Sunday, 8 June 2025
เอกนัฏ

‘เอกนัฏ’ เดินหน้าพิจารณายกเลิกเหล็ก IF ลั่น พร้อมจัดการอุตสาหกรรมศูนย์เหรียญให้สิ้นซาก

‘เอกนัฏ’ สั่งเดินหน้าพิจารณาทบทวนยกเลิกการรับรองมาตรฐานเหล็ก IF ชี้เป็นเทคโนโลยีที่ก่อมลภาวะ และควบคุมคุณภาพให้สม่ำเสมอทำได้ยาก ตัวอย่างเช่นเหล็กตกคุณภาพซิน เคอ หยวน สตีล (SKY) พร้อมเดินหน้าจัดการอุตสาหกรรมศูนย์เหรียญอื่น ๆ ให้สิ้นซาก

(21 เม.ย. 68) นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า เรื่องเหล็กตกคุณภาพที่ผลิตโดย บริษัท ซิน เคอ หยวน สตีล จำกัด (SKY) ซึ่งโรงงานได้ถูกปิดไปเมื่อเดือนธันวาคม 2567 พบข้อพิรุธหลายประเด็นในการประกอบธุรกิจ โดยเฉพาะเรื่อง “ฝุ่นแดง” ซึ่งได้มีการขยายผลไปสู่การเพิกถอนสิทธิประโยชน์ BOI  และการสืบสวนร่วมกับดีเอสไอ โดยขอหมายศาลเข้าเก็บหลักฐานเพื่อดำเนินการทางกฎหมายต่อไป 

ส่วนอีกประเด็นที่มีความสำคัญต่อภาพรวมของอุตสาหกรรมเหล็ก คือการทบทวนให้ยกเลิกการรับรองมาตรฐานเหล็กที่ผลิตโดยกระบวนการใช้เตาอินดักชั่น Induction Furnace (IF) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ดึงสิ่งสกปรกออกจากน้ำเหล็กได้ยาก รวมทั้งเป็นเตาแบบระบบเปิด สร้างมลภาวะฝุ่นและก๊าซพิษจากการผลิตเหล็กที่มากกว่า ถึงแม้ในทางทฤษฎีจะสามารถผลิตเหล็กที่มีคุณภาพได้ แต่ในกระบวนการผลิตจริง การควบคุมคุณภาพให้สม่ำเสมอนั้นทำได้ยาก ผู้ประกอบการจะต้องใส่ใจและเข้มงวดในการใช้วัตถุดิบคุณภาพดี มีกระบวนการปรับปรุงควบคุมคุณภาพอย่างละเอียด 

นายเอกนัฏ กล่าวเพิ่มเติมว่า ประเทศไทยออก มาตรฐานอุตสาหกรรม หรือ มอก.เหล็กข้ออ้อย มารับรอง IF ตั้งแต่ปี 2559 ผู้ผลิตอย่าง SKY ได้รับ มอก.ตั้งแต่ปี 2561 ซึ่งนับตั้งแต่ตนเข้ามารับตำแหน่งรัฐมนตรีฯ ได้ให้นโยบายชุดปฏิบัติการตรวจสุดซอย นำโดยนางสาวฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าคณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบ ระงับการผลิตและจำหน่าย รวมทั้งอายัดเหล็กจากหลายบริษัทที่ไม่ได้มาตรฐาน ซึ่งทั้งหมดพบว่าเป็นเหล็ก IF รวมถึงทาง SKY ด้วย ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าผู้ประกอบการที่ผลิตเหล็กจากเตา IF ไม่สามารถควบคุมคุณภาพวัตถุดิบให้มีคุณภาพที่ดีได้ โดยปัจจุบันเทคโนโลยีที่ผลิตเหล็กด้วยเตาอาร์คไฟฟ้า Electric Arc Furnace (EAF) ที่ใช้ไฟฟ้าในการหลอมเหล็ก จะสามารถดึงสิ่งสกปรกออกจากน้ำเหล็กได้ดีกว่าเตา IF และเป็นเตาแบบระบบปิด สร้างมลภาวะฝุ่นและก๊าซพิษน้อยกว่า ควบคุมคุณภาพได้ง่ายและสมํ่าเสมอกว่า 

