Monday, 1 July 2024
แคนดิเดตนายก

จับตา!! แคนดิเดตนายกฯ รทสช. ‘พล.อ.ประยุทธ์’ หรือ ‘พีระพันธุ์’

‘รทสช.’ จัดสัมมนา ชวนผู้สมัคร ส.ส. 400 เขตทั่วประเทศ ทำความเข้าใจกติกา กกต. ขอระวังถูกกลั่นแกล้ง สั่งจับตาฝ่ายตรงข้ามทำผิดด้วย ‘ไม่สน’ คำปรามาสตั้งพรรค

(25 มี.ค. 66) ที่อาคารเดอะพอร์ทอล ไลฟ์สไตล์ คอมแพล็กซ์ อิมแพค เมืองทองธานี ในการสัมมนาผู้สมัคร ส.ส. 400 เขต และประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2566 ของพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) โดยมีว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.และแกนนำพรรคเข้าร่วมอย่างพร้อมเพียง โดย นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวเปิดสัมนา ว่า ถือเป็นครั้งแรกที่ได้จัดกิจกรรมร่วมกับสมาชิกพรรคที่พร้อมจะลงเลือกตั้ง ซึ่งจะนำชัยชนะมาให้คนไทย ยืนยันว่า ที่ทำพรรครวมไทยสร้างชาติขึ้นมาตั้งใจให้เป็นพรรคของคนธรรมดา ไม่ใช่เป็นพรรคของคนยิ่งใหญ่ เป็นพรรคที่ช่วยกันทำงานแบบเพื่อนพี่น้อง กฎหมายบอกให้มีตำแหน่งก็มีไป แต่ในการทำงานของพวกเราไม่ได้แบ่งว่าใครเป็นหัวหน้าหรือรองหัวหน้า ทุกคนทำงานเป็นเบ้ของพรรคทั้งหมด เราตั้งใจที่จะให้มีพรรคการเมืองแบบใหม่เป็นพรรคของประชาชนที่สามารถลดความหลื่อมล้ำในสังคมและความเป็นอยู่ต่าง ๆ รวมทั้งมีความรักความสามัคคี ถ้าไม่เริ่มต้นจากพรรคของพวกเราก็จะไปทำให้ประเทศเป็นแบบนี้ไม่ได้ 

“ในพรรคครวมไทยสร้างชาติเป็นพรรคที่ไม่มีผู้ยิ่งใหญ่ เป็นพรรคที่ทุกคนเท่ากันช่วยกันทำงาน จึงขอให้ทุกคนช่วยกันทำงานและนำไปสู่ความสำเร็จ เพื่อนำมาช่วยเหลือประเทศไทยให้มีความสุขในการอยู่กับแผ่นดินนี้ ช่วยกันสร้างอนาคตให้กับลูกหลานต่อไป” นายพีระพันธุ์ กล่าว

นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า เลขาธิการพรรคกล่าวว่าตนเป็นผู้ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จและอยู่เบื้องหน้าอีกหลายเรื่อง แต่ความสำเร็จที่ตนพยายามผลักดันให้พรรค เติบโตขึ้นมาไม่มีวันจะเป็นไปได้เลยถ้าขาดบุคคลสำคัญอย่าง นายเสกสกล อัตถาวงศ์ คณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรคฯ อย่างไรตนก็ต้องขอขอบคุณ พรรครวมไทยสร้างชาติเริ่มต้นจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ในฐานะประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรค ที่ไม่ใช่เป็นผู้จดทะเบียนตั้งพรรคแต่มีมอตโตขึ้นมาระหว่างที่ประเทศกำลังเผชิญโควิด 19 โดยบอกว่าคนไทยต้องช่วยกันทำงานให้ชาติบ้านเมือง คนไทยต้องร่วมมือกัน รวมไทยสร้างชาติ พอได้ยินคำนี้ก็รู้สึกปิ๊ง

