันอยู่ที่เด็กนักเรียนยังไม่ได้ดื่มนมโรงเรียน ทั้งที่โรงเรียนได้ทำการเปิดเรียนมาแล้วตั้งแต่ 16 พ.ค.2567 จนถึงปัจจุบัน นักเรียนที่อยู่ในสังกัดของ อบต.ถ้ำพรรณราและ อบต.ดุสิต ยังไม่ได้ดื่มนมโรงเรียนเลยสักวัน แต่ในพื้นที่อื่นๆ ได้ให้เด็กนักเรียนดื่มนมโรงเรียนแล้วตั้งแต่เปิดเทอม เป็นต้นมา" ผู้ปกครองรายหนึ่งตั้งคำถามถึงผู้บริหารของ อบต.และเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบว่า "ทำอะไรกันอยู่ จึงไม่สั่งนมโรงเรียนให้นักเรียนดื่มทั้งที่เวลาล่วงเลยมาหลายวันแล้ว"

นี่ขนาดเป็นนโยบายของรัฐบาลที่มีการส่งเสริมให้เด็กตั้งแต่อนุบาลจนถึงประถมการศึกษาปีที่ 6 ดื่มนมฟรีตลอดปี เพื่อให้เด็กมีสุขภาพลานามัยแข็งแรง เติบโตขึ้นมาเป็นกำลังของชาติ ซึ่ง อบต.ไม่เห็นความสำคัญของนโยบายรัฐบาลที่ทำมาตั้งแต่สมัยนายชวน หลีกภัย เป็นนายกรัฐมนตรี ให้ได้ดื่มนมฟรีตั้งแต่ พ.ศ.2540 เป็นต้นมา จึงอยากถามผู้บริหารเรื่องแค่นี้ยังไม่สามารถดำเนินการได้หรือว่ามีผลประโยชน์ทับซ้อนกันไม่ลงตัว จึงอยากฝากได้ถึงนายกรัฐมนตรีให้ตรวจสอบผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบ

รายงานข่าวแจ้งว่า ในจังหวัดนครศรีฯ ไม่ใช่เฉพาะ อ.ถ้ำพรรณรา ที่เด็กยังไม่ได้กินนม อำเภออื่นบางอำเภอ เช่น เชียรใหญ่ โรงเรียนบางโรงก็ยังไม่มีนมให้เด็กกิน

มีรายงานว่า ท้องถิ่นบางแห่งมีเงื่อนไข ต้องการซื้อนมยูเอสทีไปแจกนักเรียน ทั้งๆ ที่เด็กควรได้ดื่มนมพาสเจอร์ไรท์ ซึ่งก็ไม่ทราบว่าทำไมผู้บริหารท้องถิ่นบางคนจึงต้องการซื้อนมยูเอสทีไปแจกเด็ก

‘กองทัพยิว’ ถล่มโรงเรียนในกาซาแห่งที่ 4 คร่าชีวิตเฉียด!! 30 ราย ด้านกลุ่มผู้เชี่ยวชาญแห่ประณาม จงใจก่อความรุนแรงฆ่าล้างเผ่าพันธุ์

(11 ก.ค.67) กองทัพอิสราเอลระดมโจมตีทั้งตอนเหนือและตอนกลางของกาซาในวันพุธ (10 ก.ค.) ไม่กี่ชั่วโมง หลังจากโจมตีทางอากาศต่อโรงเรียนแห่งหนึ่งใกล้เมืองข่านยูนิสทางใต้ของกาซา ที่มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 29 คน นับเป็นครั้งที่ 4 ในรอบ 4 วัน ที่อาคารโรงเรียนที่ใช้เป็นที่หลบภัยถูกโจมตี ขณะที่กลุ่มผู้เชี่ยวชาญด้านสิทธิมนุษยชนอิสระของยูเอ็นกล่าวหายิว ‘ดำเนินการเพื่อให้เกิดความอดอยากแบบกำหนดเป้าหมาย’ และ ‘ก่อความรุนแรงที่เป็นการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์’

รายงานระบุว่า กองทัพอิสราเอลโปรยใบปลิวแจ้งให้พลเรือนทั้งหมดอพยพออกจากกาซาซิตี้ พร้อมแผนที่เส้นทางปลอดภัยบนถนน 2 สายมุ่งลงใต้สู่ตอนกลางของฉนวนกาซา