สำหรับการหารือกับสมาคมผู้ผลิตเหล็กและสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ทราบว่าปี 2567 ที่ผ่านมา ประเทศไทยมีกำลังการผลิตเหล็กด้วย EAF ถึง 4.3 ล้านตัน เพียงพอต่อความต้องการเหล็กเส้นในประเทศ 2.8 ล้านตัน จึงเห็นตรงกันว่า ถึงเวลาแล้วที่เราควรจะพิจารณายกเลิกเหล็กที่ผลิตแบบ IF ซึ่งตามกฎหมาย พ.ร.บ.มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) หากมีความจำเป็นเร่งด่วน เพื่อยับยั้งไม่ให้เกิดความเสียหายต่อประชาชนหรือระบบเศรษฐกิจ คณะกรรมการมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (กมอ.) สามารถพิจารณาและมีมติ ซึ่งรัฐมนตรีกระทรวงอุตสาหกรรมสามารถออกประกาศกระทรวงปรับแก้ไขยกเลิกการรับรองมาตรฐานเหล็ก IF ได้ โดยดำเนินการตามกรอบกฎหมายต่อไป 

"ผมได้ลงนามในหนังสือ ขอให้ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมในฐานะประธาน กมอ. บรรจุวาระเพื่อพิจารณาทบทวนยกเลิก IF แล้ว และจนกว่าจะยกเลิก IF ก็คงจะต้องออกสำรวจตรวจจับ เสมือนแมวจับหนู สู้แก้ปัญหาแบบถอนราก จะได้ไปจัดการอุตสาหกรรมศูนย์เหรียญอื่น ๆ ให้สิ้นซากต่อไป" รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมกล่าว 

‘เอกนัฏ’ ชี้เงินทุนสร้างแต้มต่อธุรกิจไทยปรับตัวยั่งยืน พร้อมผลักดันพ.ร.บ.กากอุตสาหกรรมฉบับแรกของไทย

“เอกนัฏ“ ชี้เงินทุนสร้างแต้มต่อธุรกิจไทย สู่การเปลี่ยนแปลงยั่งยืน สร้างการแข่งขัน ลุยปราบปรามศูนย์เหรียญ จัดการปัญหาสิ่งแวดล้อม ผลักดันพ.ร.บ.กากอุตสาหกรรมฉบับแรกของไทย

(28 เม.ย. 68) นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “เพิ่มขีดความสามารถ อุตสาหกรรมไทยด้วยการเงินสีเขียว-พลังงานสะอาด” ในงานเสวนา “เดลินิวส์ ทอล์ก 2025” 'Sustain Daily Talk 2025' หัวข้อ 'Sustainable Green Finance โอกาส และความท้าทาย ณ โรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ กรุงเทพฯ โดยระบุว่า การเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมไปสู่โลกสีเขียว สิ่งที่ขาดอยู่คือเรื่องเงินทุน เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงทั้งภาครัฐและเอกชน ซึ่งต้องพึ่งพาเงินทุนมาลงทุน เช่น พึ่งพาตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในการลงทุน และเงินทุนจากธนาคารเอกชน ธนาคารของรัฐ เพื่อให้ผู้ประกอบการระดมทุน

ทั้งนี้ตลอดระยะเวลา 1 เดือนที่ผ่านมา ได้เห็นสัญญาณสำคัญทั่วโลก จากสัญญาณความขัดแย้ง ทั้งสงครามการค้า ภูมิรัฐศาสตร์ สภาพภูมิอากาศ ไม่ว่าจะน้ำท่วมในภาคเหนือของไทยในพื้นที่ที่ไม่เคยท่วมมาก่อน และในต่างประเทศหิมะตกกลางทะเลทราย และเรื่องสงครามการค้าหนักที่สุด จากนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ พยายามประกาศขึ้นภาษีนำเข้าประเทศคู่ค้า

สิ่งที่ไม่แน่นอนคือ ความแน่นอนว่าตอนนี้คือตกอยู่ในสภาวะความไม่แน่นอนทุกวัน สิ่งที่เกิดขึ้นทั้งสงครามเศรษฐกิจและสงครามการค้าของโลก รวมทั้งปรากฎการณ์ภูมิอากาศ จากโลกร้อน แต่สิ่งที่เป็นปัญหาไม่ใช่แค่แผ่นดินไหว แต่คือตึกถล่ม เป็นปัญหาส่งสัญญาณว่าไทยไม่มีความพร้อมรับมือกับแผ่นดินไหว และภัยธรรมชาติ กลายเป็นสิ่งที่ส่งมาถึงสังคม และรัฐบาลว่า ที่ผ่านมาไม่เคยปฏิรูปปรับโครงสร้างระบบเศรษฐกิจของไทย และวันนี้ระบบเศรษฐกิจยืนอยู่บนขา หรือเสาที่ไม่แข็งแรงเหมือนตึกสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.)

