Wednesday, 23 April 2025
เตือน

รอง โฆษก ตร. เตือนพระภิกษุสงฆ์และนักบวชให้ความระมัดระวังการโจรกรรมทรัพย์สินวัดและศาสนสถานในวันสำคัญทางศาสนา

วันนี้ (4 มี.ค.66) เวลา 13.00 น. ที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พ.ต.ท. ธ เทพ ไชยชาญบุตร รองโฆษก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้คำแนะนำกรรมการวัดและผู้ดูแลศาสนสถานต่างๆ รวมตลอดถึงพระภิกษุ สามเณร นักพรตนักบวช ให้ช่วยกันสอดส่องป้องกันพระพุทธรูป โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุและกล่องรับบริจาคต่างๆ ภายในวัด

พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีความห่วงใยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน โดย พล.ต.อ. ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. มีความห่วงใยในวัดวาอาราม เทวสถาน ศาสนสถานต่างๆ ในทุกศาสนา จึงได้กำชับให้ข้าราชการตำรวจทุกพื้นที่ให้สอดส่องดูแลวัดวาอาราม เทวสถาน ศาสนสถานต่างๆ  โดย พ.ต.ท. ธ เทพฯ  กล่าวว่า เมื่อถึงวันสำคัญทางศาสนาต่างๆ เช่นวันมาฆบูชาจะมีพี่น้องประชาชนเข้าร่วมพิธีกรรมทางศาสนา มีการทำบุญบริจาคทานเป็นจำนวนมาก ซึ่งมักจะมีผู้ไม่ประสงค์ดีเข้ามาสำรวจลู่ทางเพื่อหาโอกาสในการลักขโมยทรัพย์สินต่างๆ ทั้งของวัด เช่นเงินสดในกล่องรับบริจาคของวัด พระพุทธรูป เทวรูป ศิลปวัตถุ โบราณวัตถุ และทั้งทรัพย์สินส่วนตัวของพระภิกษุหรือนักบวชด้วย

'นนทบุรี' เตือน!! 30 ชุมชนนอกแนวป้องกันเสี่ยงน้ำท่วม อิทธิพล 'ฝนหนัก-น้ำเหนือ' แนะ!! เร่งยกของขึ้นที่สูง

เมื่อวานนี้ (3 ก.ย. 67) นายอภิชัย อร่ามศรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี ปฏิบัติราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี ในฐานะผู้อำนวยการจังหวัด ได้มีหนังสือด่วนที่สุด ในราชการกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนนทบุรี ถึงหัวหน้าส่วนราชการหลายหน่วยและนายกเทศมนตรีหลายแห่ง และแจ้งให้พร้อมรับมือน้ำฝนและรับน้ำเหนือ และ 30 ชุมชนเสี่ยงถูกน้ำท่วม

โดยอ้างประกาศฉบับที่ 2 ของกรมอุตุนิยมวิทยา ลงวันที่ 2 กันยายน แจ้งว่า ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้นและฝนตกหนักถึงหนักมาก บางพื้นที่บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล จะยังคงมีฝนฟ้าคะนอง และลมกระโชกแรงบางพื้นที่ โดยมีพื้นที่เฝ้าระวังสถานการณ์พายุฝนฟ้าคะนอง และลมกระโชกแรงระหว่างวันที่ 3-9 กันยายน 2567

และกรมชลประทานได้มีหนังสือ ด่วนที่สุด ลงวันที่ 2 กันยายน 2567 แจ้งว่า จะมีการระบายน้ำผ่านท้ายเขื่อนเจ้าพระยา ในอัตราระหว่าง 1,400-1,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ทำให้พื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำบริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยามีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นจากปัจจุบัน อีกประมาณ 0.25-1.40 เมตร และอาจส่งผลกระทบต่อพื้นที่ชุมชน ตั้งแต่วันที่ 5 กันยายน 2567 เป็นต้นไป ประกอบกับจากการคาดการณ์ระดับน้ำทะเลหนุนสูง จากกรมอุทกศาสตร์ กองทัพเรือ น้ำทะเลหนุนสูงถึงวันที่ 5 กันยายน 2567 และระหว่างวันที่ 14-20 กันยายน 2567

เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์ และลดผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าว กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนนทบุรีจึงขอให้ถือปฏิบัติตามแนวทาง ดังนี้

