Tuesday, 22 April 2025
หมอเหรียญทอง

‘หมอเหรียญทอง’ ประกาศเลิกหนุน พปชร. ชี้ รับไม่ได้ให้ท้ายนักโทษคดีทุจริต 

'หมอเหรียญทอง' บอกรับไม่ได้พฤติกรรมลดโทษคดีทุจริต ประกาศเลิกสนับสนุนพรรคพลังประชารัฐแล้วแม้ยังเคารพพี่ป้อม ประกาศสนับสนุนพรรคไทยภักดีแม้เลือกตั้งแพ้แต่สมศักดิ์ศรี

13 ม.ค. 65 - พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่าปัญหาการอภัยโทษให้นักโทษทุจริตประพฤติมิชอบซึ่งเป็นการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรอันเป็นกฎหมายสูงสุดย่อมกระทำไม่ได้นั้น แต่กลับไม่มีพรรคการเมืองใดในสภา ทั้งพรรคฝ่ายรัฐบาลและพรรคฝ่ายค้านต่อต้าน ทั้งๆ ที่เป็นผลงานในความรับผิดชอบของกระทรวงยุติธรรมที่นักการเมืองจากพรรคพลังประชารัฐเป็นรัฐมนตรี จึงเป็นที่ประจักษ์ชัดว่าพรรคการเมืองในสภาไม่จริงจัง ไม่ใส่ใจในการขจัดปัญหาทุจริตประพฤติมิชอบ แต่กลับอำนวยประโยชน์ช่วยเหลือนักโทษคดีทุจริตประพฤติมิชอบให้ได้รับการอภัยโทษ ลดโทษอย่างมหาศาลโดยกระทรวงยุติธรรมที่เป็นกระทรวงในความรับผิดชอบของพรรคพลังประชารัฐ

ผมต่อต้านอย่างถึงที่สุด ในขณะที่พรรคพลังประชารัฐที่ผมเคยสนับสนุนอย่างสุดกำลังกลับนิ่งเฉยดูดายปล่อยให้เงียบไป เพราะสังคมไทยเป็นสังคมของคนลืมง่าย ดูง่ายๆ แค่การเลือกตั้งซ่อม ส.ส.หลักสี่-จตุจักร ที่เกิดจากอดีตนักโทษฉ้อโกงทรัพย์แอบลักลอบสมัครเป็น ส.ส. จนถูกตรวจสอบได้และส่งฟ้องต่อศาลรัฐธรรมนูญจนต้องเลือกตั้งซ่อมใหม่ พรรคพลังประชารัฐก็ยังคงดูถูกชาวหลักสี่-จตุจักร ด้วยการส่งภริยาของผู้กระทำความผิดลักลอบเป็น ส.ส. มาให้ประชาชนเลือกซ้ำอีก...พูดง่ายๆ ดูถูกชาวหลักสี่-จตุจักรชิบหายเลยนะครับ

ผมเป็นชาวหลักสี่เกือบ 50 ปีแล้ว โดยส่วนตัวแล้ว ผมเคารพรักพี่ป้อมในฐานะที่ท่านเป็นผู้บังคับบัญชาของผมมานานกว่า 35 ปีแล้ว แต่ผมจำใจเลือกพรรคพลังประชารัฐที่อาศัยพี่ป้อมเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อคุ้มหัวให้นักการเมืองเลวๆ อย่างนี้อาศัยต่อไปอีกไม่ได้แล้ว...ผมทราบดีว่าพี่ป้อมเป็นคนมีเมตตาสูง แต่จะให้ผมน้อมรับไอ้อีพวกรอบข้างอาศัยพี่ด้วยนั้น ผมไม่เอาด้วยครับ

'หมอเหรียญทอง' ปิดตำนาน รพ.สนามพลังแผ่นดิน ย้ำ จะไม่ลืมตำนานความประทับใจนี้ชั่วชีวิต

ผมจะไม่มีวันลืมตำนาน รพ.สนามพลังแผ่นดิน…ตำนานแห่งความประทับใจของผมชั่วชีวิต ถึงแม้ทุกวันนี้ผมยังคงต้องขึ้นโรงขึ้นศาลกับไอ้กุ๊ยหลักสี่อีกนานก็ตาม

พลตรี เหรียญทอง แน่นหนา ผอ.รพ.สนามพลังแผ่นดิน โพสต์เฟซบุ๊กว่า ปิดตำนาน รพ.สนามพลังแผ่นดิน …หน่วยปฏิบัติการสงครามชีวภาพสู้ภัยโควิดพิทักษ์รักษาพสกนิกรใต้ร่มพระบารมี

เราใช้เวลา 12 วันรวมพลังแผ่นดิน จิตอาสาประชาชนทุกหมู่เหล่าร่วมแรง ร่วมกาย ร่วมใจ ทั้งบริจาคทรัพย์สิน จนก่อตั้ง ‘รพ.สนามพลังแผ่นดิน’ จนสำเร็จ

ถึงแม้ว่าจะเป็น รพ.สนามที่ถูกอันธพาล ‘กุ๊ยหลักสี่’ ระราน แต่เราก็สามารถเปิด รพ.สนามพลังแผ่นดินที่สามารถรักษาชีวิตผู้ป่วยโควิดอาการหนัก(จัดชั้นสีแดงและสีเหลือง) จำนวนมากหลายหมื่นรายในสถานการณ์ผู้ป่วยจำนวนมากที่ประสบปัญหาไม่มี รพ.สามารถรองรับผู้ป่วยโควิดอาการหนักจำนวนมาก ๆ ได้

ตัวผมเองยังต้องขึ้นศาลหลายคดีทั้งในฐานะโจทก์ และฐานะจำเลยตราบจนปัจจุบัน แต่ผมภูมิใจมากที่ได้ใช้ประสบการณ์ทหารหมอ ประสบการณ์เสนาธิการฝ่ายยุทธการ ริเริ่มจัดตั้ง ‘รพ.สนาม ระดับ 3’ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดที่ไม่ใช่เพียงแค่ ไอ ซี ยู สนามที่สามารถรับผู้ป่วยโควิดอาการหนักจำนวนมาก แต่ยังมีขีดความสามารถเฉพาะทางอื่น ๆ สำหรับผู้ป่วยโควิดอีกด้วย

