Tuesday, 22 April 2025
แม่ทัพภาคที่3

แม่ทัพภาคที่ 3 เน้นย้ำป้องกันสกัดกั้นยาเสพติด สารตั้งต้น และสิ่งผิดกฏกมายแนวชายแดน จังหวัดตาก

(13 พ.ย. 67) พลโท กิตติพงษ์ แจ่มสุวรรณ แม่ทัพภาคที่ 3/ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 3ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมกำลังพล กองกำลังนเรศวร  ตามฐานปฏิบัติการ พื้นที่ชายแดนจังหวัดตาก  อำเภอพบพระ อุ้มผาง และแม่สอด รวมทั้งติดตามตรวจเยี่ยมกำลังพล ที่ด่านตรวจร่วมเพื่อความมั่นคงบ้านห้วยหินฝน ถนนหมายเลข 12 แม่สอด -ตาก อำเภอแม่สอด

แม่ทัพภาคที่ 3 กล่าวว่า ได้มีการเน้นย้ำการบูรณาการในการทำงานของทุกภาคส่วนร่วมกัน อย่างสามัคคี กลมเกลียว เพื่อให้ประชาชน มีความมั่นใจในข้าราชการของรัฐ เหนือสิ่งอื่นใด ชายแดนต้องมีความสงบสุข ประชาชนมีความอุ่นใจ   ส่วนเรื่องยาเสพติด ช่วงนี้อาจมีการเล็ดรอด เข้ามาด้านนี้  จึงเน้นย้ำกำลังพลเพิ่มการสังเกตุ ตรวจตรา และนำเครื่องมือที่มีอยู่มาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งการทำงานที่ด่านตรวจอาจมีผลกระทบต่อประชาชนบ้าง  แต่จะดำเนินการด้วยความสุภาพอ่อนโยน เพื่อความสุขของประชาชนเป็นหลัก

"ในส่วนของสารตั้งต้น จะต้องนำเครื่องมือพิเศษมาใช้โดยได้หารือ กับทาง ป.ป.ส. ไว้แล้ว ซึ่งอาจะต้องใช้อุปกรณ์ เพื่ออำนวยความสะดวก ให้เจ้าหน้าที่ได้ทำงานอย่างสะดวกขึ้น ที่สามารถตรวจสอบ โดยไม่ต้องมีการขนสินค้าการเกษตรขึ้นลง ลงจากรถในอนาคต แต่ตอนนี้ จะเน้นการทำงานด้านการการสังเกตุและการข่าวเป็นหลัก" แม่ทัพภาคที่ 3 กล่าว
ปรีชา นุตจรัส รายงานข่าว

พิษณุโลก กองทัพภาคที่ 3 จัดกิจกรรมเสริมทักษะและศักยภาพการปฏิบัติงานการพัฒนา พื้นที่เพื่อเสริมความมั่นคงตามแนวชายแดน 

(18 ธ.ค.67) เวลา 08.45 นาฬิกา ที่ ห้องประชุมปางอุบลโรงแรมวังจันทน์ ริเวอร์วิว อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก พลโท กิตติพงษ์ แจ่มสุวรรณ แม่ทัพภาคที่ 3 เป็นประธานเปิดกิจกรรมเสริมทักษะและศักยภาพการปฏิบัติงานการพัฒนาพื้นที่เพื่อเสริมความมั่นคงตามแนวชายแดนระดับจังหวัดและบูรณาการงาน ร่วมกับจังหวัดพื้นที่ตอนใน ประจำปีงบประมาณ 2568  

เพื่อให้กำลังพลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้รับทราบแนวทางการบริหารจัดการเพื่อเสริมสร้างความมั่นคงเชิงพื้นที่ พ.ศ. 2566 – 2570 ของ สมช. ซึ่งจะเป็นข้อมูลในการเตรียมการดำเนินงานในส่วนที่เกี่ยวข้องได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้สามารถบูรณาการขับเคลื่อนงานในพื้นที่เป้าหมายร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการพิจารณาพื้นที่เป้าหมาย ได้แก่ 1.พื้นที่เป้าหมายที่จังหวัดประกาศ 2. พื้นที่โครงการพัฒนาเพื่อเสริมความมั่นคงเฉพาะพื้นที่ 3. พื้นที่เป้าหมายหมู่บ้านตำบลชายแดนของกองกำลังป้องกันชายแดน ในพื้นที่ กองทัพภาคที่ 3 เพื่อให้กำลังพลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้าใจ และมีความรู้ในกระบวนการจัดทำแผนงาน/โครงการด้านความมั่นคงหรือแผนงานเสริมความมั่นคง เพื่อบรรจุในแผนพัฒนาจังหวัดได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นรูปธรรม