“ผมเคยคิดว่าจะพักแล้ว แต่พอเห็น พล.อ.ประยุทธ์ทำงานเลยเกิดความคิดว่าแล้วเราจะทิ้งบ้านเมืองไปได้อย่างไร และชอบคำที่ พล.อ.ประยุทธ์พูด คิดว่าเป็นคำทางการเมืองที่ถูกต้อง รวมไทยสร้างชาติ เพราะไม่ว่าจะประเทศไทยเราหยุดคิดและเดินไม่ได้ เราหยุดการพัฒนาประเทศไม่ได้เราจึงต้องร่วมกันสร้าง คนไทยที่อยู่บนแผ่นดินนี้ไม่ร่วมใจ ไม่ร่วมกันสร้างแล้วเราจะเดินกันไปได้อย่างไร แต่นึกได้ไม่นานนายเสกสกล ก็แอบไปจดทะเบียนพรรค ซึ่งผมรู้จักกับคุณแรมโบ้มานาน ตั้งแต่เป็น ส.ส.สมัยแรก ซึ่งท่านบอกว่าไม่ได้ตั้งใจจะไปทำพรรคการเมือง แต่ผมชอบคำว่ารวมไทยสร้างชาติ และเชื่อว่าจะมีคนเอาไปจดทะเบียนพรรคจึงชิงจดไว้ก่อน เวลาผ่านไปจนถึงจุดที่ต้องตัดสินใจ ที่จะเดินหน้าทางการเมืองที่ฝันไว้ว่าจะมีพรรคที่ไม่ได้คิดแต่เรื่องการเมืองแต่คิดเพื่อประชาชน และสามารถเป็นที่พึ่งได้ จึงได้หารือกับ นายเอกนัฏ จึงลองทำดู ดีกว่าพูดแล้วไม่ทำ เอาแต่พูด จึงตัดสินใจเดินหน้าตั้งแต่มีกันอยู่แค่ 2 คน จนมีมากขึ้น เมื่อเป็นรูปธรรมจึงกลับไปหานายเสกสกลและขอเอาพรรครวมไทยสร้างชาติไปทำได้หรือไม่ ท่านก็บอกว่าถ้าพี่จะทำเอาไปเลยยกให้ ต้องขอบคุณและนี่คือจุดเริ่มต้นของพรรค” นายพีระพันธุ์ กล่าว

‘ณัฐวุฒิ’ ลั่น!! นายกฯ ต้องมาจากแคนดิเดต ‘เพื่อไทย’ เผย พร้อมตั้งรัฐบาลผสมกับพรรคที่ยึดหลักประชาธิปไตย

(29 มี.ค. 66) เฟซบุ๊กแฟนเพจหลักของ ‘พรรคเพื่อไทย’ ได้ออกมาโพสต์ข้อความ โดยมีเนื้อหาระบุว่า…

“ถ้าพรรคเพื่อไทยชนะลำดับ 1 เพื่อไทยต้องเป็นแกนนำตั้งรัฐบาล นายกรัฐมนตรีต้องมาจากแคนดิเดตคนใดคนหนึ่งของพรรคเพื่อไทย  เราจะตั้งรัฐบาลผสมและพรรคการเมืองร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทยต้องเป็นพรรคที่ยืนยันหลักการประชาธิปไตย และนโยบายของพรรคเพื่อไทยต้องเป็นนโยบายหลักของรัฐบาล”

ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์สดในรายการเปลี่ยนใหม่หรือไปต่อ ตอน ตัวตึง!!! ดำเนินรายการโดย สรยุทธ สุทัศนะจินดา ทางสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีช่อง 3 โดยมีตัวแทนพรรคการเมืองอื่นเข้าร่วมอีกรวม 6 พรรค ในช่วงแรก ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ กล่าวตอบคำถามของผู้ดำเนินรายการถึงเหตุผลอะไรที่จะต้องเลือกพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาลว่า เพราะในช่วง 8 ปีของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นช่วงที่มีแต่ข่าวการทุจริตคอร์รัปชัน โดยสถาบันจัดลำดับการคอร์รัปชั่นทั้งในและต่างประเทศได้รายงานการทุจริตเหล่านี้อย่างต่อเนื่อง แม้ว่าพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาจะอ้างเสมอว่าตัวเองเป็นคนดี ยึดมั่นสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ในส่วนนั้นตนให้ความเคารพ แต่ที่เห็นได้ชัดคือพลเอกประยุทธ์ไม่เคยได้ยึดมั่นในประชาชนเลย เพราะพลเอกประยุทธ์ยึดอำนาจมาจากประชาชน และเขียนกติกาสืบทอดอำนาจให้พลเอกประวิตร วงศ์สุวรรณมาตั้ง ส.ว. และให้ ส.ว.มาเลือกพลเอกประยุทธ์มาเป็นนายกรัฐมนตรี สิ่งเหล่านี้มันจึงอธิบายว่าประเทศกำลังเดินผิดทางและผลกระทบจากการเดินผิดทางคือความเดือดร้อนทุกข์ยากของประชาชน พรรคเพื่อไทย จึงเสนอตัวและเป็นทางเลือกทางเดียวที่จะปฏิเสธการเดินต่อของพลเอกประยุทธ์คือการต้องสนับสนุนพรรคเพื่อไทย เปลี่ยนขั้วตั้งรัฐบาลฝ่ายประชาธิปไตย