ด้านฮามาสระบุว่า ปฏิบัติการของอิสราเอลในวันอังคาร (9 ก.ค.) ทำให้ชาวปาเลสไตน์กว่า 60 คนเสียชีวิต และบ่อนทำลายความพยายามในการผลักดันข้อตกลงหยุดยิงที่มีการฟื้นการเจรจาอีกครั้งในวันพุธที่โดฮา

ทั้งนี้ รายงานระบุว่า ฮามาสส่งสัญญาณว่า พร้อมยกเลิกการเรียกร้องให้หยุดยิงโดยสมบูรณ์ในเงื่อนไขสำหรับการเริ่มต้นการเจรจาที่มีกาตาร์และอียิปต์เป็นตัวกลาง และสหรัฐฯ ให้การสนับสนุน

ทว่า ทางด้านสำนักนายกรัฐมนตรีอิสราเอลกลับกำหนดเงื่อนไขที่รวมถึงการเปิดทางให้อิสราเอลสู้รบต่อหลังการหยุดยิงจนกว่าจะบรรลุเป้าหมายของสงคราม

เจ้าหน้าที่แพทย์ปาเลสไตน์ระบุว่า การโจมตีทางอากาศต่อค่ายผู้หลบภัยในโรงเรียนแห่งหนึ่งในย่านอาบาสซาน ทางตะวันออกของเมืองข่านยูนิส ในกาซาตอนใต้เมื่อวันอังคาร ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 29 คน ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงและเด็ก ซึ่งนับเป็นครั้งที่ 4 ในรอบ 4 วันที่อาคารโรงเรียนที่ใช้เป็นที่หลบภัยถูกโจมตี

ทางด้านกองทัพอิสราเอลแถลงว่า กำลังตรวจสอบรายงานที่ว่า มีพลเรือนได้รับอันตราย พร้อมระบุว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นระหว่างการใช้กระสุนที่แม่นยำ โจมตีนักรบฮามาสคนหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับการบุกอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ต.ค. ซึ่งเป็นชนวนเหตุของสงครามกาซาในขณะนี้

ขณะเดียวกัน สมาคมเสี้ยววงเดือนแดงปาเลสไตน์เผยว่า ได้รับการติดต่อขอความช่วยเหลือจากประชาชนที่ติดอยู่ในกาซาซิตี้ แต่ไม่สามารถเข้าไปช่วยได้เนื่องจากมีการระดมทิ้งระเบิดอย่างหนักหน่วง และกองทัพอิสราเอลยังคงโจมตีเขตที่อยู่อาศัย ทำให้พลเรือนต้องหนีจากบ้านและที่หลบภัย

ที่ค่ายนูเซรัต ตอนกลางกาซา หน่วยแพทย์เผยว่า ชาวปาเลสไตน์ 6 คนที่รวมถึงเด็กเสียชีวิตจากการโจมตีทางอากาศต่อบ้านหลังหนึ่งเมื่อรุ่งเช้าวันพุธ และการโจมตีทางอากาศอีกระลอกมีผู้เสียชีวิต 2 คน และบาดเจ็บอีกหลายคนในข่านยูนิส

สหประชาชาติระบุว่า พลเรือนหลายแสนคนได้รับผลกระทบจากการระดมโจมตีนับจากอิสราเอลออกคำสั่งอพยพออกจากกาซาซิตี้ครั้งแรกเมื่อวันที่ 27 เดือนที่แล้ว

ฟิลิปเป ลาซซารินี ข้าหลวงใหญ่หน่วยงานผู้ลี้ภัยปาเลสไตน์ของยูเอ็น หรือ UNRWA แถลงว่า ขณะนี้มีพลเรือนราว 35,000 คนต้องออกเดินทางอีกครั้ง โดยที่ไม่มีที่ใดในกาซาที่ปลอดภัยอีกต่อไป

สำนักงานสิทธิมนุษยชนของยูเอ็นสำทับว่า ‘ตกใจ’ กับการที่พลเรือนที่ต้องอพยพโยกย้ายกันมาหลายครั้ง ได้รับคำสั่งให้มุ่งหน้าไปยังบริเวณที่ยังมีปฏิบัติการทางทหารต่อเนื่องและมีพลเรือนล้มตายตลอดเวลา

