นายกฯ อิรัก รอดตายจาก ‘โดรนลอบสังหาร’ ด้าน ‘โจ ไบเดน’ ออกโรงประณาม - อาสาส่งทีมช่วยสืบ
แบกแดด (เอพี/รอยเตอร์ส/บีบีซี นิวส์) - นายกรัฐมนตรีอิรักแถลงด่วนผ่านทางโทรทัศน์ ประณามผู้ก่อเหตุหวังปลิดชีพเขาอย่างขี้ขลาด หลังรอดชีวิตจากความพยายามลอบสังหารด้วยโดรนติดอาวุธมาได้หวุดหวิดเมื่อช่วงรุ่งสางเช้าวันอาทิตย์ ขณะที่ ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ ได้ประณามการลอบสังหารดังกล่าวเช่นกัน
เกิดเหตุกลุ่มติดอาวุธไม่ทราบฝ่าย ใช้อากาศยานไร้คนขับแบบติดอาวุธ มุ่งหน้ามายังบ้านพักของนายกรัฐมนตรีมุสตาฟา อัล-คาดิมี ซึ่งตั้งอยู่ในกรีนโซน ซึ่งเป็นพื้นที่ความมั่นคงสูง ในกรุงแบกแดด เมื่อช่วงรุ่งสางของวันอาทิตย์ตามเวลาท้องถิ่น เพื่อพยายามลอบสังหารผู้นำอิรัก แต่ฝ่ายความมั่นคงยืนยันว่าไม่ประสบความสำเร็จ กองกำลังรักษาความมั่นคงกำลังดำเนินมาตรการที่จำเป็นเกี่ยวกับความพยายามลอบสังหารนี้ ขณะที่สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ชาวกรุงแบกแดดได้ยินเสียงระเบิดและเสียงยิงปืนดังมาจากทิศทางที่เป็นที่ตั้งเขตกรีนโซนในกรุงแบกแดด ซึ่งประกอบด้วยที่ทำการรัฐบาลและสถานทูตต่างชาติ
ต่อมา คาดิมีแถลงผ่านสถานีโทรทัศน์ว่า เขาและครอบครัวปลอดภัยดี ไม่มีใครได้รับอันตราย และขอให้ประชาชนอย่าแตกตื่นกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมประณามผู้ที่ก่อเหตุอุกอาจใช้โดรนโจมตีที่พักของเขาในเขตกรีนโซน ว่าการโจมตีด้วยจรวดและโดรนอย่างขี้ขลาด ไม่ใช่วิธีที่จะสร้างมาตุภูมิและอนาคตของประเทศได้ ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ออกแถลงการณ์ประณามเหตุการณ์ครั้งนี้ ที่หลังจากนั้นมีการยกระดับมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างชัดเจน ทั้งภายในและภายนอกกรีนโซน และเสนอความช่วยเหลือที่จะเข้าไปร่วมสอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
จนถึงขณะนี้ ยังคงไม่มีบุคคลกลุ่มใดออกมาแสดงตัว ว่ามีความเกี่ยวข้องกับความพยายามลอบสังหารคาดิมี อดีตผู้อำนวยการสำนักงานข่าวกรองแห่งชาติ วัย 54 ปี ซึ่งขึ้นสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของอิรัก เมื่อเดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว ท่ามกลางการจับตาและเสียงวิจารณ์ของบรรดากองกำลังติดอาวุธในอิรัก ว่าคาดิมีมีความใกล้ชิดกับรัฐบาลสหรัฐฯ แม้ผู้นำอิรักพยายามแสดงท่าทีประนีประนอมกับทุกฝ่าย และรับหน้าที่เป็นคนกลางในการเจรจาคลี่คลายความขัดแย้งระหว่างซาอุดีอาระเบียกับอิหร่านมาแล้วหลายครั้ง
