Sunday, 8 June 2025
เชียงราย

สมุทรปราการ - AOT ระดมกำลังช่วยเหลือผู้ประสบภัย จัดทีมจิตอาสาดูแลครบวงจร

(17 ก.ย. 67) บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (AOT) ระดมเจ้าหน้าที่ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย (ทชร.) เร่งให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่ จังหวัดเชียงราย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนผู้ประสบภัยน้ำท่วมแบบฉับพลัน ประกอบด้วย เด็ก คนชรา ผู้ป่วยติดเตียง รวมถึงผู้พิการที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ในบริเวณชุมชนโดยรอบท่าอากาศยานและพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมในจังหวัด

นาวาอากาศตรี สมชนก เทียมเทียบรัตน์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย เปิดเผยว่า ได้ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่จังหวัดเชียงราย พร้อมกำชับให้ทีมจิตอาสาทุกคนดูแลความปลอดภัยของตนเองและของผู้ประสบภัยน้ำท่วมเป็นสำคัญ ปฏิบัติงานด้วยความระมัดระวัง ซึ่งที่ผ่านมาพนักงาน ทชร.ได้ร่วมกันลงพื้นที่เข้าช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยด้วยการนำเรือกู้ภัยทางน้ำเข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมออกจากพื้นที่ การนำรถบรรทุกน้ำ (น้ำสะอาด) เข้าไปแจกจ่ายชุมชนโดยรอบ ตลอดจนการแจกจ่ายน้ำดื่มให้แก่ผู้ประสบภัย โดยกำลังพลจิตอาสาของ ทชร. ประกอบด้วย พนักงานส่วนดับเพลิงและกู้ภัย ส่วนบำรุงรักษา รวมทั้งส่วนรักษาความปลอดภัย

ทั้งนี้ AOT มุ่งสู่การดำเนินการและการจัดการท่าอากาศยานที่ดีระดับโลก รวมทั้งดำเนินงานด้านความรับผิดชอบต่อสังคม และการพัฒนาที่ยั่งยืน ภายใต้แนวคิดการเป็นสนามบินที่เป็นพลเมืองที่ดีของสังคมและเป็นเพื่อนบ้านที่ดีของชุมชน (Corporate Citizenship Airport)

คิว-ข่าวสมุทรปราการ รายงาน

2 ช่างซ่อมจิตอาสา ขับมอเตอร์ไซค์กว่า 700 กม. มาจากกรุงเทพฯ เพื่อช่วยซ่อมรถจักรยานยนต์ให้ผู้ประสบอุทกภัยที่เชียงราย

(17 ก.ย. 67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากเหตุการณ์อุทกภัยในตัวเมืองเชียงรายเริ่มคลี่คลาย และหน่วยงานกู้ภัยต่างพื้นที่เริ่มถอยตัวออกจาก จ.เชียงราย เพื่อเดินทางไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยจุดอื่น แต่ภายในจังหวัดเชียงรายก็ยังคงมีหลายหน่วยงานทั้งภาครัฐ เอกชน จิตอาสา ที่ยังคงทำหน้าที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัยอยู่

โดยที่บริเวณริมถนนพหลโยธิน ฝั่งขาล่อง ห่างจากห้าแยกพ่อขุนมาประมาณ 200 ม. ได้มีจุดบริการซ่อมแซมรถมอเตอร์ไซค์ให้กับผู้ประสบอุทกภัย ซึ่งทางมูลนิธิสยามเชียงรายสำนักงานใหญ่และช่างซ่อมรถจิตอาสาได้ร่วมมือกัน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้ผู้ประสบภัย 

ด้าน นายอนุสรณ์ อินทวงศ์ จากมูลนิธิสยามเชียงรายสำนักงานใหญ่ เผยว่า มูลนิธิสยามเชียงราย ร่วมกับช่างซ่อมรถจิตอาสาจากหลายที่ มาร่วมกันตั้งจุดบริการซ่อมแซมรถมอเตอร์ไซค์ให้กับผู้ประสบภัย โดยไม่คิดค่าบริการ แต่หากมีอะไหล่ชิ้นไหนเสียหาย เจ้าของรถก็สามารถซื้อมาให้ช่างเปลี่ยนให้ได้ ตั้งมาแล้วประมาณ 3 วัน ก็มีคนเอารถมาซ่อมไม่ต่ำกว่า 100 คันต่อวัน แต่ตอนนี้มีปัญหาใหญ่ เนื่องจากระบบประปาในตัวเมืองยังใช้การไม่ได้ จึงไม่มีน้ำสะอาดที่จะใช้ล้างทำความสะอาดรถ

