Monday, 21 April 2025
เว็บพนันออนไลน์

‘บิ๊กโจ๊ก’ แถลงลั่น!! ยังไม่โดนแจ้งข้อหาใด ๆ ยันบริสุทธิ์ไม่เกี่ยวข้องเว็บพนัน

เมื่อวานนี้ (22 ก.พ. 67) พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล​ รอง ผบ.ตร. แถลงข่าวชี้แจงกรณี พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. ในฐานะคณะกรรมการสืบสวนและรองหัวหน้าพนักงานสอบสวนในคดีเครือข่ายเว็บพนันมินนี่ เตรียมร้องทุกข์กล่าวโทษ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ผบ.ตร. กับพวกรวม 5 นาย ในความผิด ม.157 และ ม.149 ว่า เรื่องนี้เริ่มต้นจากการค้นบ้านตน มีการไปปกปิดข้อเท็จจริงต่อศาลโดยไม่ได้บอกศาลว่าเป็นบ้านตน และมีการออกหมายจับลูกน้องตน 8 คน ก็ใช้ชื่อว่านาย ระบุว่าประกอบอาชีพรับจ้าง ซึ่งเป็นการปกปิดข้อเท็จจริงต่อศาล มองว่าก็เพื่อทำให้เสียชื่อเสียง

ซึ่งหลังแจ้งข้อกล่าวหาลูกน้องตน วันดีคืนดีก็มีข่าวว่าจะแจ้งข้อกล่าวหาตน และมีชื่อตนโผล่ในสำนวน เพื่อทำให้ตนเสียชื่อเสียง และมีการปล่อยข่าวว่าจะเรียกตนมาสอบปากคำและแจ้งข้อกล่าวหา ทั้งที่สำนวนเมื่อส่งไปที่พนักงานอัยการแล้วพนักงานสอบสวนไม่มีอำนาจสอบสวนเพิ่มเติม หรือแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมแล้ว เว้นแต่อัยการจะสั่งให้สอบสวนเพิ่มเติมเท่านั้น แต่เอกสารที่อัยการทำถึงพนักงานสอบสวนคือเอกสารที่ถามว่าทั้ง 8 คนที่ถูกแจ้งข้อกล่าวหานั้นผิดตรงไหน ไม่ใช่ให้คุณไปแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่ม

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวอีกว่า กรณีมีการแถลงถึงสำนวนใน ป.ป.ช. จนมีข่าวว่ามีการแจ้งข้อกล่าวหาตน ทั้งที่สำนวนดังกล่าวชงไปให้ ป.ป.ช.แล้ว ตั้งแต่ปีที่แล้ว แล้วทำไมวันนี้คึกคักอยากจะเอาสำนวนกลับมา แล้วมีการแถลงว่า ป.ป.ช.ต้องส่งให้ตำรวจ ซึ่งเป็นการแถลงข่าวกดดันป.ป.ช. ทั้งที่ระบบของ ป.ป.ช.ซึ่งเป็นระบบสอบสวนมีความน่าเชื่อถือ และรอบคอบกว่าระบบกล่าวหาของตำรวจเสียอีก จึงมีคำถามว่าทำไมตำรวจจึงอยากเอาสำนวนคดีดังกล่าวกลับมา และอยากถามว่าคุณเป็นใคร ยศอะไร ทำไมมาแถลงกดดัน ป.ป.ช. หรือไม่เชื่อมั่นระบบไต่สวนของ ป.ป.ช. ดังนั้นตำรวจยศใหญ่ๆ ควรออกมาพูดบ้าง อย่าทำตัวเป็นอีแอบ อย่าให้ลูกน้องแค่ยศเล็กๆ ออกมาพูด เพราะจะทำให้เกิดความเสียหายแบบนี้

ทั้งนี้การส่งเรื่องไป ป.ป.ช. เมื่อส่งไปแล้ว ป.ป.ช.ต้องตรวจสอบก่อนว่ามีมูลเพียงพอหรือไม่ หากมีมูลก็จะต้องมีการแสวงหาข้อเท็จจริง จึงจะมีการไต่สวน ถึงจะมีการแจ้งข้อกล่าวหาได้ และต่อให้มีการแจ้งข้อกล่าวหาแล้วกฎหมาย ป.ป.ช.ก็ยังถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่ ดังนั้นการส่งเรื่องกล่าวหาตนนั้นเป็นแค่การตั้งข้อสังเกตเท่านั้น และยังไม่รู้ว่า ป.ป.ช.จะรับหรือไม่รับเลย วันนี้สรุปยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหาใดๆ กับผมทั้งสิ้น ผมยังเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่ 100%

อย่างไรก็ตามตนยืนยันว่า จะไม่มีการดำเนินการทางคดีกับสื่อมวลชนที่เสนอข่าวว่ามีการแจ้งข้อกล่าวหาตนแล้ว แต่ขอให้ลบข่าวออก อย่าไปเป็นเครื่องมือของคนไม่ดี ที่พูดไปเรื่อยเปื่อย

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยังกล่าวอีกว่า ตนขุดหลุมล่อไว้ ตอนนี้เริ่มตกไปครึ่งตัวแล้ว โดยตนปล่อยให้ทำมาตลอด แต่ท่านรู้หรือเปล่าวว่าสำนวนที่ท่านทำนั้นท่านมีอำนาจหรือเปล่า อย่างกรณีบอกว่ามีเงินหมุนเวียน 300 ล้านนั้น ทั้งที่คดีฟอกเงินมูลฐาน 300 ล้านบาทขึ้นไปเป็นอำนาจ ดีเอสไอ เป็นคดีพิเศษ ดังนั้นท่านไม่มีอำนาจสอบสวน มันจะติดคุกทั้งหมด ดังนั้นจึงตั้งข้อสังเกตว่ามีอำนาจสอบสวนหรือไม่ กระบวนการสอบสวนชอบหรือไม่

