Tuesday, 25 June 2024
เลียบการเมือง

ถอดรหัสมติสยิวกิ้ว 5 ต่อ 4 ยื้อลมหายใจ 'เศรษฐา' จับตาสถานการณ์ 29 พ.ค. ขีดชะตากรรมของแทร่

เป็นปรากฏการณ์ที่งดงามประการหนึ่งจากศาลรัฐธรรมนูญในการแถลงข่าวคำวินิจฉัยคดีสำคัญของบ้านเมืองนัดล่าสุด 23 พ.ค.2567 ที่ผ่านมา...กรณีคำร้องของกลุ่ม 40 สว.ให้วินิจฉัยความเป็นรัฐมนตรีของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ นายพิชิต ชื่นบาน รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวหรือไม่...

ที่ระบุว่างดงาม...ไม่ใช่เพราะ มติ 6 ต่อ 3 หรือ 8 ต่อ 1 หรือ 5 ต่อ 4 แต่ประการใด...หากแต่อยู่ที่เป็นครั้งแรกที่ในใบแถลงข่าวได้ระบุชื่อ ตุลาการเสียงข้างน้อยไว้ในทุกมติ ก็เลยทำให้สื่อมวลชนรู้เลยว่าเสียงข้างมากมีใครบ้าง...ไม่ต้องไปสืบเสาะเจาะข่าวได้มาถูกบ้างผิดบ้าง บางครั้งอาจทำให้ศาลท่านหงุดหงิด ก็เลยเปิดเผยไปเลย.. 

'เล็ก เลียบด่วน' ต้องขอแสดงความชื่นชมด้วยหัวใจ และขอเอ่ยนาม 9 ตุลาการศาล รธน.ชุดปัจจุบัน ให้ปรากฏไว้ ณ ที่นี่อีกครั้ง...

นายนครินทร์ เมฆไตรรัตน์ (ประธาน), นายปัญญา อุดชาชน, นายวิรุฬห์ แสงเทียน, นายอุดม สิทธิวิรัชธรรม, นายจิรนิติ หะวานนท์, นายนภดล เทพพิทักษ์, นายบรรจงศักดิ์ วงศ์ปราชญ์, นายอุดม รัฐอมฤต และ นายสุเมธ รอยกุลเจริญ

มาถอดรหัสมติวันที่ 23 พ.ค. กันสักเล็กน้อย...มติ 8 ต่อ 1 ไม่รับกรณีนายพิชิตนั้น ไม่ต้องพูดถึง เมื่อชิงลาออก ศาลท่านก็จำหน่ายไป...

มติ 6 ต่อ 3 รับคำร้องไว้พิจารณา...3 เสียงที่ไม่รับคือ นายนครินทร์, นายอุดม รัฐอมฤต และนายสุเมธ...

มติ 5 ต่อ 4 ไม่ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่...4 เสียงข้างน้อยที่เห็นว่าต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่คือ นายปัญญา, นายอุดม สิทธิวิรัชธรรม, นายวิรุฬห์ และนายจิรนิติ...

คะแนน 5 ต่อ 4 นั้นเฉียดฉิว...2 เสียงที่ไหลไปรวมกับ 3 เสียงข้างน้อย (ที่ไม่รับ) คือ นายนภดล และนายบรรจงศักดิ์...ซึ่งอย่าเพิ่งไปเคลมว่า 2 ท่านนี้จะเห็นว่าเศรษฐาผิดหรือไม่ผิด...เป็นคนละประเด็น...แต่เอาเป็นว่าเสียงเดียวที่ทำให้นายกฯ ได้ทำหน้าที่ต่อไปในช่วงนี้นั้น มันได้ช่วยให้บ้านเมืองได้ลดร้อนรุ่มลงนิดหน่อย...

ประเด็นสำคัญสมมติถ้าศาลมีมติเสียงข้างมาก 5 ต่อ 4 ให้เศรษฐาหยุดปฏิบัติหน้าที่แบบลุงตู่เมื่อปี 2565...เศรษฐาคงว้าวุ่นและดีไม่ดีอาจทรุดคาชั้น 24 ของโรงแรมที่โตเกียวก็เป็นได้...

ถามไถ่ราคาต่อรองในตอนนี้...เศรษฐารอดไม่รอด... 'เล็ก เลียบด่วน' ตอบแบบไม่กั๊กจากที่ประมวลความเห็นมา ณ ขณะนี้ 51 ไม่รอด 49 รอด...แต่ของแทร่เขาบอกต้องดูวันพุธที่ 29 พ.ค.ที่จะถึงเสียก่อน...

ถ้าวันที่ 29 พ.ค. อัยการสูงสุดสั่งฟ้องทักษิณ ชินวัตร ในคดีความผิดมาตรา 112 ชะตากรรมของเศรษฐาก็จะพลอยมืดมนอนธการไปด้วย แต่หากสั่งไม่ฟ้องก็พอจะเห็นแสงสว่างปลายอุโมงค์ แต่ถ้าอัยการเลื่อนไปอีก...เศรษฐาก็คงอยู่ในอาการหน้ามืด หัวใจสั่นหวิวต่อไป...จนถึงเดือน ก.ค. หรือ ส.ค.

อนึ่ง มีการคาดหมายกันว่า หากที่สุดเศรษฐาต้องหลุดจากตำแหน่ง เกมเก้าอี้นายกฯ จะไหลข้าม แพทองธาร ชินวัตร, ชัยเกษม นิติสิริ 2 แคนดิเดตพรรคเพื่อไทย ไปถึง 'อนุทิน ชาญวีรกูล' หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย พรรคอันดับสองของพรรคร่วมรัฐบาล...ซึ่งเป็นบุคคลที่คนชื่อ 'ทักษิณ' กินยาทำใจแล้วพอรับได้...แบบไม่มีทางเลือก...

ส่วน 'นายกฯ บ้านป่ารอยต่อ' ที่ทีมงานอุตส่าห์ร่วมวงกับ 40 สว.ด้วยนั้น...ต้องขอแสดงความเสียใจ...อีกครั้ง

ประเด็นที่หวั่นใจกันก็คือคนอย่าง 'นายใหญ่' ที่กำลังเป็นเสือติดปีกในวันนี้ ใครก็หยุดท่านลำบาก...เกิดยาทำใจเอาไม่อยู่จะเป็นอย่างไร...

อ้าว!! ดูของจริงของแทร่วันที่ 29 พ.ค.กันดี ๆ ก็แล้วกัน...เสือจะโดนตัดปีกหรือไม่?

112 ดีล(ไม่)ลับ สยบ 'นายใหญ่' ลุ้นชะตา 18 มิ.ย. คุกไม่คุก?

“..ร่วมกันหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท และร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใด ๆ อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 112 คำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ 41 ลงวันที่ 21 ตุลาคม 2519 ข้อ 1 พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 3, 14(3) พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2560 มาตรา 8..”