'หมอเหรียญทอง' เปิดวิธีการตบทรัพย์ 'เกรียนคีย์บอร์ด' อย่างถูกต้องตามกฎหมาย หารายได้พิเศษแบบ ‘งานอดิเรกลาภ’

4 ก.ย.2565 – พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กว่า

“การตบทรัพย์พวกเกรียนคีย์บอร์ดอย่างถูกต้องตามกฎหมาย” คือ ‘งานอดิเรกลาภ’ สำหรับผู้ที่มีความประสงค์ต้องการหารายได้จากผู้แชร์เฟคนิวส์หรือหมิ่นประมาท พลตรี เหรียญทอง แน่นหนา มีขั้นตอนและวิธีการปฏิบัติดังนี้

1] ขอให้ท่านเลือกเฉพาะคนที่ปรากฎชื่อ-นามสกุล มีตัวตนชัดเจน พวกอวตารอย่าไปเสียเวลา

2] จากนั้นดูโปรไฟล์ หากเป็นคนที่มีการงาน มีการศึกษา มีอนาคต คนกลุ่มนี้จะสามารถจ่ายเงินเจรจายอมความ ยิ่งถ้ามีวิชาชีพ มีตำแหน่งหน้าที่ราชการ หรือเป็นเจ้าของกิจการด้วยแล้ว ยิ่งดี เพราะจะเจรจายอมความด้วยเงินจำนวนมาก ทีมงานของผมเคยกดหมอ 2 คนจนได้รับเงินเจรจายอมความมากถึง 50,000 บาทต่อคน จากกรณีแพทย์หมิ่นประมาทผม

3] เมื่อดำเนินการตามข้อ 1] และ 2] แล้ว ผมขอให้ท่านไปศึกษาข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความผิด พ.ร.บ.คอมฯ ว่าบุคคลที่ท่านจะดำเนินการนั้นเข้าข่ายมาตราใดเสียก่อน จากนั้นค่อยดูต่อว่าเข้าข่ายหมิ่นประมาทอีกหรือไม่ หากเข้าข่ายแค่ พ.ร.บ.คอมฯ จากแชร์เฟคนิวส์ ก็ดำเนินการแค่นั้น (แค่นี้ก็หนักหนาต้องติดคุกแล้ว) การที่ผมขอให้ท่านศึกษาข้อกฎหมายจะทำให้ท่านมีความเข้าใจเป็นพื้นฐาน ท่านสามารถศึกษาได้จากกูเกิ้ล ไม่ต้องถึงกับเรียนนิติศาสตร์กันจนจบหรอกครับ หากินง่ายๆอย่างนี้แหละ ลูกน้องผมคนหนึ่งเลิกรับจ้างทวงหนี้ เปลี่ยนมาหารายได้พิเศษจากการไล่ล่าอย่างนี้ดีกว่า ทั้งยังถูกต้องตามกฎหมายด้วย

4] เมื่อชัดเจนตามข้อ 1] 2] และ 3] แล้วให้ติดต่อ 02-574-5000 ต่อ 8800 สนง.ผอ.รพ.มงกุฎวัฒนะ

5] ทีมงานของผมจะตรวจสอบความสมบูรณ์ถูกต้องแล้วจะแจ้งให้ทราบภายใน 7 วัน

6] หากตรวจสอบแล้วอยู่ในหลักเกณฑ์แจ้งความดำเนินคดีได้ ทีมงานของผมจะส่ง’หนังสือมอบอำนาจ’ ไปให้ท่านทางไปรษณีย์ โดยทีมงานของผมจะระบุวิธีการปฏิบัติ เช่น ให้ใช้การแจ้งความกับ ตร.ที่ สน. หรือหากท่านเป็นทนายความเองก็ให้ฟ้องศาล เป็นต้น ทั้งนี้ทีมงานของผมจะระบุรายละเอียดอื่นๆให้ท่านสามารถปฏิบัติได้

7] เมื่อท่านได้รับ’หนังสือมอบอำนาจ’ จากผมแล้ว ท่านก็ดำเนินการตามข้อ 6]

8] เมื่อตำรวจมีหมายถึงผู้ต้องหาแล้ว หากผู้ต้องหาไม่ไกล่เกลี่ย ก็จะส่งอัยการ ดังนั้นการไกล่เกลี่ยในขั้นตอนนี้ ท่านสามารถรับการเจรจายอมความ อัตราเงินที่ส่วนใหญ่จะยอมไม่ต่ำกว่า 5,000-6,000 บาท หากเลยชั้นตำรวจไปยังอัยการกอัตราเงินยอมความก็จะสูงขึ้น 7,000-8,000 บาท และเมื่อส่งตัวฟ้องศาล ซึ่งผู้ต้องหาหรือ/จำเลยจะต้องประกันตัวโดยใช้เงินมากถึง 10,000 บาท เมื่อถึงขั้นตอนนี้จำเลยก็มักจะยอมจ่ายเงิน 8,000-9,000 บาท เพื่อยอมความ เพราะดีกว่าต้องเสียเงินประกันตัวศาล 10,000 บาทแถมยังต้องจ้างทนายความสู้คดีในชั้นศาลอีก ยังไม่นับรวมหากศาลพิพากษาจำคุกก็ยิ่งลากยาวไปอีกนาน

9] เงินที่ผู้ต้องหาหรือจำเลยเจรจายอมความ ให้ท่านรับไปทั้งหมด ไม่ต้องเสียภาษีเงินได้ประจำปี

10] ในกรณีที่ท่านเป็นทนายความและต้องการฟ้องตรง ก็ขอให้ดำเนินการตามข้อ 2] ให้เลือกรายที่มีฐานะดีๆ ท่านจะได้ลาภลอยครับ

‘หมอเหรียญทอง’ แจงเหตุตบหน้าเด็ก 14 สูบบุหรี่ในห้องน้ำ รพ. ลั่น!! รพ.เป็นเขตปลอดบุหรี่ - ไม่มีสิทธิละเมิดสิทธิผู้อื่น

(14 พ.ค. 67) มารดา ของชายอายุ 14 ปีรายหนึ่ง ได้เดินทางไปแจ้งความว่า ลูกชายถูกทำร้ายร่างกายที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ย่านแจ้งวัฒนะ