นายเอกนัฏ กล่าวว่า อย่าเพิ่งกังวล เพราะมีทางออก โดยมองว่าระบบเศรษฐกิจต้องปรับเปลี่ยน และมีเงินทุนเข้ามาช่วย แต่ช่วงที่ผ่านมาไทยได้เปิดรับเทคโนโลยีที่ไม่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเข้ามาในไทย ด้วยการที่เปิดรับธุรกิจต่างประเทศแต่ไม่มีการกำกับดูแล และเข้ามาทำลายธุรกิจของคนไทย

ทั้งนี้ แต้มต่อต้องดูมูลค่าของสินค้า ดูการลงทุนว่าแบบไหนดี เพื่อทำให้ไทยเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศเพิ่มขึ้น ช่วยสนับสนุนการค้าขายในไทย ส่งเสริมนวัตกรรมเทคโนโลยี และสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ต้องทบทวนนโยบายใหม่ ส่งเสริมให้บริษัทต่างชาติเข้ามาลงทุน เป็นประโยชน์กับคนไทยและธุรกิจไทยหรือไม่

“เหล็กเป็นแค่ตัวอย่างสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐาน แม้ที่ผ่านมาพยายามออกมาตรฐานเหล็กหลายประเภท แต่ก็ได้หลบเลี่ยงการนำเข้าเหล็กผ่านการนำเหล็กหลายประเภทรวมกันเพื่อนำเข้า ซึ่งในประเทศไทยยังไม่มีเกณฑ์ควบคุมว่าได้มาตรฐานหรือไม่ และมีการนำเข้ามามากกว่า 6 แสนตันในปี 67 จนเป็นสาเหตุหนึ่งทำให้ตึกสตง.ถล่มตอนแผ่นดินไหว เพราะเหล็กไม่ได้มาตรฐาน”

นายเอกนัฏ กล่าวว่า อีกหนึ่งภารกิจคือจัดการกับอุตสาหกรรมศูนย์เหรียญ ซึ่งถือเป็นวาระสำคัญของประเทศชาติ จัดการกลุ่มสีเทาและสีดำออกไป และต้อนรับธุรกิจสีขาว จึงจะทำให้ธุรกิจของไทยเจริญเติบโต เนื่องจากที่ผ่านมามีการแข่งขันไม่เป็นธรรม เพราะธุรกิจกลุ่มนี้พยายามลดราคาตีตลาด นำสินค้าด้อยคุณภาพมาลดราคา เช่น เหล็กไม่ได้คุณภาพมาอยู่ในตึกสูงหลายแห่ง เพื่อต้องการลดต้นทุน ลดคุณภาพ และเกิดการสูญเสียมูลค่าทางเศรษฐกิจ

อย่างไรก็ตามในเรื่องปราบปรามศูนย์เหรียญ นอกจากจะสร้างปัญหาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแล้ว ยังมีเรื่องการจัดการของเสีย ซึ่งที่ผ่านมาได้ลักลอบนำของเสียออกมา เช่น ซินเคอหยวน นำเข้าฝุ่นแดง ฝุ่นดำ มากองไว้ให้เกิดมลพิษ โดยกระทรวงอุตสาหกรรมต้องการจัดการกับเหล็ก ล้อยาง ศูนย์เหรียญ และให้บีโอไอปรับเงื่อนไขการส่งเสริมการลงทุน ให้สะดวก สะอาด โปร่งใส

