Saturday, 7 June 2025
อิสราเอล

'เลบานอน' อ้าง 'อิสราเอล' ฝังระเบิดไว้ในเพจเจอร์ 5,000 เครื่อง ตั้งแต่ขั้นผลิต ชี้!! ยากต่อการตรวจจับ และจะระเบิดเมื่อได้รับข้อความที่เป็นสัญญาณ

(18 ก.ย. 67) สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานข่าว อ้างอิงแหล่งข่าวด้านความมั่นคงระดับสูงของเลบานอนและแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้อง ระบุว่า มอสซาด หน่วยงานด้านข่าวกรองและปฏิบัติการพิเศษของอิสราเอลฝังระเบิดไว้ในวิทยุติดตามตัว หรือ เพจเจอร์ ที่ใช้สำหรับการรับข้อความสั้น ๆ 5,000 เครื่อง ที่นำเข้าโดยกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ (Hezbollah) ในเลบานอน หลายเดือนก่อนที่จะเกิดการระเบิดในวันอังคาร (17 ก.ย.)

ปฏิบัติการที่เกิดขึ้นถือเป็นการเจาะระบบความมั่นคงของฮิซบอลเลาะห์อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ซึ่งทำให้เพจเจอร์หลายพันเครื่องระเบิดทั่วเลบานอน ทำให้มีผู้เสียชีวิต 9 ราย และบาดเจ็บเกือบ 3,000 คน รวมถึงนักรบของฮิซบอลเลาะห์และเจ้าหน้าที่การทูตของอิหร่านในกรุงเบรุต ของเลบานอน แหล่งข่าวด้านความมั่นคงของเลบานอนระบุว่า เพจเจอร์เหล่านี้มาจากบริษัทโกลด์ อพอลโล ซึ่งมีสำนักงานอยู่ในไต้หวัน แต่ทางบริษัทออกมาระบุว่า ไม่ได้เป็นผู้ผลิตเพจเจอร์ดังกล่าว แต่เพจเจอร์นี้ผลิตในบริษัทในทวีปยุโรปที่ได้สิทธิในการใช้ยี่ห้อของโกลด์ อพอลโล กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ ที่มีอิหร่านหนุนหลังประกาศจะตอบโต้เอาคืนอิสราเอล ในขณะที่กองทัพอิสราเอลปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นเกี่ยวกับการระเบิดของเพจเจอร์ แหล่งข่าวหลายแหล่งให้ข้อมูลกับรอยเตอร์สว่า แผนการครั้งนี้ใช้เวลาดำเนินการหลายเดือน

แหล่งข่าวด้านความมั่นคงของเลบานอนกล่าวว่า กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ สั่งซื้อเพจเจอร์ 5,000 เครื่องจากบริษัทโกลด์ อพอลโล และมีรายงานว่า เพจเจอร์ที่สั่งซื้อนี้ถูกนำเข้ามายังเลบานอนเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ซู ชิง-กวง ผู้ก่อตั้งโกลด์ อพอลโล กล่าวว่า เพจเจอร์ที่เกิดการระเบิดดผลิตโดยบริษัทแห่งหนึ่งในยุโรปที่ได้สิทธิในการใช้ชื่อแบรนด์ของบริษัท ซึ่งมีสำนักงานอยู่ไนไต้หวัน เขายืนยันว่า ผลิตภัณฑ์นี้ไม่ได้เป็นของบริษัท เพียงแต่มีชื่อแบรนด์บนผลิตภัณฑ์เท่านั้น แต่เขาไม่ได้เปิดเผยชื่อของบริษัทที่เป็นผู้ผลิตเพจเจอร์แต่อย่างใด บรรดานักรบของฮีซบอลเลาะห์หันมาใช้เพจเจอร์ในการสื่อสารเพื่อหลบเลี่ยงการติดตามของอิสราเอล

แหล่งข่าวกล่าวว่า เพจเจอร์มีการปรับแต่งฝังระเบิดโดยมอสซาดในระหว่างการผลิต ซึ่งแผงวงจรที่ใช้นั้น ยากต่อการตรวจจับ โดยเพจเจอร์ 3,000 เครื่องจะระเบิดเมื่อได้รับข้อความที่เป็นสัญญาณ บางแหล่งข่าวระบุว่า ระเบิดน้ำหนักราว 3 กรัม ถูกซ่อนไว้ในเพจเจอร์และผ่านการตรวจของฮิซบอลเลาะห์มาเป็นเวลาหลายเดือน

142 ชาติสมาชิก UN โหวตออกคำสั่ง ‘อิสราเอล’ ยุติ!! การครอบครอง ‘เวสต์แบงก์-เยรูซาเล็มตะวันออก’

(21 ก.ย.67)ในที่ประชุมสหประชาชาติที่เมืองนิวยอร์ก สหรัฐฯ พบว่าชาติสมาชิก 142 ชาติทั่วโลกในวันพุธ (18) ลงมติการสั่ง ‘อิสราเอล’ ต้องยุติการครอบครองดินแดนปาเลสไตน์ โดยขีดเส้นตายให้ต้องเสร็จสิ้นภายใน 12 เดือน

เอกอัครราชทูตปาเลสไตน์ประจำ UN ไรยาด มานซัวร์ (Riyad Mansour) เรียกการโหวตวันพุธ (18) เป็นจุดเปลี่ยนในความพยายามของพวกเราต่อเสรีภาพและความยุติธรรม มติที่ประชุมใหญ่สหประชาชาติจะถูกเดินหน้าโดยปาเลสไตน์ที่นั่งอยู่ในห้องประชุมในฐานะผู้สังเกตการณ์ รวมไปถึงสิทธิต่อการยื่นข้อเสนอในที่ประชุมใหญ่ในพฤษภาคม

อย่างไรก็ตาม พบว่าการลงคะแนนวันพุธ (18) มี 14 ชาติรวมสหรัฐฯ อิสราเอล ฮังการี อาร์เจนตินา สาธารณรัฐเซก หรือรู้จักในชื่อ เชกเกีย (Czechia) ฟิจิ มาลาวี ไมโครนีเซีย ตองกา และตูวาลู