คือ ข้อหาเต็ม ๆ ของท่านอัยการสูงสุด (อสส.) คนปัจจุบัน นายอำนาจ เจตน์เจริญรักษ์ ที่ลงนามสั่งฟ้องนายทักษิณ ชินวัตร เมื่อวันที่ 27 พ.ค. 2567 และทีมโฆษกมาเปิดอ่านแถลงกัน 29 พ.ค. แต่เสียดายที่ทักษิณรู้ทัน เมื่อวาน (28 พ.ค.) ให้ทนายยื่นหนังสือขอเลื่อน อ้างเหตุป่วยโควิด มีใบรับรองแพทย์ถูกต้องเรียบร้อย...

ว่ากันว่าถ้าทักษิณมาตามนัด อัยการนำตัวส่งศาล...ก็จะได้ลุ้นกันระทึกว่า 'ทักษิณ' จะต้องถูกคุมตัวเข้าเรือนจำหรือไม่ เพราะใครต่อใครพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าศาลไม่น่าจะให้ประกันตัว เหตุเพราะทักษิณยังมีคดีต้องโทษคุมขังอยู่อีกคดี และวันนี้ยังเป็นนักโทษที่ได้รับการพักโทษเท่านั้น ยังไม่พ้นโทษ...โน่น 20 ส.ค. จึงจะพ้นโทษ...

ศาลเคยมีแนวคำวินิจฉัยไม่อนุญาตให้ประกันตัวจำเลยที่มีคดีซ้อนทำนองนี้มาก่อน...งานนี้เลยมีหนาว...

ถ้าลากคดีค่อยสั่งฟ้องหลังวันที่ 20 ส.ค. ศาลก็คงอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวได้โดยสะดวก เพราะเหลือคดีเดียว เหมือนที่ศาลเมตตาให้ประกันตัวน้อง ๆ สามนิ้ว...

ถึงตอนนี้สรุปว่า ขณะที่คดีเศรษฐา ทวีสิน มีวิษณุ เครืองาม มาเป็นตัวช่วย แต่คดีทักษิณน่าเหนื่อยใจแทน มีเหลี่ยมมุมที่ชวนติดตามและชวนคิด

1) ต้องลุ้นกันวันที่ 18 มิ.ย. ทักษิณจะมาตามนัดของอัยการหรือไม่...ฟังทนายวิญญัติ ชาติมนตรี ก็ออกอาการแปลก ๆ แปร่ง ๆ เพราะบอกทำนองว่ารอให้ถึงวันนั้นแล้วจะรู้เอง แต่ตามหลักท่านมีหน้าที่ต้องไปตามนัด…

2) งานนี้ต้องชื่นชมท่าน อสส.คนปัจจุบัน นายอำนาจ เจตน์เจริญรักษ์ ที่จะเกษียณเดือน ก.ย.ปีนี้ ซึ่งทราบว่าปัจจุบันท่านป่วยอยู่ ถ้าจะหาทางลากยาวไปก็ย่อมทำได้ แต่ท่านไม่ยอมแม้จะมีใครต่อใครไปล็อบบี้ท่านถึงขอบเตียงโรงพยาบาลก็ตาม...ทั้งนี้ก็ต้องขอบคุณ อสส.ท่านก่อน...ร.ต.ต.พงษ์นิวัฒน์   ยุทธภัณฑ์บริภาร ที่ได้สั่งฟ้องเอาไว้ก่อนแล้วตั้งแต่ 19 ก.ย. 2559

3) ถ้าคดีลากยาวไปถึง อสส.ท่านต่อไป คือนายไพรัช พรสมบูรณ์ศิริ ก็ไม่แน่ว่าจะมีการสั่งฟ้องหรือไม่ เพราะดูปูมหลังแล้ว นายไพรัชค่อนข้างทำงานใกล้ชิดกับนายชัยเกษม นิติสิริ อดีต อสส. ซึ่งวันนี้เป็นแคนดิเดตนายกศของพรรคเพื่อไทย...

4) ดีลลับมีจริง ไม่มีจริง ก็ว่ากันไป...แต่ข้อตกลงการกลับไทยของทักษิณนั้นมีแน่...ไม่แปลกที่วันนี้ทักษิณได้กลายเป็นตัวประกันในการรักษาสมดุลสมการอำนาจการเมืองแบบที่เป็นอยู่ ให้เดินหน้าต่อไป...แต่อย่านอกใจไปจับมือส้มหรือคิดล่มชาติล้มสถาบันเป็นอันขาด..!!

ดูกันดี ๆ ครับคุณผู้อ่านท่านผู้ชม...การเมืองเดือน มิ.ย.-ก.ค. มีอะไรให้หวาดเสียวตื่นเต้นอีก 3-4 เรื่อง...ขอยกยอดไปว่ากันครั้งต่อไป

พรรคอันดับ 14 ล้านเสียงสนับสนุน เดินหน้าล้ม 112 พรรคอันดับรอง 10 ล้านเสียง ขายข้าว 10 ปี

ผมนั่งมองดูประเทศของตัวเองในห้วงเวลานี้แล้ว เกิดความรู้สึกเศร้าใจลึก ๆ อย่างบอกไม่ถูก เห็นรัฐบาล 'ถุงเท้าแดง' ก็ไม่ต่างจาก 'นายกนอมินี' ในอดีตที่ผ่านมา เดินหน้าทำตามคำบัญชาของคน 'เหนือนายก' เพื่อผลประโยชน์เข้าตระกูลไม่หยุดหย่อน ประเทศชาติจะเสียหายอย่างไรก็ช่าง 

เอาแค่เรื่อง 'ข้าวค้างโกดังบาป 10 ปี' คนในรัฐบาล หรือ 'ตระกูลชั้น 14' เองยังไม่กล้าหุงข้าวและกินโชว์ แต่จะเข็นออกประมูลขายให้ได้ ประเทศใดจะซื้อไว้กิน จะป่วยไข้ เป็นโรคร้ายเพราะ 'ข้าวเน่า' ประเทศไทยจะถูกตราหน้าว่า 'ขายข้าวคุณภาพต่ำ' ก็ไม่สนใจ 

เงินมหาศาลสร้างอำนาจอันมหึมาให้กับคน ๆ หนึ่งได้จริง แม้จะทำผิดกับประเทศชาติ ทรยศประชาชน ไร้สัจจะ คอร์รัปชัน โกงกิน จนต้องหนีคดีไปนาน ก็ยังมี 'คนจำนวนไม่น้อย' คอยยกหาง และถวายชีวิตช่วยเหลือ แม้กระทั่งประชาชนคนไทยที่ถูกกระทำโดยตรงจากการบริหารบ้านเมืองก็ยัง 'ลืมง่าย' ช่วยกันกาเลือก 'พรรคเผาเมือง' กลับมาผงาดจนสร้างปัญหาได้อีกในปัจจุบัน

คำถามคือ เมื่อไหร่คนไทยถึงจะเข็ด คิดได้ และคิดเป็นกันเสียที? 