โดยเธอเล่าว่า ระหว่างที่​ลูกชายได้เดินทางไปเฝ้าภรรยาที่รอคลอด ​ระหว่างนั้นได้เข้าไปสูบบุหรี่ในห้องน้ำชั้น 12 ของโรงพยาบาล เมื่อสูบบุหรี่เสร็จออกมาจากห้องน้ำ พบว่าเจ้าหน้าที่ของ รพ.ที่เป็นผู้ชาย ได้ยืนถ่ายภาพ และนำตัว ด.ช.วัย 14 ลงมาบริเวณหน้าห้องฉุกเฉิน และโทรหาให้ผู้ปกครองมาเสียค่าปรับ เป็นจำนวนเงิน 5,000 บาท

จากนั้นเมื่อ ด.ช.โทรหาผู้ปกครอง เจ้าหน้าที่ได้นำโทรศัพท์ไปคุยต่อโดยไม่ได้ส่งคืน และให้ ด.ช.นั่งรอหน้าห้องฉุกเฉิน เวลาต่อมาได้มีชายเดินมาทำร้ายร่างกาย ด.ช. ได้รับบาดเจ็บ จากนั้นบังคับให้ถอดเสื้อผ้าออกให้หมด และเดินออกจาก รพ.ไป เมื่อ ด.ช.เดินออกจาก รพ. จึงยืมโทรศัพท์บุคคลที่อยู่บริเวณนั้น โทรหาญาติให้มารับ และแจ้งความเพื่อดำเนินคดีต่อไป

ทั้งนี้ ผู้เสียหายได้ระบุว่า ชายไทยสูงวัย ใส่เสื้อยืดคอกลมสีขาว กางเกงขาสั้น เดินเข้ามาทางประตูหน้าตรงห้องฉุกเฉิน เดินตรงเข้ามาที่ ด.ช.วัย 14 จากนั้นชายคนดังกล่าวได้ถามว่า “มึงสูบบุหรี่ในนี้ได้ไง” หลังจากสิ้นคำถาม ชายคนดังกล่าวก็ตบมาที่บริเวณใบหน้า​ 1 ครั้ง

จากนั้นชายคนดังกล่าวก็ตบที่บริเวณใบหน้าอีก 3 ครั้ง แม้ว่าจะพยายามขอโทษ และร้องไห้ออกมา ก่อนที่จะถูกตะคอกใส่ว่า จะร้องทำไม ​โดยพบว่าได้รับบาดเจ็บบริเวณคิ้วข้างซ้ายเป็นรอยช้ำแดง

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ ได้โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า..

ได้โปรดแชร์ให้ทราบข้อเท็จจริงทั่วกันว่าเมื่อดึกคืนวันที่ 13 พ.ค.67 มีไอ้วัยรุ่นกุ๊ยมาสูบบุหรี่ในห้องสุขา แผนกผู้ป่วยนอก หรือ โอ พี ดี ชั้น 1 อาคาร 3 ซึ่งเป็นอาคารใหม่ส่งกลิ่นควันบุหรี่เข้าสู่ระบบปรับอากาศคละคลุ้งทั่วพื้นที่พักคอยสำหรับผู้ป่วย โอ พี ดี ที่รอรับการตรวจ

ทั้ง ๆ ที่ รพ.มงกุฎวัฒนะก็ประกาศจัดการผู้ฝ่าฝืนสูบบุหรี่อย่างเด็ดขาดรุนแรง แต่ไอ้กุ๊ยตัวนี้ก็ยังท้าทายลองดี ทั้ง ๆ ที่ภริยาของมันได้เข้ารับการรักษาตัวใน รพ.มงกุฎวัฒนะ ด้วยสาเหตุทารกในครรภ์ไม่ดิ้น จนอาการดีขึ้นโดยไม่ต้องเสียเงินค่ารักษา

แต่ไอ้กุ๊ยตัวนี้กลับตอบแทน รพ.มงกุฎวัฒนะด้วยการท้าทายสูบบุหรี่ ณ โอ พี ดี รพ.มงกุฎวัฒนะ อาคาร 3 ชั้น 1 ส่งความรำคาญแก่ผู้ป่วยที่มารอตรวจได้สูดควันบุหรี่ที่เป็นสารก่อมะเร็งปอดกันถ้วนหน้า

ผมจัดการไอ้กุ๊ยรายนี้อย่างดุเดือดรุนแรงตามที่ผมประกาศไว้ตามเสียงตามสายของ รพ.มงกุฎวัฒนะทุก ๆ 2 ชั่วโมง เมื่อไอ้กุ๊ยละเมิดสิทธิผู้ป่วยรายอื่น ๆ สร้างความสุ่มเสี่ยงต่ออัคคีภัยใน รพ.ที่มีผู้ป่วยนอนจำนวนมาก สุ่มเสี่ยงต่อโศกนาฏกรรมแล้ว ทั้งเคยเกิดเหตุอัคคีภัย ณ รพ.มงกุฎวัฒนะ จากการสูบบุหรี่ในพื้นที่ของ รพ.มาแล้วถึง 2 ครั้ง ในปี พ.ศ. 2558 และ 2564

ดังนั้นผมจึงจัดการไอ้กุ๊ยรายนี้ด้วยตนเองด้วยการตบหน้าสั่งสอน ยึดโทรศัพท์มือถือ แล้วสั่งให้แก้ผ้าล่อนจ้อน ไล่ออกจากพื้นที่ รพ.มงกุฎวัฒนะ ไอ้กุ๊ยตัวนี้ยังยกพวกแก๊งมอเตอร์ไซค์มาข่มขู่หน้าทางเข้า รพ.มงกุฎวัฒนะ 6-7 คันเสียด้วย

แต่ขอบอกตามตรงว่ารู้สึกเฉย ๆ ก็ลองแหยมเข้ามาท้าตีท้าต่อยก็จะโต้ตอบรุนแรงกลับไป แถมยังให้ข่าวว่าถูกผมตบคิ้วแตกเสียด้วย โกหกสิ้นดี 

ผมขอเรียนว่าผมประกาศต่อสาธารณะมาเสมอว่าเราไม่ง้อ ไม่สนผู้ใช้บริการที่เป็นกุ๊ยอันธพาลเกเร คิดจะฝ่าฝืนสูบบุหรี่ เกเร อวดเบ่งบุคลากรทางการแพทย์ กระทำอะไรตามอำเภอใจ ก็ขอเชิญไป รพ.อื่นก็แล้วกัน