และอีก 43 ประเทศงดออกเสียง

มติถูกรับหลังชาติสมาชิกจำนวน 142 ชาติออกเสียงรับรองเห็นชอบ

สื่อสหรัฐฯ รายงานว่า การลงมติวันพุธ (18) เกิดขึ้นหลังศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ ICJ ที่กรุงเฮก เนเธอร์แลนด์ ได้กล่าวในเดือนกรกฎาคมว่า การปรากฏตัวของอิสราเอลในเขตเวสต์แบงก์ และเยรูซาเลมตะวันออกไม่ชอบด้วยกฎหมาย และเรียกร้องให้อิสราเอลต้องยุติการเข้ายึดครองดินแดนนานหลายสิบปีโดยปาเลสไตน์ซึ่ง ประชาชนปาเลสไตน์ตั้งความหวังจะรวบรวมดินแดนเหล่านี้เพื่อตั้งประเทศใหม่ในอนาคต

โดยในความเห็นแนะนำพบว่า ศาล ICJ กล่าวว่า อิสราเอลสมควรต้องยุติการยึดครองโดยเร็วที่สุด ในขณะที่มติในที่ประชุมสหประชาชาติได้ให้เวลาอิสราเอลเป็นเวลา 12 เดือน

เอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำสหประชาชาติ แดนนี ดานอน (Danny Danon) ได้ออกมาโจมตีต่อผลมติที่ออกมาว่า

เป็นการตัดสินที่น่าละอายในการสนับสนุนการก่อการร้ายเชิงการทูตของรัฐบาลปาเลสไตน์

ไทม์สออฟอิสราเอลรายงานเพิ่มเติมว่า ขณะที่กระทรวงต่างประเทศอิสราเอลได้แสดงความเห็นว่า การตัดสินใจนี้เป็นการเมืองระหว่างประเทศที่น่าเย้ยหยัน คิดแต่ผลประโยชน์ตัวเองที่จะกระตุ้นการก่อการร้ายและทำร้ายโอกาสสำหรับสันติภาพ

สื่อยิวอธิบายว่านอกเหนือจากจะให้เวลา 12 เดือนเพื่อยุติการครอบครองในเขตเวสต์แบงก์และเยรูซาเลมตะวันออกแล้ว ยังรวมไปถึงทหาร IDF และพลเรือนทั้งหมดให้ต้องออกไป

CNN รายงานว่า อย่างไรก็ตามทั้งคำแนะนำจาก ICJ หรือมติที่ประชุมสหประชาชาติมีผลบังคับผูกพัน แต่ทว่าคำตัดสินจาก ICJ และมติที่ประชุมสหประชาชาติสามารถถูกใช้เพื่อโดดเดี่ยว ‘อิสราเอล’ เพิ่มมากขึ้น และในสัปดาห์หน้าที่เมืองนิวยอร์กบรรดาผู้นำชาติสมาชิก UN ทั้งหมดจะเข้าร่วมการประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติประจำปี

'ฮิซบอลเลาะห์' ถล่มคืน 'อิสราเอล' กองกำลังติดอาวุธในอิรัก ร่วมผสมโรงด้วย หลายฝ่ายกังวล!! ความขัดแข้งใน ‘กาซา-เลบานอน’ อาจลุกลามไปใหญ่โต

(22 ก.ย. 67) การปะทะกันระหว่างอิสราเอลและฮิซบอลเลาะห์ กองกำลังติดอาวุธในเลบานอนยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งสรุปได้ดังนี้ 

•    วันอังคาร (17 ก.ค.) เพจเจอร์ที่ฮิซบอลเลาะห์ใช้สื่อสารเกิดระเบิดทั่วเลบานอนพร้อมกัน 3,000 เครื่อง 
•    วันพุธ (18 ก.ย.) วิทยุสื่อสารของฮิซบอลเลาะห์ระเบิดในเลบานอน 

รวมสองวันดังกล่าวทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 37 คน บาดเจ็บกว่า 3,000 คน

•    วันศุกร์ (20 ก.ย.) อิสราเอลปฏิบัติการทางอากาศถล่มกรุงเบรุต ปลิดชีพ “อิบราฮิม อาคิล” ผู้บัญชาการทหารระดับสูงของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ และเป็นหนึ่งในผู้ที่วางแผนการโจมตีอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ต.ค. รวมถึงสมาชิกระดับปฏิบัติการณ์อีก 10 คน ด้านกระทรวงสาธารณสุขเลบานอนรายงานวันนี้ (22 ก.ย.) ว่า การโจมตีดังกล่าวทำให้มีผู้เสียชีวิตมากถึง 45 รายแล้ว
•    วันเสาร์ (21 ก.ย.) กองทัพอิสราเอลเผยว่า ได้ปฏิบัติการโจมตีเป้าหมายราว 290 แห่ง รวมถึงโจมตีเครื่องยิงจรวดฮิซบอลเลาะห์หลายพันเครื่อง และว่าจะโจมตีเป้าหมายเพิ่มต่อเนื่อง

ล่าสุด สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า อิสราเอลและฮิซบอลเลาะห์ปะทะกันอย่างหนักมาตั้งแต่คืนวันเสาร์จนถึงเช้าวันนี้ โดยฮิซบอลเลาะห์ยิงจรวดเข้าไปในพื้นที่ทางตอนเหนือของอิสราเอล และเผยว่า กลุ่มได้โจมตีฐานทัพอากาศรามัต เดวิด ของอิสราเอลด้วยขีปนาวุธหลายลูก ซึ่งถือเป็นการโจมตีที่รุนแรงที่สุดนับตั้งแต่เกิดการสู่รบระหว่างกัน 

ขณะที่เจ้าหน้าที่จากขบวนการ Islamic Resistance ในอิรัก ซึ่งเป็นกลุ่มติดอาวุธที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน เผยว่า กลุ่มได้ยิงขีปนาวุธและโดรนโจมตีอิสราเอลช่วงรุ่งสางวันอาทิตย์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการสนับสนุนแนวหน้าเลบานอนครั้งใหม่ของกลุ่ม

ด้านกองทัพอิสราเอลเผยว่า ทั่วประเทศมีเสียงไซเรนดังตลอดทั้งคืน เนื่องจากมีจรวดและขีปนาวุธยิงมากจากฝั่งเลบานอนและอิรัก แต่ระบบป้องกันภัยทางอากาศของอิสราเอลสามารถสกัดขีปนาวุธส่วนใหญ่ไว้ได้