ทั้งนี้ ในจุดดังกล่าว ได้พบว่า มีช่างซ่อมจิตอาสา ที่พากันขับขี่รถมอเตอร์ไซค์มาจากเขตประเวศ กทม. เพื่อมาช่วยซ่อมรถมอเตอร์ไซค์ให้กับผู้ประสบภัย ด้วย ได้แก่ นายอภิวัฒน์ เรืองโรจน์ อายุ 36 ปี ช่างซ่อมจิตอาสา ที่เล่าว่า ตนเดินทางมาจากกรุงเทพฯ มาพร้อมกับน้องชายคือ นายสุวิทย์ ขวัญแก้ว อายุ 31 ปี เดินทางมากว่า 700 กม. เพื่อร่วมซ่อมมอเตอร์ไซค์ให้ผู้ประสบภัย โดยตอนแรกไปซ่อมร่วมกับช่างของยามาฮ่าที่ด้านในตัวเมือง แต่ตอนนี้ก็ย้ายมาทำร่วมกับทางมูลนิธิสยามเชียงราย

นายอภิวัฒน์ เผยต่อว่า ตนเป็นส่วนหนึ่งของมูลนิธิร่วมด้วยช่วยกันที่ กทม. ก็จะทำกิจกรรมแบบนี้อยู่ตลอด เมื่อรู้ว่าที่เชียงรายมีน้ำท่วมก็เลยชวนน้องชายมาด้วยกัน โดยบรรทุกอุปกรณ์ใส่กล่องรัดไว้ด้านหลังมอเตอร์ไซค์ ทีแรกกลัวว่าจะมาไม่ถึง เพราะระยะทางไกล และน้ำหนักอุปกรณ์ที่บรรทุกมาด้วยก็เยอะ แต่พอมาถึงก็ได้ช่วยซ่อมรถไปแล้วกว่า 100 คัน และคาดว่าจะอยู่ช่วยงานจนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น

‘กรมทางหลวงชนบท’ ระดมกำลัง!! เข้าช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ จ.เชียงราย พร้อมติดตั้ง ‘สะพานเบลีย์’ บนสายทางที่ขาด เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้ปชช.

(21 ก.ย.67) นายอภิรัฐ ไชยวงศ์น้อย อธิบดีกรมทางหลวงชนบท เปิดเผยว่า ในช่วงที่ผ่านมา จังหวัดเชียงราย ประสบปัญหาอุทกภัยอย่างรุนแรง จากลมมรสุมที่พาดผ่าน ส่งผลให้ฝนตกหนักถึงหนักมาก จนเกิดน้ำป่าไหลหลาก กัดเซาะคอสะพาน และสายทางจนไม่สามารถสัญจรผ่านได้ และยังส่งผลกระทบต่อบ้านเรือน ร้านค้าของประชาชนเป็นจำนวนมาก ขณะนี้สถานการณ์เริ่มคลี่คลาย จึงได้สั่งการให้สำนักงานทางหลวงชนบทที่ 17 (เชียงราย) และแขวงทางหลวงชนบทเชียงราย ลงสำรวจสายทางที่ได้รับผลกระทบ และเร่งฟื้นฟูให้กับประชาชนอย่างเร่งด่วน

นายอภิรัฐ กล่าวเพิ่มเติมว่า ด้วยสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง มีเศษโคลนติดค้างเป็นจำนวนมาก จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์ และกำลังคน เพื่อเร่งฟื้นฟูและช่วยเหลือประชาชนโดยด่วน จึงได้สั่งการเพิ่มเติมไปยัง สำนักงานทางหลวงชนบท และแขวงทางหลวงชนบทในพื้นที่ใกล้เคียง ให้ระดมเครื่องจักร วัสดุอุปกรณ์ และกำลังคน เข้าช่วยเหลือ เพื่อร่วมทำงานกับสำนักงานทางหลวงชนบทที่ 17 (เชียงราย) แขวงทางหลวงชนบทเชียงราย และหน่วยงานในพื้นที่ เพื่อให้การฟื้นฟูสายทาง การทำความสะอาด ฉีดล้างดินโคลนบริเวณบ้านเรือน ร้านค้าของประชาชนเป็นไปด้วยความรวดเร็ว ช่วยบรรเทาความเดือดร้อน อำนวยความปลอดภัยให้ชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน

ทั้งนี้ ปัจจุบัน (วันที่ 21 ก.ย. 67 เวลา 10.00 น.) พบสายทางหลวงชนบทที่ได้รับผลกระทบ สัญจรผ่านไม่ได้ในพื้นที่ 4 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย นครพนม อุดรธานี และหนองคาย จำนวน 11 สายทาง ดังนี้

1. สะพานบนถนนสาย ชร.1041 แยก ทล.1 - บ้านสันผักฮี้ อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย
2. สะพาน ชร.016 สะพานแม่น้ำกก อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย
3. สะพาน ชร.007 สะพานพ่อขุนเม็งรายมหาราช อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย
4. ถนนสาย นพ.3065 แยก ทล.212 - บ้านหนองสาหร่าย อำเภอบ้านแพง, ท่าอุเทน จังหวัดนครพนม (ช่วง กม.ที่ 3+000 ถึง 3+500)
5. ถนนสาย นพ.4059 แยก ทล.2032 - บ้านไทยสบาย อำเภอศรีสงคราม จังหวัดนครพนม (ช่วง กม.ที่ 9+850 ถึง 10+350)
6. ถนนสาย นค.3043 แยก ทล.212 - บ้านหนองบัวเงิน อำเภอโพนพิสัย จังหวัดหนองคาย (ช่วง กม.ที่ 10+500 ถึง 10+800)

7. ถนนสาย นค.5027 แยกทางหลวงชนบท นค.3009 - บ้านสร้างคอม (ตอนหนองคาย) อำเภอโพนพิสัย จังหวัดหนองคาย (ช่วง กม.ที่ 7+525 ถึง 8+850 และ 12+825 ถึง 13+400)
8. ถนนสาย นค.3042 แยก ทล.211 - บ้านธาตุน้อยกลางน้อย อำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย (ช่วง กม.ที่ 16+300 ถึง 17+300)
9. ถนนสาย นค.7046 แยก ทล.212 - บ้านเหล่าต่างคำ อำเภอเมือง, โพนพิสัย จังหวัดหนองคาย (ช่วง กม.ที่ 1+850 ถึง 3+800)
10. ถนนสาย นค.1034 แยก ทล.2 - บ้านโนนสีทอง (ตอนอุดรธานี) อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี (ช่วง กม.ที่ 9+000 ถึง 11+000)
11. สะพาน นค.029 สะพานห้วยเป อำเภอโพนพิสัย จังหวัดหนองคาย

นายอภิรัฐ กล่าวทิ้งท้ายว่า สำหรับสะพานบนสายทางในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ถนนสาย ชร.1041 แยก ทล.1 - บ้านสันผักฮี้ อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ที่ได้รับผลกระทบหนัก คอสะพานขาด ปัจจุบันอยู่ระหว่างการติดตั้งสะพานเหล็กสำเร็จรูป (Bailey Bridge) คาดว่าจะสามารถเปิดใช้งานให้กับประชาชนได้ในเร็ว ๆ นี้ ทั้งนี้ หากประชาชนต้องการความช่วยเหลือ สามารถติดต่อได้ที่แขวงทางหลวงชนบทในพื้นที่ หรือสายด่วนกรมทางหลวงชนบท 1146

'เชียงราย' ยาบ้าทะลักแม่น้ำสาย!! ฉก.ทัพเจ้าตากยึดยาบ้า 1.1 ล้านเม็ด 'ชายแดนแม่สาย'