แต่สำหรับ รพ.มงกุฎวัฒนะแล้วจะมีผู้ใช้บริการที่รู้กฎระเบียบสังคมมาใช้บริการอย่างสบายใจ ผมไม่สนหรอกครับว่าเป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุหรือไม่ ผมกลับเห็นว่าสมควรแก่เหตุเสียด้วยซ้ำ 

ควันบุหรี่เป็นสารก่อมะเร็งแก่ผู้ใช้บริการรายอื่น ๆ โดยที่เขาไม่สมควรได้รับ ดังนั้นความเด็ดขาดในการปกป้อง รพ.ทุกแห่งในโลกให้เป็นเขตปลอดบุหรี่จึงต้องเด็ดขาดเพื่อมิให้เป็นเยี่ยงอย่าง

สาธารณชนจะตัดสินใจแยกแยะได้ว่าเมื่อเขาเจ็บไข้ได้ป่วยแล้ว เขาจะมา รพ.มงกุฎวัฒนะได้อย่างปลอดภัยจากบุหรี่ รวมถึงปลอดกุ๊ยอันธพาลเกเรด้วย

จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบข้อเท็จจริงทั่วกันครับ คนโลกสวยเห็นว่าเกินแก่เหตุไม่สมควรใช้บริการ รพ.มงกุฎวัฒนะครับ

พลตรี เหรียญทอง แน่นหนา
ผอ.รพ.มงกุฎวัฒนะ
14 พ.ค. 67 เวลา 12.58 น.

'หมอเหรียญทอง' บอก!! พรรคล้มล้างการปกครองวางแผนหวังเด็ดหัว เตรียมสร้างภาพจับกุม ชะลอประกันตัว แล้วก่อเหตุการณ์สังหารตน

(16 พ.ค.67) พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า ทีมข่าวแจ้งให้ผมทราบว่าขบวนการล้มล้างการปกครองโดยนักการเมืองต้องการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ทุ่งสองห้อง ออกหมายจับผมโดยไม่ต้องออกหมายเรียก พูดง่าย ๆ ว่าตำรวจจับผมเลย ไม่ต้องออกหมายเรียกผมก่อน เพราะต้องการภาพการจับกุมผมเข้าคุกให้เกิดความสะใจแล้วชะลอการประกันตัว หลังจากเข้าคุกในสถานีตำรวจแล้วจะเกิดเหตุการณ์สังหารผม เช่น ผมฆ่าตัวตายเอง ด้วยสมมุติฐานว่าผมอับอายเสียใจต่อกรณีที่เกิดขึ้น มีกระบวนการคิดและวางแผนกันอย่างเป็นระบบเชียวนะครับ เพราะนี่คือโอกาสจัดการผมที่ขบวนการล้มล้างการปกครองเชื่อว่าผมคือผู้นำประชาชนปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์

ผมขอเรียนให้ทราบว่าคนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ทุ่งสองห้องต้องจับกุมในทันทีขณะนี้ คือ ไอ้กุ๊ยขยะสังคม ข้อหาครอบครอง 'เฮโรอีน' หรือสารเสพติดให้โทษต่างหากครับ

เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ทุ่งสองห้อง หรือ สน.ไหน ๆ ก็จับกุมผู้ครอบครองยาเสพติดทันทีกันทั้งนั้น แล้วทำไมไอ้กุ๊ยขยะสังคมตัวนี้จึงได้รับสิทธิพิเศษ ไม่ถูกจับกุมในทันทีล่ะครับ หรือว่าเพราะมี สส.จากพรรคล้มล้างการปกครองสนับสนุนไอ้กุ๊ยขยะสังคม

ส่วนผมนั้นไม่มีพฤติกรรมหลบหนี มีที่อยู่เป็นหลักแหล่งประกอบสัมมาชีพชัดเจน ไม่มีพฤติกรรมหลบหนีใด ๆ ทั้งสิ้น แค่โทรศัพท์มา ผมก็เดินทางไปรับทราบข้อกล่าวหาแล้ว ดังนั้นทำไมจะออกหมายเรียกแจ้งข้อกล่าวหาไม่ได้ล่ะครับ ทั้งยังต้องได้รับการประกันตัวสู้คดีเสียด้วยซ้ำ

ทั้ง ๆ ที่ไอ้กุ๊ยขยะสังคมเป็นผู้รับเองต่อหน้านักข่าวที่ไปทำข่าวที่ สน.ทุ่งสองห้อง ว่า 'เฮโรอีน' ในซองพร้อมอุปกรณ์เสพซึ่งอยู่ในครอบครองนั้นเป็นของมันเอง มันซื้อมาและใช้เสพ มันให้สัมภาษณ์นักข่าวที่ สน.ทุ่งสองห้อง เมื่อเย็นวันที่ 15 พ.ค.67

ผมขอเรียนให้สาธารณชนทราบทั่วกันว่าในทันทีที่แม่ของไอ้กุ๊ยและนักการเมืองจากพรรคล้มล้างการปกครองซึ่งต้องการจัดฉากนำนักข่าวจำนวนมากมาทำข่าวการรับสิ่งของส่วนตัวของไอ้กุ๊ยขยะสังคม

ในทันทีที่ปรากฎว่ามี 'ซองพร้อมผงเฮโรอีน' ที่ไอ้กุ๊ยขยะสังคม เรียกว่า 'ผงแป้ง' ทั้งแม่ และ สส.จากพรรคล้มล้างการปกครอง ล้วนหน้าเสียกันโดยไม่ได้นัดหมาย เพราะนักข่าวถ่ายภาพและคลิป นักข่าวทั้งหมดรู้ดีว่านี่คือ 'ซองบรรจุผงยาเสพติด' พร้อมทั้งอุปกรณ์การเสพยาคล้าย ๆหลอดดูดยาคูลต์ (ขณะนั้นผมยังไม่ทราบเรื่องเพราะกำลังสัมภาษณ์แพทย์เฉพาะทาง)

หลังจากนั้นทั้งแม่และคณะก็พยายามชี้แจงนักข่าวที่ติดตามคณะมาในทำนองว่ามีการยัดข้อหา ยัดยาเสพติดให้แก่ไอ้กุ๊ยขยะสังคม ผมขอเรียนว่าใครก็ตามที่ใส่ความเท็จ ให้ร้ายว่าผมหรือบุคลากรในสังกัด รพ.มงกุฎวัฒนะในทำนองยัดสารเสพติด ยัดข้อหาไอ้กุ๊ยขยะสังคม ก็เตรียมตัวรับหมายศาลกันถ้วนหน้า ผมจัดหนักสุด ๆ ก็แล้วกัน