นอกจากนี้ต้องปฏิรูป ปฏิวัติ และปรับตัว เช่น การมีเงินทุนจากธนาคาร ส่งเสริมให้ติดโซลาร์เซลล์ใช้พลังงานแสงอาทิตย์ เพราะมีราคาถูกลง และไทยเป็นหนึ่งในภูมิภาคที่ใช้แสงอาทิตย์ผลิตไฟฟ้า โดยแก้กฎหมายให้อุตสาหกรรมติดโซลาร์ไม่ต้องขอ รง.4 เช่นเดียวกับบ้านเดี่ยว และภาคธุรกิจ ติดโซลาร์ไม่ต้องขอหน่วยงานใดๆ ทำให้ธุรกิจเอสเอ็มอีสามารถลดค่าไฟและลดต้นทุนได้

ขณะเดียวกันการเปลี่ยนจากรถยนต์สันดาปภายใน เป็นรถฟ้า (อีวี) โดยภาคอุตสาหกรรมไทยกำลังไปอีวี แต่ผู้ผลิตชิ้นส่วนสันดาปภายในต้องปรับเปลี่ยน ถ้าผลักดันไปสู่ดิจิทัลทุกอย่างต้องใช้เงินเพื่อไปสู่การปรับตัวโลกยุคใหม่ และไม่เชื่อว่าสิ่งที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ทำอยู่ คือการสร้างกำแพงภาษี ท้าทายตลาดเสรี และละเลยความไม่สนใจต่อภาวะการเปลี่ยนไปของสิ่งแวดล้อม เชื่อว่าต้านทานอำนาจธรรมชาติไม่ได้

นายเอกนัฏ กล่าวว่า สิ่งที่แก้ไขปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมได้คือการออกกฎหมายมาเพิ่มเติม เช่น ร่างพ.ร.บ.จัดการกากอุตสาหกรรม ขณะนี้เตรียมเปิดรับฟังความคิดเห็น และนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี(ครม.) ก่อนจะเสนอเข้าสู่สภาฯ ซึ่งถือเป็นพ.ร.บ.จัดการกากอุตสาหกรรมฉบับแรกของไทย พร้อมกับสิ่งสำคัญคือเงินทุนจากกองทุนความยั่งยืนให้กับธุรกิจขนาดเล็ก ส่งเสริมสร้างแต้มต่อ เข้าสู่อุตสาหกรรมใหม่ เชื่อว่าในอีก 1-2 ปี จะสร้างความเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืนให้ธุรกิจไทยมีขีดความสามารถทางการแข่งขันบนเวทีโลก

'เอกนัฏ' ลั่น รทสช. อยู่ได้ด้วยอุดมการณ์ และผลงาน พร้อมหนุน 'พีระพันธุ์' สู้ข้อกล่าวหา ป.ป.ช. - ทำผลงานต่อ

(13 พ.ค. 68) นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะเลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวถึงกระแสข่าว สส. ของพรรคย้ายสังกัด ว่า จากการพูดคุยกับ สส. หลายคน พบว่ายังคงลงพื้นที่ทำงานอย่างแข็งขัน ทั้งสนับสนุนการเลือกตั้งท้องถิ่นและพบปะประชาชน ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี จึงเชื่อมั่นว่าทุกคนยังตั้งใจทำงานร่วมกับพรรค รทสช. ที่ยังคงยึดมั่นในอุดมการณ์ ให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาประชาชนมากกว่าความขัดแย้งทางการเมือง พร้อมย้ำว่าที่ผ่านมาพรรคได้ทำหน้าที่ในกระทรวงอุตสาหกรรมและพลังงานอย่างเต็มที่ แม้จะมีแรงเสียดทานก็ตาม

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีกระแสข่าวว่า นายสุชาติ ชมกลิ่น รมช.พาณิชย์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรค รทสช.เตรียมจะย้ายไปอยู่กับพรรคกล้าธรรม ได้มีการพูดคุยกับนายสุชาติหรือไม่ นายเอกนัฏกล่าวว่า ไม่ทราบเลยจริงๆ ตนคิดว่าอย่าต้องมากังวลกับผู้บริหารของพรรคเลย ตนเรียนกับทุกคนเลยว่า เมื่อไหร่พรรคการเมืองทุกพรรคยึดมั่นในอุดมการณ์ ทำงานให้ผลงานเป็นที่ปรากฏ ไม่มีอะไรที่ต้องกลัว มีคนไปก็มีคนมา ตนจะบอกว่าพรรค รทสช.อยู่ได้ด้วยอุดมการณ์ ไม่ได้อยู่ได้ด้วยการนำผลประโยชน์ กองกำลัง หรือการจับกลุ่มก้อนมาตั้งกองกำลัง ซึ่งไม่ใช่ พรรคต้องอยู่ได้ด้วยอุดมการณ์และผลงานที่ปรากกฎต่อสาธารณชน