และยังยืนยันว่าตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเว็บพนัน ไม่มีเส้นเงินจากเว็บพนันโอนเข้าบัญชีตน และไม่มีเส้นเงินจากบัญชีตนโอนเข้าเว็บพนัน ส่วนที่ลูกน้องตนใช้บัญชีม้านั้นก็ต้องเอาผิดลูกน้องตน แต่ไม่ใช่ว่าลูกน้องตนผิดแล้วตนจะผิดไปด้วย เพราะเขาทำอะไรบ้างตนจะรู้ไหม หากเขาผิดชัดเจนก็ต้องว่าไปไม่ใช่จะลากมาพันกับตน เพื่อให้ตนเสียชื่อเสียง และยืนยันว่าไม่มีเงินจากเว็บพนันโอนเข้าบัญชีญาติตนด้วย

ซึ่งวันนี้สื่อมวลชนรู้อยู่ว่าตำรวจกลุ่มไหนรับเงินเว็บพนันอยู่ รับกันเป็น 100 ล้าน ตำรวจทั้ง ตร.รู้หมด แต่ว่าวันนี้จะมาบอกว่าผมเกี่ยวกับเว็บพนัน รับเงินเว็บพนัน ก็ต้องถามว่าผมไม่ได้คุมกองบัญชาการไซเบอร์ ผมไม่ได้คุมเว็บพนัน ผมไม่มีอำนาจหน้าที่คุมเว็บพนัน แล้วใครจะมาจ่ายผม และอยากฝากถึงตำรวจทุกนายว่า เรามาแข่งกันทำงานดีกว่าอย่ามาแข่งกันอิจฉาริษยา เพราะรุ่นนักเรียนนายร้อยตำรวจไม่มีทางตามกันทัน แต่ยศ ตำแหน่งเป็นเรื่องบุญวาสนา เพราะฉะนั้นท่านอย่าไปอิจฉาเลย ตนยังไม่อิจฉาน้อง ๆ เลย

ทั้งนี้ปัจจุบันปัญหาเว็บพนันแล้วทำไมไม่ปราบให้หมด หน่วยปราบเว็บพนันไปทำอะไรอยู่ หรือปัญหาคอลเซ็นเตอร์ ทำไมไม่ทำมานั่งขัดขาขัดแข้งกันอยู่ได้ ดังนั้นฝากเตือนน้อง ๆ ถ้ารู้ตัวว่าเดินผิดก็ให้รีบกลับตัวกลับใจ รีบถอนตัว เพราะเป็นการทำโดยไม่มีอำนาจสอบสวน ส่วนกรณีตั้งข้อสังเกตว่าตนต้องการให้ ป.ป.ช.ไต่สวนเพราะสนิทสนมกับกรรมการ ป.ป.ช.รายหนึ่งนั้น บอกว่า ยืนยันตนไม่ได้สนิทสนมกับกรรมการป.ป.ช. ไม่มีเบอร์ ไม่เคยโทรหา และตนยืนยันว่าเรื่องทั้งหมดไม่ใช่เรื่องคดี แต่เป็นการดิสเครดิตตนล้วนๆ เพราะคดีไม่มีอะไร เพราะตนไม่ได้รับเงินเว็บพนัน อย่างไรก็ตามสังคมติดตามเรื่องนี้ วันนี้ตำรวจเราอยู่ในสถานการณ์ที่ย่ำแย่ ก็ควรทำให้ประชาชนเชื่อมั่น ตำรวจต้องทำงานอย่างมืออาชีพ

'ศาลฯ' ยกฟ้อง!! 'พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ - บิ๊กต่อ' พร้อมทีมสอบสวนคดี ตร.เอี่ยวเว็บพนันออนไลน์ หลัง 'เขมรินทร์' นายตำรวจคนสนิท 'บิ๊กโจ๊ก' ยื่นฟ้อง ชี้!! ไม่มีพยานหลักฐานว่ากระทำผิด

ศาลอาญาคดีทุจริตฯ ยกฟ้อง ชั้นตรวจฟ้อง ‘ธนา ชูวงศ์’ กับตำรวจ 244 นาย ชุดพนักงานสอบสวนคดี ตำรวจพัวพันเว็บพนัน หลัง ‘เขมรินทร์ พิสมัย‘ ตำรวจลูกน้อง ’บิ๊กโจ๊ก‘ ยื่นฟ้อง ชี้ ที่โจทก์อ้างไม่ได้ทำผิด เป็นข้อต่อสู้ในคดี ไม่ใช่เหตุนำมาฟ้องจำเลยกับพวก ระบุ การขอออกหมายจับ ไม่ระบุอาชีพ-ยศ-ตำแหน่ง ไม่ใช่สาระสำคัญ