1.แจ้งเตือนประชาชนให้ติดตามข้อมูลสภาวะอากาศและข่าวสารจากทางราชการ ประชาสัมพันธ์ สร้างการรับรู้ให้กับประชาชน ระวังอันตรายจากพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งก่อสร้างและป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง รวมถึงระวังอันตรายจากฟ้าผ่า สำหรับเกษตรกรควรป้องกันผลิตผลทางการเกษตรที่อาจได้รับความเสียหาย และแจ้งเตือนประชาชนที่อยู่นอกแนวคันกั้นน้ำให้ขนย้ายสิ่งของเพื่อลดความเสียหายจากกรณีเพิ่มการระบายน้ำ และน้ำทะเลหนุนสูง จากระดับน้ำปัจจุบันประมาณ 0.25-1.40 เมตร

2.หากมีแนวโน้มจะเกิดสถานการณ์ฝนฟ้าคะนองรุนแรงในพื้นที่ ให้เตรียมพร้อมทรัพยากร และแผนเผชิญเหตุ รวมถึงกำลังเจ้าหน้าที่ให้มีความพร้อมบรรเทาภัย อำนวยความสะดวก ให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยตลอด 24 ชั่วโมง โดยประสานและบูรณาการหน่วยงานพลเรือน เครือข่ายอาสาสมัคร จิตอาสา ภาคเอกชนทุกภาคส่วนเข้าร่วมปฏิบัติงาน

3.หากเกิดสาธารณภัยขึ้นในพื้นที่ให้รายงานสถานการณ์ และการให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้น ให้กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนนทบุรีทราบทันที ทางหมายเลขโทรศัพท์ 0-2591-2471 สายด่วน 1784 หรือแจ้งผ่านแอพพลิเคชั่น Line ปภ.โดยดำเนินการเพิ่มเพื่อน Line ID : @๑๗๘๔DDPM ตลอด 24 ชั่วโมง

กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนนทบุรี จึงขอให้ประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ภาคเอกชนที่ประกอบกิจการในแม่น้ำ เช่น งานก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่ง แพร้านอาหาร เป็นต้น รวมทั้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณพื้นที่ลุ่มน้ำต่ำ 30 จุด ให้เฝ้าระวังและยกของขึ้นที่สูงและเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และหากมีแนวโน้มจะเกิดสถานการณ์สาธารณภัยในพื้นที่ ให้แจ้งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทหาร ตำรวจ อาสาสมัคร ประชาชนจิตอาสา หรือกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนนทบุรี ร่วมปฏิบัติงานให้ความช่วยเหลือประชาชนต่อไป

สำหรับชุมชนทั้ง 30 แห่ง ที่อยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำ นอกแนวป้องกันน้ำท่วม เสี่ยงได้รับผลกระทบ ประกอบด้วย

1.ชุมชนบริเวณวัดค้างคาว ม.4
2.ชุมชนริมน้ำท่าอิฐ ม.8
3.ชุมชนบริเวณมัสยิดท่าอิฐ ม.10
4.ชุมชนคลองบางภูมิ ม.5 ฝั่ง ต.คลองพระอุดม
5.ชุมชนบริเวณวัดไทรม้าเหนือ
6.ชุมชนบริเวณวัดไทรม้าใต้
7.ชุมชนวัดเฉลิมพระเกรียรติ
8.ชุมชนวัดอมฤต
9.ชุมชนบริเวณเกาะเกร็ด
10.ชุมชนบริเวณวัดแคนอก

11.ชุมชนวัดศาลารี
12.ชุมชนวัดค้างคาว ม.4
13.ชุมชนบริเวณวัดโพธิ์ทองบน
14.ชุมชนบริเวณวัดสลักเหนือ
15.ชุมชนวัดแจ้งศิริสัมพันธ์
16.ชุมชนบริเวณ หลัง รพ.พระนั่งเกล้า
17.ชุมชนบริเวณท่าน้ำนนทบุรี
18.ชุมชนบริเวณหมู่บ้านเทพประทาน
19.ชุมชนบริเวณวัดกู้
20.ชุมชนบริเวณวัดบ่อ

21.ชุมชนบริเวณวัดสนามเหนือ
22.ชุมชนวัดกลางเกร็ด
23.ชุมชนวัดแสงสิริธรรม
24.ชุมชนริมน้ำท่าอิฐ ม.4, ม.5, ม.6 และ ม.7
25.ชุมชนวัดตำหนักใต้
26.ชุมชนบริเวณวัดท่าบางสีทอง
27.ชุมชนบริเวณวัดชลอ
28.ชุมชนบริเวณวัดเกตุประยงค์เล็ก
29.ชุมชนบริเวณวัดพิกุลทอง
30.ชุมชนวัดใหญ่สว่างอารมณ์