ส่วนกรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เตรียมแจ้งข้อกล่าวหาทางจริยธรรมต่อนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค กรณีติดสติ๊กเกอร์บนถุงยังชีพของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งและนำไปแจกขณะลงพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช นั้น นายเอกนัฏ แสดงความมั่นใจว่า นายพีระพันธุ์พร้อมรับการตรวจสอบและสามารถชี้แจงได้ ไม่มีประเด็นใดน่ากังวล พร้อมยืนยันว่า ตนเองและสมาชิกพรรคทุกคนให้การสนับสนุนนายพีระพันธุ์อย่างเต็มที่ ทั้งในกระบวนการทางกฎหมายและการทำงาน โดยเฉพาะความพยายามในการดูแลราคาพลังงาน

เมื่อถามถึงมุมมองต่อการที่มีผู้ยื่นเรื่องร้องเรียนนายพีระพันธุ์อย่างต่อเนื่องในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา นายเอกนัฏ ย้ำว่า ไม่ได้ให้ความสำคัญหรือเสียเวลาวิเคราะห์ความขัดแย้งทางการเมืองและข้อกล่าวหาต่างๆ เพราะไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ มีแต่จะทำให้ประชาชนเบื่อหน่าย โดยตนเองเลือกที่จะนำเวลามามุ่งเน้นการแก้ไขปัญหาสำคัญของประเทศ โดยเฉพาะภาวะเศรษฐกิจที่ต้องดูแลเป็นพิเศษ ซึ่งรวมถึงผลกระทบจากสงครามการค้าโลก การปฏิรูปภาคอุตสาหกรรม และการจัดการกับการลักลอบกระทำผิดกฎหมายต่างๆ

‘เอกนัฏ’ เดินหน้าปราบ “อุตสาหกรรมศูนย์เหรียญ” ตั้งทีมสกัดกลุ่มสินค้า สายไฟ เหล็ก ยางล้อ พลาสติก

(20 พ.ค. 68) นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ปัญหาสินค้าและธุรกิจต่างประเทศที่ฝ่าฝืนกฎหมาย เป็นปัญหาใหญ่ระดับประเทศ และสถานการณ์การค้าของโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงและรวดเร็ว ซึ่งในวันนี้ต้องยอมรับว่า การใช้วิธีการเดิม ๆ นั้น ไม่ทันต่อการปราบปรามและแก้ไขปัญหาสินค้าและธุรกิจต่างประเทศที่ฝ่าฝืนกฎหมาย โดยปัจจุบันกระทรวงอุตสาหกรรม ได้ร่วมมือกับกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ปราบปรามการผลิต นำเข้า และจำหน่ายสินค้าผิดกฎหมายที่ไม่ผ่านมาตรฐาน มอก. อย่างเข้มข้นและต่อเนื่อง โดยเฉพาะการจำหน่ายสินค้าผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์  กำหนดรายการสินค้าที่ต้องเฝ้าระวังการลักลอบสวมสิทธิ์เป็นสินค้าไทยเพิ่มเติม เร่งปิดช่องโหว่ทางกฎหมายที่เอื้อต่อการสวมสิทธิ์ เพิ่มบทลงโทษแก่ผู้กระทำความผิด ตรวจสอบโรงงานต่างชาติฝ่าฝืนกฎหมาย ตรวจสอบแหล่งที่มาของเงินทุนจดทะเบียน ทบทวนเงื่อนไขการส่งเสริมการลงทุนให้มีการจ้างแรงงานไทยและการใช้ปัจจัยการผลิตในประเทศ และยกระดับการติดตามตรวจสอบให้เป็นไปตามเงื่อนไขอย่างเคร่งครัด 

“ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา (ตุลาคม 2567- มีนาคม 2568) “ชุดตรวจการสุดซอย” ของกระทรวงอุตสาหกรรม ได้ปราบปราม “อุตสาหกรรมศูนย์เหรียญ” ซึ่งเป็นการกระทำความผิดหลากหลายรูปแบบ อาทิ โรงงานต่างชาติที่มีลักษณะเข้าข่ายเป็นนอมินี ซึ่งอยู่ในระหว่างการขยายผลร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ การลักลอบนำเข้าสินค้าที่ไม่ผ่านมาตรฐาน โดยพฤติกรรมผู้กระทำความผิดมีการบริหารจัดการอย่างเป็นระบบ และไม่มีตัวตนในประเทศไทย การลักลอบสวมสิทธิ์ผลิตสินค้าที่กำหนดให้ต้องเป็นไปตามมาตรฐาน และส่งออกโดยอ้างว่าเป็นสินค้าไทย การจำหน่ายสินค้าไม่ได้มาตรฐานโดยเฉพาะอย่างยิ่งในแพลตฟอร์มออนไลน์เชื่อมโยงกับกลุ่มทุนศูนย์เหรียญ โดยยึดอายัดสินค้าไม่ได้มาตรฐานกว่า 692.14 ล้านบาท”  นายเอกนัฏ กล่าว

นายวันชัย พนมชัย เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) เปิดเผยว่า จากการประชุมคณะกรรมการมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมา สมอ. ได้เสนอวาระเร่งด่วนให้บอร์ดพิจารณาแต่งตั้ง “คณะอนุกรรมการศึกษาการเพิ่มประสิทธิภาพในการกำกับดูแลมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม" ทำหน้าที่ในการศึกษาการดำเนินการเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการกำกับดูแลมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ด้วยการพัฒนากระบวนการทั้งระบบ ตั้งแต่การกำหนดมาตรฐาน การตรวจสอบรับรอง และการกำกับดูแล เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลและรองรับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว รวมทั้งจัดทำข้อเสนอแนะและแนวทางการเพิ่มประสิทธิภาพในการกำกับดูแลผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม เพื่อปกป้องอุตสาหกรรมไทย และคุ้มครองความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน 

นอกจากนี้ บอร์ดยังได้มีมติเห็นชอบร่างมาตรฐาน จำนวน 46 มาตรฐาน โดยแบ่งเป็นสินค้าควบคุม  2  มาตรฐาน ได้แก่ เคเบิลเส้นใยนำแสงโทรคมนาคมภายนอกอาคารชนิดแขวนในอากาศรับน้ำหนักตัวเองได้ และ เคเบิลเส้นใยนำแสงชนิด ADSS แขวนตามแนวสายไฟฟ้า และมาตรฐานทั่วไป จำนวน 44 มาตรฐาน เช่น ถุงพลาสติกบรรจุอาหาร ถุงพลาสติกบรรจุอาหารสำหรับอุ่นในไมโครเวฟ ยานยนต์ที่ใช้บนถนน – ส่วนควบและเครื่องอุปกรณ์ระบบการใช้ก๊าซธรรมชาติอัดเป็นเชื้อเพลิง อนุภาคนาโนกักเก็บสารสกัดใบกระท่อม รหัสอักษรเบรลล์คอมพิวเตอร์สำหรับประเทศไทย เป็นต้น 

พร้อมทั้งเห็นชอบรายชื่อมาตรฐานที่ สมอ. จะจัดทำเพิ่มเติมในปี 2568 อีก 160 มาตรฐาน ครอบคลุมกลุ่มอุตสาหกรรมการเกษตรและเทคโนโลยีชีวภาพ อุตสาหกรรมการแพทย์ครบวงจร อุตสาหกรรมหุ่นยนต์เพื่ออุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ และอุตสาหกรรมส่งเสริมผู้ประกอบการ จากเดิมที่บอร์ดอนุมัติรายชื่อมาตรฐานไปแล้ว 611 มาตรฐาน รวมเป็น 771 มาตรฐาน 