อิสราเอลยังได้สั่งปิดโรงเรียนและห้ามผู้คนรวมตัวกันในหลายพื้นที่ทางตอนเหนือ ทั้งยังสั่งให้โรงพยาบาลในพื้นที่ดังกล่าวย้ายไปดำเนินการในสถานที่ที่มีการป้องกันหนาแน่นเป็นพิเศษ เพื่อให้ปลอดภัยจากการยิงจรวดและขีปนาวุธ

ขณะที่ฝั่งเลบานอน ไม่มีการสั่งการใด ๆ ในเช้าวันอาทิตย์

ทั้งนี้ การโจมตีของฮิซบอลเลาะห์และกลุ่มติดอาวุธในอิรัก ทำให้อาคารจำนวนมากในอิสราเอลเสียหาย และมีบ้านหลังหนึ่งใกล้กับเมืองไฮฟาเสียหายอย่างหนัก เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้เข้ารักษาผู้บาดเจ็บแล้ว แต่ยังไม่มีรายงานเสียชีวิต และประชาชนได้รับคำสั่งให้อยู่ใกล้หลุมหลบภัยและที่ปลอดภัย

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวทำให้เกิดความกังวลกันหลายฝ่ายว่า ความขัดแย้งในกาซาและเลบานอน อาจลุกลามไปยังส่วนอื่น ๆ ของภูมิภาค

‘อิหร่าน‘ เปิดฉากโจมตี ‘อิสราเอล‘ ระลอกใหม่ เพิ่มแรงกดดัน ส่อเค้าลุกลามกลายเป็นสงครามในภูมิภาค

อิหร่านยิงขีปนาวุธโจมตีอิสราเอลเมื่อช่วงเย็นวานนี้ (1 ต.ค.67) ส่งผลให้ท้องฟ้าเหนือกรุงเยรูซาเล็มและกรุงเทลอาวีฟสว่างไสว และเสียงไซเรนเตือนภัยดังไปทั่ว ขณะที่ระบบป้องกัน Iron dome สามารถสกัดกั้นขีปนาวุธบางส่วนได้ 

กระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐระบุว่า อิหร่านยิงขีปนาวุธราว 200 ลูกใส่เป้าหมายหลายแห่ง และเสริมว่า สหรัฐได้ให้การสนับสนุนและความช่วยเหลือในการปกป้องอิสราเอล

กองทัพอิสราเอลระบุว่า ยังไม่ทราบถึงความสูญเสียใด ๆ โดยก่อนหน้านี้ ขบวนการมูจาฮิดีนปาเลสไตน์อ้างว่าเป็นผู้ก่อเหตุยิงกราดที่ทำให้มีผู้เสียชีวิต 8 รายทางตอนใต้ของกรุงเทลอาวีฟ

อิสราเอลเริ่มบุกเลบานอนเมื่อต้นสัปดาห์นี้ โดยเคลื่อนกำลังเข้าไปทางตอนใต้ ปฏิบัติการภาคพื้นดินมีเป้าหมายเพื่อผลักดันกองกำลังเฮซบอลเลาะห์ให้ถอยห่างจากชายแดนมากขึ้น หลังจากเกิดความขัดแย้งกับกลุ่มก่อการร้ายที่อิหร่านให้การสนับสนุนมาหลายสัปดาห์

เจ้าหน้าที่เลบานอนกล่าวว่าการโจมตีอย่างหนักของอิสราเอลทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 1,000 รายและทำให้ผู้คนต้องพลัดถิ่นฐานมากถึง 1 ล้านคนในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา

อิสราเอลกล่าวว่า อิหร่าน 'จะต้องชดใช้' สำหรับการโจมตีด้วยขีปนาวุธครั้งใหญ่ต่ออิสราเอล นักข่าว ABC News ของสหรัฐอเมริการายงานว่า อิหร่านยิงขีปนาวุธประมาณ 200 ลูก โจมตี 4 เป้าหมาย ได้แก่ ศูนย์บัญชาการมอสสาด และฐานทัพอากาศหลักอีก 3 แห่ง 

แม้ว่าการโจมตีจะยุติลงได้ค่อนข้างเร็ว แต่ก็ชัดเจนว่าการโจมตีครั้งนี้ยิ่งเพิ่มแรงกดดันให้กับสถานการณ์ที่ตึงเครียดเป็นอย่างมากอยู่แล้ว มีคำเตือนมานานแล้วว่า ความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและตัวแทนของอิหร่านอย่างกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซาและกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน อาจลุกลามกลายเป็นสงครามในภูมิภาคที่กว้างขึ้น ทำให้ขณะนี้ทุกสายตาจับจ้องไปที่การตอบโต้ของอิสราเอล

โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวว่าสหรัฐฯ 'สนับสนุน' อิสราเอลอย่างเต็มที่ แต่เขากล่าวว่ารัฐบาลของเขายังคงหารือกับอิสราเอลอยู่ว่าสมควรที่จะตอบโต้อิหร่านอย่างไร “เราจะรวบรวมข้อมูลทั้งหมดให้ถูกต้อง เราติดต่อกับรัฐบาลอิสราเอลและพันธมิตรของเราอย่างต่อเนื่อง และยังต้องรอดูกันต่อไป” เขากล่าว

ในขณะที่อิสราเอลกำลังสู้รบในสองแนวรบอยู่แล้ว อิสราเอลทำสงครามกับกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซาตั้งแต่ถูกโจมตีอิสราเอลทางตอนใต้เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม ทำให้ชาวปาเลสไตน์หลายหมื่นคนเสียชีวิตในฉนวนกาซา พื้นที่ส่วนใหญ่ถูกทำลายจนเป็นเศษซาก

และแม้ว่าอิสราเอลและกลุ่มฮิซบอลเลาะห์จะยิงข้ามพรมแดนกันมาตลอดทั้งปีที่ผ่านมา แต่การที่อิหร่านได้เปิดฉากโจมตีเมื่อวันอังคาร เพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากที่อิสราเอลประกาศว่าได้เปิดฉากปฏิบัติการภาคพื้นดิน 'จำกัดและเฉพาะพื้นที่' ในเลบานอน การส่งทหารอิสราเอลเข้าไปในเลบานอน อิหร่านจึงถือเป็นการยกระดับความรุนแรงในการปฏิบัติการของอิสราเอล จนทำให้อิหร่านต้องเปิดฉากโจมตีอิสราเอลอีกครั้งหนึ่ง

น้ำมันดิบราคาพุ่ง 5% จากอิทธิพลอิหร่านเปิดฉากโจมตีอิสราเอล หวั่นเกิดสงครามระดับภูมิภาค