มาดูอีกพรรคที่ได้คะแนนเสียงอันดับหนึ่ง แม้จะไม่ได้เป็นรัฐบาล แต่การเป็นฝ่ายค้านก็ไม่มีศักยภาพที่คนไทยจะหวังพึ่งพาอะไรได้ เพราะวัน ๆ นอกจากจะเดินหน้า 'ล้างสมองเด็ก' ลงลึกถึงเยาวชนของชาติทุกระดับเพื่อให้ 'เกลียดชังสถาบัน' และพยายามโค่นล้มกฎหมายมาตรา 112 ก็ไม่เคยเห็นผลงานอะไรที่สร้างสรรค์ เป็นชิ้นเป็นอัน และมีคุณค่ามากพอจะทำให้สังคมไทยน่าอยู่ขึ้นมาบ้าง 

มองเข้ามาก็จะเห็น 'ความป่วยไข้' ของคนไทยในมิติที่ชัดมาก ป่วยที่ลืมง่าย ป่วยที่ไม่ละเอียดกับอะไรเลย ป่วยที่คิดไม่เป็นจนไม่รู้ว่าอะไรดีอะไรเลว ป่วยที่ลืมรากเหง้าของตัวเอง และป่วยถึงขนาดที่ไม่รู้ว่าสิ่งที่ตนเองเลือกเข้ามากำลังทำให้ประเทศชาติย่อยยับ 

พูดอีกกี่ครั้งก็คงเหมือนเดิมประมาณว่า นักการเมืองเลว ๆ ในบ้านเราไม่ได้ฉลาดล้ำ ค่อย ๆ มองก็จะพบคำตอบโดยง่าย วิธีคิดในการโกงชาติโกงแผ่นดินก็ไม่ต่างจากเดิม แต่เพราะเรามีประชาชนที่ 'โง่กว่า' อาศัยอยู่ในประเทศไทยในจำนวนที่มาก เราถึงยังคงได้ 'นักการเมืองที่ไม่ฉลาด' มาบริหารประเทศชาติเหมือนในขณะนี้  

อยากให้นักการเมืองเลว ๆ หมดจากแผ่นดิน ก็แค่กำจัด 'ประชาชนโง่ ๆ' ให้หมดไปจากสังคมไทย 

ฝากพรรคที่มุ่งขายข้าวเก่า หุงมาให้ประชาชน 24 ล้านคนกิน ก็คงจะดี 

จับตา!! ระเบิดเวลา 3 ลูกใหญ่เบ้อเริ่ม วัดชะตา ‘เศรษฐา’ วัดใจ ‘นายใหญ่’

ต้องยอมรับว่าระยะนี้ แม้จะมีระเบิดเวลาทางการเมืองลูกใหญ่เบ้อเริ่มเทิ่มหลายลูก แต่นายกรัฐมนตรี  ‘เศรษฐา ทวีสิน’ ก็ยังได้รับแรงใจอย่างล้นหลาม โดยเฉพาะการทำงานที่ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย…

หนำซ้ำกรณีไปหา ‘ดร.วิษณุ เครืองาม’ ทาบทามมาเป็นที่ปรึกษาของนายกฯ ได้สำเร็จ แม้กาลครั้งหนึ่งก่อนเลือกตั้งจะโพสต์ X จวก ‘ดร.วิษณุ’ ว่า “ไร้ยางอาย” ก็ตาม สื่อโซเชียลขุดมาแชร์ได้วันสองวันก็ผ่านไป

ว่ากันว่า...จังหวะเวลา ดวงชะตาของเศรษฐา ทวีสิน ค่อนข้างโชคดีเป็นพิเศษ เพราะ 

1) อยู่ในสถานการณ์การเมืองผสมขั้ว ภายใต้ ‘ดีลพิเศษ’
2) ลูกสาวนายห้างยังไม่พร้อมที่จะย่างก้าวมารับบทบาทที่เศรษฐาแสดงอยู่ 

อย่างไรก็ตาม...แม้เศรษฐาจะอยู่ในสถานะที่เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดของนายใหญ่ หรือแม้กระทั่งฝั่งอนุรักษ์ที่ร่วมดีลพิเศษ แต่สถานการณ์ในขณะนี้ก็ใช่ว่า เศรษฐาจะปลอดภัยปลอดโปร่งโล่งแจ้ง ตรงข้ามยังมีระเบิดเวลาทางการเมือง ที่มองเห็น ๆ กันอยู่ในขณะนี้ 3 ลูกใหญ่

1) คดีคุณสมบัติที่อยู่ในมือศาลรัฐธรรมนูญ คาดว่าต้นเดือน ส.ค. น่าจะรู้ผลว่าหมู่หรือจ่า แม้ราคาต่อรองขณะนี้จะอยู่ในระดับ 51 ต่อ 49 เชื่อว่ารอดแบบเฉียดฉิว แต่ก็อย่าเพิ่งวางใจ แม้จะมี ดร.วิษณุ  เครืองาม มาเป็นที่ปรึกษาใหญ่ก็ตาม...เพราะความจริงมีเพียงหนึ่งเดียว บางที ‘ดุลพินิจ’ ก็ไม่อาจฝืน..!!

2) กรณีทักษิณ-การนิรโทษกรรม สองเรื่องนี้ดูเหมือนจะเดินทางมาบรรจบพบกันที่ ‘นิรโทษกรรมเหมาเข่ง’ กล่าวคือทักษิณ ชินวัตร ถูกอัยการสั่งฟ้องคดีความผิดมาตรา 112 วันที่ 18 มิ.ย. อัยการจะนำตัวส่งฟ้องศาล ซึ่งก็คงได้ประกันตัว…แต่ชีวิตจะเหมือนถูกพันธนาการล่ามโซ่...การนิรโทษกรรมคือการปลดโซ่ ซึ่ง สส.เพื่อไทยหลายคนเริ่มเคลื่อนแล้ว ให้ กมธ.วิสามัญฯ ที่ศึกษาเรื่องนี้รวมเข่งคดี 112 ไปรวมกับคดีชุมนุมการเมืองอื่น ๆ ด้วย...แต่พรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรค รวมทั้งฝ่ายค้านอย่างประชาธิปัตย์ไม่เห็นด้วย…

ประชุมกมธ.วิสามัญ วันที่ 6 มิ.ย.นี้ ก็จะเห็นแนวที่ชัดเจนขึ้น ซึ่งถ้าพรรคเพื่อไทยดั้นเมฆจะเอาเหมาเข่งให้ได้ ก็สามารถทำได้โดยจับมือพรรคก้าวไกล เสียงเกินครึ่ง แต่บ้านเมืองอาจลุกเป็นไฟอีกครั้ง…เหมือนตอน ‘พ.ร.บ.นิรโทษกรรมสุดซอย’ ปี 2556-57 ที่จบลงด้วย ‘ลุงตู่’ เข้ามาขอเวลาไม่นานแต่อยู่ยาว 9 ปีหลังรัฐประหาร 22 พ.ค. 2557

3) โครงการเติมเงิน ดิจิทัล วอลเล็ต 1 หมื่นบาท...โครงการนี้นับถอยหลังการแจกเงิน ดูกันตั้งแต่การพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ 2568 ที่จะตั้งงบ 1.72 แสนล้านบาท และใช้นวัตกรรมหมุนงบ 2567 มาใช้อีกไม่น้อยกว่า 1.75 แสนล้านบาท...และก้อนสุดท้ายเอามาจาก ธกส.