เลขาธิการ สมอ. กล่าวเพิ่มเติมว่า คณะอนุกรรมการฯ ชุดดังกล่าว จะประกอบด้วยผู้ทรงคุณวุฒิที่มีความรู้ความสามารถจากหลายหน่วยงาน เช่น กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม    การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นต้น และจะเร่งเสนอรายชื่อคณะอนุกรรมการฯ เพื่อให้บอร์ดให้ความเห็นชอบในการประชุมครั้งต่อไป โดยจะนำร่องใน 5 กลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ต้องควบคุมกำกับดูแลเป็นพิเศษก่อน เนื่องจากมีผลกระทบต่ออุตสาหกรรมภายในประเทศและความปลอดภัยของประชาชนในวงกว้าง ได้แก่ กลุ่มสายไฟ เหล็ก และโครงสร้างเหล็กประกอบสำเร็จ(Prefabrication) ยางล้อ และกลุ่มพลาสติก เพื่อเป็นต้นแบบในการขยายผล ไปยังกลุ่มผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ต่อไป” เลขาธิการ สมอ. กล่าว

‘พงศ์พรหม’ หนุน ‘พีระพันธุ์-เอกนัฏ’ ได้ทำงานต่อ สุดอึ้ง!! คนทำดีมีผลงานแต่กลับถูกบี้ให้พ้นตำแหน่ง

(4 มิ.ย. 68) นายพงศ์พรหม ยามะรัต อดีตรองหัวหน้าพรรคกล้า โพสต์เฟซบุ๊กว่า...เห็น 2 ข่าวนี้ นึกว่าฝัน
กลุ่มคนที่กำลังไล่ปราบทุนเทา กำลังโดนบี้ออกจากตำแหน่งอย่างเปิดเผย ไม่อายฟ้าดิน
ไม่อายประชาชน
ไม่อายในหลวง

ขอพูดเรื่องนี้อย่างสบายใจหน่อยนะครับ
1. ปี 66 ผมไม่ได้เลือกพรรค รทสช.
2. ผมไม่เคยรู้จัก เจอ คุย กับคุณพีระพันธุ์และคุณเอกนัฏ เป็นการส่วนตัว
ในขณะที่รัฐบาลนี้ไร้ผลงานมาตลอด 2 ปี
ประชาชนเราเห็นแต่ผลงานคนแค่ 2 กลุ่ม

กลุ่มแรกคือกระทรวงพลังงาน ผลงานมากน้อยกว่ากัน แต่มีให้จับต้องมากกว่ากระทรวงต่างๆอีก 80% ที่เหลือ
แต่กำลังจะโดนบีบยึดกระทรวง เหมือนยุค 4 กุมารโดนเด้ะ

กลุ่มสองคือกระทรวงอุตสาหกรรม
คือทีมสุดซอยนั่นแหละครับ
ทีมนี้ผลงานน่าจะเด่นสุดในรัฐบาลนี้แล้ว
ตอนนี้ทีมสุดซอยกำลังโดนเล่น
คนที่เล่นทีมสุดซอย เริ่มเปิดหน้าตัวเองมาเรื่อย ๆ
ผมเดานะ
เดาล้วน ๆ 

ทีมสุดซอยกำลังไล่ปราบคอร์รัปชัน คงไปเหยียบเท้าทุนเทาเข้า
จึงกำลังโดนเล่น

ฝากประชาชนครับ
คุณจะเหลือง หรือแดง หรือส้ม
เราต้องยืนฝั่งคนทำงานดีเพื่อสังคม

ผมประกาศสนับสนุนคุณเอกนัฏและทีมสุดซอยครับ
แม้ผมไม่ได้เลือกเขา
ถึงเวลาประชาชนต้องแสดงจุดยืน ไม่ยอมนักการเมืองเลวๆอีกต่อไป
ไม่ใช่คนที่ไล่จับมาเฟียเทา ทั้งเหล็กปลอม โรงงานปลอม โรงงานขยะพิษ ทำดีแสนดี
แต่กำลังโดนไล่บี้ให้หลุดตำแหน่ง
ผมไม่ได้พูดถึงใครเฉพาะเจาะจงนะครับ

ยุคนี้
มาเฟีย กล้าไล่กระทืบคนดีออกสื่อ
พรรคประชาชนที่ตรวจสอบ สตง.
ตรวจสอบตึก SK__
ก็กำลังโดนฟ้อง

ผมถึงบอกว่า
กลียุคครองเมือง
เมืองจึงเป็น Fail state
ประชาชนจึงยากลำบากแบบนี้ไงครับ


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top