(2 ต.ค. 67) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่าเมื่อคืนวันที่ 1 ต.ค. ที่ผ่านมา อิหร่านได้เปิดฉากยิงขีปนาวุธเข้าโจมตีอิสราเอลแล้ว ซึ่งทางกองทัพอิสราเอลประเมินว่ามีไม่ต่ำกว่า 180 ลูก แต่ส่วนใหญ่ถูกสกัดเอาไว้ได้ทั้งหมด 

กองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามของอิหร่าน (IRGC) ออกแถลงการณ์ระบุว่า อิหร่านได้ยิงขีปนาวุธจำนวนมากเข้าโจมตีอิสราเอลเพื่อตอบโต้ต่อการสังหารประชาชนในฉนวนกาซา รวมทั้งผู้นำของกลุ่มฮามาสและฮิซบอลเลาะห์ ที่อิสราเอลออกปฏิบัติการไล่ปลิดชีพไปก่อนหน้านี้ และเตือนว่าอิสราเอลจะถูกโจมตีแบบบดขยี้ หากทำการตอบโต้อิหร่าน

อิหร่านเตือนว่าจะมุ่งเป้าโจมตี "ฐานที่มั่นและผลประโยชน์" ที่เกี่ยวข้องกับอิสราเอลในภูมิภาค หากอิสราเอลเข้าทำสงครามกับอิหร่าน "โดยตรง" และย้ำว่าการลงมือใดๆ ของอิสราเอลเพื่อตอบโต้การโจมตีด้วยขีปนาวุธในครั้งนี้ จะหมายถึงความพินาศย่อยยับครั้งใหญ่ของโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับอิสราเอล 

การโจมตีดังกล่าวมีขึ้น หลังจากสหรัฐแจ้งเตือนว่า อิหร่านกำลังเตรียมการยิงขีปนาวุธพิสัยไกลแบบทิ้งตัว (ballistic missile) โจมตีโดยตรงต่ออิสราเอลในไม่ช้า

ด้านนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล กล่าวในการประชุมคณะรัฐมนตรีว่า อิหร่าน "ได้ทำผิดพลาดครั้งใหญ่เมื่อคืนนี้ และจะต้องชดใช้" และย้ำว่าอิหร่านไม่ได้เข้าใจเลยถึงความมุ่งมั่นของอิสราเอลในการล้างแค้นตอบโต้ศัตรู

"พวกเขาจะเข้าใจ" "เราจะยืนหยัดตามกฎที่เราวางเอาไว้ว่า ใครก็ตามที่โจมตีเรา เราจะเอาคืน"

ด้านพลเรือตรีดาเนียล ฮาการี โฆษกกองทัพอิสราเอล กล่าวว่า อิสราเอลเตรียมความพร้อมขั้นสูงสุดเพื่อรับมือการโจมตีในครั้งนี้ โดยได้รับการสนับสนุนจากกองทัพสหรัฐที่ประจำการในภูมิภาค

"การที่อิหร่านยิงขีปนาวุธโจมตีอิสราเอลจะมีผลที่ตามมาแน่ ซึ่งผมขอไม่เปิดเผยรายละเอียด"

ด้านราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) พุ่งกว่า 5% ทะลุระดับ 71 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเมื่อคืนที่ผ่านมา หลังมีรายงานว่าอิหร่านได้ยิงขีปนาวุธโจมตีอิสราเอล

ณ เวลา 00.13 น.ตามเวลาไทย ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส งวดส่งมอบเดือนพ.ย. บวก 3.44 ดอลลาร์ หรือ 5.05% สู่ระดับ 71.61 ดอลลาร์/บาร์เรล

ดร.สุวินัย ชี้ใกล้ถึงจุดตัดสินเหตุการณ์ปะทะ ‘อิหร่าน-อิสราเอล’ ในตะวันออกกลาง พี่ใหญ่ ‘สหรัฐ’ ไม่เอาสงครามภูมิภาค หวั่น! จีน-รัสเซีย-อิหร่าน เกาะกลุ่มแน่น

(4 ต.ค. 67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ดร.สุวินัย ภรณวลัย อดีตอาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และนักเขียนชื่อดัง ได้โพสต์ข้อความวิเคราะห์สถานการณ์ระหว่างอิสราเอล-อิหร่านในชื่อ ‘ตุลาคม คือคำตอบ’ บนเฟซบุ๊กส่วนตัว ว่า

‘ตุลาคม’ คือคำตอบ

อิสราเอลต้องการทำสงครามโดยมีส่วนร่วมของสหรัฐอเมริกา อิหร่านกำลังพยายามป้องกันสงครามใหญ่

‘ยูเครนและอิสราเอล’ ต้องการดึงสหรัฐฯ เข้าสู่ความขัดแย้ง แต่พวกเขาจะพบว่าตัวเองติดกับดัก ต้องการสงครามแต่ทำเนียบขาวไม่ขี่ม้าขาวส่งกองกำลังผสมมาช่วย 

หลังจากนั้นปลายเดือนนี้รัสเซีย​และจีน พร้อมชาติ BRICS ที่ ‘คาซาน’ จะม้วนเสื่อ กรอบความคิดเกี่ยวกับ ‘ทฤษฎีพันล้านทองคำ’ โลกาภิวัตน์และรัฐลึก ไว้ใต้พรมตลอดชีวิต

‘ทฤษฎีพันล้านทองคำ’ เป็นทฤษฎีสมคบคิดที่กลุ่มคนชั้นสูงระดับโลก กำลังใช้เส้นสายเพื่อสะสมความมั่งคั่งให้กับคนรวยที่สุดจำนวนหนึ่งของโลก โดยไม่คำนึงถึงมนุษยชาติที่เหลือ ทฤษฎีนี้เป็นคำศัพท์ที่นิยมใช้กันในโลกที่พูดภาษารัสเซีย

>>>การยับยั้งสงครามใหญ่ ชนวนแห่งสงครามโลกครั้งที่สาม
(1) การโจมตีในพื้นที่มีความหมาย​เฉพาะของอิหร่านบนดินแดนอิสราเอล​ไม่ได้สร้างความเสียหายเพียงเล็กน้อย การโจมตีสำนักงานใหญ่ของ Mossad ในเทลอาวีฟ และหน่วยที่อยู่รอบนอกเพียงครั้งเดียวจะมีผลยับยั้งและไม่น่าจะนำไปสู่สงครามใหญ่