วันนี้ทุกอย่างยังไม่เห็นรายละเอียดเพิ่มเติม...แต่พรรคร่วมรัฐบาลอย่าง ‘ภูมิใจไทย’ และ ‘รวมไทยสร้างชาติ’ พร้อมจะปฏิเสธ..ไม่เล่นด้วยทันทีหากผิดกฎหมาย...นับเป็นอะไรที่น่าหวาดเสียวตื่นเต้นยิ่ง..

อนึ่ง!! มีการสมมุติถ้าเศรษฐาหลุดจากตำแหน่งจริง ๆ ระหว่างนายห้างหรือนายใหญ่ต้องเสียสละ กินยาทัมใจให้ ‘เสี่ยหนู’ อนุทิน  ชาญวีรกูล แห่งค่ายสีน้ำเงินเป็นนายกฯ แทนลูกสาว กับเดินหน้าดันลูกสาวเป็นนายกฯ เอง หรือพลิกขั้วไปจับมือก้าวไกล นายห้างจะเลือกทางไหน...เขาเชื่อกันว่า นายห้างเลือกที่จะดันสูกสาวตัวเอง...

สวัสดี!!

ถึงเวลา 'คุณหญิงอ้อ' ลงบัญชาเกม ‘ปรับดีล’ ประคองทรง ‘เศรษฐา’ ปลดสลักให้ ‘โทนี่’

วันที่ 7 มิ.ย. 2567 นักข่าวจำนวนหนึ่งแอบไปสังเกตการณ์ที่บ้านจันทร์ส่องหล้า พบว่ามีรถตู้วิ่งเข้าออกจำนวนหนึ่ง ตอกย้ำให้ข่าวที่ว่า ‘คุณหญิงอ้อ’ คุณหญิงพจมาน ดามาพงษ์ ภริยา (หย่า) ของคุณทักษิณ  ชินวัตร ได้นัดหมายบุคคลในครอบครัวเพื่อพบปะพูดคุย...เป็นจริง

ยากที่จะหาข่าวอินไซด์จากวงพูดคุยได้...แต่พอที่จะไล่เรียงข่าว-ข้อมูลเบื้องต้นให้รับฟังได้ว่า...เบื้องหลังการเชิญ ดร.วิษณุ เครืองาม อดีตรองนายกรัฐมนตรี มาเป็นที่ปรึกษาของนายกฯ เศรษฐา ทวีสิน ในหนนี้ได้

ผู้ที่ทำให้ ดร.วิษณุ ปฏิเสธได้ยากที่สุดคือ ‘นายหญิง’ ท่านนี้...

ภารกิจของดร.วิษณุนาทีนี้คือแก้ไขคำชี้แจงข้อกล่าวหาถอดถอนนายเศรษฐา...ก่อนจะยื่นศาลรัฐธรรมนูญภายในวันที่ 10 มิ.ย. หรือหากจำเป็นก็สามารถขอขยายเวลาได้...

กรณีเศรษฐาคือความเป็นความตายของพรรคเพื่อไทย...ว่ากันว่า ‘นายหญิง’ ก็มีส่วนสำคัญขอให้นายเศรษฐารับตำแหน่งนายกฯ แทน ‘อุ๊งอิ๊ง’ แพทองธาร ชินวัตร ซึ่งผู้เป็นแม่รู้ดีว่าลูกสาวยังไม่พร้อม ไม่อยากเป็นแม่รังแกลูก...ดังนั้นงานนี้ต้องใช้บริการเนติบริกรผู้มีอภินิหาริย์ทางกฎหมาย…มาช่วยประคับประคองเศรษฐา..

ไม่แต่เท่านั้น…กรณีทักษิณเผชิญหน้าคดีมาตรา 112 ต้องลุ้นกันทีละช็อต ทีละศาล...ก็เป็นวิบากกรรม เป็นงานหนัก…ที่สุดก็คงหนีไม่พ้นต้องใช้บริการจาก ดร.วิษณุ เช่นกัน รวมทั้งงานยากสุดคือการกลับบ้านอย่างเท่ ๆ ของยิ่งลักษณ์ ชินวัตร   

วิบากกรรมของครอบครัวชินวัตรรอบนี้ใหญ่หลวงไม่ใช่น้อย คดีมาตรา 112 ของทักษิณแม้วันที่ 18 มิ.ย.แนวโน้มจะได้รับประกันตัวแต่ชีวิตก็เหมือนถูกล่ามโซ่...การจะใช้บริการนิรโทษกรรมสุดซอย รวมคดี 112 เข้าไปด้วย ก็สุ่มเสี่ยงที่จะเกิดการล้มกระดานการเมือง...ห้วงหัวเลี้ยวหัวต่อนี้ ตระกูลชินวัตรและพรรคเพื่อไทยต้องยืดหยุ่น...และหนีไม่พ้น ‘คุณหญิงอ้อ’ ต้องเทคแอ็กชันในช็อตสำคัญ

สรุปทุบโต๊ะ…ตอนนี้มีเพียง ‘นายหญิง’ เท่านั้นที่ทรงอิทธิพลและน่าเชื่อถือมากที่สุด ที่จะช่วย ‘ปรับดีล’ การอยู่ร่วมกันกับอีกฝ่ายให้ราบรื่นได้...ภายใต้การปล่อยข่าวรัว ๆ จากมุมมืดว่า 18 มิ.ย. ทักษิณจะวืดประกันตัว, วันที่ 3 ก.ค. ดาบแรกศาลรธน. จะยุบพรรคก้าวไกล ดาบต่อไป 10 หรือ 17 ก.ค. จะลงดาบเศรษฐา...

ปล.หากย้อนอดีต…บารมีบวกกับความอ่อนน้อมกับผู้ใหญ่ ความเด็ดขาดและแน่นอนของ ‘นายหญิง’ เคยช่วยถอดสลักระเบิดเวลาให้ ‘นายใหญ่’ มาหลายต่อหลายครั้ง หนึ่งในนั้นคือความขัดแย้งของนายใหญ่กับพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ แห่งบ้านสี่เสาเทเวศร์ อดีตประธานองคมนตรีผู้ล่วงลับ..

