Tuesday, 22 April 2025
เรียนต่อ

เปิดตัวเลข ‘นักศึกษาต่างชาติ’ เรียนอยู่ในสหรัฐอเมริกา

ในทุก ๆ ปี จะมีนักศึกษาจากทั่วโลกบินข้ามน้ำข้ามทะเลเพื่อไปเรียนต่อที่ ‘สหรัฐอเมริกา’ ซึ่งสัดส่วนจะมากน้อยต่างกันในแต่ละประเทศ สำหรับในปี 2023 ที่ผ่านมา นักศึกษาต่างชาติที่ไปเรียนต่อในสหรัฐฯ มากเป็นอันดับ 1 ได้แก่ จีน รองลงมาคืออินเดีย

วันนี้ THE STATES TIMES ได้รวบรวมรายชื่อ 25 ประเทศที่มีนักศึกษาไปเรียนต่อในสหรัฐมากที่สุดประจำปี 2023 จะมีประเทศใดบ้าง มาดูกัน!!

‘SCG’ มอบทุนการศึกษาเรียนต่อป.ตรี-เอก ในจีน-อินเดีย ฟรี!! ค่าเรียน 100% สมัครได้ตั้งแต่วันนี้-31 พ.ค.67

(8 ก.พ. 67) เพจ ‘SCG Careers’ โพสต์ข้อความ ระบุว่า “ทุน 2024 มาแล้วววว!!

SCG มอบทุนการศึกษาให้กับบุคคลทั่วไปเพื่อศึกษาต่อในระดับปริญญาตรี ปริญญาโท และปริญญาเอก ณ ประเทศจีนและประเทศอินเดีย ในมหาวิทยาลัยและสาขาที่ SCG กำหนด

โดย SCG สนับสนุนทุนการศึกษา ค่าเรียน 100% ค่าเบี้ยเลี้ยง และที่พัก *และเมื่อจบการศึกษายังมีโอกาสเข้ามาเป็นพนักงานบริษัทในเครือ SCG อีกด้วย

เปิดรับสมัครแล้ววันนี้ ถึง 31 พฤษภาคม 2567
เพื่อน ๆ ที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
คุณนภัสวรรณ โทร: 088-660-8222 หรือทาง Email: [email protected]

*เงื่อนไขเป็นไปตามบริษัทกำหนด”

5 ประเทศที่ ‘คนเวียดนาม’ ไปเรียนต่อมากที่สุด

จากข้อมูลของ องค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO) ในปี 2021 เวียดนามเป็นประเทศอาเซียนที่มีประชากรออกไปเรียนต่อในระดับอุดมศึกษาในต่างประเทศ จำนวนทั้งหมด 137,022 คน

โดยจุดหมายยอดฮิต 5 อันดับแรก คือ ญี่ปุ่น (44,128 คน) เกาหลีใต้ (24,928 คน) สหรัฐอเมริกา (23,155 คน) ออสเตรเลีย (14,111 คน) แคนาดา (8,943 คน) นอกจากนี้ ตัวเลขนักเรียนนอกของเวียดนามเมื่อเทียบกับประเทศอื่นในอาเซียนยังเรียกได้ว่านำแบบไม่เห็นฝุ่น เพราะอันดับ 2 อย่าง ‘อินโดนีเซีย’ นั้นมีจำนวนนักเรียนที่ไปเรียนต่างประเทศเพียง 59,224 คน อันดับ 3 อย่าง ‘มาเลเซีย’ มี 48,810 คน ขณะที่ ‘ไทย’ ที่มาเป็นอันดับที่ 4 มีทั้งหมด 28,609 คน

ปัจจัยที่ทำให้เวียดนามมีนักเรียนออกไปเรียนต่างประเทศได้มาก มีทั้ง ‘ค่านิยมในการออกไปเรียนต่างประเทศของชาวเวียดนาม’ เอง ในกรณีที่เป็นครอบครัวมีฐานะและมีกำลังส่งลูกหลานไปเรียน และ ‘ทุนการศึกษาจากต่างประเทศ’ 

โดยในหมู่ทุนการศึกษาทั้งหมด ทุนที่มีชื่อเสียงเป็นอันดับต้น ๆ คือ ทุนจากมูลนิธิ Vietnam Education Foundation (VEF) ที่ ‘สหรัฐอเมริกา’ ตั้งขึ้นในปี 2003 เพื่อให้ทุนการศึกษาเด็กเวียดนามไปศึกษาต่อในสหรัฐฯ โดยใช้เงินจำนวน 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ที่เวียดนามส่งเป็นเงินใช้หนี้สงครามให้สหรัฐฯ ทุกปี โดยส่วนมากจะได้เข้าศึกษาในคณะและสาขาที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีในมหาวิทยาลัยดังระดับโลกต่าง ๆ ทั้ง Harvard และ Stanford