ขีปนาวุธโจมตีฐานทัพอากาศของอิสราเอลใน Nevatim ซึ่งมีเครื่องบินของอเมริกาและอิสราเอล 30 ถึง 50 ลำประจำการอยู่ พื้นที่นี้ทางการอิสราเอล พยายามปกปิดความเสียหายอยู่

โดยที่อิหร่านไม่ได้ใช้ขีปนาวุธจำนวนมาก แค่บางส่วนเพียงเท่านั้น แต่สามารถเอาชนะระบบป้องกันทางอากาศ/ป้องกันขีปนาวุธของอิสราเอลและพันธมิตรได้ มีรายงานว่าขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียงเกือบทั้งหมดไปถึงเป้าหมาย

การโจมตีที่มีประสิทธิภาพเท่านั้น ที่จะมีผลยับยั้งต่ออิสราเอลและสหรัฐฯ จึงเป็นการยากที่เทลอาวีฟจะเดินหน้าเพิ่มระดับความรุนแรง

อิสราเอลกำลังทำเช่นนี้ เพื่อดึงสหรัฐอเมริกาเข้าสู่ความขัดแย้ง แต่เตหะรานกำลังพยายามอย่างดีที่สุดที่จะตอบสนองต่อพวกเขา ในลักษณะที่จะป้องกันไม่ให้ความขัดแย้งลุกลามบานปลาย

(2) อิหร่านกำลังจัดปาร์ตี้เดือนตุลาคม และการนิ่งของเตหะรานต่อการถูกลอบสังหาร ผู้นำหลายท่านในช่วงที่ผ่านมาไม่ใช่ความอ่อนแอ 

ส่วนสงครามในยูเครนและชายแดนรัสเซียจะจบลงในเดือนตุลาคม หรืออย่างช้าคือสิ้นปีนี้แหละ เพราะ... 

เป็นความจริงที่อิสราเอลตั้งใจที่จะประสานแผนกับสหรัฐฯ เพื่อเปิดฉากโจมตีบนดินแดนของอิหร่านโดยจะต้องอาศัยความร่วมมือเชิงป้องกันกับกองบัญชาการกลางของสหรัฐฯ รวมทั้งอาวุธเพิ่มเติมสำหรับกองทัพอากาศอิสราเอล และอาจต้องได้รับการสนับสนุนปฏิบัติการประเภทอื่น ๆ จากสหรัฐฯ 

แต่ในเดือนหน้า วอชิงตันไม่ต้องการเพิ่มระดับความรุนแรงในตะวันออกกลาง เพราะผลที่ตามมาจากการแลกเปลี่ยนการโจมตี อาจไม่เป็นตามที่อิสราเอลคาดหวัง ไม่ว่าจะผลจะเป็น บวกหรือลบ

ชาติในตะวันออกกลาง อาจมองว่าอิสราเอลเป็นภัยคุกคามระดับใหม่ ซึ่งจะต้องต่อต้านทันที เตหะรานจะกระชับความสัมพันธ์กับมอสโกและปักกิ่งให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น

ซึ่งมันเป็นผลดีกับทำเนียบขาวตรงไหน วอชิงตันอยากแยกพวกเขาทั้งสามออกจากกัน ไม่ใช่สร้างสถานการณ์​เพื่อให้เกิด สามประสาน และทำลายยาก

สิ่งที่อันตรายที่สุดสำหรับสหรัฐฯ ในอนาคตอันใกล้นี้ คือความจำเป็นในการแทรกแซงในระดับใหญ่ การส่งทรัพยากรและกระสุนเพิ่มเติมให้กับอิสราเอล และก็ยังต้องแก้ไขกลยุทธ์และวาทกรรมในทิศทางของยูเครนเพื่อรักษาพื้นที่เดิม 

และหากสหรัฐฯ ต้องเข้าแทรกแซงความขัดแย้งโดยตรงในเดือนหน้า (พฤศจิกายน)​ ที่จะมีการเลือกตั้ง รัฐลึกก็จะเปลี่ยนสภาพไปอยู่ในสถานการณ์ที่ควบคุมผลการเลือกตั้งไม่ได้อย่างสิ้นเชิง 

ดังนั้น วอชิงตันจะพยายามแก้ไขความขัดแย้งด้วยพลังทั้งหมด ไม่ยอมให้เกิดเหตุการณ์ร้ายแรงที่รับประกันการยืดเวลาการโจมตีซึ่งกันและกัน

ขณะนี้ สหรัฐฯ 'ห้ามปราม' อิสราเอลไม่ให้ตอบโต้อิหร่าน และจนถึงขณะนี้ สถานการณ์ดูเหมือนทั้งสองฝ่ายมีเจตนาที่จะหลีกเลี่ยงการปะทะโดยตรง 

เหตุผลนั้นชัดเจน ... การปะทะดังกล่าวอาจกลายเป็นหายนะครั้งใหญ่ ทำลายแผนการทางการเมืองทั้งหมด และส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจอย่างรุนแรง รวมถึงห่วงโซ่อุปทาน เนื่องจากการสื่อสารเคเบิลใต้น้ำทางทะเลในตะวันออกกลางมีบทบาทในการสั่งการเป็นอย่างมาก

แต่สงครามระหว่างอิสราเอลและฮิซบุลเลาะห์ยังคงดำเนินต่อไป 

ณ เวลานี้ ตัวเลือก "สหรัฐฯ กำลังจัดตั้งกองกำลังผสมเพื่อโจมตีอิหร่าน" ยังไม่ใช่ตัวเลือกที่ใช่

แทบจะรับประกันได้เลยว่าผู้นำนาโต้จะไม่รวมอยู่ในกองกำลังผสมดังกล่าว และการร่วมมือกันของอิสราเอลและราชวงศ์อาหรับในอ่าวเปอร์เซียต่ออิหร่านก็ถูกตัดออก เนื่องจากทัศนคติเฉพาะเจาะจงของชาวอาหรับที่มีต่อเปอร์เซีย ดีขึ้นในช่วงหลัง

สหรัฐอเมริกาเองก็ไม่ต้องการสงครามในตะวันออกกลาง 

และในระหว่างนี้สหรัฐอเมริกาไม่อยากกระตุ้นให้อิหร่าน​กลายเป็นสมาชิกโดยพฤตินัยของ 'Club Nuclear' อย่างรวดเร็ว 