เมื่อวันที่ 27 มี.ค.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 26 มี.ค.ที่ผ่านมา ที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ถนนเลียบทางรถไฟ ศาลอ่านคำพิพากษาในชั้นตรวจฟ้อง คดีที่ อท.244/2566 ที่พันตำรวจเอกเขมรินทร์ พิสมัย เป็นโจทก์ฟ้อง พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร.กับชุดพนักงานสอบสวน รวม 244 คน (มีพล.ต.อ. ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ และ พล.ต.อ. ต่อศักดิ์ สุขวิมล อยู่ด้วย) เป็นจำเลย ฐานปฏิบัติหน้าที่มิชอบ, รับรองเป็นหลักฐานซึ่งข้อเท็จจริงอันเอกสารนั้น มุ่งพิสูจน์ความจริงอันเป็นความเท็จ, พยานหลักฐานอันเป็นเท็จ เพื่อให้พนักงานสอบสวนหรือเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญาเชื่อว่าได้มีความผิดอาญาอย่างใดเกิดขึ้น หรือเชื่อว่าความผิดอาญาที่เกิดขึ้นร้ายแรงกว่าที่เป็นความจริงฯ ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา83, 91,157, 162 (4), 179, 200 พรป. ป.ป.ช.พ.ศ. 2561 มาตรา 4, มาตรา 172

ประเด็นวินิจฉัยเกี่ยวกับอำนาจหน้าที่ของจำเลยทั้งหมด ขณะเกิดเหตุจำเลยที่ 1 เป็นผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ, จำเลยที่ 2 เป็นผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี, จำเลยที่ 3 เป็นผู้บัญชาการตำรวจนครบาล, จำเลยที่ 4 เป็นผู้บัญชาการสำนักงานกฎหมายและคดี รักษาราชการแทนผู้บัญชาการ สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ, จำเลยที่ 5 เป็นรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล รักษาราชการแทนจเรตำรวจ, จำเลย ที่ 6 เป็นรองผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี, จำเลยที่ 7 เป็นผู้บังคับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ, จำเลยที่ 8 เป็นรองผู้บัญชาการ สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ, จำเลยที่ 9 เป็นรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล, จำเลยที่ 10 เป็นผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 2, จำเลยที่ 11 เป็นผู้บังคับการปฏิบัติการพิเศษ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง, จำเลยที่ 12 เป็นผู้บังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ, จำเลยที่ 13 เป็นผู้กำกับการ (สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวน กองบังคับการตำรวจนครบาล 5, จำเลย ที่ 14 เป็นผู้กำกับการ (สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวน กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1, จำเลยที่ 15 เป็นสารวัตร (สอบสวน) สถานีตำรวจนครบาลลุมพินี 

โดย จำเลยที่ 1 ถึงที่ 7 ที่ 11 และที่ 16 ถึงที่ 105 เป็นพนักงานสอบสวนตามคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ 593/2566 ภาคผนวก ก, จำเลยที่ 106 ถึงที่ 242 เป็นคณะพนักงานสอบสวนตามคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ 593/2566 ภาคผนวก ข, จำเลยที่ 243 เป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และจำเลยที่ 244 เป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนปัจจุบัน จำเลยที่ 1 ถึงที่ 244 จึงเป็นเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา และเป็นเจ้าพนักงานของรัฐ ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 4 

ประเด็นวินิจฉัยเกี่ยวกับการกระทำความผิด โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 4 ที่ 8 ที่ 106 และที่ 108 สั่งการให้จำเลยที่ 205 ที่ 192 ที่ 176 ที่ 180 ที่ 182 ที่ 181 ที่ 224 ที่ 172 ที่ 188 ที่ 187 ที่ 152 และที่ 242 ร่วมกันจับกุมโจทก์กับพวก 

โดยจำเลยที่ 4 สั่งการให้จำเลยที่ 60 และที่ 192 ยื่นคำร้องต่อศาลอาญากรุงเทพใต้ ขอออกหมายจับโจทก์กับพวก โดยปกปิดไม่ระบุอาชีพ ยศ และตำแหน่ง, จำเลยที่ 60 ลงลายมือชื่อในคำร้องขอออกหมายจับโดยไม่มีอำนาจ และแจ้งข้อความอันเป็นเท็จว่า โจทก์กับพวกมีพฤติการณ์หลบหนีและยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน, จำเลยที่ 8 ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาขอออกหมายค้นบ้านพักของโจทก์กับพวก และพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล เป็นเหตุให้พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ไม่ได้รับเลือกให้เป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ, จำเลยที่ 29 นำตัวโจทก์ไปฝากขังต่อศาลอาญากรุงเทพใต้ในเวลาใกล้ปิดทำการ และคัดค้านการปล่อยตัวชั่วคราว 

โจทก์กับพวก ยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมกับจำเลยที่ 244 เพื่อเปลี่ยนคณะพนักงานสอบสวน แต่จำเลยที่ 244 เพิกเฉย ต่อมาคณะพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมแก่โจทก์กับพวกโดยมิได้มีพยานหลักฐานใหม่ จึงเป็นการแจ้งข้อกล่าวหาที่มิชอบ และขัดแย้งกับข้อกล่าวหาเดิม กับเป็นข้อกล่าวหาที่ซ้ำซ้อน ทำให้โจทก์กับพวกหลงต่อสู้ จำเลยที่ 1 ถึงที่ 7 ที่ 11 ที่ 16 ถึงที่ 105 ร่วมกันทำพยานหลักฐานอันเป็นเท็จเพื่อปรักปรำโจทก์กับพวก 

