Wednesday, 7 May 2025
หิมาลัย

‘ดร.หิมาลัย’ เบิกเนตร ‘กษัตริย์ไทย’ สละเลือดป้องแผ่นดินแต่ครั้งอดีต ซัดพวกบิดเบือนควรศึกษาประวัติศาสตร์ ก่อนพล่ามทำแตกแยก

จากกรณีที่มีนักการเมืองหญิงท่านหนึ่ง ได้เกิดการโต้เถียงกับชาวบ้าน เรื่องมาตรา 112 พร้อมระบุว่า พระมหากษัตริย์ไม่เคยออกรบเสียชีวิต มีแต่ไพร่ที่ตายในสนามรบ 

ต่อเรื่องดังกล่าว ดร.หิมาลัย ผิวพรรณ ผู้ประสานงานพรรครวมไทยสร้างชาติ ในฐานะที่อดีตเคยเป็นทหาร รู้สึกไม่สบายใจและไม่เห็นด้วยกับความเห็นของนักการเมืองคนดังกล่าว โดยให้ความเห็นว่า การที่มีนักการเมืองคนนั้น พยายามสร้างความแตกแยกทางความคิด ด้วยการแยกเจ้าแยกไพร่ เป็นเรื่องไม่ถูกต้อง เพราะแท้จริงแล้ว ในประวัติศาสตร์ก็ได้บันทึกไว้ ว่า สถาบันพระมหากษัตริย์ คือ ศูนย์รวมจิตใจของประชาชนคนไทยมาแต่ครั้งอดีต

ในอดีตครั้งโบราณนั้น พระมหากษัตริย์ไทยแทบทุกพระองค์ ต่างเป็นผู้นำทัพ ในการพาประชาชนออกปกป้องบ้านเมือง เป็นศูนย์รวมจิตใจของกองทัพ รวมทั้งทรงออกรบ เคียงบ่าเคียงไหล่ร่วมกับไพร่ฟ้าประชาชนด้วยพระองค์เองในยามศึกสงครามมิได้ขาด

แม้แต่ประเทศในยุโรป ไม่ว่าจะเป็นอังกฤษ หรือฝรั่งเศส ที่นักการเมืองคนดังกล่าวยกย่องนักหนา ก็มีพระมหากษัตริย์ เป็นผู้นำ มีเจ้ามีไพร่เช่นเดียวกัน โดยพระมหากษัตริย์ของทุกประเทศ เป็นชนชั้นปกครอง นั่นหมายถึง การปกครองทรัพย์สิน บ้านเมือง และชีวิตประชาชน ให้มีความปลอดภัย อยู่ดีกินดี อีกทั้งสถาบันพระมหากษัตริย์และประชาชนล้วนต้องพึ่งพาอาศัยกัน เพื่อให้ประเทศอยู่ได้ หากไม่มีกษัตริย์เป็นผู้นำออกรบ ประชาชนก็จะถูกกวาดต้อนไปเป็นเชลย และหากไม่มีประชาชนร่วมปกป้อง ประเทศและสถาบันพระมหากษัตริย์ก็ไม่สามารถดำรงอยู่ได้เช่นกัน 

ดร.หิมาลัย กล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องที่นักการเมืองพยายามด้อยค่าสถาบันพระมหากษัตริย์ว่า ไม่เคยทำอะไรให้บ้านเมือง มีแต่ไพร่ที่ออกรบและตายแทนในสนามรบ และยังบอกด้วยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ซึ่งเป็นกษัตริย์นักรบของไทย ที่ช่วยกอบกู้เอกราชจากพม่า ก็ไม่ได้สวรรคตในสนามรบนั้น ตนไม่แน่ใจว่า คนที่พูดไม่เคยศึกษาประวัติศาสตร์หรือรู้และเข้าใจดี แต่พยายามพูดบิดเบือนสร้างเรื่องแบ่งแยกชนชั้น เพื่อสร้างความแตกแยกกันแน่ เพราะตามประวัติศาสตร์ที่บันทึกไว้ ระบุว่า สมเด็จพระนเรศวร เสด็จสวรรคตในกระโจมหลวงหน้าเมืองตองอู ระหว่างที่พระองค์ทรงกรีฑาทัพไปทำศึกสงคราม 