อย่างไรก็ตาม...ทั้งหลายทั้งปวง การ ‘ปรับดีล’ ให้สมดุล ต้องอยู่ที่ความอดทนของ ‘นายใหญ่’ ที่ฝ่ายความมั่นคงของฝั่งอนุรักษ์นิยมยังไม่สบายใจกับคำพูดคำจา การแสดงออกต่าง ๆ เช่น ที่โคราชเมื่อ 25 พ.ค. หรือแม้แต่วันที่ 8 มิ.ย. ที่ปทุมธานีที่อาจจะไปร่วมงานด้วยตัวเองหรือวิดีโอคอล..ที่จะต้องตามไปดู…

ถ้านายใหญ่พูดการเมืองเพียงว่า “ผมไม่รู้จักคนชื่อ(บิ๊ก)แจ๊ส” เพราะต้องช่วยชาญ พวงเพ็ชร์ ให้ชนะนายกอบจ.ในนามพรรคเพื่อไทยก็ไม่น่าจะเป็นไร...แต่เขาเกรงกันว่าจะพูดเรื่องอื่นที่มันชวนเสียวน่ะสิ..!!

ตรวจแนวรบ 'อัยการ' คดี 112 ส่อแววยืดคดีจนได้ 'อสส.คนใหม่' พลิกเกม 'นายใหญ่' ให้คล้าย 'คดีบอสกระทิงแดง'

8.พชร ยุติธรรมดำรง ดำรงตำแหน่ง 1 ต.ค. 2548 - 30 ก.ย. 2550    
9.ชัยเกษม นิติสิริ ดำรงตำแหน่ง 1 ต.ค. 2550 - 2552    
10.จุลสิงห์ วสันตสิงห์ ดำรงตำแหน่ง 1 ต.ค. 2552 - 30 ก.ย. 2556    
11.อรรถพล ใหญ่สว่าง ดำรงตำแหน่ง 1 ต.ค. 2556 - 26 มิ.ย. 2557    
12.ตระกูล วินิจนัยภาค ดำรงตำแหน่ง 27 มิ.ย.2557 - 30 ก.ย. 2558    
13.ร.ต.ต.พงษ์นิวัฒน์ ยุทธภัณฑ์บริภาร ดำรงตำแหน่ง 1 ต.ค. 2558 - 30 ก.ย. 2560    
14.เข็มชัย ชุติวงศ์ ดำรงตำแหน่ง 1 ต.ค. 2560 - 30 ก.ย. 2562 
15.วงศ์สกุล กิตติพรหมวงศ์ ดำรงตำแหน่ง 1 ต.ค. 2562 - 30 ก.ย. 2564    
16.สิงห์ชัย ทนินซ้อน ดำรงตำแหน่ง 1 ต.ค. 2564 - 30 ก.ย. 2565    
17.นารี ตัณฑเสถียร ดำรงตำแหน่ง 1 ต.ค. 2565 - 30 ก.ย. 2566    
18.อำนาจ เจตน์เจริญรักษ์ ดำรงตำแหน่ง 1 ต.ค. 2566 - ปัจจุบัน    
19.ไพรัช พรสมบูรณ์ศิริ (ผ่านมติกอ./รอวุฒิสภาพิจารณา)

วันนี้ขออนุญาตร้อยเรียงวิเคราะห์บทวิเคราะห์แบบง่าย ๆ ด้วยการนำรายชื่ออัยการสูงสุด (อสส.) ที่มีมาตั้งแต่ปี 2534 มาทบทวนให้ดูตั้งแต่ท่านที่ 8 พชร ยุติธรรมดำรง จนมาถึงว่าที่อสส.คนใหม่ คนที่ 19  ไพรัช พรสมบูรณ์ศิริ (ที่ว่ากันว่าเป็นทีมงานมือดีของ อสส.ชัยเกษม นิติสิริ) ซึ่งอยู่ในกระบวนการ การพิจารณาของวุฒิสภา

เปิดสภาสมัยวิสามัญในวันที่ 19 มิ.ย.นี้ วุฒิสภาจะตั้งกรรมาธิการฯ ตรวจสอบคุณสมบัติและพฤติกรรมพฤติการณ์ต่าง ๆ ก่อนที่จะนัดแนะกันลงมติในอีกประมาณ 2 เดือนข้างหน้า ซึ่งตอนนั้นอาจจะเป็น สว. ชุดใหม่แล้วก็ได้ แค่ได้คะแนนเสียงข้างมาก 'อสส.คนใหม่' ก็จะชื่อ 'ไพรัช' หลังการโปรดเกล้าฯ

ย้อนดูรายชื่อ อสส.ข้างต้นแล้ว ก็ต้องหมายเหตุประเทศไทยเอาไว้ว่า มี อสส. ถึง 2 คน ที่สั่งฟ้องคดีนายทักษิณ ชินวัตร ข้อหาความผิด ม.112 และ พ.ร.บ.คอมพ์ คนแรกคือ ร.ต.ต.พงษ์นิวัฒน์ คนที่สองคือ อำนาจ เจตน์เจริญรักษ์

กรณีท่านอำนาจนั้น ทักษิณทำหนังสือขอความเป็นธรรม ทางอัยการสั่งให้สอบเพิ่มมาครั้งหนึ่งแล้ว แต่ที่สุดวันที่ 29 พ.ค. ที่ผ่านมาก็สั่งฟ้อง

ขณะนี้ทีมทนายทักษิณร้องขอความเป็นธรรมอีกครั้ง อ้างว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมเพราะ "พนักงานสอบสวนขณะนั้น (2558-2559) ถูกข่มขู่จากรัฐบาล คสช. จนขาดความเป็นอิสระในการรวบรวมพยานหลักฐานคดี ทำให้นายทักษิณไม่ได้รับความเป็นธรรม..."

อ่านกันไม่ยาก...นี่เป็นการใช้สิทธิตามกฎหมายเพื่อประวิงเวลา หรือยืดคดีออกไป...คล้าย ๆ คดีบอส กระทิงแดง ซึ่งตามหน้าไพ่ขณะนี้เขาว่ากันว่า หากสามารถยืดสุดติ่งไปจนไปถึง อสส.คนใหม่ได้ บางทีเหตุการณ์อาจเปลี่ยนแปลงได้...

ซุ่มเสียงของทักษิณในงานบวชน้องชาย สส.เพื่อไทยที่ปทุมธานีเมื่อ 8 มิ.ย. ฟังดูเหมือนจะไปตามนัดอัยการ เพื่อนำตัวทักษิณส่งฟ้องศาล แต่หากฟังซ้ำดี ๆ ทักษิณไม่ได้ตกปากรับคำเป็นมั่นเหมาะว่าจะไป...เพราะดูเหมือนเขาจะมั่นใจว่า การร้องขอความเป็นธรรมซ้ำสองรอบนี้ อย่างน้อยน่าจะมีการยืดเวลาออกไป...

