Tuesday, 22 April 2025
เชฟชุมพล

'อลังการอาหารไทย' บนโต๊ะกาลาดินเนอร์ เอเปค 2022

ส่อง ‘อาหารไทย’ ในคอนเซปต์ ‘ความยั่งยืน’ Sustainable Thai Gastronomy เตรียมขึ้นโต๊ะเสิร์ฟ ในงานกาลาดินเนอร์ ‘APEC 2022’ ที่หอประชุมกองทัพเรือ ช่วงค่ำวันที่ 17 พ.ย.นี้

เชฟชุมพล แจ้งไพร ซึ่งรับหน้าที่เชฟดูแล อาหารไทยราว 21 รายการ ที่จะเสิร์ฟสำหรับผู้นำประเทศราว 50 ท่าน ในงานประชุม 21 เขตเศรษฐกิจภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก หรือ APEC 2022  ในคอนเซปต์ Sustainable Thai Gastronomy หรือ 'ความยั่งยืน' เพื่อแสดงถึงศักยภาพของอาหารไทย และประเทศไทยที่เป็นแหล่งผลิตวัตถุดิบอาหารสำคัญของโลก สะท้อนภาพเมืองไทยไม่เคยขาดแคลนเรื่องอาหาร 

เชฟชุมพล  ระบุว่า เวทีระดับผู้นำประเทศครั้งนี้ เรานำเสนออาหารไทยไฟน์ไดนิ่ง 4 คอร์ส รวมไวน์แพร์ริ่งจากกรานมอนเต้ เขาใหญ่ และวิลเลจฟาร์ม วังน้ำเขียว ทุกอย่างเป็นผลผลิตในประเทศไทยทั้งหมด

การนำเสนอเรื่อง ความยั่งยืน ซึ่งเป็นมากกว่า soft power ด้านอาหารแล้ว เพราะหมายถึง คนปลูกยั่งยืน คนทำยั่งยืน คนกินยั่งยืน ประเทศยั่งยืน โลกยั่งยืน สอดคล้องกับแนวคิดหลักที่ไทยเป็นเจ้าภาพ APEC 2022

'อ.นิด้า' ทวงถามจริยธรรมสื่อดัง บิดเบือนกรณีปลากุเลา ชี้!! ทุกครั้งก็รับปากว่าจะแก้ไข แต่ก็ทำซ้ำเหมือนเดิม

เมื่อ (14 พ.ย. 65) ผศ.ดร.วรัชญ์ ครุจิต รองคณบดีฝ่ายวางแผนและพัฒนาคณะนิเทศศาสตร์และนวัตกรรมการจัดการ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) NIDA ได้ออกมาประณามช่อง ThaiPBS ซึ่งได้นำเสนอข้อมูลบิดเบือนใส่ร้ายเชฟชุมพล และประเทศไทยในฐานะเจ้าภาพ APEC 2022 ด้วยการกุเรื่องว่า ‘ปลากุเลาเค็ม’ ที่ขึ้นโต๊ะอาหารผู้นำเอเปคไม่ได้มาจากตากใบ

โดยเป็นการนำเสนอหัวข้อข่าวชื่อ ‘จับโป๊ะ Soft Power 'ปลากุเลาเค็ม' ขึ้นโต๊ะผู้นำเอเปค ไม่ได้มาจากตากใบ’ ซึ่งเป็นการไปสัมภาษณ์ผู้ประกอบการร้านขายอาหารทะเลกลุ่มหนึ่ง เพื่อให้ได้บทว่า “ไม่มีใครมาซื้อปลากุเลาไปใช้ในงาน APEC” 

แต่ความจริงซึ่งถูกเปิดเผยโดยเชฟชุมพล แจ้งไพร เชฟมิชเชอร์ลินสตาร์ ที่เป็นหนึ่งในทีมทำอาหารเลี้ยงผู้นำเอเปค ก็คือ ทางทีมเชฟได้ซื้อปลามาจากร้าน ‘ปลากุเลาเค็มป้าอ้วนตากใบ’ ซึ่งอยู่ที่ 40/1 หมู่ที่ 3 ต.เจ๊ะเห อ.ตกใบ จ.นราธิวาส เบอร์โทรร้าน 086-9636422