ขณะเดียวกัน กลุ่มผู้เชี่ยวชาญด้านสิทธิมนุษยชนอิสระของยูเอ็นจำนวน 10 คน กล่าวหาอิสราเอล ‘ดำเนินการเพื่อให้เกิดความอดอยากแบบกำหนดเป้าหมาย’ ที่ส่งผลให้เด็กในกาซาเสียชีวิตและ ‘ก่อความรุนแรงที่เป็นการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์’

กลุ่มผู้เชี่ยวชาญดังกล่าวแจงว่า นับจากวันที่ 7 ต.ค.มีชาวปาเลสไตน์ 34 คน ส่วนใหญ่เป็นเด็ก เสียชีวิตจากความอดอยาก

ทว่า คณะทูตของอิสราเอลในยูเอ็นที่เจนีวา กล่าวหาผู้เชี่ยวชาญเหล่านั้นเผยแพร่ข้อมูลเท็จและสนับสนุนการโฆษณาชวนเชื่อของฮามาส

นอกจากนั้น สงครามที่ดำเนินมากว่า 9 เดือนส่งผลให้โรงพยาบาลมากมายในกาซาต้องปิดตัวลง โดยในวันอังคาร สมาคมเสี้ยววงเดือนแดงปาเลสไตน์แถลงว่า โรงพยาบาลทั้งหมดในกาซาซิตี้ยุติการให้บริการโดยสิ้นเชิง

ชาวเน็ตสุดงง!! เด็กเกเรทำร้ายร่างกายนักเรียน แต่ครูนิ่งเฉย ไม่ตักเตือนหรือสั่งสอน

เมื่อวานนี้ (2 ก.ย. 67) เพจอีซ้อขยี้ข่าว3 ได้มีการโพสต์คลิปวิดีโอเผยพฤติกรรมของเด็กคนหนึ่งทำร้ายเด็กนักเรียนในระหว่างที่ครูกำลังสอน ทั้งที่มีวิดีโอถ่ายเห็นชัดเจนแต่กลับไม่มีการว่ากล่าวตักเตือนใด ๆ จากครูผู้สอนหรือคนที่กำลังถ่ายคลิปอยู่ โดยในคลิปดังกล่าวได้มีการระบุข้อความว่า

"ถ้าเราเป็นครูจะจัดการเรื่องนี้ยังไง? กรณีนี้ครูไม่เห็นเลยหรือ?"

โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในห้องเรียนซึ่งคาดว่าเป็นชั้นระดับอนุบาล จะมีเด็กคนหนึ่งแต่งตัวไม่เหมือนเพื่อน ใส่ชุดอยู่บ้านทำตัววุ่นวายภายในห้องเรียน ซึ่งมีเด็กนักเรียนนั่งอยู่กันเต็มห้อง ก่อนที่เด็กเสื้อแดงจะคลานมาหาเด็กนักเรียนคนหนึ่ง จากนั้นต่อยเข้าไปที่ท้องและใบหน้าของเด็กนักเรียน จากนั้นไม่นานเดินไปข้างหลังเด็กนักเรียนคนเดิมและต่อยเตะที่กลางหลัง หากสังเกตให้ดีจะเห็นว่าเด็กนักเรียนในห้องต่างผวาเมื่อเด็กเสื้อแดงคลานผ่าน ซึ่งคาดว่าเด็กนิสัยไม่ดีรายนี้คงมีพฤติกรรมเช่นนี้บ่อย

แต่ต้องแปลกใจมากยิ่งขึ้นเมื่อในห้องเรียนดังกล่าวมีครูอยู่ถึง 2 คน คาดว่าน่าจะเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดแต่กลับไม่เข้าห้ามปรามหรือสั่งสอนเด็กชายเสื้อสีแดงเลย นอกจากนี้ ผู้ที่บันทึกวิดีโอซึ่งเห็นเหตุการณ์ชัดเจนก็ปล่อยให้เหตุการณ์ดำเนินไปโดยไม่มีการทำอะไรทั้งสิ้น

ทั้งนี้ มีชาวเน็ตเข้ามาร่วมแสดงความคิดเห็นวิพากษ์วิจารณ์พฤติกรรมของครูในห้องเรียนเป็นจำนวนมากที่ปล่อยปละละเลยเหตุการณ์ดังกล่าว บ้างก็คาดว่าเด็กเกเรรายนี้อาจจะเป็นลูกหลานของคุณครูก็ได้