การแก้ปัญหาทางการทูตเป็นสิ่งที่พึงปรารถนา เพราะวอชิงตันเน้นย้ำว่าอิหร่านเป็นอำนาจนิวเคลียร์ 'ที่ซ่อนอยู่' ซึ่งเป็นอำนาจที่ยังคงไม่ใช้นิวเคลียร์ตามความใจชอบ 

แต่เมื่อเตหะรานตัดสินใจที่จะเพิ่มความเข้มข้นยูเรเนียมเป็นอาวุธ อิหร่านจะกลายเป็นสมาชิกโดยพฤตินัยของ 'Club Nuclear' ไปแล้ว

ผลที่ตามมาจะทำให้เตหะรานมีความสำคัญเชิงยุทธศาสตร์ 

ตะวันออกกลางเป็นจุดตัดระหว่างการค้าโลก โทรคมนาคม และการจัดหาพลังงานให้กับยุโรป แอฟริกา และเอเชีย ภูมิภาคนี้มีน้ำมันและก๊าซธรรมชาติสำรองมากกว่าครึ่งหนึ่งของโลก และอิทธิพลของอิหร่านจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก 

อย่างน้อยที่สุด อาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงด้านพลังงานในสหรัฐฯ 

อีกทั้งการคว่ำบาตรอิหร่านจะยากขึ้นมากเนื่องจากไพ่เด็ดด้านนิวเคลียร์สามารถใช้ได้ในหลายพื้นที่ทั่วโลก ไม่ใช่แค่ตะวันออกกลาง 

ความตึงเครียดที่เพิ่มมากขึ้นจะเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการค้าโลกทั้งหมด อิหร่านยังไม่ได้ครอบงำภูมิภาคนี้ แต่ด้วยอาวุธนิวเคลียร์ อิหร่านจะกลายเป็นคู่แข่งของสหรัฐฯ ในทางภูมิศาสตร์ทันที

สิ่งเหล่านี้คือความกลืนไม่เข้าคายไม่ออก​ของทำเนียบขาว เหตุผลที่ทำไมเตหะรานรอเดือนตุลาคม โดยชะลอการโจมตีอิสราเอล ปิดปากอยู่เงียบ ๆ จนโลกชี้หน้าว่า อ่อนแอ ไม่แก้แค้นเสียที 

เตหะรานต้องแก้แค้นแน่นอน แต่ต้องควบคุมวิถีของสงครามให้อยู่ในวงจำกัดได้อีกด้วย และส่งไม่ให้ ปูตินและลุงสี ปลายเดือนนี้ในการล้มกรอบความคิดเกี่ยวกับ 'ทฤษฎีพันล้านทองคำ' ของโลกาภิวัตน์และรัฐลึก ไว้ใต้พรมตลอดชีวิต ที่เมืองคาซาน สหพันธรัฐ​รัสเซีย

~ AnneHya

>>>อิหร่านมีรายได้หลักจากการค้าน้ำมัน (แม้จะอยู่ภายใต้มาตรการแซงชันของตะวันตก) ทำให้มีรายได้ สำหรับการพัฒนาด้านกองทัพ และ สนับสนุนกลุ่มติดอาวุธในตะวันออกกลาง
>>>หากสถานีน้ำมันของอิหร่านถูกอิสราเอลโจมตี จะสร้างผลกระทบแรง ต่อราคาน้ำมันที่จะพุ่งขึ้น และจะกระทบกับการขนส่งทางทะเลในอ่าวเปอร์เซีย

>>>เศรษฐกิจโลกจะได้รับผลกระทบ เงินเฟ้อจะพุ่งแรง (ราคาทองคำ และ น้ำมันจะพุ่งขึ้นด้วยกันสวนทางกับ ตลาดหุ้น และ ตลาดบอนด์ ที่ถูกหนุนเอาไว้ ด้วย พันธบัตรอเมริกาที่จะดิ่งลง)
>>>ความตึงเครียดที่ยกระดับขึ้นเรื่อย ๆ ในตะวันออกกลาง จากการเปิดศึกของอิสราเอล ที่หนุนหลังโดย อเมริกา และกลุ่ม G7 รวมทั้งตอนนี้ คือการเปิดหน้า โจมตีกันไปมา ระหว่างอิสราเอลกับอิหร่าน

>>>ผู้คุมเกม/ผู้รู้เท่าทัน ได้เล็งเห็น ผลลัพธ์ล่วงหน้าแล้วว่าความขัดแย้งเหล่านี้ จะต้องนำไปสู่สงครามขั้นแตกหัก (สงครามใหญ่ระดับสงครามโลก) และการพังทลายของระบบเศรษฐกิจโลก ที่หนุนด้วย พันธบัตรอเมริกา
>>>ขั้วอำนาจตะวันออก ... ได้ถือกำเนิดกลุ่ม BRICS และสกุลเงินใหม่ที่อิงด้วยทองคำ (BRICS Unit) โดยไม่ต้องอาศัย ดอลลาร์... ที่จะมีการประกาศความชัดเจนมากขึ้น ในการประชุมใหญ่ BRICS Summit ในวันที่ 24 ตุลาคม 2024 ที่รัสเซีย... อิหร่าน และ กลุ่ม East จึงมีการเพิ่มการสะสมทองคำ เพื่อใช้อ้างอิงสกุลเงินใหม่แบบดิจิทัล (Digital payment system)... ที่ท้าทาย ดอลลาร์ (ซึ่งกำลังเสื่อมอำนาจซื้อลงเรื่อย ๆ)

>>>ขั้วอำนาจตะวันตก ... โดยกองทุนจัดการสินทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดของโลก คือ BlackRock ซึ่งมี AUM (Asset Under Management ) 10.65 T(rillion dollars) ใน Q2 2024 

รองลงมาคือ Vanguard มี AUM ที่ 8.7T... เพื่อปกป้องความเสี่ยงจากระบบการเงินของโลก ที่มีดอลลาร์เป็นเงินสำรองหลัก ที่กำลังจะล่มสลาย

ด้วยการที่ BlackRock ได้ก่อตั้ง BUIDL (กองทุนเพื่อสภาพคล่องแห่งสถาบันแบบดอลลาร์ดิจิทัล) (BlackRock USD Institutional Digital Liquidity Fund)... โดยแปลง ดอลลาร์ เป็นเหรียญโทเคน (Tokenised fund) บน Ethereum Blockchain (ในความร่วมมือกับ Ethena Labs)... ซึ่งจะจ่ายผลตอบแทนจากดอลลาร์ ผ่านเหรียญโทเคน (Stablecoin UStb) ที่อิงด้วยกองทุน BUIDL ซึ่งลงทุนใน US Dollars, US Treasury bills และ Repo (Repurchase agreements)