ซึ่งทางร้านก็ได้ออกมาประกาศผ่าน Facebook ทางร้านว่า ร้านเป็นผู้จัดจำหน่ายปลากุเลาเค็ม ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ OTOP ระดับ 5 ดาวของชุมชน โดยก่อนหน้านี้มีเจ้าหน้าที่มาซื้อปลากุเลาเค็มไป 1 ตัวเพื่อนำไปชิม และภายหลังมีการสั่งออนไลน์วันละหลายหมื่นบาทในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา

หลังข้อมูลปรากฏชัดเจน ผศ.ดร.วรัชญ์ ครุจิต ได้ตั้งคำถามว่าไทยพีบีเอสทำแบบนี้ ไม่แน่ใจว่าทีมข่าวเรียนจบวารสารศาสตร์และมีกอง บก.หรือไม่ ทำไมจึงพยายามสร้างเนื้อหาที่ไม่สมเหตุผล ด้วยการไปสัมภาษณ์ร้านที่ไม่ได้รับการติดต่อซื้อ แล้วไปสรุปว่า 'ไม่มีการซื้อจริง'

พร้อมระบุว่า ไทยพีบีเอส จะรับผิดชอบอย่างไรต่อชื่อเสียงของเชฟชุมพล และชื่อเสียงของประเทศไทยในฐานะเจ้าภาพ APEC และไทยพีบีเอสยังเคยทำเรื่องแบบนี้มาหลายครั้ง และทุกครั้งก็รับปากว่าจะแก้ไข แต่ก็ทำซ้ำเหมือนเดิมเรื่อย ๆ จนมาถึงครั้งนี้

สุดท้ายประชาชนเสียเงินภาษีปีละ 2,000 ล้านบาทเลี้ยงช่องไทยพีบีเอส ก็ควรได้ช่องข่าวที่มีคุณภาพและมาตรฐาน ไม่ใช่ได้ช่องทีวีที่ผลิต Fake News 

ข้อความของ ผศ.ดร.วรัชญ์ ครุจิต

“จับโป๊ะ” ใครกันแน่? 

กรณีการลงข่าวนี้ ข่าวไทยพีบีเอสจะ 'จับโป๊ะ' รัฐบาล หรือว่าข่าวไทยพีบีเอส จะถูก 'จับโป๊ะ' เสียเอง? 

เนื้อหาข่าวไทยพีบีเอส เป็นการให้สัมภาษณ์ของผู้ประกอบการในพื้นที่ตากใบ 'บางคน' ที่ให้ข้อมูลว่าไม่เห็นรู้เรื่องว่ามีการซื้อปลากุเลาเค็มจากร้านใดร้านหนึ่งใน 9 ร้านที่ได้ขึ้นทะเบียน GI ของจังหวัดไปเลย จึงสรุปได้ว่า ที่รัฐบาลโปรโมตว่าจะนำเอาปลากุเลาเค็มไปทำอาหารในการประชุมเอเปคนั้น 'ไม่จริง'

ซึ่งต่อมาเชฟชุมพล และรองโฆษกรัฐบาล ก็ออกมาให้ข้อเท็จจริงว่า เชฟชุมพลซื้อปลากุเลาเค็มมาจากตากใบจริง จากร้านป้าอ้วน เพราะเป็นร้านเดียวที่ผ่านมาตรฐาน ซึ่งต่อมาเฟซบุ๊กของร้านป้าอ้วนก็ออกมายืนยันว่ามีการสั่งซื้อไปจริง แต่ด้วยการที่ร้านขายจำนวนมาก ก็ไม่รู้ว่าใครซื้อไปบ้าง (แล้วก็คงบอกกันไปในกลุ่มว่า ไม่รู้เรื่องที่ขายปลาเค็มไปทำอาหารเอเปค เพราะไม่เห็นมีใครมาติดต่อแจ้งอย่างนั้น)