เชียงใหม่-แม่ทัพภาคที่ 3 เปิดกิจกรรมรณรงค์ป้องกันแก้ไขปัญหาไฟป่าฯ ตั้งเป้าเมษายนปีนี้อากาศจะต้องดี

(6 ม.ค. 68) แม่ทัพภาคที่ 3 มอบนโยบายให้ 17 จังหวัดภาคเหนือ พร้อม เปิดกิจกรรม “รณรงค์ป้องกันแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 พื้นที่ภาคเหนือ” ประจำปี 2568 และตรวจความพร้อมของกำลังพล ยุทโธปกรณ์ และอากาศยาน ในการป้องกันและแก้ปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละออง ในพื้นที่ 17 ภาคเหนือ ย้ำ กองทัพภาคที่ 3 พร้อมสนับสนุนการแก้ไขปัญหาอย่างเต็มขีดความสามารถ

กิจกรรม “รณรงค์ป้องกันแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 พื้นที่ภาคเหนือ” ประจำปี 2568 ซึ่งศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละออง ภาค 3 ได้ร่วมกับ องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ จัดขึ้น โดยศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาค 3 จัดตั้งขึ้นตามคำสั่ง กองทัพภาคที่ 3 ,ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 3 ,กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 3 ,ศูนย์อำนวยการจิตอาสาพระราชทาน ภาค 3  ที่ 421/2567 / ลงวันที่ 8 พฤศจิกายน 2567  มีอำนาจหน้าที่ ดังนี้

1. วางแผน อำนวยการและบูรณาการ การป้องกันแก้ปัญหาไฟป่า รวมทั้งการควบคุมและดับไฟที่เกิดขึ้นในพื้นที่รับผิดชอบและในพื้นที่รอยต่อระหว่างจังหวัดระหว่าง โดยบูรณการด้านงบประมาณอัตรากำลัง เจ้าหน้าที่ เครือข่ายอาสาสมัคร ยุทโธปกรณ์ อุปกรณ์ เครื่องมือ ยานพาหนะ และอากาศยาน ฯลฯ
2. ปฏิบัติการเฝ้าระวัง ติดตาม ประเมินสถานการณ์ปัญหาไฟป่าและหมอกควัน และดับไฟป่า รวมทั้งบูรณาการการดำเนินงานร่วมกับศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และ ฝุ่นละออง ระดับจังหวัด และรายงานผลการดำเนินงานต่อคณะกรรมการอำนวยการเพื่อการจัดการปัญหามลพิษทางอากาศ
3. สนับสนุนการประชาสัมพันธ์และสร้างการรับรู้เกี่ยวกับผลกระทบของไฟป่าและหมอกควัน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน 
4. แต่งตั้งคณะกรรมการปฏิบัติแก้ไขปัญหาและหมอกควันในพื้นที่ 14 กลุ่มป่าแปลงใหญ่รอยต่อไฟป่า เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงานของศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และ ฝุ่นละอองระดับภาค
5. ปฏิบัติงานอื่นตามที่คณะกรรมการอำนวยการเพื่อการจัดการปัญหามลพิษทางอากาศมอบหมาย
 
โดยได้จัดตั้ง ศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละออง ภาค 3 ที่ อาคารยอดทัพ กองพลทหารราบที่ 7  อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2567 ถึง 30 เมษายน 2568 หรือ จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย ซึ่งจัดให้มีการประชุมประสานงาน กับศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองระดับจังหวัด และกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน 17 จังหวัด รวมทั้งชุดขับเคลื่อนการมีส่วนร่วม 17 จังหวัดภาคเหนือ 