รายใหญ่ เขาเตรียมเรือชูชีพ/ทางรอด/Hedging เอาไว้แล้ว เพราะเล็งเห็นแล้วว่า 'เรือใหญ่ดอลลาร์' กำลังจะจม

ย้อนมาดูตัวเล็ก ๆ เช่นเรา ตอนนี้ เราต้องตกผลึกทางความคิดกันแล้วว่า..เรือชูชีพของเรา คือ ปัจจัย 4 ที่ไม่ต้องพึ่งพาระบบ, ที่หลบภัย, และทองคำแท่งในกำมือ

‘โจ ไบเดน’ อาจหนุนอิสราเอล ถล่มคลังน้ำมันอิหร่าน ชี้!! หากเกิดขึ้นจริง ส่อเกิดวิกฤตพลังงานรอบใหม่

(4 ต.ค.67) ตลาดน้ำมันต้องสะเทือน เมื่อประธานาธิบดีโจ ไบเดน แสดงความเห็นเรื่อง อิสราเอลกับอิหร่าน ที่ทั้งสองฝ่ายยืนยันพร้อมเล่นงานกันทุกขณะ

สหรัฐหารือความเป็นไปได้อิสราเอลโจมตีคลังน้ำมันอิหร่าน

เว็บไซต์ซีเอ็นบีซีรายงาน ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ตอบคำถามผู้สื่อข่าวเมื่อเช้าวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาในประเด็นที่ว่า สหรัฐจะสนับสนุนอิสราเอลโจมตีคลังน้ำมันอิหร่านหรือไม่ โดยไบเดนตอบว่า กำลังหารือกันอยู่  

ความเห็นของไบเดนส่งผลให้ราคาน้ำมัน และความตึงเครียดในตะวันออกกลางพุ่งขึ้น ผู้ค้ากังวลเรื่องอุปทานปั่นป่วน แต่ไบเดน กล่าวว่า “วันนี้ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น”  

อิสราเอลโวมีหลายออปชันเล่นงานอิหร่าน
ก่อนหน้านั้นในวันพุธ (2 ต.ค.67) ประธานาธิบดีไบเดน กล่าวว่า เขาจะไม่สนับสนุนอิสราเอลโจมตีโรงงานนิวเคลียร์อิหร่าน ล่าสุดนายแดนนี ดานอน เอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำสหประชาชาติ กล่าวในวันพฤหัสบดี ว่า อิสราเอล “มีทางเลือกมากมาย” ในการเอาคืน และจะแสดงความแข็งแกร่งให้รัฐบาลเตหะรานเห็น “เร็ว ๆ นี้” 

ขณะที่เจ้าหน้าที่สหรัฐรายหนึ่งเผย รัฐบาลวอชิงตันไม่เชื่อว่า อิสราเอลตัดสินใจแล้วว่าจะตอบโต้อิหร่านอย่างไร

อิหร่านลั่นพร้อมรับมือทุกรูปแบบ ในวันเดียวกันนั้นประธานาธิบดีมาซุด เปเซชคิยัน ของอิหร่าน กล่าวในกรุงโดฮาของกาตาร์ว่า รัฐบาลเตหะรานพร้อมรับมือ 

“การโจมตีทางทหาร, การก่อการร้าย หรืออะไรก็ตามที่ข้ามเส้นตายของเราจะเจอการตอบโต้อย่างสาสมจากกองกำลังติดอาวุธของเรา”

‘สถานทูตไทย ณ กรุงเทลอาวี’ ออกประกาศอำนวยความสะดวกกลับไทย หลังสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง

(6 ต.ค. 67) สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล ได้ออกประกาศสำหรับคนไทยในอิสราเอล ว่า 

ตามที่เกิดสถานการณ์ความตึงเครียดในอิสราเอลและภูมิภาคตะวันออกกลาง และมีแนวโน้มทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น

สถานเอกอัครราชทูตฯ ขอแจ้งว่า หากมีพี่น้องคนไทยในอิสราเอลที่ประสงค์เดินทางกลับประเทศไทย และต้องการความช่วยเหลือจากสถานเอกอัครราชทูตฯ เพื่อช่วยสำรองบัตรโดยสารเครื่องบิน
พาณิชย์ให้ โดยผู้เดินทางต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเอง 

สามารถติดต่อสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ตามหมายเลขโทรศัพท์ด้านล่าง
ฝ่ายกงสุล โทร +972 546368150 +972 503673195
ฝ่ายแรงงาน โทร. +972 9-954-8431+972 54-469-3476
ไอดีไลน์ 0544693476

ด้วยความห่วงใย จากสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ

นอกจากนี้ทางสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ ยังได้ออก แบบสำรวจความประสงค์ของคนไทยในอิสราเอลในการเดินทางกลับประเทศไทย (โดยรับผิดชอบค่าใช้จ่ายด้วยตนเอง) ให้กรอกผ่าน Google Form ได้ที่ https://docs.google.com/forms/d/1k00qCDPoDJdeP_rNHV8MbPSgcht6eJ73ZYJ9zXRZl2Q/viewform?fbclid=IwY2xjawFvLMtleHRuA2FlbQIxMAABHQIxSDugIqcitLszbYigDCVdG8pVWjXkxTB9EW1lgqVqCd-qMgWwbbY2qg_aem_15AEhWP6F0idvpEP6ij57A&edit_requested=true

เกิดเหตุปะทะชายแดนอิสราเอล-เลบานอน แรงงานไทยตาย 1 บาดเจ็บรุนแรง 1

(11 ต.ค. 67) สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล ได้ออกประกาศสำหรับคนไทยในอิสราเอล ว่า

ประกาศสำหรับคนไทยในอิสราเอลโดยที่เมื่อช่วงเช้าของวันนี้ (11 ต.ค. 67) ได้เกิดเหตุยิงจรวดต่อสู้รถถัง (anti-tank missile) เข้าไปยังนิคมเกษตร Yir'on ทางเหนือของอิสราเอลติดชายแดนเลบานอน

ซึ่งเป็นเขตปิดทางทหาร (closed military zone) ทำให้แรงงานไทย 1 รายเสียชีวิต และอีก 1 รายได้รับผลกระทบกระเทือนทางจิตใจอย่างรุนแรง