(21 ก.ย.67) เวลา 05.20 นาฬิกา กองกำลังผาเมือง โดย หน่วยเฉพาะกิจทัพเจ้าตาก จัดกำลังจาก กองร้อยทหารม้าที่ 3 หน่วยเฉพาะกิจทัพเจ้าตาก จำนวน 1 ชุดปฏิบัติการ ทำการเฝ้าตรวจตามแนวชายแดนเพื่อป้องกันและสกัดกั้นการกระทำผิดตาม พระราชบัญญัติยาเสพติด บริเวณ บ้านป่าซางงาม หมู่ที่ 6 ตำบลเกาะช้าง อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย หลังจากทราบข่าวว่ากลุ่มขบวนการพยายามที่จะลักลอบลำเลียงยาเสพติดเข้ามาในประเทศไทยด้านอำเภอแม่สาย ซึ่งขณะปฏิบัติภารกิจได้ตรวจพบกลุ่มบุคคลต้องสงสัย จำนวน 2 คน พร้อมกล่องต้องสงสัยขณะกำลังวางซุกซ่อนบริเวณข้างถนน เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเพื่อขอทำการตรวจค้น แต่กลุ่มบุคคลดังกล่าวเมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ จึงได้ทิ้งกล่องต้องสงสัยและอาศัยความมืดหลบหนีข้ามแม่น้ำสายกลับไปยังฝั่งประเทศเมียนมา ไม่สามารถจับกุมได้

ต่อมาเมื่อเวลา 06.00 นาฬิกา พันเอก ณฑี ทิมเสน ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจทัพเจ้าตาก พร้อมด้วยชุดปฏิบัติการเข้าตรวจสอบบริเวณดังกล่าว ตรวจพบยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ซุกซ่อนอยู่ในกล่องบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป จำนวน 6 กล่องๆ กล่องละ 200,000 เม็ด จำนวน 5 กล่อง และกล่องละ 100,000 เม็ด จำนวน 1 กล่อง รวมยาบ้าทั้งสิ้น 1,100,000 เม็ด หลังจากนั้นจึงได้เพิ่มเติมกำลังอีก 2 ชุดปฏิบัติการ เข้าควบคุมพื้นที่ เพื่อรอเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมตรวจสอบของกลางอีกครั้งหนึ่ง

และเมื่อเวลา 11.00 นาฬิกา พลตรี ประพัฒน์ พบสุวรรณ ผู้บัญชาการกองกำลังผาเมือง ได้มอบหมายให้ พันเอก กิดากร จันทรา รองผู้บัญชาการกองกำลังผาเมือง พร้อมด้วยฝ่ายปกครองโดยนาย ณรงค์พล คิดอ่าน นายอำเภอแม่สายได้มอบหมายให้นาย ยศพงศ์ ตุลาชม ปลัดอำเภอหัวหน้ากลุ่มงานฝ่ายความมั่นคงอำเภอแม่สายและ

หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่เพื่อแถลงข่าวการตรวจยึดยาเสพติดดังกล่าวหลังจากนั้นจึงได้นำของกลางส่งให้สถานีตำรวจภูธรแม่สายเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ซึ่งถึงแม้ว่าในห้วงนี้ในพื้นที่ชายแดนจะประสบอุทกภัย น้ำป่าไหลหลากและดินโคลนถล่มอย่างต่อเนื่อง หน่วยได้แบ่งกำลังไปช่วยเหลือประชาชนส่วนหนึ่ง แต่อีกส่วนหนึ่งก็ยังคงปฏิบัติภารกิจสกัดกั้นบริเวณชายแดนอย่างเข้มแข็ง เพื่อป้องกันไม่ให้กลุ่มขบวนการอาศัยจังหวะช่วงเกิดภัยธรรมชาตินำยาเสพติดเข้ามาภายในประเทศได้

‘เอกนัฏ’ นำทัพกระทรวงอุตฯ เร่งฟื้นฟูระบบน้ำประปา ช่วยผู้ประสบภัย จ.เชียงราย พร้อมพักชำระหนี้ ‘SMEs’ ที่ได้รับผลกระทบ ภายใต้โครงการ ‘อุตสาหกรรมรวมใจ’