ดังนั้น การที่นักการเมืองคนดังกล่าว ได้แสดงความเห็นออกมานั้น เป็นการพูดแบบไม่สนใจหลักฐานทางประวัติศาสตร์เลย 

ในประวัติศาสตร์ ยังพบว่า มีกษัตริย์ที่เสียชีวิตจากการออกรบเคียงบ่าเคียงไหล่กับทหาร เช่น สมเด็จพระศรีสุริโยทัยอัครมเหสีในสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ ที่สวรรคตจากการทำยุทธหัตถี (การสู้รบบนหลังช้าง) กับแม่ทัพพม่า ในงานราชการศึกป้องกันประเทศร่วมกับสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ จนสิ้นพระชนม์บนหลังช้าง 

นอกจากนี้ ยังมีวีรสตรี อีกหลายท่าน เช่น ท้าวสุรนารี (ย่าโม) ภรรยาพระยาสุริยเดช เจ้าเมืองนครราชสีมา ท้าวเทพกษัตรีท้าวศรีสุนทร ซึ่งแต่ละท่านต่างใช้เลือดเนื้อและชีวิต เพื่อปกป้องประเทศชาติร่วมกับทหารและประชาชนของพระองค์ ไม่มีแยกเจ้าไพร่นายบ่าว การด้อยค่าวีรบุรุษของชาติเพื่อชัยชนะทางการเมืองเป็นเรื่องไม่สมควรยิ่ง

ดร.หิมาลัย กล่าวด้วยว่า หากนักการเมืองคนนั้นไม่มีเวลาศึกษาประวัติศาสตร์ ตนอยากแนะนำให้ไปที่อุทยานราชภักดิ์ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งพระบรมราชานุสาวรีย์ของพระมหากษัตริย์ไทยในอดีต 7 พระองค์ ที่ทรงมีพระคุณอันยิ่งใหญ่ต่อประชาชนมาอย่างยาวนาน ประกอบด้วย...

‘ดร.หิมาลัย’ ย้ำชัด รทสช. ทำการเมืองตามอุดมการณ์  ใช้งบตามกรอบกม. ไร้งบหนุนผู้สมัครฯ ที่จะมาขอเพิ่ม 

‘ดร.หิมาลัย’ ย้ำชัด ‘พรรครวมไทยสร้างชาติ’ ทำการเมืองตามอุดมการณ์ พร้อมยึดมั่นในหลักการ “ปกป้องสถาบัน รับใช้ชาติและประชาชน” ด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต และใช้งบประมาณตามกรอบกฎหมาย หลังมีผู้สมัคร ส.ส.ของพรรค ออกมาเรียกร้องให้ดูแลเรื่องค่าใช้จ่าย

(9 พ.ค. 66) ดร.หิมาลัย ผิวพรรณ ผู้ประสานงานพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวถึงกรณีที่มีผู้สมัคร ส.ส.พรรครวมไทยสร้างชาติ ภาคอีสาน ออกมาเรียกร้องให้พรรคดูแลเรื่องค่าใช้จ่ายในการหาเสียง ว่า วันนี้ตนในฐานะผู้ประสานงานพรรครวมไทยสร้างชาติ ได้รับมอบหมายให้มารับฟังข้อเรียกร้องของพวกท่าน เพื่อนำไปเรียนผู้ใหญ่ของพรรค ว่าพรรคมีข้อผิดพลาดอย่างไรในการดำเนินงาน ตามอุดมการณ์ของพรรค และมีนโยบายเรื่องใดที่จะต้องนำไปแก้ไข