สถานเอกอัครราชทูตฯ จึงขอแจ้งว่า หากมีพี่น้องแรงงานไทยที่ยังอยู่ในเขตปิดทางทหารหรือพื้นที่เสี่ยงอันตรายอื่น ๆ สามารถติดต่อสถานเอกอัครราชทูตฯ เพื่อขอรับความช่วยเหลือในการย้ายออกจากพื้นที่ตามหมายเลขโทรศัพท์ด้านล่าง

ฝ่ายกงสุล โทร +972 546368150 +972 503673195
ฝ่ายแรงงาน โทร. +972 9-954-8431+972 54-469-3476
ไอดีไลน์ 0544693476

เขตปิดทางทหาร (closed military zone) ในขณะนี้ 11 แห่ง ได้แก่ เมืองเมตูลา (Metula) มิซกาฟ อัม (Misgav Am) คฟาร์ กิลอาดี (Kfar Giladi) โดเวฟ (Dovev) ซิฟออน (Tziv'on) มาลเกีย (Malkia) รอช ฮานิกรา (Rosh Hanikra) ชโลมิ (Shlomi) ฮานิตา (Hanita) อดามิท (Adamit) และอาหรับ อัล-อรามเช (Arab al-Amshe) โดยเป็นพื้นที่ห้ามพักอาศัยหรือทำงาน

ด้วยความห่วงใย จากสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ

‘แพนทากอน’ เตรียมส่ง THAAD พร้อมทหารอเมริกัน เสริมกำลังให้ ‘อิสราเอล’ ย้ำชัด!! ‘สหรัฐฯ’ พร้อมอยู่เคียงข้าง ในการต่อสู้กับภัยคุกคาม จากอิหร่าน

(14 ต.ค. 67) กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ออกแถลงการณ์ เตรียมที่จะจัดส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศในบรรยากาศระดับสูง หรือ THAAD พร้อมระบบต้านขีปนาวุธ และ กองกำลังทหารอเมริกัน ผนึกกำลังกองทัพอิสราเอล ต้านภัยการโจมตีด้วยขีปนาวุธของอิหร่าน 

โดยนายพล แพท ไรเดอร์ โฆษกประจำแพนทากอน กล่าวว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ลอยด์ ออสติน ได้รับคำสั่งตรงจาก ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ให้จัดส่งระบบป้องกันขีปนาวุธอันล้ำสมัยของสหรัฐไปเสริมกำลังให้ฝ่ายอิสราเอลทันที ซึ่งความเคลื่อนไหวของรัฐบาลสหรัฐในวันนี้บ่งชี้อย่างชัดเจนว่า สหรัฐฯพร้อมยืนอยู่เคียงข้างอิสราเอลในการต่อสู้กับภัยคุกคามจากอิหร่าน หลังจากที่เตหะรานตัดสินใจยิงขีปนาวุธกว่า 180 ลูกโจมตีกรุงเทล-อาวีฟ ของอิสราเอลเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม ที่ผ่านมา

การส่งกำลังทหารไปยังอิสราเอล ไม่ใช่เหตุการณ์ปกติที่จะเกิดขึ้นบ่อยนักสำหรับสหรัฐอเมริกา ยกเว้นการซ้อมรบร่วมของ 2 ชาติ แต่ความเคลื่อนไหวของสหรัฐฯครั้งนี้ ทางแพนทากอนกล่าวว่า เป็นการปรับเปลี่ยนแผนการครั้งใหม่เพื่อสนับสนุนอิสราเอลและปกป้องพลเมืองสหรัฐฯ จากเมื่อหลายเดือนก่อน ที่กองทัพสหรัฐฯ ได้ส่งทหารอเมริกันไปช่วยเหลืออิสราเอลในการป้องกันเรือรบและการโจมตีทางอากาศในตะวันออกกลางมาก่อนแล้ว แต่นั่นเป็นการตั้งกองหนุนนอกพรมแดนอิสราเอลเท่านั้น

ด้าน พ.ต.ท. นาดาฟ โชชานี โฆษกกองทัพอิสราเอล ได้ออกมาขอบคุณสหรัฐฯ ที่ส่งระบบต้านขีปนาวุธมาสนับสนุนอิสราเอล แม้ยังไม่มีกรอบเวลาที่ชัดเจนว่าระบบ THAAD จะถูกส่งมาถึงอิสราเอลเมื่อใดก็ตาม

THAAD เป็นของระบบป้องกันทางอากาศแบบหลายชั้น ที่มีความสำคัญในกองทัพสหรัฐฯ อีกทั้งยังเพิ่มระบบการป้องกันต่อต้านขีปนาวุธของอิสราเอลที่น่าเกรงขามอยู่แล้วให้มีศักยภาพมากยิ่งขึ้นไปอีก

โดยปกติแล้ว THAAD ต้องใช้กำลังทหารประมาณ 100 นาย ในการควบคุม สำหรับการปฏิบัติการ โดยระบบจะประกอบด้วยเครื่องยิงที่ติดตั้งบนรถบรรทุกได้ 6 เครื่อง ที่จะมีเครื่องสกัดกั้น 8 ชุดในแต่ละเครื่องยิง และเรดาร์ศักยภาพสูงอีก 1 ตัว 

ด้าน อับบาส อารัคชี รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่าน ได้โพสต์ผ่าน X ว่า สหรัฐฯกำลังทำให้ชีวิตกองทหารของตนอยู่ในความเสี่ยงหากคิดจะส่งพวกเขาไปสนับสนุนกองทัพอิสราเอล ในขณะที่อิหร่านพยายามที่จะควบคุมสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในภูมิภาคตะวันออกกลาง และพร้อมปกป้องประชาชน และ ผลประโยชน์ของอิหร่านเช่นกัน 

ด้านนักวิเคราะห์บอกว่า อิหร่านก็พยายามหลีกเลี่ยงการทำสงครามโดยตรงกับสหรัฐฯ แต่หากรัฐบาลสหรัฐฯ ตัดสินใจส่งกองทหารอเมริกันเข้ามาสนับสนุนอิสราเอลอย่างเต็มตัว ก็จะเป็นตัวแปรสำคัญในสถานการณ์ความรุนแรงในตะวันออกกลางที่อิหร่านต้องปรับแผนรับมือใหม่อีกครั้ง 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top