นับจากวินาทีนี้เป็นต้นไป ผมจะปฏิบัติการตีโต้ตอบแม่ของไอ้กุ๊ยขยะสังคมที่ปล่อยปละละเลยบุตรชายของตนเองออกมาสร้างปัญหาสังคม แม่ของไอ้กุ๊ยสัมภาษณ์กับนักข่าวเองนะครับว่า 'ไอ้กุ๊ย' ไม่ได้อยู่กับแม่ ต่างคนต่างอยู่ นั่นหมายความว่า แม่ทอดทิ้งลูกอายุ 14 ไม่เลี้ยงดู ไม่อบอรมสั่งสอนจนกลายเป็นปัญหาสร้างความเดือดร้อนแก่สังคมเอง

ดังนั้นเมื่อแม่เป็นผู้รับว่าตนเองเป็นผู้มีสิทธิตามกฎหมายในการแจ้งความดำเนินคดีเพื่อให้ผมรับผิดแล้ว ผมซึ่งเป็นผู้เสียหายจากไอ้กุ๊ยขยะสังคมซึ่งเป็นลูกในความรับผิดชอบของแม่ จึงขอดำเนินคดีตามกฎหมายเพื่อให้แม่รับผิดชอบจากการที่แม่ทอดทิ้งลูกอายุ 14 ไม่อบอรมสั่งสอนให้เป็นพลเมืองดีจนสร้างความเดือดร้อนเสียหายแก่ผม , บุคลากร ตลอดจน รพ.มงกุฎวัฒนะด้วยเช่นกัน

นับจากวินาทีนี้เป็นต้นไป ผมจะปฏิบัติการตีโต้ตอบอย่างรุนแรงทางกฎหมายต่อ 'แม่ผู้สร้างปัญหาสังคม'

>> หมายเหตุ

1. ผองเพื่อนพี่น้องที่ยังพร้อมรบกับผม ไม่ว่าจะทหารหรือพลเรือน จงเตรียมตัวไป สน.ทุ่งสองห้อง ในทันทีที่ตำรวจจับกุมผมโดยไม่ออกหมายเรียกล่วงหน้า

2. น้อง ๆ อดีตนักเรียนนายสิบ รุ่น 'เหรียญทอง' ให้ปฏิบัติการข่าว โดยเร่งด่วนในพื้นที่เขตบางซื่อซึ่งเป็นเขตไอ้กุ๊ยขยะสังคม และเขตหลักสี่ ให้มุ่งเป้าไปที่ขบวนการการเมืองพรรคล้มล้างการปกครองและขบวนการค้ายาเสพติดในชุมชนแออัด

‘หมอเหรียญทอง’ ยัน!! ไม่ได้ยัดยาใส่ถุงเสื้อผ้าเด็ก 14 ปี จ่อดำเนินคดีผู้ที่แพร่ข่าว-ใส่ร้าย เหตุทำให้เสียชื่อเสียง

(16 พ.ค.67) จากกรณี นพ.พล.ต.เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ ตบหน้าเด็กอายุ 14 ปี หลังฝ่าฝืนสูบบุหรี่ในโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ และทนายรัชพล พาแม่และเด็กไปวัย 14 ปี เข้าแจ้งความฐานหมิ่นประมาท ด้วยการโฆษณา หลังเรียกเด็กวัย 14 ปี ว่า ‘ไอกุ๊ย’ แล้วนั้น กระทั่งเมื่อวานนี้พบยาเสพติดบรรจุใส่ถุงใส อยู่ในถุงเสื้อผ้าของเด็กวัย 14 ปี จนกลายเป็นกระแสขึ้นมาบางส่วนว่าหมอยัดยาหรือไม่

ล่าสุดวันนี้ นพ.พล.ต.เหรียญทอง กล่าวว่า สำหรับประเด็นที่ประชาชนบางราย ตั้งข้อสงสัยว่าทางโรงพยาบาลยัดยาเสพติดใส่ถุงเสื้อผ้า ของเด็กวัย 14 ปี นั้น ยืนยันไม่ได้ยัดยา ซึ่งส่วนตัว รู้สึกโกรธกับเรื่องดังกล่าวเพราะถือเป็นเรื่องเท็จ เสมือนใส่ร้ายหมิ่นประมาท

ซึ่งจากนี้เตรียมดำเนินคดีกับบุคคลที่เผยแพร่ข่าวและใส่ร้าย เพราะทำให้ชื่อเสียงของโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะและตนเองรวมถึงบุคลากรเสียหาย

ซึ่งต้นตอของเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น ส่วนหนึ่งมีความผิดมาจากการเลี้ยงบุตรดูที่ไม่ถูกวิธี และทอดทิ้งไม่ใส่ใจลูกของแม่เด็ก จนส่งผลทำให้เด็กเยาวชนวัย 14 ปี มาสร้างความเดือดร้อนให้สังคม

อาทิ เรื่องครอบครองยาเสพติด และสูบบุหรี่ในสถานพยาบาล ซึ่งแม่เด็กต้องมีส่วนรับผิดชอบ และยืนยันว่าจากนี้จะเริ่มปฏิบัติการโต้ตอบแม่เด็กอย่างรุนแรง ซึ่งจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ไม่ยอมความ หรือเจรจาไกล่เกลี่ยแน่นอน

ส่วนประเด็นที่ ทนายรัชพล ศิริสาคร จะพาแม่และเด็กไปวัย 14 ปี เข้าแจ้งความฐานหมิ่นประมาท ด้วยการโฆษณา หลังตัวเองเรียกเด็กวัย 14 ปี ว่าไอกุ๊ย นั้นนายแพทย์เหรียญทอง บอกว่า ไม่กังวลใจ และยินดีให้ดำเนินการตามกฎหมาย

โดยสาเหตุที่เรียกเพราะไม่รู้จักชื่อ อีกทั้งความหมายของคำว่า กุ๊ย คือ คนพาล คนไม่รู้กาลเทศะ ซึ่งก็ตรงกับพฤติกรรมของเด็กคนนี้ ส่วนบุคคลที่แสดงความเห็นถึง คำว่า ไอกุ๊ย หรือขยะสังคม ไม่เหมาะสม ส่วนตัวไม่สนใจ