สำนักงานตำรวจแห่งชาติเตือนมิจฉาชีพฉวยโอกาสตบทรัพย์ผู้เกษียณ หลอกโอนเงินและข้อมูลส่วนตัว

(2 ต.ค. 67) พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รรท.ผบ.ตร.) มีความห่วงใยพี่น้องประชาชนที่อาจได้รับความเสียหายจากอาชญากรรมรูปแบบต่าง ๆ โดยเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2567 ที่ผ่านมา เป็นวันเกษียณอายุราชการของข้าราชการหลายท่าน ซึ่งอาจต้องติดต่อกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในเรื่องของสิทธิประโยช์ต่าง ๆ ของผู้เกษียณอายุราชการ ทั้งในเรื่องเงินสวัสดิการ เงินบำเหน็จบำนาญ เงินภาษี ฯลฯ ทำให้กลุ่มมิจฉาชีพอาจใช้โอกาสนี้ในการหลอกลวงสร้างความเสียหายให้กับพี่น้องประชาชน

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงขอประชาสัมพันธ์ให้ผู้เกษียณอายุราชการและบุคคลในครอบครัว เพิ่มความระมัดระวังกลุ่มมิจฉาชีพที่อาจแอบอ้างเป็นหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องกับเงินสิทธิประโยชน์ และสวัสดิการต่าง ๆ เช่น กรมบัญชีกลาง กรมสรรพากร หรือหน่วยงานต้นสังกัดที่รับผิดชอบเงินสวัสดิการของผู้เกษียณอายุราชการ ติดต่อมาเพื่อหลอกลวงให้ส่งข้อมูลส่วนบุคคล ข้อมูลบัญชีธนาคาร และเอกสารสำคัญต่าง ๆ รวมถึงการหลอกให้กดลิงก์ หรือหลอกลวงให้โอนเงินเพื่อเป็นหลักประกันในการรับเงินบำเหน็จบำนาญและเงินตอบแทนต่าง ๆ

โดยหากได้รับการติดต่อในลักษณะดังกล่าว ขอให้ท่านโทรศัพท์ไปสอบถามข้อมูลกับหน่วยงานต้นสังกัดโดยตรง และขอให้บุตรหลานของผู้เกษียณอายุราชการ คอยให้คำแนะนำและสอดส่องดูแลผู้เกษียณอายุราชการ เพื่อป้องกันไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ

สุดท้ายนี้ หากพี่น้องประชาชนได้รับความเสียหายจากอาชญากรรมรูปแบบต่าง ๆ สามารถแจ้งความร้องทุกข์ได้ที่สถานีตำรวจในพื้นที่ และหากเป็นคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยี สามารถแจ้งความร้องทุกข์ได้ที่ศูนย์รับแจ้งความออนไลน์ สายด่วน 1441 หรือเว็บไซต์ www.thaipoliceonline.go.th ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สำนักงานตำรวจแห่งชาติเตือนโพสต์เอาสนุก หวังป่วนเมือง โทษหนัก จำคุก 5 ปี ปรับ 100,000 บาท

(16 ต.ค. 67) พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้มีความห่วงใยพี่น้องประชาชนที่อาจได้รับความเสียหายจากอาชญากรรมในทุกรูปแบบ รวมทั้งการสร้างความตื่นตระหนกให้กับพี่น้องประชาชน ก่อให้เกิดความเดือดร้อน เข้าข่ายผิดกฎหมาย

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา พบกรณีมีผู้โพสต์ข้อความในกลุ่มเฟซบุ๊ก "โคราชบ้านเอ็ง" ว่าจะก่อเหตุรุนแรงด้วยอาวุธปืนในห้างสรรพสินค้าหลายแห่งในพื้นที่ จ.นครราชสีมา สร้างความตื่นตระหนกให้กับพี่น้องประชาชนเป็นจำนวนมาก ซึ่งต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัวผู้ก่อเหตุไว้ได้ในวันเดียวกัน