จะอย่างไรก็ตาม แบไพ่เล่นกันแบบนี้...ทำเอาคนที่รักบ้านรักเมืองหัวใจสั่นรัว ตลาดหุ้นออกอาการสั่นไหว กลัว 'นายใหญ่' จะยิ่งเหลิงลมล้มดีล จนกลายเป็นจุดชนวนความวุ่นวายรอบใหม่ขึ้นมาจริง ๆ !!

วัดปรอท 18 มิ.ย. การเมืองเดือดทะลุ 112 'ก้าวไกลร่อแร่-ทักษิณจนมุม-เศรษฐา 50/50'

(15 มิ.ย. 67) ไม่ได้เป็นโลกาวินาศอะไรที่ไหนหรอก!! แต่เป็นวันที่จะบอกถึงทิศทาง (การเมือง) ประเทศไทยได้ในระดับพอสมควร...

'เล็ก เลียบด่วน' ขอเลาะเลียบล้วงลึกบ้างไม่ลึกบ้างมาเล่าสู่กันฟัง พอเป็นสังเขป ถึงทิศทาง 4 คดีในวันอังคารที่ 18 มิ.ย.ดังต่อไปนี้...

1) คดีเลือกสมาชิกวุฒิสภา - ศาลรัฐธรรมนูญจะลงมติวินิจฉัยว่า มาตรา 36,40,41 และ 42 ว่าด้วยการแนะนำตัว และการเลือกสว.3ระดับ (อำเภอ-จังหวัด-ประเทศ) ที่ระบุว่า “โดยจะลงคะแนนเลือกตนเองด้วยก็ได้” ขัดกับรัฐธรรมนูญมาตรา 107 ที่ว่าด้วยการเลือก-การได้มาซึ่งสว.หรือไม่  เพราะผู้ร้องเห็นว่าการเขียนว่า “โดยจะลงคะแนนเลือกตนเองก็ได้” น่าจะเป็นการเปิดทางให้มีการสมยอมหรือฮั้วกัน...

เมื่อนั่งทางในประสานทางนอกแล้ว...ความน่าจะเป็นไป ดูเหมือนทุกอย่างไปต่อได้...แต่ต้องขอบอกว่าสุดท้ายแล้วการเลือกสว.จะไปต่อถึงจุดหมายปลายทางได้แบบฟ้าจรดทราย แฮปปี้ เอ็นดิ้งหรือไม่นั้น...ยังบ่แน่ดอกนาย เพราะเนื้อในมันเละตุ้มเป๊ะ...

2) คดียุบพรรคก้าวไกล - มีการเม้าท์มอยกันไม่น้อยว่า พรรคก้าวไกลอาจชนะฟาวล์รอดยุบพรรค เพราะ กกต.บกพร่องข้ามขั้นตอนการสอบสวน ดังที่พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ จัดชุดใหญ่เมื่อ 9 มิ.ย. งานนี้ต้องขอบอกว่า น่าจะเป็นการประเมินและสำคัญผิด การที่ศาลรธน. ขอให้กกต.ส่งพยานข้อมูลเพิ่มเติมไปเมื่อ 12 มิ.ย.นั้น ก็เพื่อความสมบูรณ์ตามวิธีพิจารณาคดี...

ต้องย้ำเหมือนที่ท่าน กกต. 'ปกรณ์ มหรรณพ' ย้ำนั่นล่ะว่า การร้องยุบก้าวไกลหนนี้เป็นไปตามมาตรา 92 ของพรป.การเมืองคือ 'กรรมการ' กกต.ร้องเอง ไม่ใช่ตามมาตรา 93 ที่ 'นายทะเบียน' (เลขาธิการกกต.) พบเห็นต้องไปสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานนำเสนอกรรมการกกต.

รายการนี้พรรคก้าวไกลก็จะรู้ชะตาตัวเองว่าไปไม่รอด...แต่ที่กำลังต่อสู้อยู่นั้นเป็นยุทธวิธี 'โลกล้อมประเทศ' เอาสังคมกดดัน กกต.ตามสูตรเดิมๆ แต่สุดท้ายก็พ่ายแพ้ความจริง..!!

3) คดีนายกฯ เศรษฐา - วันที่ 18 มิ.ย.ก็จะมีการพิจารณา และกำหนดรายละเอียดการไต่สวน...จากนั้นคาดว่าเดือนส.ค. ก็จะมีคำตอบว่า...เศรษฐา ทวีสิน กระทำผิด/ฝ่าฝืนจริยธรรมร้ายแรง จนสิ้นคุณสมบัติรัฐมนตรีเป็นการเฉพาะตัวหรือไม่...มีเวลาที่จะเจาะลึกกันต่อ...วันนี้ตรวจสอบอาการไข้แล้วโอกาสรอด/ไม่รอด..50/50 ครับ..

4) คดีทักษิณ ชินวัตร – กรณีข้อหาความผิดม.112 คดีนี้ล่าสุดเมื่อ 4 มิ.ย.ทีมทนายทักษิณขอความเป็นธรรมครั้งที่สอง หลังอัยการสูงสุด(อสส.)สั่งฟ้องเมื่อ 29 พ.ค.และนัดวันที่ 18 มิ.ย.นำตัวส่งฟ้องศาล ทางรอดทักษิณที่จะไม่ต้องไปศาลมีสองทางคือ อสส.ยอมทบทวนคดี หรือทักษิณป่วยจริง ๆ แล้วขอเลื่อน...

ถ้าให้ฟันธงอสส. (อำนาจ เจตน์เจริญรักษ์) คงไม่ทบทวนคำสั่งฟ้อง...และทักษิณที่กำลังจ้อแจ้วเดินสายจีบบ้านใหญ่อยู่ในยามนี้ ก็ไม่น่าจะป่วยฉุกเฉินหรือหนีกลับดูไบ...น่าจะไปศาลและคงได้รับประกันตัว ต่อสู้คดี รอ อภินิหารทางกฎหมาย รอยุคเปลี่ยนแผ่นดินที่สำนักอัยการสูงสุดในเดือนต.ค...ในอดีตคดีธรรมะชโยคดีอยู่ในศาลยังมีการถอนออกมาแล้ว...

ส่วนกระแสข่าวกรณีถุงขนมภาค 2 ที่จะจ่ายผ่านเครือข่ายสแตนลีย์ โฮ เจ้าพ่อคาสิโน ฮ่องกงผู้ล่วงลับนั้น ก็ว่ากันไป ข่าวว่าตอนนี้กำลังสอบกันนัวว่าจริงหรือไม่ เพราะฝ่ายแฉบอกว่ารู้วันเดินทางไปกลับฮ่องกงของอธิบดีฝ่ายตุลาการบางคน...(ไป 24 กลับ 27 พ.ค.)...ก็สอบกันไป..