นายแพทย์เหรียญทอง กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับประเด็นที่มีบุคคลอยากให้ตนติดคุก ออกหมายจับ โดยไม่ออกหมายเรียก ส่วนตัวไม่รู้สึกกลัว หากตัวเองทำผิดจริง ก็พร้อมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม

ด้านของ สส.พรรคก้าวไกล ที่มาช่วยแม่เด็กและเยาวชนวัย 14 ปี จะเข้าข่ายโจมตีตัวเองหรือไม่ นั้น ยอมรับ น่าสงสัย หลังพรรคการเมืองนี้ มีอุดมการณ์ต่างจากตัวเอง และส่วนตัวก็ไม่ได้ใส่ใจกับพรรคการเมืองดังกล่าว

ยืนยันไม่ได้กล่าวหา สส.พรรคก้าวไกล อยู่เบื้องหลัง สส.พรรคก้าวไกล อาจต้องการช่วยประชาชน พร้อมเตือนนักการเมืองกลุ่มนี้ว่า ต้องการช่วยสังคมหรือช่วย บุคคลที่เปรียบเสมือนขยะสังคม ให้มีมากขึ้น

ขณะเดียวกัน ช่วงบ่ายที่ผ่านมา กลุ่มเพื่อนนายแพทย์เหรียญทองจำนวนมาก ได้นำดอกไม้ มามอบให้ นายแพทย์เหรียญทอง เพื่อให้กำลังใจ

‘หมอเหรียญทอง’ โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊ก จะลงสมัคร ‘สว.’ ชี้!! มีคนจำนวนมาก อยากให้เป็น เพื่อเข้าไป ‘ปกป้องรัฐธรรมนูญ’

(18 พ.ค. 67) พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กว่า ...

นี่คือคำประกาศของ 'ตาแป๊ะหลักสี่' ทหารหมอผู้ไม่มีวันตายไปจากความจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ผู้ทรงดำรงตำแหน่งจอมทัพไทย ความสั้น ๆ ว่า ‘ผมจะลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น สว.ในปี พ.ศ.2567’

ผมขอเรียนว่าผมไม่เคยมีความคิดที่จะลงสมัครเป็น สว. เพราะการเลือกตั้ง สว. นั้นเป็นระบบที่ผู้สมัคร สว. เลือกกันเอง ดังนั้นจะมีการจัดตั้งผู้สมัคร สว. เพื่อเลือกพวกเดียวกัน หากผมสมัครเป็น สว. ผมก็จะไม่ได้รับการสนับสนุนจากผู้สมัคร สว. ที่มีการจัดตั้งกันมาล่วงหน้าเรียบร้อยแล้ว ผมก็จะสอบตกตั้งแต่การเลือก สว. ในระดับอำเภอ

แต่มีประชาชนจำนวนมากอยากให้ผมเป็น สว. เพื่อเข้าไปทำหน้าที่ปกป้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยเฉพาะมาตรา 112 , การออกพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ และการร่าง พ.ร.บ. ฯลฯ ทั้งทำหน้าที่ลงมติรับรองผู้มาดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และองค์กรอิสระ ได้แก่ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) , ผู้ตรวจการแผ่นดิน , คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) , คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน (คตง.) , ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน , คณะกรรมการสิทธิมนุษยชน (กสม.)

ตลอดจนการมีอำนาจให้ความเห็นชอบผู้ดำรงตำแหน่งสำคัญอื่น ๆ ของรัฐ ตามที่กฎหมายกำหนดไว้ เช่น อัยการสูงสุด , ตุลาการศาลปกครองสูงสุด , เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา , เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินแห่งชาติ (ปปง.)

ในการเลือกตั้ง สว.ที่กำลังจะเกิดขึ้นในไม่กี่วันข้างหน้า ขบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยเฉพาะมาตรา 112 หรือขบวนการสามานย์จึงมีการจัดตั้งผู้สมัคร สว. เพื่อเลือกกันเองให้เข้าสู่ระบบการเลือกตั้ง สว. มีหลายคนกลัวว่าผมจะสมัครเป็น สว. ถึงกับต้องทำอย่างไรก็ได้ให้ผมต้องถูกคุมขังโดยหมายของศาลจากกรณีตบไอ้กุ๊ยส้นตีนที่สูบบุหรี่ใน รพ.มงกุฎวัฒนะ

ผมขอเรียนว่าจากอดีตที่ผมไม่เคยคิดที่จะสมัครรับเลือกตั้งเป็น สว. หรือตำแหน่งในทางการเมืองหรือตำแหน่งใด ๆ แต่สัปดาห์หน้าผมจะไปลาออกจากสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ แล้วมาลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น สว. ถึงแม้จะต้องสอบตก ผมก็ไม่กลัว แต่ถ้าผมได้เป็น สว. ขึ้นมาจริง ๆ สาธารณชนจะได้เห็นสมาชิกวุฒิสภาที่มีความรู้ ความสามารถ ชัดเจน กล้าหาญ เด็ดขาด ยุติธรรม ซื่อสัตย์ และจงรักภักดีในระดับมากที่สุดคนหนึ่งของชาติ

ผมจะใช้ความรู้ความสามารถในการพัฒนาระบบสาธารณสุขเพื่อให้คนในชาติได้รับประโยชน์สูงสุดในทุกๆสถานการณ์ ผมจะใช้ความรู้ความสามารถในการปกป้องรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย โดยเฉพาะมาตรา 112 และจะพัฒนากฎหมายในการปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ให้เข้มแข็งมากยิ่งขึ้นเพื่อปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ซึ่งเป็นความมั่นคงของชาติ

คนอย่างผมไม่เคยกลัวอะไรอยู่แล้ว การสอบตกเป็นเรื่องปกติของผมมาตั้งแต่ยังเป็นนักเรียน แล้วคนอย่างผมจะไปกลัวอะไรกับการสอบตกในการสมัคร สว. กันล่ะครับ

ผมจะลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น สว.ในสัปดาห์หน้า

พลตรี เหรียญทอง แน่นหนา
ผอ.รพ.มงกุฎวัฒนะ
18 พ.ค.67 เวลา 11.49 น.