ณัฐวุฒิ กล่าวต่อว่า ถ้าพรรคเพื่อไทยได้คะแนนเป็นลำดับหนึ่ง ต้องเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล เพื่อไทยจะตั้งรัฐบาล นายกรัฐมนตรีต้องมาจากแคนดิเดตคนใดคนหนึ่งของพรรคเพื่อไทย เราจะตั้งรัฐบาลผสมและพรรคการเมืองร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทยต้องเป็นพรรคที่ยืนยันหลักการประชาธิปไตย และนโยบายของพรรคเพื่อไทยต้องเป็นนโยบายหลักของรัฐบาล

“ผมกล้าเชื่อว่า ถ้าหากว่าเพื่อไทยเสียงนำมาเป็นที่หนึ่ง และจับกับพรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตยตั้งรัฐบาลแล้ว เชื่อว่า ส.ว. 250 เสียงจะไม่ตัดสินใจเหมือนเดิมไม่กล้าโหวตสวน แต่จะมีจำนวนหนึ่งที่ยอมรับการตัดสินใจของประชาชน และหันกลับมาโหวตให้ฝ่ายประชาธิปไตยจัดตั้งรัฐบาล” ณัฐวุฒิ กล่าว


ที่มา : https://www.facebook.com/pheuthaiparty/posts/pfbid0UB8rRebSpurtV7YQ1mA4SswQhKRY8Q8JRiCaYCS31kSyjWPReD5asciAmJv35phPl

เมื่อ ‘เพื่อไทย’ เลือก ‘หมอมิ้ง’ แคนดิเดต ชู ‘แลนด์สไลด์’ ทรมานใจติ่งพรรคส้ม

ในวันที่ 4 เม.ย.2566 ก็จะได้เวลากรรมการบริหารพรรคเพื่อไทยเคาะชื่อ “บุคคลซึ่งพรรคการเมืองนั้นมีมติว่าจะเสนอให้สภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีไม่เกินสามรายชื่อต่อคณะกรรมการการเลือกตั้งก่อนปิดการรับสมัครรับเลือกตั้ง...” หรือที่เรียกกันสั้น ว่าแคนดิเดตนายกฯ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 88

แต่เนื่องด้วยยังมีบทเฉพาะกาลมาตรา 272  คนโหวตเลือกนายกฯ จะมีสมาชิกวุฒิสภามาร่วมแจมด้วย

พรรคเพื่อไทยประกาศชัดว่าจะจัดเต็มคาราเบล 3 รายชื่อ...เปิดหน้าเปิดตามาแล้วสองคน...’อุ๊งอิ๊ง’ แพทองธาร ชินวัตร และ ‘เสี่ยนิด’ เศรษฐา ทวีสิน ซึ่งคนแดนไกลอย่างโทนี วู้ดซัม บอกว่าเก่ง (คนละด้าน) ทั้งคู่...คนที่สามที่กำลังจะเปิดตัวก็คงเก่งไปอีกทาง…

โทนี่ วู้ดซัม ยังได้พูดแบบไม่สนใจมาตรา 28, 29 ของพรป.พรรคการเมือง คือ พูดอย่างกะเป็นเจ้าของพรรคว่า...ไม่ว่าคนที่สามเป็นใครแต่ทั้งสามคนตกลงกันแล้วว่า คนหนึ่งเป็น (นายกฯ) อีกสองคนจะร่วมด้วยช่วยกัน...