ครับ ขออนุญาตมองโลกสวยสักวัน...18 มิ.ย.ไม่โลกาวินาศ...กระบวนการยุติธรรมไทยที่ถูกใครบางคนปู้ยี่ปู้ยำมาร่วมปี ยังพอจะเป็นที่พึ่งที่พาได้...!!

มองเกม!! 'ฝ่ายอนุรักษ์-ทักษิณ' ดีลอำนาจลากยาว สกัด 'ก้าวไกล' และหากวันใดยุบพรรคส้ม 'เศรษฐา' อาจชิงยุบสภา ให้ตั้งตัวไม่ติด

ผ่านไปแล้ว 18 มิ.ย.2567...เรื่องที่เป็นไฮไลต์ที่สุดคือคดีทักษิณ ชินวัตร ก็เป็นไปตามที่ 'เล็ก เลียบด่วน' และใครต่อใครว่าเอาไว้...คือไปศาลและได้รับการประกันตัว...ที่พิเศษหน่อยคือ ไม่ต้องไปที่อัยการเพราะให้ทนายประสานงาน กับอีกประการหนึ่งคือขึ้นศาลโดยประตูด้านข้าง...ไม่อกผายไหล่ผึ่งเข้าทางด้านหน้า...

ทักษิณได้รับการประตัวโดยหลักทรัพย์ 5 แสนบาท และศาลวางเงื่อนไขห้ามเดินทางไปต่างประเทศ (เว้นแต่ศาลอนุญาต) ในการนี้ให้ยึดหนังสือเดินทางพาสปอร์ตเอาไว้...แต่ปัญหาเกิดขึ้นทันที เพราะทักษิณไม่มีพาสปอร์ต เหตุถูกรัฐบาล คสช.ยกเลิก เพราะคดีข้อหา 112 นี่แหละ...เป็นบุคคลต้องห้าม...

ตอนนี้เลยว้าวุ่น...จะไปทำพาสปอร์ตได้หรือไม่ เพราะมีคดี 112?

เหตุผลสำคัญประการหนึ่งที่ศาลอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราวหรือให้ประกันตัว ก็เพราะ ทางโจทก์ คืออัยการไม่คัดค้านการประกันตัว ซึ่งอาจทำให้กองเชียร์ฝ่าย 'ทักษิณต้องติดคุก' ไม่สบอารมณ์อยู่ไม่น้อย ในขณะที่อีกฝ่ายที่เป็นกลาง ๆ ก็บอกว่า...การที่ยกระดับทักษิณจาก 'ผู้ต้องหา' เป็น 'จำเลย' ได้ก็พอประมาณแล้ว...

ศาลนัดตรวจพยานหลักฐาน นัดพร้อมอีกทีวันที่ 19 ส.ค. และหากไม่มีอะไรผิดพลาด วันรุ่งขึ้น 20 ส.ค. จะเป็นวันที่ทักษิณพ้นโทษจาก 3 คดีทุจริตที่ได้รับพระราชทานอภัยลดโทษเหลือ 1 ปี...ได้รับใบบริสุทธิ์จากคดีเก่า มาถูกล่ามโซ่คดี 112 เชื่อกันว่าอิทธิฤทธิ์ทักษิณคงหาทางออกจากโซ่ได้ในที่สุด...

รวมความแล้ว ทักษิณยังเป็นตัวละครหลักของการเมืองไทย...หลัง 20 ส.ค.เขาจะยิ่งเดินสายทางการเมืองพบบ้านเล็ก บ้านใหญ่เพื่อรวบรวมไพร่พล สร้างความยิ่งใหญ่ให้กับพรรคเพื่อไทยอีกครั้ง ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคและหมิ่นเหม่จะเหยียบเปลือกกล้วย มาตรา 28, 29 ของ พ.ร.ป.พรรคการเมือง ล้มหงายท้องเข้าสักวัน...

ส่วนคดี เศรษฐา ทวีสิน และ คดียุบพรรคก้าวไกลนั้น อ่านตามหน้าเสื่อหน้าไพ่ที่ศาลรัฐธรรมนูญแถลงเมื่อวันที่ 18 มิ.ย.แล้ว พอจะเห็นแนวทางไทม์ไลน์ว่า น่าจะตัดสินได้อย่างเร็วก็เดือน ส.ค. โดยคดีถอดถอนนายกฯ น่าจะมาก่อน แม้กรณีคดีพรรคก้าวไกลศาลจะนัดพิจารณาครั้งต่อไปวันที่ 3 ก.ค. แต่พิจารณาดูเอกสาร-พยานหลักฐานที่ศาลเรียกแล้วของพรรคก้าวไกลมีจำนวนมาก ส่วนคดีถอดถอนนายกฯ น่าจะยังเป็นวันที่ 10 ก.ค.

ว่าแล้วก็เป็นที่น่าสังเกต ว่ากรณีคดีก้าวไกล ศาล รธน.สั่งให้นำพยานเอกสารในสำนวนการไต่สวนคดีคำวินิจฉัยที่ 3/2567 (คดีล้มล้างฯ) ไปรวมไว้ในสำนวนคดีเพื่อประกอบการพิจารณาด้วย

ถ้าในท้ายที่สุด...ศาลวินิจฉัยสั่งยุบพรรคก้าวไกล...ก็ไม่แน่เสมอไปว่าจะเป็นการติดเทอร์โบให้พรรคก้าวไกลอย่างที่พิธาวาดฝันเอาไว้เสมอไป...

และต้องไม่ลืมว่าพรรคสีแดง สีน้ำเงิน กวักมือเรียกสส.ที่รังแตกอยู่แล้ว...อย่างที่พูด ๆ กันทีเล่นทีจริงนั่นล่ะว่า ก้าวไกลวงแตกวันไหน 'เศรษฐา' (ที่น่าจะรอด) อาจจะชิงยุบสภาวันนั้น...ให้ก้าวไกลตั้งตัวไม่ทัน...

นี่ก็ทราบว่า...ทักษิณมีนัดหมายไปบ้านใหญ่นครปฐมอีกแล้ว...วันที่ได้ประกันตัวตกค่ำก็บึ่งไปงานศพคุณพ่อของ 'เมย์ อียู' หรือ มนัญชยา เกตุแก้ว แดงตัวจี๊ดที่ อ.พนัสนิคม ชลบุรี  

ว่ากันว่าฝ่ายอนุรักษ์นิยม...ยังต้องใช้ 'ทักษิณ' เป็นตัวคานกับพรรคส้ม ถึงแม้วันนี้มีคดีม.112 ติดตัว แต่ทักษิณก็มีโซ่ ล่ามไว้แล้ว ดีกรีที่จะเป็นปฏิปักษ์กับสถาบันนั้นไม่เลยเถิดเท่ากับก้าวไกลที่ยังกู่ไม่กลับ...