‘หมอเหรียญทอง’ สละสิทธิ์ จับสลากเข้ารอบไขว้ ‘สว.กทม.’ ชี้!! หลีกทางให้ผู้สมัครที่มีคุณภาพ พร้อมฝากปชช. ตรวจสอบติดตาม

(16 มิ.ย.67) นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ ผู้สมัคร สว.กลุ่ม 4 กลุ่มการสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ภายหลังสละสิทธิ์จับสลากเข้าสู่รอบไขว้ ว่า ตนแสดงจุดยืนตั้งแต่แรกอยู่แล้วว่าต้องการเข้ามาเลือก สว.ในครั้งนี้ เพื่อเลือกคนดีเข้าไปทำหน้าที่ ส่วนตนยอมรับว่าไม่มีความตั้งใจมากพอ ดังนั้นในการเลือกที่ผ่านมา จึงไม่ได้เลือกตัวเอง แต่ในวันนี้มีผู้ที่ลงคะแนนให้ตน จนทำให้มีคะแนนเท่ากับผู้สมัครรายอื่น

“เมื่อดูรายชื่อผู้ผ่านเข้ารอบและผู้ที่ได้คะแนนเท่ากับผม จนต้องจับสลาก ถือว่าเป็นผู้มีคุณภาพ และรู้จักกัน ผมจึงสละสิทธิ์ในการจับสลาก และจากนี้ก็คงไม่ต้องไปจับตากันเลือก สว. ระดับประเทศ แต่เป็นหน้าที่ของประชาชนทุกคน ที่จะต้องตรวจสอบติดตาม” นพ.เหรียญทอง กล่าว

‘โรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ’ ประกาศถอนตัวจาก ‘ประกันสังคม’ ในปีหน้า หลังโดนผู้ประกันตนเจ้าเล่ห์ รักษาที่อื่น แต่ให้รพ.รับผิดชอบกว่า 8 หมื่นบาท

(26 มิ.ย.67) พล.ต.เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ ถนนแจ้งวัฒนะ เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ ออกประกาศ เรื่อง การเตรียมการถอนตัวออกจากการเป็นโรงพยาบาลคู่สัญญากับสำนักงานประกันสังคม ระบุว่า เนื่องจากคณะกรรมการอุทธรณ์ตาม พ.ร.บ.ประกันสังคม พ.ศ. 2533 คําวินิจฉัยที่ 235/2567 ลงวันที่ 29 ก.พ. 2567 ได้แจ้งให้สํานักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่ 9 มีคําสั่งให้ รพ.มงกุฎวัฒนะรับผิดชอบค่ารักษาพยาบาลของผู้ประกันตนรายหนึ่ง จํานวน 80,295.20 บาท ทั้ง ๆ ที่เป็นกรณีผู้ประกันตนตั้งใจไปรับการรักษากับ รพ.นอกสิทธิเอง แต่ผู้ประกันตนกลับร้องเรียนให้ รพ.มงกุฎวัฒนะรับผิดชอบค่ารักษาพยาบาล ซึ่งเป็นการใช้สิทธิของผู้ประกันตนโดยไม่ถูกต้อง

ทั้งนี้ คณะกรรมการอุทธรณ์ฯ ได้พิจารณาอุทธรณ์จากเอกสารและการสอบถามผู้ร้องเรียนเพียงฝ่ายเดียว การฟังความข้างเดียวดังกล่าวทําให้เกิดการวินิจฉัยที่ไม่ถูกต้อง ไม่เป็นธรรมต่อ รพ.มงกุฎวัฒนะ ทั้งยังกล่าวหาว่า รพ.มงกุฎวัฒนะให้การตรวจวินิจฉัยรักษาอาการเจ็บป่วยของผู้ประกันตนไม่เหมาะสมตามมาตรฐานทางการแพทย์ และไม่เป็นไปตามสัญญาให้บริการทางการแพทย์ อีกทั้งยังมีมติบังคับให้ รพ.มงกุฎวัฒนะรับผิดชอบค่ารักษาพยาบาลส่วนเกินนอกเหนือจากการจ่ายค่ารักษาพยาบาลตามระบบ Adjust RW ถึงแม้จะเป็นเงินจํานวนน้อยแค่ 80,295.20 บาทก็ตาม แต่กรณีนี้จะกลายเป็นบรรทัดฐานให้ผู้ประกันตนที่เจ้าเล่ห์ไม่ประสงค์ใช้สิทธิกับ รพ.ตามสิทธิอ้างอิงคําวินิจฉัยที่ 235/2567 ลงวันที่ 29 ก.พ. 2567 เพื่อเป็นบรรทัดฐานในการไปรักษากับ รพ.นอกสิทธิตามอําเภอใจ แล้วร้องเรียนให้ รพ.ตามสิทธิตามจ่ายค่ารักษาพยาบาลโดยไม่ถูกต้อง บรรทัดฐานดังกล่าวจะก่อให้เกิดการพิพาทร้องเรียน รพ. จากกรณีผู้ประกันตนเจ้าเล่ห์ในลักษณะเช่นนี้อีกอย่างต่อเนื่องไม่สิ้นสุด

ดังนั้น ในกลางปีหน้า พ.ศ. 2568 รพ.มงกุฎวัฒนะจะขอถอนตัวออกจากการเป็นคู่สัญญากับสํานักงานประกันสังคม การที่ รพ.มงกุฎวัฒนะประกาศขอถอนตัวแต่เนิ่น ๆ ตั้งแต่บัดนี้ก็เพื่อให้ผู้ประกันตนจํานวนมากกว่า 100,000 คนที่ขึ้นทะเบียนกับ รพ.มงกุฎวัฒนะได้เตรียมการล่วงหน้าเพื่อย้ายสิทธิไปยัง รพ.อื่น ๆ โดยผู้ประกันตนยังสามารถใช้บริการกับ รพ.มงกุฎวัฒนะไปได้อย่างต่อเนื่องไปอีก 18 เดือน จนถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2568 หรือสิ้นปีหน้า อย่างไรก็ตาม รพ.มงกุฎวัฒนะขอแนะนําให้ผู้ประกันตนเริ่มพิจารณา รพ.แห่งใหม่ตั้งแต่บัดนี้ หากท่านสามารถย้ายสิทธิได้แต่เนิ่น ๆ ก็จะทําให้ท่านไม่ประสบปัญหาฉุกละหุกในช่วงกลางปีหน้า พ.ศ. 2568 ไปแล้ว ทั้งนี้ ผู้ประกันตนสามารถติดต่อ ขอรับสรุปประวัติการรักษาของท่านได้ที่แผนกเวชระเบียน (ประกันสังคม) อาคาร 1 ชั้น 6 ได้ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. 67 เป็นต้นไป