เห็นว่า ที่โจทก์อ้างว่า ไม่ปรากฏหลักฐานการกระทำความผิด การแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมไม่ชอบ มีการปรุงแต่งเรื่องราวนำมากล่าวหาโจทก์กับพวก ล้วนแต่เป็นข้อต่อสู้ที่โจทก์ต้องนำไปพิสูจน์ว่าโจทก์กับพวกมิได้กระทำความผิด มิใช่ข้อที่จะนำมาฟ้องจำเลยกับพวกในคดีนี้ และการวินิจฉัยสั่งคดีของพนักงานสอบสวนในชั้นสอบสวนนี้มิใช่การวินิจฉัยว่าจำเลย (โจทก์คดีนี้) มีความผิดหรือเป็นผู้บริสุทธิ์ดังเช่นกระบวนการพิจารณาพิพากษาคดีของศาล ทั้งเป็นดุลพินิจของพนักงานสอบสวนที่จะเรียกบุคคลใดมาเป็นพยานหรือไม่ก็ได้ หรือจะรวบรวมหรือไม่รวบรวมพยานหลักฐานใดเข้าไว้ในสำนวนการสอบสวนก็ได้ และการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมนั้นหมายความว่า ข้อกล่าวหาเดิมยังคงอยู่ มิใช่ต้องตกไปเพราะพยานหลักฐานรับฟังไม่ได้ตามที่โจทก์เข้าใจ ส่วนที่ข้อกล่าวหาเดิมจะขัดแย้งหรือซ้ำซ้อนกับข้อกล่าวหาใหม่หรือไม่ ก็เป็นข้อกฎหมายที่ศาลจะเป็นผู้วินิจฉัย 

สำหรับการยื่นคำร้องต่อศาลขอออกหมายจับและหมายค้น ต่างศาลกัน เป็นเพราะศาลที่มีอำนาจออกหมายจับ คือศาลที่มีเขตอำนาจชำระคดีหรือศาลที่มีเขตอำนาจเหนือท้องที่ที่จะทำการจับ ส่วนศาลที่มีอำนาจออกหมายค้น คือศาลที่มีเขตอำนาจเหนือท้องที่ที่จะทำการค้น 

ส่วนการยื่นขอออกหมายจับโดยไม่ระบุอาชีพ ยศ และตำแหน่ง ในหมายจับนั้น เห็นว่า ยศของข้าราชการตำรวจเป็นเพียงการแสดงถึงจำนวนปีที่รับราชการเท่านั้น อีกทั้งฐานความผิดที่ระบุในหมายจับ ก็เป็นฐานความผิดที่ไม่อยู่ในอำนาจพิจารณาคดีของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ กับทั้งการที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ จะพิจารณาออกหมายจับตามคำร้องของผู้ร้องหรือไม่นั้น จะต้องพิจารณาจากพยานหลักฐานของผู้ร้องที่เสนอมาตามสมควร ซึ่งเป็นสาระสำคัญยิ่งกว่าการระบุยศ ตำแหน่ง หรืออาชีพ ที่มิได้เกี่ยวข้องกับฐานความผิด ดังได้วินิจฉัยไว้ข้างต้น ส่วนจำเลยที่ 60 ที่มียศร้อยตำรวจเอก จึงเป็นการลงชื่อในคำร้องขอออกหมายจับที่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาแล้ว  

สำหรับการนำตัวโจทก์กับพวกไปฝากขังต่อศาลในเวลาใกล้ปิดทำการ การคัดค้านการปล่อยตัวชั่วคราว และเหตุอื่นๆ ที่เกี่ยวกับคำร้องขอฝากขังนั้น 

เมื่อปรากฏว่าโจทก์ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวแล้ว กรณีจึงไม่ใช่เหตุถึงขนาดที่จะฟังว่าจำเลยกับพวกปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้โจทก์ได้รับความเสียหาย 

การยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่อจำเลยที่ 244 (พล.ต.อ.ต่อศักดิ์) เพื่อเปลี่ยนคณะพนักงานสอบสวนนั้น โจทก์ไม่มีข้อเท็จจริงให้เห็นว่า จำเลยที่ 244 ได้ดำเนินการหรือไม่ดำเนินการอย่างใดในหน้าที่ อันจะแสดงให้เห็นว่าเป็นการปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ 

ส่วนข้อกล่าวอ้างอื่นๆ ได้แก่ การค้นบ้านพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ เป็นเหตุให้ไม่ได้รับเลือกให้เป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติก็ดี การโอนคดีไปอยู่ในความรับผิดชอบของกองบัญชาการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ซึ่งเป็นหน่วยงานที่มีสาเหตุโกรธเคืองกับโจทก์ก็ดี และการนำพยานหลักฐานเดิมมาแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมเพื่อกลั่นแกล้งโจทก์ก็ดี ล้วนแต่เป็นเพียงมูลเหตุจูงใจที่ลำพังไม่อาจฟังได้ว่าจำเลยกับพวกกระทำความผิดตามฟ้อง 

พิพากษายกฟ้อง!!

ดีอี-ตำรวจไซเบอร์ จับกุมเว็บพนันออนไลน์ พบเงินหมุนเวียนกว่า 500 ล้านบาท

พร้อมทลายแหล่งบุหรี่ไฟฟ้ารายใหญ่ที่จังหวัดชลบุรี พร้อมขยายผลข้ามแดน ควบคุมตัวคนไทย 154 รายในเมียนมา โยงแก๊งคอลเซ็นเตอร์