นี่คือ สมดุลอำนาจการเมืองไทยที่ยังจะต้องเดินหน้ากันแบบยักแย่ยักยัน และนับวันก็จะยิ่งเห็นทักษิณใหญ่คับบ้านคับเมือง...จนชินตา...อาเมน !!

'ก้าวไกล' ใกล้จอด!! 'เศรษฐา' น่ารอด สว.ใหม่ 'สีน้ำเงินปนแดง' ฟาก 'โจ๊ก' ยังยุ่ง

ผ่านสัปดาห์อันว้าวุ่น...ว่าด้วย 4 คดีดังจากศาลรัฐธรรมนูญฯ / ศาลอาญา และการเปิดประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญ 18 -21 มิ.ย. แถมด้วยเรื่องแทรกกรณีศึกบิ๊กสีกากี...วันนี้ 'เล็ก เลียบด่วน' ขอทำหน้าที่กรองข่าวเรื่องราวเบื้องต้น เพื่อสาธุชนจะได้ติดตามกันด้วยความระทึกต่อไป...ดังนี้...

1) กรณีการเลือกสมาชิกวุฒิสภา (สว.) เดินหน้าต่อเพราะมติศาลรธน.วินิจฉัยว่า พ.ร.ป.การได้มาซึ่งสว.2561 ไม่ขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญมาตรา 107  แนวโน้มผลการเลือกรอบประเทศ (รอบสุดท้าย) ชิง 200 ที่นั่ง จาก 20 อาชีพ ๆ ละ 10 คนในวันที่ 26 มิ.ย. ขอฟันธงว่า...ผู้สมัครที่เป็นเครือข่ายของพรรคใหญ่ บ้านใหญ่ กลุ่มทุน จะกวาดเรียบอย่างน้อย 80% หน้าตาของสว.ชุดใหม่จะเป็นสีน้ำเงินปนแดง...ส่วนสว.สีส้ม ต้องเสียใจด้วย...ไม่เข้าเป้า...

2) เดือน ก.ค.เป็นเดือนมงคล ยังจะไม่มีการตัดสินคดีใหญ่ทางการเมือง...โดยคดีถอดถอนนายกฯ เศรษฐา ทวีสิน มีแนวโน้มที่จะตัดสินก่อนคดียุบพรรคก้าวไกล

คาดว่า คดีนายกฯ เดือนส.ค. ก็จะรู้หมู่หรือจ่า...50/50 แต่ถ้าไปบีบคอบรรดาเกจิอาจารย์ให้ทำนาย เสียงข้างมากจะออกมาว่า...น่าจะรอดได้ไปต่อ

ส่วนพรรคก้าวไกลนั้น น่าสังเกตว่า ศาลรธน. "มีคำสั่งให้นำพยานเอกสารในสำนวนการไต่สวนคดีคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ 3/2567 มารวมไว้ในสำนวนคดีนี้ เพื่อประกอบการพิจารณาวินิจฉัยของศาลรธน." ซึ่งคดีที่ 3/2567 ก็คือคดีล้มล้างฯ ที่ศาลรธน.วินิจฉัยเมื่อ 31 ม.ค.2567 ว่าพรรคก้าวไกลผิดและให้ยุติการกระทำ นั่นเอง...

ดังนั้นก้าวไกลน่าจะใกล้ปิดฉาก แต่ต้องลากไปยาวกว่าคดีนายกฯ เพราะละเอียดอ่อน

3) พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2568 จำนวน 3.75 ล้านล้านบาท ผ่านสภาฯ วาระแรกไปเรียบร้อยด้วยคะแนน 311ต่อ173 งดออกเสียง 2 โชว์ความปึ๊กของ 314 เสียง 'รัฐบาลเพื่อไทย' ส่วนที่มีการปล่อยข่าวว่าจะดีดพรรคพปชร.ออกนั้น เป็นความพยายามเขี่ยข่าวของฝ่ายค้านบางพรรค...ซึ่งตอนนี้ยังไม่มี!!

เรื่องงบประมาณ พ.ศ.นี้ ค่อนข้างยุ่งเหยิง เพราะต้องจัดงบปี 2567 , 2568 ไปใช้ในนโยบายดิจิทัล วอลเล็ต...งบฯ 68 ไม่ยุ่งมาก เพราะกำลังพิจารณา  แต่งบฯ 67 นั้นบังคับใช้ไปแล้ว ดังนั้นต้องไปแก้ไขเพิ่มเติมเป็นงบกลางปีขอกู้เงินเพิ่ม 1.22 แสนล้านบาท ซึ่งจะเข้าสภาประมาณ 17-18 ก.ค. ส่วนอนาคตของดิจิทัลวอลเล็ต จะเป็นจริงหรือจะเป็นเจ๊งอย่างที่ฝ่ายค้านกล่าวหา เดือน ต.ค.รู้กัน!!

4) กรณีศึกสีกากี...จบแต่ยังไม่จบ...ที่ชัดเจน ณ ชั้นนี้คือ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล 'บิ๊กต่อ' ได้กลับไปปฏิบัติหน้าที่ ผบ.ตร.เหมือนเดิม ส่วนพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล 'บิ๊กโจ๊ก' นั้น มีเพียงถ้อยแถลงของนายวิษณุ เครืองาม เท่านั้น ที่อ้างการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกาว่า ถูกสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนโดยมิชอบ เพราะกรรมการสอบวินัยยังไม่ได้สอบบิ๊กโจ๊กแม้แต่น้อยนิด...

งานนี้ 'เนติบริกร' ถูกย้อนศรจากนักวิชาการ อดีตตำรวจหลายคนว่าอ่านกฎหมายตำรวจไม่แตกฉาน...กรณีของบิ๊กโจ๊กจึงยังไม่เคลียร์คัท...เห็นทีจะต้องรอการพิจารณาของคณะกรรมการพิทักษ์คุณธรรมข้าราชการตำรวจ (ก.พ.ค.ตร.) หรือถ้าจะวัดใจกันก็ต้องให้ 'บิ๊กต่อ' ยกเลิกคำสั่ง 'บิ๊กต่าย' พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ คนที่สั่งตั้งกรรมการสอบและให้บิ๊กโจ๊กออกจากราชการไว้ก่อน...

หักลบกลบหนี้ โอกาสที่ 'บิ๊กโจ๊ก' จะมาต่อคิวเป็นผบ.ตร.เบอร์หนึ่งยังไม่ง่าย ถึงแม้จะมี แต่โอกาสก็ใช่จะมาก ตราบที่บาดแผลคดีเทา ๆ ยังเต็มตัว!!


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top