แต่อย่างไรก็ตาม ขอย้ำว่า พรรครวมไทยสร้างชาติ เป็นพรรคเพื่ออุดมการณ์ทางการเมือง ซึ่งไม่ได้มีทุนทรัพย์มาก เงินบริจาคที่ได้รับมา จึงต้องใช้ในการทำกิจกรรมทางการเมืองของพรรคอย่างประหยัดและระมัดระวัง อีกทั้ง พรรคไม่สนับสนุนการซื้อสิทธิขายเสียง ด้วยเป้าหมายต้องการทำการเมืองอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรม กระทำการหาเสียงด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ตามกติกาของ กกต. และรัฐธรรมนูญ ซึ่งการดำเนินงานตามนี้ ไม่จำเป็นจะต้องใช้งบประมาณจำนวนมากแต่อย่างใด

อีกทั้ง พรรคการเมืองเป็นที่รวบรวมคนที่มีอุดมการณ์ทางการเมืองเหมือนกัน ไม่ใช้สถาบันทางการเงิน เพื่อสนับสนุนการลงทุนให้ผู้สมัคร ผู้ที่เสนอตัวเพื่อมารับใช้แบ่งเบาภาระของพ่อแม่พี่น้อง จึงควรเป็นผู้ที่มีความพร้อมในทุกๆ ด้าน เพื่อไม่เป็นภาระแก่ผู้ใด ส่วนเรื่องงบประมาณ ท่านก็ควรจะทราบว่าท่านมีงบประมาณอยู่เท่าไร ซึ่งต้องเป็นไปตามกฎกติกาของ กกต. ก็ควรจะบริหารให้อยู่ในกรอบที่ตัวเองรับได้ และไม่เดือดร้อน

มิ้นท์ I Roam Alone ประสบอุบัติเหตุร้ายแรง ขณะขี่ม้าท่องเที่ยวในประเทศเนปาล เผย!! อยากกลับไปเที่ยวที่ ‘เทือกเขาหิมาลัย’ อีก แต่ไม่ขอขี่ม้าอีกแล้ว

(5 พ.ค. 68) ทำเอาแฟนคลับใจหายใจคว่ำอีกครั้ง เมื่อนักเดินทางสาวชาวไทยชื่อดัง อย่าง "มิ้นท์ I Roam Alone" ประสบอุบัติเหตุร้ายแรงขณะขี่ม้าท่องเที่ยวในประเทศเนปาล แต่กลับรอดชีวิตมาได้อย่างน่าเหลือเชื่อ พร้อมบาดแผลเพียงเล็กน้อย

เหตุการณ์ระทึกขวัญเกิดขึ้นหลังจากมิ้นท์ขึ้นขี่ม้าได้เพียงไม่นาน ม้าเกิดอาการตื่นตกใจและสะบัดอย่างรุนแรง จนมิ้นท์พลัดตกลงจากหลังม้า เท้าซ้ายของเธอติดอยู่กับที่พักเท้า ทำให้ถูกม้าลากไปกับพื้นขรุขระและเต็มไปด้วยหิน เป็นระยะทางยาวนาน ท่ามกลางความตกใจของผู้ที่เห็นเหตุการณ์ ซึ่งต่างคิดว่าเธอคงไม่รอดชีวิต หรือหากรอดก็คงบาดเจ็บสาหัส

โดย มินท์ ได้โพสต์เล่าเหตุการณ์ระทึก หลังประสบอุบัติเหตุที่เนปาล โดยระบุข้อความว่า …

มิ้นท์ประสบอุบัติเหตุรุนแรงที่เนปาลค่ะ

คนที่เห็นเหตุการณ์ไม่มีใครคิดว่าจะมีชีวิตรอดมาได้ หรือถ้ารอดมาก็ไม่น่าจะเป็นเหมือนเดิม สิ่งที่เกิดขึ้นเร็วมากเลยล่ะ หลังจากขึ้นม้าไปได้ไม่ถึง 2 นาที เพิ่งจะลูบขนม้าเบาๆบอกกับม้าว่า ‘เป็นเด็กดีนะลูก’ ผ่านไปแป๊บเดียวก่อนเข้าทางเดินเล็กๆเลียบผา เจ้าม้าก็ตัดสินใจกระโดดเตะเข้าหน้าเจ้าของ (คนจูง) แล้วก็เตะซ้ำอีกทีที่สะโพกจนเจ้าของล้มลง เขาเลยปล่อยเชือกจูงม้าที่มิ้นท์อยู่บนหลังไป