(21 ก.ย.67) นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม พร้อมด้วย นายณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม นำทีมข้าราชการ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมผู้ประกอบการและประชาชนที่ได้รับผลกระทบ พร้อมช่วยเหลือฟื้นฟูพื้นที่ที่ประสบอุทกภัยในจังหวัดเชียงราย โดยวันนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และคณะได้มอบท่อพีวีซี แข็ง ‘ท่อน้ำไทย’ ที่ได้รับการสนับสนุนจากบริษัท เอจีซี วีนิไทย จำกัด (มหาชน) ให้กับทางองค์การบริหารส่วนตำบลเทอดไท อำเภอแม่ฟ้าหลวง จำนวน 8,360 เส้น นำไปฟื้นฟูระบบประปาภูเขา ผ่านโครงการ 'อุตสาหกรรมรวมใจ ช่วยผู้ประสบภัยจังหวัดเชียงราย' พร้อมมอบถุงยังชีพ ‘อุตสาหกรรมรวมใจ ช่วยพี่น้องชาวไทย’ บรรจุเครื่องอุปโภคบริโภคและสิ่งของจำเป็น เพื่อเป็นกำลังใจให้กับผู้ประสบอุทกภัย ณ หอประชุมบ้านเทอดไท หลังจากนั้น คณะได้เดินทางไปยังหมู่บ้านแม่หม้อ หมู่ 7 ตำบลเทอดไท เพื่อร่วมกันประกอบท่อประปาหมู่บ้านทดแทนท่อเดิมที่ถูกดินสไลด์ บรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้นกับประชาชน

รัฐมนตรีฯ เอกนัฏ กล่าวต่ออีกว่า นอกจากนี้ ยังได้เข้าไปพบปะหารือกับผู้ประกอบการจังหวัดเชียงราย โดยทางสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดเชียงราย ได้รายงานว่า มีผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย จำนวน 22 ราย ประกอบกิจการผลิตเครื่องเรือน เครื่องตกแต่งภายใน ผลิตคอนกรีตผสมเสร็จ อู่ซ่อมรถยนต์ โรงชำแหละเนื้อสัตว์ ผลิตชิ้นส่วนรองเท้า ผลิตเส้นก๋วยเตี๋ยว เส้นขนมจีน สกัดน้ำมันพืช เมล็ดพันธุ์ทางการเกษตร ซึ่งเครื่องจักร เครื่องมือไฟฟ้า วัตถุดิบได้รับความเสียหาย ส่วนการประกอบกิจการดูดทราย รถยนต์ที่ใช้ประกอบกิจการ ตราชั่ง อุปกรณ์สำนักงาน เรือดูดทราย ได้รับความเสียหาย มูลค่าความเสียหายกว่า 23.6 ล้านบาท โดยทางกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ ได้เข้าไปสำรวจพบว่า มีผู้ประกอบการที่ประสบอุทกภัยแจ้งความประสงค์เข้าร่วมมาตรการพักชําระหนี้เงินต้น 3 เดือน จํานวน 8 ราย 

ทั้งนี้ทางกระทรวงฯ ได้เตรียมเจ้าหน้าที่ ทีมวิศวกร ช่างชุมชน หรือหน่วยงานตรวจสภาพ เพื่อช่วยเหลือ ซ่อมแซม และให้คําแนะนําเกี่ยวกับเครื่องใช้ไฟฟ้าให้กับประชาชนต่อไป 

“ผมและคณะผู้บริหารกระทรวงอุตสาหกรรม เร่งลงพื้นที่เพื่อฟื้นฟู เยียวยา ให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ผู้ประกอบการ และโรงงานอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย ในวันนี้ขอมาให้กำลังใจกับพี่น้องประชาชนและผู้ประกอบการให้ทุกท่านผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปได้และกลับมาดำเนินชีวิตแบบปกติได้โดยเร็ว โดยหวังว่าโครงการ ‘อุตสาหกรรมรวมใจ’ ของกระทรวงฯ จะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยเหลือ เยียวยา บรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ ผ่านการฟื้นฟูระบบประปาภูเขา และพวกเราคนกระทรวงอุตฯ ขอยืนยันว่าจะเดินเคียงข้างพี่น้องประชาชนและผู้ประกอบการให้ก้าวผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากไปได้” นายเอกนัฏ กล่าวทิ้งท้าย

เปิด ‘ถุงพระราชทาน’ ที่ ‘ในหลวง’ ทรงช่วยเหลือชาวเชียงราย ใช้ 2 คนยกกลับบ้าน ‘ข้าวสาร-อาหารแห้ง-น้ำ’ รวม 14 รายการ

(21 ก.ย.67) เพจ ‘แจ้งข่าวเชียงราย By เชียงราย 108’ ได้โพสต์ข้อความซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณ ที่ได้รับพระราชทานถุงยังชีพจาก ‘ในหลวง’ โดยมีใจความว่า ...