ผมไม่แน่ใจว่านักข่าวที่ทำข่าวนี้ เรียนจบวารสารศาสตร์มาหรือไม่ หรือบก. ที่ตรวจข่าวนี้ (มีไหม) ใช้หลักการอะไรในการปล่อยให้ข่าวนี้ออกมาได้ แต่ในฐานะที่ผมเป็นอาจารย์คณะนิเทศศาสตร์ ผมก็มีคำถามที่คนทั่วไปก็น่าจะสงสัยเหมือนกัน คือ ทำไมนักข่าวที่ทำข่าวนี้ถึง ... 

1.) เชื่อมั่นว่าไม่มีการซื้อจริง ด้วยคำบอกเล่าของร้าน (บางคน) ทำไมไม่คิดว่า คนที่ไปสัมภาษณ์นั้น เขารู้จริงหรือไม่ เข้าใจผิดหรือไม่ รู้ได้อย่างไรว่าไม่มีคนซื้อไปทำอาหารเอเปค การหาข้อเท็จจริงที่มีหลักฐานนี่คือหลักการวารสารศาสตร์เบื้องต้นเลย

2.) ถ้าไม่แน่ใจว่าร้านค้าจะรู้ข้อมูลหรือไม่ ทำไมไม่ทำสิ่งที่ง่ายที่สุด ก็คือถามไปที่ต้นตน นั่นคือเชฟชุมพล หรือทางสำนักนายกก็ได้ ว่าซื้อจริงไหม ซื้อยังไง ใครซื้อ การหาข้อมูลจากอีกฝั่ง ก็เป็นหลักวารสารศาสตร์เบื้องต้นสุด ๆ เช่นกัน (ถ้าติดต่อไม่ได้ ก็ระบุไปว่ายังไม่ได้รับคำตอบ) 

แต่ไม่ครับ นักข่าวที่ทำข่าวนี้ ไม่ได้ทำทั้งสองข้อ แล้วก็ลงข่าวพร้อมพาดหัวเลยว่า 'จับโป๊ะ' ที่แปลว่า 'จับโกหก'

ร้านอาหาร ‘R-HAAN’ ชวนลิ้มลองเมนูสุดพิเศษ พร้อมเปิดประสบการณ์แบบผู้นำเอเปคได้แล้ววันนี้

เชฟชุมพล แจ้งไพร ผู้รังสรรค์เมนูกาลาดินเนอร์ต้อนรับผู้นำเอเปค ชวนลิ้มลองรสชาติตามรอยผู้นำได้ตั้งแต่ 21 พ.ย. - 4 ธ.ค.นี้ ที่ร้านอาหาร ‘R-HAAN’

หลังจากเป็นปรากฏการณ์ Soft Power เกี่ยวกับอาหารไทยไปตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาสำหรับอาหารที่ ‘เชฟชุมพล แจ้งไพร’ รังสรรค์ไปเสิร์ฟขึ้นโต๊ะผู้นำเอเปค ล่าสุด ร้าน R-HAAN ร้านระดับสองดาวมิชลินของไทย ได้เปิดประสบการณ์ให้คนทั่วไปได้ลิ้มลองเมนูเหล่านั้นแล้ว

สำหรับ ร้านอาหาร R-HAAN เป็นร้านระดับ 2 ดาว มิชลิน ต่อเนื่องทุกปีนับตั้งแต่ปี 2019 เป็นร้านได้รับโอกาสรังสรรค์เมนูสุดพิเศษ สำรับต้อนรับผู้นำเขตเศรษฐกิจ 21 ประเทศ ภายใต้แนวคิด ‘Sustainable Thai Gastronomy - ภูมิปัญญาอาหารไทยอย่างยั่งยืน’ คัดสรรวัตถุดิบชั้นเยี่ยมจากแหล่งผลิตท้องถิ่นทั่วประเทศไทย