วันที่ 27 มีนาคม 2567 นายสุทธิเกียรติ วีระกิจพานิช ที่ปรึกษารัฐมนตรีกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) พร้อมด้วย พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผู้บัญชาการ กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบช.สอท.) , พล.ต.ต.อรรถสิทธิ์ สุดสงวน รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.ไพโรจน์ สุขรวยธนโชติ รอง ผบช.ฯ ปฏิบัติราชการ บช. สอท. , พล.ต.ต.ชูศักดิ์ ขนาดนิด ผบก.ตอท. , พล.ต.ต.จิตติพนธ์ ผลพฤกษา ผบก.สอท.4 ร่วมกับสำนักงานอัยการสูงสุด โดย นายสุริยน ประภาสะวัต ตําแหน่งอัยการพิเศษ ฝ่ายการสอบสวน 1 , เจ้าหน้าที่ทหารกองกำลังผาเมือง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง , ตำรวจภูธรภาค 5 และเจ้าหน้าที่ผู้ให้บริการ (AIS) โดย นายศรัณย์ ปรีชา ผู้จัดการฝ่ายกฎหมาย สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค โดย พ.ต.อ.ประทีป เจริญกัลย์ รองเลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค พร้อมผู้เกี่ยวข้องร่วมแถลงผลการจับกุม “JOINT CYBER OPERATION”  ใน 3 ปฏิบัติการ ดังนี้ 

1. ครั้งแรกเก็บพยานหลักฐานนอกประเทศ ขยายผลข้ามแดนจับกุมคนไทย 154 ราย ถูกควบคุมตัวในเมียนมา โดยได้ประสานความร่วมมือสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา เก็บรวบรวมข้อมูลและตรวจพิสูจน์พยานหลักฐานเครือข่ายการพนันออนไลน์ใน จ.ท่าขี้เหล็ก สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ทหารร่วมกับตำรวจสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ได้เข้าปราบปรามบ่อนการพนันออนไลน์ และแก๊งคอลเซ็นเตอร์ จ.ท่าขี้เหล็ก โดยจัดตั้งศูนย์สืบสวนสอบสวนและขยายผลการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เพื่อร่วมขยายผลเก็บรวบรวมข้อมูลและตรวจพิสูจน์พยานหลักฐานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ จ.ท่าขี้เหล็ก สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา เข้าตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ ซักถามคัดกรองปากคำบุคคล รวมทั้งการตรวจสอบพยานหลักฐานทางดิจิทัล และรายละเอียดต่าง ๆ สำหรับแนวทางการดำเนินคดีกับกลุ่มผู้กระทำความผิด เจ้าหน้าที่ตำรวจสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา จะดำเนินคดีกับผู้ต้องหาทั้งหมดในความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการพนัน หลังจากได้รับโทษตามกฎหมายแล้ว จะส่งตัวกลับมาดำเนินนคดีในประเทศไทย

2. ทลายแหล่งลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้ารายใหญ่ ใกล้สถานศึกษาดัง จ.ชลบุรี โดยเข้าตรวจค้นและจับกุมตัว นายหัถตชัยฯ (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี ได้ที่บ้านไม่มีเลขที่ ต.หนองชาก อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี พร้อมทั้งตรวจยึดของกลางบุหรี่ไฟฟ้า น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า รวม 370 ชิ้น มูลค่าของกลางประมาณ 50,000 บาท พร้อมขยายผลการจับกุมถึงแหล่งที่มา จุดกระจายสินค้า และผู้ทำหน้าที่ค้าส่งหรือส่งสินค้าในพื้นที่จังหวัดชลบุรี จึงขออนุมัติหมายจับและหมายค้นนายรัชชานนท์ฯ (สงวนนามสกุล) อายุ 25 ปี โดยเป็นผู้จำหน่ายและผู้จัดส่งบุหรี่ไฟฟ้า และน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า พร้อมตรวจค้นสถานที่ต้องสงสัยจะเป็นแหล่งเก็บ ซุกซ่อนและจําหน่าย บุหรี่ไฟฟ้า จำนวน 2 จุด 

โดยจุดที่ 1 ภายในซอยบางทราย 63 หมู่ที่ 5 ต.บางทราย อ.เมืองชลบุรี จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นสถานที่เก็บ ซุกซ่อน สถานที่แพ็คของ จากการตรวจค้นพบนายรัชชานนท์ฯ อายุ 25 ปี แสดงตนเป็น ผู้ดูแล/เจ้าของบ้าน ตรวจยึดของกลาง บุหรี่ไฟฟ้า จำนวน 12 ชิ้น คิดเป็นมูลค่า 1,560 บาทและอุปกรณ์อื่นๆที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด และ จุดที่ 2 ในพื้นที่ ต.แสนสุข อ.เมืองชลบุรี จ.ชลบุรี ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากสถานศึกษาชื่อดังของจังหวัดชลบุรี เพียง 300 เมตร ตรวจยึดของกลาง บุหรี่ไฟฟ้า น้ำยา บุหรี่ไฟฟ้า และอุปกรณ์อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด จำนวนกว่า 5,000 ชิ้น คิดเป็นมูลค่าประมาณ 1,000,000 บาท 

ทั้งนี้ ขอแจ้งเตือนผู้บริโภคและประชาชนว่า การจำหน่าย ครอบครองบุหรี่ไฟฟ้าและน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า การลักลอบขายบุหรี่ไฟฟ้า น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า เป็นความผิดตามคำสั่งคณะกรรมการคุ้มครองที่ 9/2558 เรื่อง  “ห้ามขายหรือห้ามให้บริการบารากู่ บารากู่ไฟฟ้า บุหรี่ไฟฟ้าหรือน้ำยาเติมบุหรี่ไฟฟ้า” มีความผิดตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522 มีโทษจำคุกไม่ เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และความผิดฐานช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย หรือรับไว้โดยประการใดโดยยังมิได้ผ่านพิธีการศุลกากร โดยถูกต้อง ตามมาตรา 246 วรรคหนึ่ง ของ พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2560 มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับเป็นเงิน 4 เท่าของราคา สินค้า หรือทั้งจำทั้งปรับ