สำนักงานตำรวจแห่งชาติจึงขอประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนพี่น้องประชาชนว่าอย่าเลียนแบบพฤติกรรมดังกล่าว แม้ว่าจะทำไปเพื่อความสนุก หรือหยอกล้อกันในหมู่เพื่อนฝูง และหากการโพสต์ดังกล่าวทำให้พี่น้องประชาชนเกิดความตื่นตระหนก จะเข้าข่ายเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 14(2) ฐาน “นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของประเทศ ความปลอดภัยสาธารณะ ความมั่นคงในทางเศรษฐกิจของประเทศ หรือโครงสร้างพื้นฐานอันเป็นประโยชน์สาธารณะของประเทศ หรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน” ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

หากพี่น้องประชาชนพบเห็นการโพสต์ข้อความในสื่อสังคมออนไลน์ ในลักษณะข่มขู่ว่าจะก่อเหตุความรุนแรงในที่สาธารณะ หรือสถานที่ที่มีประชาชนอยู่เป็นจำนวนมาก อย่าแชร์ อย่าเผยแพร่ต่อ ให้รีบแจ้งเหตุให้เจ้าหน้าที่ทราบโดยเร็ว ผ่านช่องทางสายด่วน 191 หรือ สายด่วนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เตือน 5 ผีร้ายฮาโลวีน!! ที่จะมาหลอกหลอนคุณจนหมดตัว

(31 ต.ค. 67) พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มีความห่วงใยประชาชนที่อาจตกเป็นเหยื่อแก๊งมิจฉาชีพที่ก่ออาชญากรรมรูปแบบต่าง ๆ ในช่วงเทศกาลฮาโลวีน

สำนักงานตำรวจแห่งชาติจึงขอเตือนระวังภัย 5 ผี มิจฉาชีพ ที่พี่น้องประชาชนต้องระวัง อย่าให้มาหลอกหลอน สร้างความเสียหายในสังคม

1. ผีขายของ - โฆษณาขายสินค้าราคาถูก หากหลงเชื่อจะถูกหลอก ได้แค่วิญญาณของสินค้า (ไม่รับสินค้าจริง) หรือได้รับสินค้าที่ไม่ตรงปก

2. ผีดูดทรัพย์ - ชักชวนให้ลงทุนในธุรกิจที่อ้างว่าผลตอบแทนสูง ความเสี่ยงต่ำ ใช้ระยะเวลาสั้น สุดท้ายเป็นแชร์ลูกโซ่ หรือหลอกเอาเงิน

3. ผีหลอกรัก - แอบอ้างเป็นชาวต่างชาติหน้าตาดี มีฐานะ ทักมาสร้างสัมพันธ์ จากนั้นจะอ้างเหตุสารพัด หลอกให้โอนเงินไปให้

4. ผีทักแชต - ส่งข้อความหลอกลวงแอบอ้างเป็นหน่วยงานราชการ หรือเอกชน แนบลิงก์ให้กด ติดตั้งแอปพลิเคชันดูดเงิน หรือหลอกเอาข้อมูลส่วนบุคคล

5. ผีชวนเปิด - ชักชวนให้เปิดซิมผี บัญชีม้า ให้กับกลุ่มมิจฉาชีพ แลกกับค่าตอบแทน จากนั้นจะถูกนำไปใช้ในการกระทำความผิด ทำให้เจ้าของซิมผี บัญชีม้า ถูกดำเนินคดี

นอกจากนี้ พี่น้องประชาชนยังต้องระมัดระวังในการเดินทางและท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลฮาโลวีน โดยควรหลีกเลี่ยงสถานที่ที่มีผู้คนแออัด และสังเกตทางออกฉุกเฉินอยู่เสมอ เพื่อจะได้หนีออกจากสถานที่ดังกล่าวได้หากเกิดเหตุไม่คาดคิด รวมไปถึงการดูแลบุตรหลานของท่านอย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันการผลัดหลง หรือถูกผู้ไม่หวังดีฉวยโอกาสล่อลวงบุตรหลานของท่านไป

ทั้งนี้ หากพี่น้องประชาชนพบเห็นการหลอกลวง หรือเหตุการณ์ในลักษณะดังกล่าว สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่สายด่วน 191 หรือ 1599 และหากท่านตกเป็นเหยื่อ หรือได้รับความเสียหายจากอาชญากรรมทางเทคโนโลยี สามารถแจ้งความร้องทุกข์ได้ที่สถานีตำรวจในพื้นที่ หรือแจ้งความออนไลน์ได้ที่เว็บไซต์ www.thaipoliceonline.go.th หรือสายด่วน 1441 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top