ในวันนี้ ‘ร้านอาหาร R-HAAN’ โดย เชฟชุมพล แจ้งไพร เชฟผู้ร่วมก่อตั้งร้านอาหาร ขอนำเสนอเมนูสำรับ ‘ตามรอยผู้นำเอเปค 2022’ เมนูเดียวกับสำรับต้อนรับผู้นำเขตเศรษฐกิจ 21 ประเทศ มาให้ผู้สนใจได้รับประสบการณ์อาหารสุดพรีเมียมในแบบเดียวกัน

โดยในสำรับประกอบไปด้วย

อะมูสบุช เสิร์ฟในเมนู ‘กระทงทองไส้ครีมซอสและไข่ปลาสเตอร์เจียนคาเวียร์โครงการหลวงดอยอินทนนท์’

อาหารเรียกน้ำย่อย ‘Welcome To Thailand’ นำเสนออาหารไทย 4 ภาค ขนาดพอดีคำ วางบนแผนที่ประเทศไทยประจำแต่ละภาค อันได้แก่ 

แอ่วเหนือ - ข้าวซอยหมี่กรอบไทยล้านนา
เที่ยวกลาง - ต้มยำทอดมันกุ้งแม่น้ำกรุงศรีอยุธยา
ยามอีสาน - โคราชวากิวย่างถ่านสมุนไพรจิ้มแจ่ว
ล่องใต้ - ไก่เบตงย่างกอและ

สลัด ในเมนู ‘ยำใหญ่ผักออแกนิก 9 อย่างจากวิสาหกิจชุมชนทั่วทุกภาคของเมืองไทย กับไก่ออร์แกนิกและกุ้งมังกร 7 สีภูเก็ต พร้อมไข่เป็ดไล่ทุ่งเมืองสุพรรณบุรี ดองดอกเกลือเมืองเพชร’

'เชฟชุมพล' วอน!! 'พรรคประชาชน' โปรดพูดความจริงในสภาฯ อย่าบิดเบือนข้อมูลงบประมาณ Soft Power อาหารไทย

(5 ก.ย. 67) ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร พิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 วงเงิน 3.75 ล้านล้านบาท ปรับลด 7,824,398,500 บาท วาระที่ 2 เป็นวันที่ 3 มีช่วงหนึ่งที่ นายณัฐพล โตวิจักษณ์ชัยกุล สส.เชียงใหม่ พรรคประชาชน (ปชน.) ได้อภิปรายตั้งข้อสังเกตขอตัดงบประมาณโครงการซอฟต์พาวเวอร์ของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม จำนวน 6 โครงการ วงเงิน 762,386,000 บาท ที่แบ่งออกเป็นโครงการด้านอาหาร 4 โครงการ และแฟชัน 2 โครงการ สามารถรีดไขมัน เพื่อประหยัดงบประมาณได้

อย่างไรก็ตาม ประเด็นในการตั้งข้อสงสัยที่ดูจะไม่ถูกต้องสักเท่าไร คือ โครงการ 1 หมู่บ้าน 1 เชฟ วงเงิน 468 ล้านบาท ที่ สส.คนดังกล่าว อ้างว่า มีค่าจัดเลี้ยงอาหาร อาหารว่างและเครื่องดื่ม 289 ล้านบาท หรือ 60% ของโครงการนั้น...

ด้าน เชฟชุมพล แจ้งไพร ประธานอนุกรรมการในโครงการดังกล่าว ในฐานะเชฟดีกรีมิชลินสตาร์ 2 ดาว และเป็นหนึ่งในทีมทำอาหารเลี้ยงผู้นำเอเปค 2022 ก็ได้ออกมาตอบโต้ผ่านจากประเทศแคนาดาทันที ว่า...