3. จับกุมเครือข่ายพนันออนไลน์ slotpgthai.net และ uwin9.com พบเครือข่ายที่เกี่ยวข้องรวม 25 เครือข่าย ตรวจยึดของกลางและทรัพย์สินที่เกี่ยวข้อง มูลค่ากว่า 18 ล้านบาท พบยอดเงินหมุนเวียนเดือนละกว่า 500 ล้านบาท โดยได้ตรวจค้นและจับกุมผู้ต้องหารวม 7 ราย กลุ่มผู้รับ ผลประโยชน์จำนวน 1 ราย กลุ่มผู้ดูแลการเงิน 1 ราย และบัญชีม้า 5 ราย ทั้งนี้ยังตรวจสอบพบเครือข่ายพนัน อื่น ๆ รวม 25 เครือข่าย มีสมาชิกผู้เล่นกว่า 200,000 คน โดยดำเนินคดีในความผิดฐาน “ร่วมกันจัดให้มีการเล่นการพนันเอาทรัพย์สินกันทาง อิเล็กทรอนิกส์โดยไม่ได้รับอนุญาต และสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน และได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน และร่วมกันฟอกเงิน” 

ทั้งนี้ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ให้ความสำคัญกับการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ซึ่งเป็นนโยบายหลักที่รัฐบาลให้ความสำคัญ โดยได้ร่วมมือกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งสนับสนุนให้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารด้านความมั่นคงระหว่างประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติบริเวณชายแดน ในการดำเนินการขยายผลจับกุมทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เว็บพนันออนไลน์ ซิมผี บัญชีม้า  โดยตั้งแต่ 1 ต.ค. 66 - 5 มี.ค. 67 กระทรวงดีอีดำเนินการปิดกั้นเว็บไซต์เกี่ยวกับพนันออนไลน์ จำนวน 25,571 รายการ  เพิ่มขึ้น 13 เท่าตัวจาก 2,059 เว็บ ในช่วงเวลาเดียวกันปี 2566 เพื่อแก้ไขปัญหาให้แก่พี่น้องประชาชนอย่างเร่งด่วน ในการตรวจสอบ ระงับ ยับยั้ง หากประชาชนมีข้อสงสัย สามารถโทรปรึกษาสายด่วน AOC 1441 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง 

'ดีอี - ตำรวจไซเบอร์' ทลายเว็บพนันออนไลน์ เงินหมุนเวียนกว่า 5,000 ล้านบาทต่อปี พร้อมรวบบริษัทบัญชีม้า สร้างความเสียหายนับพันล้านบาท

10 เมษายน 2567 นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจ
และสังคม (ดีอี) พร้อมด้วย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นำโดย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รักษาการราชการแทน ผบ.ตร., พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร., พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท., พล.ต.ต นิเวศน์ อาภาวศิน รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.มนเทียร พันธ์อิ่ม รอง ผบช.ฯ ช่วยราชการ บช.สอท., พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผบก.สอท.1, พล.ต.ต.นิพล บุญเกิด ผบก.สอท.2 และ พล.ต.ต.ภูมิพัฒน์ ภัทรศรีวงษ์ชัย ผบก.สอท.5 พร้อมผู้เกี่ยวข้องร่วมแถลงผลการจับกุม “ปฏิบัติการ Cyber Strike” ใน 2 ปฏิบัติการ 

1. ทลายบริษัทบัญชีม้าที่สร้างความเสียหายนับพันล้านบาท โดยตำรวจไซเบอร์ได้รับข้อมูลจากระบบแจ้งความออนไลน์ www.thaipoliceonline.go.th ว่าคนร้ายหันมาใช้บัญชีธนาคารในชื่อนิติบุคคลในรูปแบบบริษัท และห้างหุ้นส่วนจำกัด ทำให้เหยื่อหลงเชื่อและเกิดความไว้ใจว่าไม่น่าจะเป็นบัญชีธนาคารของกลุ่มมิจฉาชีพ และได้เข้าตรวจสอบ พบผู้เสียหายจำนวน 153 ราย (เคสไอดี) มีมูลค่าความเสียหายจำนวนทั้งสิ้น 897,253,861 บาท และมีผู้เสียหายที่ยังไม่ได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีอีกเป็นจำนวนมาก ซึ่งรวมมูลค่าความเสียหายแล้วนับพันล้านบาท จนสามารถรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายจับผู้กระทำผิดที่เกี่ยวข้องได้จำนวน 19 ราย กระจายกำลังเข้าตรวจค้นพื้นที่ บจก. และ หจก. จำนวน 43 จุดทั่วประเทศ อาทิพื้นที่ กทม. ปทุมธานี สมุทรปราการ อ่างทอง สุพรรณบุรี ราชบุรี ชลบุรี ปราจีนบุรี พิษณุโลก ขอนแก่น เป็นต้น และสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้จำนวน 12 ราย พร้อมส่งดำเนินการตามกฎหมายในข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น และร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยปราการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน หรือเปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ของตนโดยไม่ได้มีเจตนาใช้เพื่อตนหรือเพื่อกิจการที่ตนเกี่ยวข้อง โดยประการที่รู้หรือควรรู้ว่าจะนำไปใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือความผิดทางอาญาอื่นใด

2. ทลายเว็บพนันออนไลน์ huayland.net พร้อมเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง พบยอดเงินหมุนเวียนกว่า 5,000 ล้านบาทต่อปี สามารถยึดของกลางและทรัพย์สินมูลค่ากว่า 500 ล้านบาท โดยได้สืบสวนทราบว่า มีผู้กระทำความผิดที่เกี่ยวข้องกับการจัดให้มีการเล่นพนันออนไลน์ผ่านระบบอินเทอร์เน็ตเครือข่าย “หวยแลนด์” พบเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องจำนวน 9 เครือข่าย ได้แก่ 1.jaywii , 2.jaywiiplus , 3.jay1000 , 4.Ih69 , 5.rachahuay , 6.huayland , 7.kerry899 , 8.linetang88 และ 9.huay1plus ซึ่งมีสมาชิกผู้เล่นกว่า 59,000 คน ต่อมาได้มีการขออนุมัติหมายจับผู้กระทำความผิดที่เกี่ยวข้องรวม 29 ราย และกระจายกำลังเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหายจำนวน 17 จุด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร จำนวน 13 จุด, จ.ชุมพร จำนวน 3 จุด และ จ.กาญจนบุรี จำนวน 1 จุด จากการกระจายกำลังเข้าตรวจค้นทั้ง 17 จุด สามารถออกหมายจับผู้ต้องหาได้รวมทั้งสิ้น 17 ราย และสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด นอกจากนี้ยังได้ตรวจยึดของกลางและทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องอีกจำนวนมาก เช่น เงินสด 47 ล้านบาท อายัดเงินในบัญชีธนาคารกว่า 20 ล้านบาท นาฬิกาหรู (Patek Philippe, Rolex, TAG Huer) จำนวน 6 เรือน โฉนดที่ดิน 26 ชุด รถยนต์ Porsche Cayenne จำนวน 1 คัน เป็นต้น 

“ตามนโยบายของรัฐบาล โดย นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ให้ความสำคัญและเร่งรัดกับการปราบปรามความผิดที่เกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์และเว็บพนันออนไลน์ ที่หลอกลวงเหยื่อในรูปแบบต่างๆ ทำให้ประชาชนสูญเสียทรัพย์สินไปเป็นจำนวนมาก และได้สั่งการให้กระทรวงดีอี  สตช. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้มีผลชัดเจนใน 30 วัน ซึ่งกระทรวงดีอีได้มีการผนึกกำลังหลายภาคส่วน และเร่งดำเนินการการทำงานให้มีความเข้มข้นมากยิ่งขึ้น” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมกล่าว

ทั้งนี้ กระทรวงดีอี ให้ความสำคัญกับการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ซึ่งเป็นนโยบายหลักที่รัฐบาลให้ความสำคัญ โดยได้ร่วมมือกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งสนับสนุนให้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารด้านความมั่นคงระหว่างประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติบริเวณชายแดน ในการดำเนินการขยายผลจับกุมทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เว็บพนันออนไลน์ ซิมผี บัญชีม้า โดย บช.สอท. ได้แจ้งให้ กระทรวงดีอีดำเนินการปิดเว็บพนันออนไลน์ในช่วงระหว่างวันที่ 1 - 9 เม.ย. 67 จำนวน 7,612 URLs และตั้งแต่ 1 ต.ค. 66 - 9 เม.ย. 67 กระทรวงดีอีดำเนินการปิดกั้นเว็บไซต์ผิดกฎหมาย พนัน ไปแล้ว 31,503 URLs เพื่อแก้ไขปัญหาให้แก่พี่น้องประชาชนอย่างเร่งด่วน ในการตรวจสอบ ระงับ ยับยั้ง

ตำรวจไซเบอร์ขยายวงสืบค้นทั่วประเทศ จับกุมขบวนการ 2 เว็บพนันออนไลน์รายใหญ่ เงินหมุนเวียนมหาศาล ล่าสุดจับอีก 5 บัญชีม้า เป้าหมายจับครบทั้ง 64 ราย และเตรียมออกหมายจับเพิ่มอีกหลายราย

พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบช.สอท.) สั่งการขยายผลการจับกุมต่อเนื่อง หลังจากตำรวจไซเบอร์ บก.สอท.3 กวาดล้างเครือข่าย 2 เว็บพนันฟุตบอลรายใหญ่ ที่มีเงินหมุนเวียนมหาศาลกว่า 1,400 ล้านบาท ซึ่งได้ออกหมายจับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการกระทำความผิดทั้งขบวนการ จำนวน 64 ราย และสามารถติดตามจับกุมตัวได้จำนวนหนึ่งแล้วนั้น

พล.ต.ต.สถิตย์ พรมอุทัย ผบก.สอท.3 สั่งการให้ พ.ต.อ.อภิรักษ์ จำปาศรี ผกก.1 บก.สอท.3 นำกำลังจับกุมผู้ต้องหาที่เหลือมาดำเนินคดีอย่างไม่ลดละ สืบสวนติดตามจับกุมทั่วประเทศ ไม่ว่าอยู่พื้นที่ใดให้ประสานพื้นที่นำตัวมาดำเนินคดีทุกราย ล่าสุดจากการสืบสวนทราบว่ามีผู้ต้องหาอยู่ในพื้นที่ ต.หน้าพระลาน อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.สระบุรี จึงได้ประสาน สภ.หน้าพระลาน ร่วมติดตามจับกุม ซึ่งสามารถจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับดังกล่าวได้อีก 5 ราย ได้แก่ นายอัศวินฯ อายุ 50 ปี , นางเล็กฯ อายุ 70 ปี , นายประณัยฯ อายุ 20 ปี , น.ส.ขันหมากฯ อายุ 56 ปี และ นายชัยรัตน์ฯ อายุ 55 ปี เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่ารับจ้างเปิดบัญชีธนาคารจริง โดยได้รับค่าจ้าง 2,000 บาท 