ความสำคัญของทุนนี้เห็นได้ชัดจากผลงานของผู้ได้รับทุนเก่าที่ส่วนมากกลับมาทำงาน และประสบความสำเร็จในการสร้างธุรกิจใหม่ ๆ ในประเทศ โดยเฉพาะสตาร์ตอัปด้านเทคโนโลยี โดยผลงานที่โดดเด่นของผู้ได้รับทุน VEF ก็อย่างเช่น Palexy บริษัทสตาร์ตอัปด้านแมชชีนเลิร์นนิ่ง และ VNG บริษัทยูนิคอร์นเจ้าของแอปแชท Zalo ที่ในปัจจุบันเป็นที่นิยมในเวียดนามมากกว่า Facebook

นี่ทำให้นอกจากเวียดนามจะมีเด็กไปเรียนต่างประเทศเป็นจำนวนมากแล้ว จำนวนหนึ่งยังเป็นผู้ที่กำลังศึกษาด้านเทคโนโลยี ซึ่งเป็นแรงงานที่เป็นที่ต้องการมากในหลาย ๆ ประเทศที่กำลังแข่งขันกันสร้างเศรษฐกิจดิจิทัล รวมทั้ง เวียดนามที่มีการเติบโตรวดเร็วขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้มีศักยภาพในการดึงแรงงานกลับประเทศ ไม่เกิดปรากฏการณ์ ‘สมองไหล’ อย่างที่ผ่านมา

ปัจจุบัน เวียดนามมีตลาดงานที่พร้อมรองรับบัณฑิตศักยภาพสูงจากต่างประเทศ เพราะเป็นประเทศที่มีบริษัทเทคโนโลยีใหญ่ ๆ สนใจเข้าไปลงทุนจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็น LG และ Alibaba และมีศักยภาพในการผลิตสินค้าเทคโนโลยีระดับสูงต่าง ๆ โดยในปี 2020 มีการส่งออกสินค้าในประเภทนี้คิดเป็นสัดส่วนถึง 42% เพิ่มจากเพียง 13% ในปี 2010

จากการศึกษาของ Google, Temasek, และ Bain เวียดนามจะเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจดิจิทัลเติบโตมากที่สุดในภูมิภาคภายอาเซียนภายในปี 2025 และดึงดูดเงินลงทุนได้มากที่สุดในระหว่างปี 2025-2030

'ม.เกษตรฯ' แจ้งระวัง!! 'มิจฉาชีพ' อ้างชื่อ 'คณะฯ-มหา’ลัย' จัดกิจกรรมรูดทรัพย์ หลอก!! จะมี 'แต้มต่อ' ในการเข้ามหาวิทยาลัยในรอบ TCAS1

(17 ก.ย. 67) ภาควิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้โพสต์ข้อความเตือน ระบุว่า...

สำหรับนักเรียนที่กำลังทำ Port อยู่นะ

ช่วงนี้ เห็นแล้วเศร้าใจ มีคนพยายามสร้างกระแสกันว่า การไปร่วมกิจกรรมของคณะที่เราสนใจ เช่น อบรม แคมป์ จะมี 'แต้มต่อ' ในการเข้ามหาวิทยาลัยในรอบ TCAS1 โดยมีการเรียกเก็บเงินการเข้าร่วมกิจกรรมหลายพันบาท ขอบอกว่า คณะต้องการคนที่มีความสำเร็จ ไม่ใช่คนที่ความสนใจที่หลากหลายจากการเข้าร่วม ซึ่งแต้มน้อยมาก

วิธีการง่าย ๆ อันนึงของคนเหล่านั้น คือ...
- ไปเช่าสถานที่ของคณะยอดฮิต เพื่อจัดกิจกรรม เพื่อจะได้ใช้ชื่อ และทำให้คนเข้าใจผิดคิดว่าคณะจัด
- เชิญอาจารย์บางท่านของคณะนั้นมาบรรยาย ซึ่งท่านก็อาจมาบรรยายโดยสุจริต
- ขอแปะโฆษณาภายในมหาวิทยาลัย
- แอบใส่ Logo และมหาวิทยาลัย ในโครงการ เช่น อ้างว่าเป็นอาจารย์ที่ไหน หรือนิสิตเรียนที่ไหน ใช้ภาพถ่ายอาคารหรือสถานที่ที่เป็นสัญลักษณ์ของมหาวิทยาลัย

- อาจมีแจกประกาศ แต่ออกให้โดยองค์กรอื่นที่ไม่ใช่ มหาวิทยาลัย
- ใบเสร็จไม่ใช่ของมหาวิทยาลัย
- อ้างว่าเป็นศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยนั้น แต่ไม่ได้ทำงานกับมหาวิทยาลัย

ซึ่งจะดูเนียนเหมือนว่าคณะนั้นจัด แต่คณะก็แค่ให้เช่าสถานที่อบรม และการตรวจสอบเจตนาแฝงมันดูยาก