ม้าที่ตื่นตกใจก็วิ่งๆกระโดดๆไปจนมิ้นท์ตกลงมา แต่ด้วยความที่เรารักสัตว์มาก(มั้ง) เท้าซ้ายเลยตัดสินใจรั้งม้าไว้ติดอยู่กับที่พักเท้าไม่หลุดออกมาด้วย ในขณะที่ม้าพยายามจะไป จะพยายามจะสะบัด สุดท้ายมิ้นท์เลยโดนลากไปกับม้า ตัวฟาดไปฟาดมากับพื้นอยู่นาน ข้างซ้ายหิน ขวาก็หินและเป็นเหวลงไปด้วย คนเห็นร้องไอ้หยา! คิดว่าตายแน่ๆ ดูยังไงก็ไม่รอด มิ้นท์ใช้สติเป็นเครื่องมือ คว้าหางม้าหรือขนก้นม้าไว้ซักอย่าง เกร็งตัวขึ้นมาแล้วเอาขาซ้ายออกมาได้สำเร็จ! แต่ผลก็คือแผ่นหลังสะบักสะบอม ฝุ่นตลบไม่รู้ว่าช้ำในอะไรตรงไหน

ส่วนใบหน้าปลอดภัยเหมือนอยู่คนละเหตุการณ์กัน ไม่มีริ้วรอยใดนอกจากตีนกาเลย

ความควายยังไม่ทันหาย ความกระทิงก็เข้า ประกันภัยพิเศษที่ซื้อมาสำหรับการอพยพโดยเฮลิคอปเตอร์โดยเฉพาะ (ไม่ใช่ของไทยนะคะ) เลือกรอเฮลิคอปเตอร์ที่ ‘ไกลที่สุด’ ของตัวเอง ทำให้กู้ภัยแทบจะกลายเป็นกู้ร่าง กว่าจะถึงหลังคาโรงพยาบาลก็ผ่านไปแล้ว 10 ชั่วโมง 
ไว้จะมาเล่าให้ฟังละเอียดอีกครั้งเพื่อคนอื่นจะได้ไม่เจอเหมือนกันเนอะ

ถึงจะรอเฮลิคอปเตอร์กู้ภัยนานมาก แต่ดวงแข็งเป็นทุนเดิม (จนคิดอยากจะทำของขลังให้คนบูชารุ่น ‘ดีนะที่ไม่ตาย’) ประกอบกับแม่บอกว่า ‘หมอดูบอกว่าแกอายุยืน’ ก็เลยรอดกลับมารักษาตัวที่ไทยได้ 

ทุกคนบอกว่านี่คือปาฏิหาริย์แม้แต่คุณหมอเอง เพราะจริงๆถ้าก้มดูร่างกายตัวเองแล้ว มิ้นท์รอดจากอุบัติเหตุรุนแรงด้วยบาดแผลที่น้อยที่สุดเท่าที่คนคนนึงจะโชคดีได้

ถึงตอนนี้จะยังมีรอยช้ำนิดหน่อย และปวดกล้ามเนื้ออยู่บ้าง แต่ก็ถือว่าโชคดีมากที่ไม่ตายจริงๆ ไว้จะมาคอยอัพเดทเนอะ

อยากกลับไปอีกอาณาจักรที่แสนพิเศษกลางเทือกเขาหิมาลัยแห่งนี้อีก แต่รอบหน้าไม่ม้าแล้ว ฮี่ๆๆๆๆ


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top