พ.ต.อ.อภิรักษ์ฯ กล่าวว่า ตามนโยบายสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มอบหมายให้ บช.สอท.เป็นหน่วยงานหลักในการปราบปรามจับกุมการลักลอบเล่นพนันออนไลน์ โดยเฉพาะในช่วงการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยูโร 2024 ซึ่งทางด้าน พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. และ พล.ต.ต.สถิตย์ พรมอุทัย ผบก.สอท.3 ได้กำชับสั่งการให้ตำรวจไซเบอร์ บก.สอท.3 ดำเนินการอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการขยายผลจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับจากปฏิบัติการ SHUTDOWN EURO BET ซึ่งพบว่ามีเงินหมุนเวียนในระบบมากที่สุดถึงกว่า 1,400 ล้านบาท โดยขณะนี้มีการขยายผลจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับดังกล่าวไปจำนวนมาก ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์ บก.สอท.3 จะได้เร่งติดตามจับกุมผู้ต้องหาที่เหลือทั้งขบวนการมาดำเนินคดี และจะมีการออกหมายจับผู้เกี่ยวข้องกับขบวนการดังกล่าวอีกหลายรายด้วย

พร้อมกันนี้ ฝากเตือนพี่น้องประชาชน หากมีผู้ชักชวนหรือว่าจ้างให้เปิดบัญชี ขอให้ปฏิเสธทันที ไม่ควรเห็นแก่เงินค่าจ้างเพียงเล็กน้อย เพราะหากบัญชีของท่านถูกนำไปใช้ในการกระทำผิดกฎหมาย เจ้าของบัญชีจะต้องถูกดำเนินคดีทุกราย ในหลายความผิด เช่น ผู้ใดรับจ้างเปิดบัญชี หรือยอมให้ผู้อื่นใช้บัญชีธนาคาร บัตรเครดิต บัตรเดบิต หรือบัญชีธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อรับโอนเงิน หรือรับชำระค่าสินค้าหรือบริการที่ได้มาโดยการกระทำความผิด มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 300,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ นอกจากนี้ อาจมีความผิดฐานร่วมกันจัดให้มีการเล่น หรือทำอุบายล่อ ช่วยประกาศโฆษณาหรือชักชวนโดยทางตรงหรือทางอ้อม ให้ผู้อื่นเข้าเล่นหรือเข้าพนันทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์โดยมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน และอาจมีความผิดฐานร่วมกันฟอกเงิน อีกด้วย ซึ่งมีโทษหนักทั้งจำทั้งปรับ

ตำรวจไซเบอร์ แถลงจับ ‘เอ็ม เอกชาติ’ อินฟลูเอนเซอร์ดัง สายตรงเครือข่ายเว็บพนันออนไลน์ ยึดทรัพย์กว่า 50 ล้านบาท

(27 มี.ค. 68) พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (สอท.) แถลงข่าวการจับกุม นายเอกชาติ มีพร้อม หรือ 'เอ็ม เอกชาติ' อินฟลูเอนเซอร์ชื่อดัง หลังพบพยานหลักฐานชัดเจนว่า มีบทบาทเป็นระดับผู้บริหารในขบวนการฟอกเงินและรับผลประโยชน์จากเว็บพนันออนไลน์

พล.ต.ท.ไตรรงค์ เปิดเผยว่า การสืบสวนเริ่มต้นจากกรณีที่ เอ็ม เอกชาติ เคยมีประเด็นเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของ 'แบงค์ เลสเตอร์' หลังจากถูกชักชวนให้ดื่มสุราจนเสียชีวิต ต่อมาจากการตรวจสอบเชิงลึก พบว่า เฟซบุ๊กของนายเอ็มมีการแปะลิงก์เชื่อมโยงกับเว็บพนัน ทำให้ตำรวจไซเบอร์เริ่มขยายผลการสืบสวน

หลังจากเจ้าหน้าที่ เก็บรวบรวมพยานหลักฐานอย่างต่อเนื่อง และพบว่ามีเส้นทางการเงินที่น่าสงสัย รวมถึงความเกี่ยวข้องของนายเอ็มกับกลุ่มเว็บพนันออนไลน์ เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2568 เจ้าหน้าที่จึงได้ขอ ศาลอนุมัติหมายจับและหมายค้น ก่อนเข้าจับกุมตัว เอ็ม เอกชาติ พร้อมตรวจสอบเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง

ทั้งนี้ในการตรวจค้นและยึดทรัพย์ เจ้าหน้าที่พบ ทรัพย์สินหลายรายการ มูลค่ารวมกว่า 50 ล้านบาท ซึ่งเชื่อว่าอาจเป็นผลประโยชน์ที่ได้มาจากเว็บพนันออนไลน์ ทั้ง รถยนต์หรูหลายคัน เงินสด และทรัพย์สินอื่นๆ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างกระบวนการตรวจสอบเส้นทางการเงินเพื่อติดตามผู้เกี่ยวข้องเพิ่มเติม

ขณะนี้ เอ็ม เอกชาติ ถูกควบคุมตัวอยู่ที่กองบังคับการตำรวจไซเบอร์ และให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา อย่างไรก็ตาม ตำรวจยังคงเดินหน้าสอบสวนขยายผล และคาดว่าจะสามารถเปิดโปงเครือข่ายที่อยู่เบื้องหลังขบวนการฟอกเงินและเว็บพนันออนไลน์ที่เกี่ยวข้องได้ในเร็วๆ นี้


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top