จีนหนุนพลศึกษาสู่วิชาหลัก เทียบชั้นคณิต-วิทย์ฯ พร้อมปรับเงินเดือนครูพละ หลังพบโรคอ้วนในเด็กสูง

(29 ม.ค.68) จีนมีแผนผลักดันให้วิชาพลศึกษาเป็นวิชาหลักส่วนสำคัญของหลักสูตรในโรงเรียน แทนที่จะเป็นเพียงวิชารองเท่านั้น เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับอัตราโรคอ้วนในเด็กที่เพิ่มสูงขึ้น

ตามรายงานของสำนักข่าวซินหัว กระทรวงศึกษาธิการของจีนระบุว่าการศึกษาที่สมดุลต้องรวมทั้งวิชาการและสุขภาพร่างกาย โดยโรงเรียนระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษาทั่วประเทศจะต้องให้ความสำคัญกับครูพลศึกษาในระดับเดียวกับครูวิชาหลัก เช่น ภาษาจีน คณิตศาสตร์ และภาษาอังกฤษ นอกจากนี้ ยังต้องส่งเสริมกีฬาหลัก เช่น ฟุตบอล บาสเกตบอล และวอลเลย์บอล

"มาตรการเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของแนวทางการศึกษาที่มุ่งเน้นการพัฒนาทั้งด้านวิชาการและสุขภาพร่างกาย เพื่อสร้างนักเรียนที่มีความพร้อมในอนาคต" กระทรวงศึกษาธิการระบุ

แนวทางดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่จีนประกาศแผนยุทธศาสตร์แห่งชาติฉบับแรกเมื่อเดือนมกราคม โดยตั้งเป้าพัฒนา 'ชาติที่มีการศึกษาที่แข็งแกร่ง' ภายในปี 2035 หนึ่งในนโยบายสำคัญคือการกำหนดให้นักเรียนระดับประถมและมัธยมศึกษามีกิจกรรมทางกายภาพอย่างน้อยวันละ 2 ชั่วโมง เพื่อลดอัตราสายตาสั้นและโรคอ้วน

ในปี 2022 มีการขาดแคลนครูพลศึกษาทั่วประเทศราว 120,000 คน โดยเฉพาะในพื้นที่ชนบท รัฐบาลจึงมีมาตรการส่งเสริมการรับสมัครนักกีฬาที่เกษียณแล้วและอดีตทหารเข้ามาช่วยแก้ปัญหานี้ นอกจากนี้ ครูพลศึกษาจะได้รับค่าตอบแทนในระดับเดียวกับครูวิชาอื่น และจะมีการปรับเงินเดือนตามผลงานสำหรับการทำหน้าที่พิเศษ เช่น การฝึกสอนกีฬาหลังเลิกเรียนและการเป็นโค้ชทีมกีฬา

อัตราโรคอ้วนในเยาวชนจีนเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วตั้งแต่ปี 2019 ซึ่งเป็นผลจากการลดลงของกิจกรรมทางกายในช่วงมาตรการล็อกดาวน์โควิด-19 และการสั่งซื้ออาหารจานด่วนทางออนไลน์เพิ่มขึ้น แพทย์คาดว่าอัตราโรคอ้วนจะเพิ่มขึ้นอีกในช่วง 10-12 ปีข้างหน้า เนื่องจากการชะลอตัวทางเศรษฐกิจส่งผลต่อพฤติกรรมการบริโภคและการออกกำลังกาย

ในปี 2022 อัตราเด็กชายที่เป็นโรคอ้วนในจีนเพิ่มขึ้นเป็น 15.2% จาก 1.3% ในปี 1990 ขณะที่ในสหรัฐฯ อยู่ที่ 22% ญี่ปุ่น 6% สหราชอาณาจักรและแคนาดา 12% และอินเดีย 4% ส่วนในเด็กหญิงจีน อัตราโรคอ้วนเพิ่มขึ้นเป็น 7.7% จาก 0.6% ในช่วงเวลาเดียวกัน

คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติจีนระบุในเดือนตุลาคมว่า "โรคอ้วนกลายเป็นปัญหาด้านสาธารณสุขที่สำคัญในประเทศ โดยเป็นปัจจัยเสี่ยงอันดับที่หกของการเสียชีวิตและความพิการในจีน"


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top