เมื่อสักครู่ได้ดูการถ่ายทอดการประชุมงบประมาณ ผมมีความไม่สบายใจหนึ่งนะครับ เพราะว่ามี สส.ท่านหนึ่งจากพรรคฝ่ายค้าน ที่อภิปรายโครงการ 'หนึ่งหมู่บ้าน หนึ่งเชฟ' ซอฟต์พาวเวอร์อาหารไทยงบ 468 บาท โดยนำข้อมูลที่มีความผิดพลาดมาอภิปราย ซึ่งอาจจะกลายเป็นความเข้าใจผิดที่สร้างความเสียหายต่อคนทำงานได้

ในฐานะที่ผมเป็นประธานอนุกรรมการ แล้วก็มีอนุกรรมการฯ ที่ทํางานด้วยกันร่วม 30 ท่าน จึงอยากขอชี้แจงผ่านจากประเทศแคนาดา เพราะว่าบางอย่างที่มันไม่ถูกนำเสนอเป็นเรื่องไม่จริง ไม่ควร และจะทําให้ผู้ที่ต้องการทํางานจริง ๆ เสียกําลังใจ

ทั้งนี้ ผมอยากจะให้มาดูข้อเท็จจริงนะครับว่า ค่าใช้จ่ายจริงในส่วนของปี 68 ที่เราขอจากคณะอนุกรรมการฯ และทางกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรมนั้น ที่ขอไปกว่า 500 ล้านบาทนั้น ได้ถูกปรับลดจากสํานักงบประมาณไปกว่า 120 ล้านบาทแล้ว จนเหลือ 468 ล้านบาท ซึ่งตัวเลขนี้เป็นเรื่องจริง

แต่ผมอยากให้ดูตรงรายละเอียดค่าใช้จ่าย 289 ล้านบาท ที่ สส.คนดังกล่าวอ้างว่า เป็นค่าอาหารจัดเลี้ยง ค่าอาหารว่างและเครื่องดื่ม ... ตรงนี้ไม่ใช่เลยนะครับ!!

ท่านไปนำค่าใช้จ่ายนี้มาจากที่ไหน?

เพราะความเป็นจริง ตัวเลข 289 ล้านบาทนี้ เป็นงบที่ใช้ไปกับบุคลากร 17,000 คน ตกคนละ 15,000 บาท ซึ่งรายการนี้จะต้องจ่ายไปที่มหาวิทยาลัย / วิทยาลัยต่าง ๆ แล้วก็อาชีวะทั่วประเทศ ที่ทํางานร่วมกับคณะกรรมการซอฟต์พาวเวอร์ ซึ่งจะมีหน้าที่ไปทำการอบรมพี่น้องประชาชนทั้งหมดทั่วประเทศครับ

ย้ำว่าเป็นการให้งบแก่สถาบันต่าง ๆ ไม่ว่าอาชีวะหรือมหาวิทยาลัย สังกัดอว. ที่เราจับมือเป็นพันธมิตรร่วมกันทั้งประเทศ ร่ววม 160 แห่ง โดยใครที่รับผิดชอบในการจะเทรนด์ให้กับพี่น้องประชาชน ... งบประมาณตรงนี้ ก็จะต้องจ่ายเป็นค่าหัวไปให้กับสถาบันต่าง ๆ ฉะนั้น ไม่ใช่ค่าอาหารจัดเลี้ยงและค่าอาหารว่างเครื่องดื่ม ตามที่ สส.ฝ่ายค้านคนดังกล่าวนำเสนอ!!

การนําเสนอแบบนี้มันสร้างความสับสนและการเสียหาย ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องที่น่าจะควรระวัง เพราะความตั้งใจของโครงการนี้ เกิดขึ้นเพื่อต้องการให้พี่น้องนั้นได้มีโอกาสเพิ่มรายได้ สร้างโอกาสให้กับชีวิทุก ๆ คน และเอาจริง ๆ งบรวมก้อนนี้ก็เหลือ 420 กว่าล้านไม่ใช่ 468 ล้านแล้วด้วย เพราะสํานักงานสํานักงบประมาณปรับลดลงไปอีก จึงอยากรบกวนและขอร้องให้เอาเรื่องจริงมาพูดครับ


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top