หลายคนคงเห็นแต่ถุงพระราชทาน แต่ไม่ทราบว่าข้างในมีอะไรบ้าง พอดีบ้านพี่สาวที่เชียงรายได้รับ 1 ถุง

หนักเอาการเจ้า ยก 2 คน

ข้าวสาร 5 กก.
น้ำมันพืช 1 ขวด
ปลา กป. 1 โหล
ผัก กป. 1/2 โหล
มาม่า 1 ลัง 30 ซอง
นมชั่งหัวมัน 2 ขวด

น้ำดื่ม 2 ขวด
ขนมฟันโอ 1 ถุง
ไฟฉาย+ถ่าน 1
ยาทา..กิน 1 ชุด
ผ้าอนามัย 2 ห่อ
ผ้าขนหนูใหญ่ 1
ผ้าถุง 1
ผ้าขาวม้า 1
รวม 14 อย่างเจ้า

..ขอพระองค์ทรงพระเจริญ..

‘เสี่ยตัน’ ประกาศ!! เช่ารถแบ็กโฮ - รถขนดิน เพื่อช่วยชาวเชียงรายสู้ ‘วิกฤตโคลน’ เผย!! มีคนติดต่อเข้ามาเยอะมาก ต้องเปิดช่องทางไลน์ สำหรับผู้ที่สนใจ ส่งใบเสนอราคา

(22 ก.ย. 67) จากสถานการณ์ ‘น้ำท่วมเชียงราย’ ที่ล่าสุดแม้น้ำจะลดแล้ว แต่ประชาชนจำนวนหนึ่งยังไม่สามารถกลับไปใช้ชีวิตในบ้านเรือนของตัวเองได้ เนื่องจากยังมีปัญหาดินโคลนจำนวนมากปกคลุมในบ้าน และถนนหนทาง 

ล่าสุด ‘ตัน ภาสกรนที’ นักธุรกิจชื่อดัง ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยประกาศเช่ารถแบ็กโฮ รถหกล้อ รถสิบล้อ เพื่อช่วยเคลื่อนย้ายดินโคลนในเชียงราย โดยโพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า...

ด่วน! ประกาศเช่า แม็คโครเล็กพร้อมคนขับ 30 คัน / รถหกล้อขนดิน 90 คัน / รถสิบล้อ 10 คัน ทำงาน 30 วัน พร้อมลงพื้นที่ จ.เชียงราย ติดต่อ คุณอีฟ 062-762-6663

เริ่มทำงานวันที่ 25 กันยานี้ ..พร้อมลุยกันครับ

คุณตัน ยังได้โพสต์เพิ่มเติมอีกด้วยว่า คนไทยสุดยอดมาก มีคนติดต่อมาเยอะมาก ขอเปิดช่องทางไลน์ สำหรับผู้ที่สนใจส่งใบเสนอราคาครับ

‘นายกฯ’ สั่งการด่วน ให้เร่งล้างดินโคลน ชี้!! ถ้ารอให้แห้ง จะทำความสะอาดยาก เล็ง!! ตรึงราคาสินค้า ป้องกันพ่อค้าฉวยโอกาส พร้อมทยอยเยียวยา อย่างต่อเนื่อง

(22 ก.ย. 67) ที่ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.กลาโหม ส่งมอบสิ่งของอุปโภค-บริโภค และอุปกรณ์ทำความสะอาดที่ได้รับจากภาคเอกชน และหน่วยงานต่างๆ ภายใต้โครงการ ‘ประสานพลัง ประสานใจ’ เพื่อส่งมอบให้กับพี่น้องประชาชนผู้ประสบอุทกภัยใน จ.เชียงราย โดยเครื่องบินกองทัพอากาศ (C130)

โดยมีนายธีระพงศ์ วงศ์ศิววิลาศ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พล.อ.ธีระยุทธ จินหิรัญ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา เข้าร่วม โดยนายกฯ นำเสื้อผ้าเด็กของลูกมาส่งมอบให้พื้นที่ด้วย