'หมอเหรียญทอง' เห็นใจ!! หากถอนจากประกันสังคม กระทบคนนับแสน เสนอ 2 เงื่อนไข 'คู่กรณีต้องย้ายสิทธิออก-เลิกบีบมงกุฎวัฒนะจ่าย 8 หมื่น'

(27 มิ.ย. 67) จากกรณี ‘หมอเหรียญทอง’ ประกาศเตรียมถอน ‘รพ.มงกุฎวัฒนะ’ ออกจากโรงพยาบาลคู่สัญญากับ ประกันสังคม มีผล 31 ธ.ค. 68 หลังถูกผู้ประกันตนหัวหมอ ไปรักษาที่อื่น แล้วร้องเรียนให้รับผิดชอบค่ารักษาพยาบาล 8 หมื่นบาท โดยโพสต์ผ่านเพจเฟซบุ๊กส่วนตัว และ เพจเฟซบุ๊ก ‘Mongkutwattana Hospital-โรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ’ ตามข่าวที่เสนอไปก่อนหน้านี้

ล่าสุด พลตรี นายแพทย์ เหรียญทอง แน่นหนา หรือ ‘หมอเหรียญทอง’ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ ได้ออกมาโพสต์ข้อความถึงการเตรียมถอนตัวจากการเป็นโรงพยาบาลคู่สัญญากับสำนักงานประกันสังคมเพิ่มเติม โดยยื่นข้อเสนอให้ ‘ผู้ประกันตน’ คู่กรณีดำเนินการใน 2 เงื่อนไข เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อผู้ประกันตนนับแสนคน โดยมีรายละเอียดระบุว่า..

“ผมและบุคลากรในสังกัด รพ.มงกุฎวัฒนะได้อ่านข้อความในเฟซบุ๊ก ตลอดจนรับทราบความพึงพอใจของผู้ประกันตนจำนวนมากที่ใช้บริการกับ รพ.มงกุฎวัฒนะแล้ว”

“ทั้งได้รับทราบความเดือดร้อนของผู้ประกันตนจำนวนมากกว่า 100,000 คน หาก รพ.มงกุฎวัฒนะต้องถอนตัวออกจากระบบประกันสังคม”

“ในขณะเดียวกัน ก็ได้รับทราบว่าผู้ประกันตนจำนวนมากที่ให้กำลังใจผมและ รพ.มงกุฎวัฒนะอีกด้วย ทั้ง ๆ ที่ท่านทั้งหลายจะต้องเดือดร้อนจากการย้ายสิทธิจาก รพ.มงกุฎวัฒนะ ไป รพ.ใหม่ แต่ท่านก็ยังเข้าใจถึงความจำเป็นที่จะต้องธำรงไว้ซึ่งความยุติธรรมและความถูกต้อง”

“ผมขอเรียนตามตรงว่าผมรู้สึกเบื่อและท้อกับการใช้อำนาจบังคับจากหน่วยงานต่าง ๆ ดังเช่น 'คณะกรรมการอุทธรณ์ ตาม พ.ร.บ.ประกันสังคม พ.ศ.2533' ดังนั้นผมจึงไม่คิดที่จะต่อสู้กับใคร หรือฟ้องร้องใคร และขอใช้ชีวิตอย่างสงบ”

“แต่เมื่อคำนึงถึงผู้ประกันตนจำนวนมากกว่า 100,000 คน ที่จะต้องเดือดร้อนจากผู้ประกันตนเจ้าเล่ห์ 1 ราย และคณะกรรมการอุทธรณ์ที่ใช้หัวแม่ตีนคิดสั่งการเพียงไม่กี่ตัวแล้ว ผมจึงตัดสินใจที่จะหาทางออกว่าจะทำอย่างไร เพื่อไม่ให้ผู้ประกันตนนับแสนต้องเดือดร้อน ผมจึงมีข้อเรียกร้อง 2 ข้อ ดังต่อไปนี้”

“1. นางปXXXX ศXXXX ผู้ประกันตนเจ้าเล่ห์จะต้องขอย้ายสิทธิตนเองออกจาก รพ.มงกุฎวัฒนะ หรือมิฉะนั้น สำนักงานประกันสังคมจะต้องย้าย นางปXXXX ศXXXX ผู้ประกันตนเจ้าเล่ห์ออกจาก รพ.มงกุฎวัฒนะ ไปขึ้นสิทธิกับ รพ.อื่น”

“2. คณะกรรมการอุทธรณ์ ตาม พ.ร.บ.ประกันสังคม พ.ศ.2533 ต้องยกเลิกคำวินิจฉัยที่ 235/2567 ลงวันที่ 29 ก.พ.2567 ที่ได้แจ้งให้สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่ 9 มีคำสั่งให้ รพ.มงกุฎวัฒนะรับผิดชอบค่ารักษาพยาบาลของ นางปXXXX ศXXXX ผู้ประกันตนเจ้าเล่ห์จำนวน 80,295.20 บาท”

“เมื่อไหร่ก็ตามที่ข้อเรียกร้องทั้ง 2 ข้อมีการดำเนินการเป็นรูปธรรม ผมจะออกประกาศยกเลิกประกาศการถอนตัวออกจากระบบประกันสังคมทันที”

“อย่างไรก็ตามการดำเนินการตามข้อ 2 มักไม่เกิดผล อันเนื่องจากการถือศักดิ์ศรีของคณะกรรมการอุทธรณ์ฯ จากการเป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ดังนั้นผู้ประกันตนจึงควรเตรียมการย้ายสิทธิ์ไปยัง รพ.อื่น ๆ ไว้ล่วงหน้าก่อน อย่าได้คาดหวังอะไรจากคณะกรรมการอุทธรณ์ฯ เพราะคุณท่านทั้งหลายเหล่านี้มันยอมไม่ได้จากการถูกด่าที่มาจาก 'เสียงคำรามจากพระเจ้ามาราโดน่า' [Voice of God] พวกคุณท่านมันแค้นพระเจ้ามาราโดน่ามาก ๆ ครับ”


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top