ที่แย่คือ คนอาจคิดว่า คณะหิวเงินโดยทำโครงการที่มี Conflict of interest 

ที่แย่กว่านั้น ก็คิดไปไกลว่า พยายามสร้างช่องรับ 'แป๊ะเจี๊ยะ'

โครงการดีๆ ก็มีเยอะแยะนะครับ แต่ข้อสังเกตที่สำคัญคือ...
- จะต้องเขียนชัดๆ เลยนะว่า 'จัดโดย คณะ... มหาวิทยาลัย...' ไม่ใช่บอกแค่ว่าจัดที่นั่น
- โครงการอาจมีค่าใช้จ่าย แต่ส่วนใหญ่เขาจะจัดเอาแค่คุ้มทุน ไม่แพงมาก
- ถ้าสงสัย สอบถามโดยตรงจากคณะ (ไม่ใช่ไปถามที่โครงการนั้นนะ) เลยว่า คณะเกี่ยวอย่างไร มีผลต่อ TCAS มากน้อยเพียงใด เดี๋ยวนี้ คณะมีช่องทางออนไลน์ให้ติดต่อกันทั้งนั้นแหละ อย่างเช่นที่นี่เลย คณะวิศวกรรมศาสตร์ ม.เกษตรศาสตร์

มีลูกหลานก็ฝากแชร์ด้วยครับ สงสารเด็กๆ #dek67 #dek68 #dek69 #dek70

เปิด 10 อันดับ มหาวิทยาลัยเอกชน ที่มีผู้จบการศึกษามากที่สุดในปี 2567

เปิดตัวเลขสถิติ ‘มหาวิทยาลัยเอกชน’ ที่มีผู้จบการศึกษามากที่สุดในปี 2567

อันดับ 1 มหาวิทยาลัยกรุงเทพ มีผู้จบการศึกษาทั้งหมด 5,717 คน

อันดับ 2 มหาวิทยาลัยศรีปทุม ทุกวิทยาเขต มีผู้จบการศึกษาทั้งหมด 4,784 คน

อันดับ 3 มหาวิทยาลัยเกริก มีผู้จบการศึกษาทั้งหมด 4,583 คน

อันดับ 4 มหาวิทยาลัยรังสิต มีผู้จบการศึกษาทั้งหมด 4,295 คน

อันดับ 5 มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย มีผู้จบการศึกษาทั้งหมด 3,399 คน

อันดับ 6 มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ มีผู้จบการศึกษาทั้งหมด 2,567 คน

อันดับ 7 มหาวิทยาลัยธนบุรี มีผู้จบการศึกษาทั้งหมด 2,178 คน

อันดับ 8 มหาวิทยาลัยปทุมธานี มีผู้จบการศึกษาทั้งหมด 2,177 คน

อันดับ 9 มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ มีผู้จบการศึกษาทั้งหมด 2,162 คน

อันดับ 10 มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต มีผู้จบการศึกษาทั้งหมด 2,081 คน

อันดับ 11 มหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพ มีผู้จบการศึกษาทั้งหมด 2,035 คน

อันดับ 12 มหาวิทยาลัยเอเชียอาคเนย์ มีผู้จบการศึกษาทั้งหมด 1,504 คน

อันดับ 13 มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ มีผู้จบการศึกษาทั้งหมด 1,438 คน

อันดับ 14 มหาวิทยาลัยรัตนบัณฑิต มีผู้จบการศึกษาทั้งหมด 1,307 คน

อันดับ 15 มหาวิทยาลัยนานาชาติแสตมฟอร์ด มีผู้จบการศึกษาทั้งหมด 1,297 คน

มีสถาบันที่ไม่ส่งข้อมูล ดังนี้ มหาวิทยาลัยกรุงเทพสุวรรณภูมิ, มหาวิทยาลัยการจัดการและเทคโนโลยีอีสเทิร์น, มหาวิทยาลัยเฉลิมกาญจนา, มหาวิทยาลัยตาปี, มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์, มหาวิทยาลัยพิษณุโลก, มหาวิทยาลัยฟาฏอนี, มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย, มหาวิทยาลัยราชธานี, มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์, มหาวิทยาลัยเวสเทิร์น, มหาวิทยาลัยหาดใหญ่, วิทยาลัยเทคโนโลยีพนมวันท์, วิทยาลัยนอร์ทเทิร์น, วิทยาลัยนานาชาติราฟเฟิลส์, วิทยาลัยบัณฑิตเอเชีย, สถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน, สถาบันเทคโนโลยีแห่งสุวรรณภูมิ และสถาบันรัชต์ภาคย์

ข้อมูล ณ เดือนกุมภาพันธ์ 2568 ข้อมูลผู้สำเร็จการศึกษาภาพรวมทั้งหมด คือ ปวช., ปวส. ระดับอนุปริญญา, ปริญญาตรี, ป.บัณฑิต, ปริญญาโท, ป.บัณฑิตขั้นสูง และ ปริญญาเอก


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top