น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า สิ่งที่ต้องทำเร่งด่วนเวลานี้คือการล้างดินโคลน โดยเฉพาะบริเวณท่อเพื่อให้เกิดการระบายน้ำได้เร็วขึ้น หากปล่อยให้แห้งจะทำให้การทำความสะอาดลำบาก และเป็นพระมหากรุณาธิคุณที่ในหลวงและพระราชินีพระราชทานเครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง ที่มีประสิทธิภาพดี จำนวน 100 เครื่องในการช่วยเหลือ

โดยเส้นทางที่ถูกตัดขาดจะต้องเร่งเคลียร์ หากดินแข็งตัวจะทำความสะอาดได้ยาก ส่วนบ้านเรือนก็มีเจ้าหน้าที่เข้าไปช่วยเหลือ โดยในแต่ละจุดจะมีผู้รับผิดชอบ เพื่อกระจายความช่วยเหลือให้ทั่วถึง และรวดเร็วที่สุด เราอยากทำให้เร็วที่สุด แต่ก็ต้องดูสถานการณ์หน้างานด้วย ไม่ได้อยากตีกรอบว่าจะต้องทำภายในระยะเวลาเท่าไหร่

ขอย้ำว่าจะทำให้เร็วที่สุดเท่าที่ทำได้ เพราะเป็นความเดือดร้อนของประชาชน และเวลานี้กำลังคนที่จ.เชียงราย และหนองคาย ยังวางกำลังไว้เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อม หากเกิดมีพายุเข้าอีกจะได้ให้ความช่วยเหลือได้ทันสถานการณ์ ขณะที่ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัยวาตภัยและดินโคลนถล่ม (ศปช.) มีการประชุมทุกวัน และตนจะเข้าร่วมประชุมด้วยในสัปดาห์หน้า

“ช่วงวันเสาร์อาทิตย์ที่ผ่านมาได้ให้ลูกช่วยกันเลือกเสื้อผ้าของตัวเองที่เล็กไปแล้ว ไปมอบให้กับผู้ประสบภัย เพราะการลงพื้นที่เชียงรายครั้งก่อน พบว่ามีคุณแม่ท้องและเด็กเล็กจำนวนมาก เสื้อผ้าของเด็กยังค่อนข้างขาด จึงนำมาบริจาค นอกจากนั้นยังมีสิ่งของจำเป็นที่ส่งมอบในวันนี้ เช่น ไม้กวาดและอุปกรณ์ทำความสะอาด” น.ส.แพทองธาร กล่าว

เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงการปรับหลักเกณฑ์การเยียวยาช่วยเหลือประชาชน น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า การเยียวยาก้อนแรก ได้นำไปช่วยแล้ว 200,000 บาท และจะทยอยเยียวยาอย่างต่อเนื่อง และในระหว่างนี้ก็ได้ให้สำรวจความเสียหายเพื่อจ่ายในรอบแรก และจะพิจารณาหลักเกณฑ์เพิ่มเติมอีกครั้ง เพราะหากรอพร้อมกันจะล่าช้า

เมื่อถามว่าหลังการเยียวยาจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างไร นายกฯ กล่าวว่า มีแน่นอน อย่างแรกคือการตรึงราคาสินค้า เพราะหากมีราคาแพงทั้งหมด ประชาชนในพื้นที่ไม่สามารถรับไหว นอกจากนั้นจะคุยในเรื่องของแผนท่องเที่ยว โดยจะทำไปทีละเรื่อง

ผู้สื่อข่าวถามกรณีที่เอกชนฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้า รวมถึงราคาค่าขุดดินในการทำความสะอาด น.ส.แพทองธาร ยังไม่ได้คุยกับเอกชนในเรื่องนี้ แต่เรามีการคุยกับเอกชนที่ติดต่อเข้ามาเพื่อไปช่วยเหลือ

ในเรื่องนี้อยากขอประชาสัมพันธ์ หากมีเอกชนรายใดที่อยากจะช่วยเรื่องการขุดดิน การทำความสะอาด ซึ่งยังมีความต้องการ เพราะเรามีเครื่องมือมาก แต่ขอให้มีคนที่มีจิตอาสา เรื่องใดที่เป็นธุรกิจจะไม่ขอเข้าไปยุ่งเกี่ยว ไม่ก้าวก่าย เพราะคนละเรื่องกัน แต่หากใครอาสาสมัครเราจะเปิดรับ