จาก ม.ค.-มี.ค.ปีนี้  ชื่อแคนดิเดตนายกฯ คนที่สามทยอยโผล่มาด้วยที่มาต่างกัน...ประกอบด้วย สมชัย เลิศสุทธิวงศ์  ลูกหม้อเก่าเครือชินคอร์ป, ดร.สุรเกียรติ เสถียรไทย ที่ว่ากันว่าเป็น ส.เสือตัวใหญ่…‘หมอมิ้ง’ หรือ ‘สหายจำรัส’ หรือ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช อดีตรองนายกฯและรมต.ของพรรค และล่าสุด นสพ.มติชน รายวัน บอกว่าอาจปัดฝุ่นเอาชื่อ ‘ชัยเกษม นิติศิริ’ ที่เคยเป็นหนึ่งในแคนดิเดตเมื่อปี 2562มาใช้บริการอีกครั้ง…

ขณะที่รายชื่อแคนดิเดตนายกฯ ยังไม่จบ...รายชื่อผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อหรือปาร์ตี้ลิสต์ 100 คน ของพรรคก็ออกมา เป็นรายชื่อเรียงตามตัวอักษรยังไม่มีการจัดอันดับจริง

น่าสนใจว่าไม่พบชื่อ แพทองธาร และ เศรษฐา แต่พบรายชื่อ ‘ชัยเกษม นิติศิริ’ ซึ่งอีกด้านหนึ่งพรรคเพิ่งแต่งตั้งให้เป็นประธานคณะกรรมการด้านประชาธิปไตย กระบวนการยุติธรรมและความเสมอภาคเท่าเทียม...

จะให้ถอดรหัสก็น่าจะอนุมานได้ว่าทางพรรคอยากดูแล ‘ชัยเกษม’ ให้เป็น ส.ส.หรือเป็นรัฐมนตรีในอนาคต  ยังไม่น่าจะเอามาปัดฝุ่นเป็นนายกฯ

‘ปชป.’ เคาะ!! ผู้สมัคร 400 เขต พ่วงปาร์ตี้ลิสต์อีกนับ 100 ชู ‘จุรินทร์’ เป็นแคนดิเดตนายกฯ เพียงรายชื่อเดียว

(29 มี.ค. 66) นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เปิดเผยว่า คณะกรรมการบริหารพรรคมีมติเห็นชอบรายชื่อบุคคลลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. ทั้ง 400 เขต และ 100 ส.ส. บัญชีรายชื่อ ทั้งหมดแล้ว ซึ่งในส่วนของ ส.ส. บัญชีรายชื่อ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ในฐานะหัวหน้าพรรค และนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ในฐานะเลขาธิการพรรค จะเป็นผู้พิจารณาจัดลำดับรายชื่อ เหมือนการเลือกตั้งเมื่อ 2 ครั้งที่ผ่านมา ด้วยความเที่ยงธรรมและคำนึงถึงประโยชน์ของพรรคเป็นหลัก และผู้สมัครไม่มีความขัดข้องใด ๆ

‘บิ๊กป้อม’ ลงปาร์ตี้ลิสต์เบอร์ 1 - แคนดิเดตนายกฯ ‘พปชร.’ ชี้ จะได้รู้ว่า ปปช.เลือกมาจริง ลั่น!! ต้องการเป็นผู้นำที่สง่างาม

(1 เม.ย. 66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เฟซบุ๊กแฟนเพจ ‘พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ’ ได้มีการโพสต์ข้อความ ระบุว่า…

“ที่ผ่านมา ผมสื่อสารให้พี่น้อง สื่อมวลชน และประชาชนได้เข้าใจถึงแนวคิดของผมว่า ทำไมต้องไปต่อ ผ่านจดหมายทั้ง 6 ฉบับ ซึ่งจบไปแล้ว และต้องขอขอบคุณที่พี่น้องประชาชนให้ความสนใจ และค้นหาผ่าน Google ในแต่ละฉบับ โดยรวมแล้วมีกว่า 10 ล้านครั้ง

แต่สำหรับในช่วงรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง ก็คงจะต้องสื่อสารกับพี่น้องประชาชนในรูปแบบใหม่ ที่จะต้องตอบคำถามบ่อยหน่อย เพราะอาจจะมีบางเรื่องที่เกี่ยวข้องกับผมและพรรค ควรจะต้องมีคำตอบเพื่อสร้างความเข้าใจ และป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น แต่ไม่ได้หมายความว่า ผมจะทำเป็น Facebook ป้อมรายวัน กรุณาติดตาม”

เปิดรายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ในศึกเลือกตั้ง 2566

เปิดรายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ในศึกเลือกตั้ง 2566

 

พรรครวมไทยสร้างชาติ
1.พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา
2.พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค

พรรคพลังประชารัฐ
1.พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ

พรรคก้าวไกล
1.พิธา ลิ้มเจริญรัตน์

พรรคประชาธิปัตย์
1.จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์
.
พรรคภูมิใจไทย
1.อนุทิน ชาญวีรกูล


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top