เพื่อบูรณาการสรรพกำลังทั้งมวลของส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ภาคเอกชน และภาคประชาชน ให้มีส่วนร่วมในการป้องกัน แก้ไขปัญหา และบรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อสุขภาพอนามัยของประชาชน เศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ทั้งนี้ตามนโยบายของ รัฐบาลให้ทุกภาคส่วนเตรียมความพร้อมบูรณาการแผนงานป้องกันการแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง และแผนเผชิญเหตุในพื้นที่ของแต่ละจังหวัด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการสาธารณภัยให้มีการประชาสัมพันธ์ข้อมูลและแจ้งเตือนประชาชนอย่างต่อเนื่องให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสาร เพื่อลดผลกระทบที่เกิดขึ้น เป้าหมายในการแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควันและฝุ่นละอองในปี 2568  จะพิจารณาจากสถิติจุดความร้อน  และพื้นที่เผาไหม้ของปีที่ผ่านมา  

กำหนดเป้าหมายสำคัญ 7 ดอย , 19 รอยต่อ , และ 12 ป่าแปลงใหญ่ พร้อมทั้งผลลัพธ์ที่ต้องการ คือ จุดความร้อนลดลง พื้นที่เผาไหม้ลดลง และฝุ่นละอองขนาดเล็กลดระดับความรุนแรงลง จนไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน ตามที่รัฐบาลกำหนด 

เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2568 พล.ท.กิตติพงษ์ แจ่มสุวรรณ แม่ทัพภาคที่ 3 ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละออง ภาค 3 ได้มอบนโยบายแผนการปฏิบัติงานและแนวทางการแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก ในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ ประจำปี 2568 ให้กับผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 17 จังหวัดภาคเหนือ , หัวหน้าส่วนราชการต่างๆที่เกี่ยวข้อง และรับฟังการบรรยายลักษณะสภาพอากาศ อัตราการระบายอากาศ ความกดอากาศ จาก ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือ , การสนับสนุนอากาศยานยุทโธปกรณ์ตรวจหาจุดความร้อน จากกองทัพอากาศ , กระบวนการสร้างความชุ่มชื้นในอากาศ และการทำฝนหลวง  จาก ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือตอนบน กรมฝนหลวงและการบินเกษตร , มาตราการ/แนวทางการ ควบคุมไฟป่า 14 cluster พื้นที่ไหม้ซ้ำซาก พื้นที่รอยต่อ จากกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และกรมป่าไม้ และ แนวทางการบังคับใช้กฎหมาย ตำรวจภูธรภาค 5  สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และเป็นประธานพิธีเปิดกิจกรรม “รณรงค์ป้องกันแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 พื้นที่ภาคเหนือ” ประจำปี งบประมาณ 2568 ตั้งเป้าหมายเดือนเมษายนปีนี้อากาศเชียงใหม่จะต้องดี

นอกจากนี้ยังได้เยี่ยมชมนิทรรศการเกี่ยวกับการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองจาก 10 หน่วยงาน และตรวจความพร้อมและให้กำลังใจชุดปฏิบัติการดับไฟป่า อากาศยานและอุปกรณ์ดับไฟป่า จาก กองทัพภาคที่ 3 , กรมป่าไม้ , กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช , กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย , องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ และมวลชนจิตอาสา กว่า 500 นาย ณ ศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละออง ภาค 3 กองพลทหารราบที่ 7 อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ 
 
ทั้งนี้ กองทัพบก และ กองทัพภาคที่ 3 โดย ศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละออง ภาค 3 ได้ให้ความสำคัญกับปัญหาไฟป่า-หมอกควันและการเผาป่าในพื้นที่ภาคเหนือเป็นอย่างมาก ด้วยการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด สนับสนุนการดำเนินงานของรัฐบาล ในการขับเคลื่อนภารกิจพัฒนาประเทศ การช่วยเหลือประชาชน และการบรรเทาสาธารณภัยอย่างเต็มขีดความสามารถ รวมทั้ง การบูรณาการและประสานความร่วมมือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ภาคเอกชน และภาคประชาชน เพื่อให้สามารถช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงทีและมีประสิทธิภาพสูงสุด

นภาพร/เชียงใหม่


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top