“ขอย้ำว่าทุกอย่างต้องดำเนินการอย่างรวดเร็ว เพราะความทุกข์ของประชาชนนับเป็นรายวัน เป็นรายชั่วโมง จึงต้องนำมาตรการไปช่วยให้เร็วที่สุด ทั้งการเยียวยา เครื่องมือ โรงครัว” น.ส.แพทองธาร กล่าวทิ้งท้าย

ชาวโซเชียลชื่นชม ‘หนุ่มเยอรมันจิตอาสา’ ลงพื้นที่ช่วยเหลือ ผู้ประสบภัยน้ำท่วม เผย!! เคยอยู่ทีมกู้ภัยมาก่อน คุ้นเคยกับสถานการณ์ มาช่วยเหลือ เพราะเป็นสิ่งที่ควรทำ

(22 ก.ย. 67) เป็นอีกเรื่องราวดีๆที่ชาวโซเชียลแห่ชื่นชม เมื่อ TikTok@parecho3695 โพสต์คลิปของหนุ่มเยอรมันจิตอาสาลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมใน อ.แม่สาย จ.เชียงราย ด้วยการช่วยลำเลียงอาหารแห้งและเครื่องอุปโภคบริโภค 

ในคลิป ‘โจนาธาน’ หนุ่มเยอรมันจิตอาสา เล่าว่า 

ผมรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ตอนที่น้ำท่วมผมก็อยู่ ผมมาช่วยเหลือเพราะเป็นสิ่งที่ควรทำ ถ้าเกิดที่ประเทศผมก็จะช่วยเหมือนกัน ผมเคยอยู่ทีมกู้ภัยตอนที่อยู่เยอรมัน ผมก็เคยทำงานกับบุคลากรทางการแพทย์และทีมกู้ภัย ผมก็เลยคุ้นเคยกับสถานการณ์แบบนี้

โดยหลังจากคลิปเผยแพร่ มีชาวเน็ตจำนวนมากเข้ามาคอมเมนต์ขอบคุณและชื่นชม ‘โจนาธาน’ อาทิ หัวใจไทยล้นฟ้าสำหรับคุณโจนาธานขอบคุณในน้ำใจที่มีต่อประเทศไทยสุขภาพแข็งแรงๆตลอดไปเจ้า, น้ำใจต่างชาติ ขอบคุณมากโจนาธาน, ขีดเส้นใต้ คำว่า ‘ผมทำในสิ่งที่ควรทำ’ มันมาจากจิตสำนึกล้วนๆเลย พระเจ้าอวยพรคับ, จิตใจงามไม่แบ่งแยกว่าเป็นคนชาติใดในโลก อะไรช่วยได้ช่วยเลย เยี่ยมมากๆจิตอาสา, น้ำใจงามมาก ขอบคุณแทนผู้ประสบภัยด้วยค่ะ

ทร.โดย สอ.รฝ. ระดมพลเร่งฟื้นฟูบ้านพักอาศัย ในพื้นที่แม่สาย เชียงราย

(เมื่อวานนี้ 28 ก.ย. 67) ชุดฟื้นฟู หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง (สอ.รฝ.) กองทัพเรือ ร่วมกับหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง เริ่มดำเนินการตามแผนฟื้นฟูบ้านพักอาศัย ที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ตามที่ได้รับแจ้งจากหัวหน้าชุมชน ที่ได้ลงสำรวจและรับแบ่งมอบงาน จากอำเภอและกรมการทหารช่าง โดยแบ่งออกเป็น 2 พื้นที่  ได้แก่ พื้นที่เหมืองแดงใต้ จำนวน 4 หลัง และพื้นที่ชุมชนปิยะพร จำนวน 6 หลัง
ซึ่งในแต่ละพื้นที่ได้ดำเนินการฟื้นฟูและนำโคลนที่อุดตัน บริเวณท่อระบายและพื้นที่บ้านเรือนของประชาชนออก โดยในบางพื้นที่ได้ดำเนินการเสร็จแล้ว 100 % โดย ชุดฟื้นฟูหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง จะดำเนินการ เร่งฟื้นฟู ตามพื้นที่ต่าง ๆ ในเขต อำเภอเมืองแม่สาย จังหวัดเชียงราย ที่ได้รับมอบหมาย ต่อไป

นิราช/นันทพล ทิพย์ศรี รายงาน 0909535645


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top