Thursday, 24 April 2025
หนีคดีฉ้อโกงเพื่อนร่วมชาติ

จับผู้ต้องหาชาวเกาหลี OVERSTAY หนีคดีฉ้อโกงเพื่อนร่วมชาติ ความเสียหายกว่า 100 ล้านบาท

ตามที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดประชุมระดับผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค หรือความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย - แปซิฟิก (Asia-Pacific Economic Cooperation : APEC) ประจำปี พ.ศ.2565 (APEC 2022 Thailand) ในห้วงระหว่างวันที่ 14 - 19 พ.ย.2565 ประกอบกับนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยมี พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ที่กำชับให้ สตม. ดำเนินการระดมกวาดล้าง สืบสวนจับกุม ผู้กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 โดยเน้นการกระทำความผิดเกี่ยวกับการอยู่เกินกำหนดอนุญาต (Overstay) และความผิดอื่น ๆ ที่เกี่ยวเนื่อง เพื่อเป็นการตอบสนองนโยบายของรัฐบาล และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ รวมทั้งเป็นการเตรียมความพร้อมในการดูแลรักษาความปลอดภัยในการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ที่กำลังจะมีขึ้นในระยะเวลาอันใกล้ 

อีกทั้งทำให้การปฏิบัติงานด้านการป้องกันปราบปราม สืบสวนจับกุม เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง โดย พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผบช.สตม. พร้อมด้วย พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.ธนิต ไทยวัชรามาศ ผบก.สส.สตม., พล.ต.ต.มานัด ศรีวงษา ผบก.ตม.3, พล.ต.ต.เกติ์ฉกาจ นิลประดับ ผบก.ตม.4, พ.ต.อ.รัฐโชติ โชติคุณรอง ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.อาภากร โกมลสุทธิ รอง ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.ทรงโปรด สิริสุขะ รอง ผบก.ตม.3, พ.ต.อ.ไกลเขต บุรีรักษ์ รอง ผบก.ตม.3, พ.ต.อ.รัชธพงศ์ เตี้ยสุด รอง ผบก.ตม.3, พ.ต.อ.หฤษฎ์ เอกอุรุ รอง ผบก.ตม.3, พ.ต.อ.สิทธิ์ ศิริกังวานกุล รอง ผบก.ตม.4, พ.ต.อ.วีรยศ การุณยธร รอง ผบก.ตม.4, พ.ต.อ.กฤษฎากรณ์ กลิ่นเกษร รอง ผบก.ตม.4 , พ.ต.อ.ณัฐวุฒิ แสงเดือน รอง ผบก.ตม.4, พ.ต.อ.ชิตเดชา สองห้อง ผกก.1 บก.สส. สตม., พ.ต.อ.อุกฤต กัลยาณมิตร ผกก.ตม.จว.กาญจนบุรี, พ.ต.อ.สุทธิพงษ์ พุทธิพงษ์ ผกก.ตม.จว.ประจวบคีรีขันธ์, พ.ต.อ.จิรพงศ์ รุจิรดำรงค์ชัย ผกก.สส.บก.ตม.3, พ.ต.อ.พิษณุ สิทธิฑูรย์ ผกก.สส.บก.ตม.4 และ พ.ต.อ.สำราญ กลั่นมา ผกก.ตม.จว.สุรินทร์ จึงดำเนินการระดมกวาดล้างอาชญากรรมก่อนการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ในห้วงระหว่างวันที่ 5 - 31 ต.ค.65 โดยมีเป้าหมายหลัก เป็นคนต่างด้าวที่กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 และกฎหมายอื่น ๆ ได้แก่ หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย, การอยู่เกินกำหนดอนุญาต (Overstay), การนำพาคนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักร ช่วยเหลือซ่อนเร้นคนต่างด้าวให้พ้นจากการจับกุม และการให้คนไทยถือหุ้นแทนคนต่างด้าว (นอมินี) เพื่อสนับสนุนให้คนต่างด้าวประกอบธุรกิจโดยหลีกเลี่ยงการปฏิบัติตาม พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542เป็นต้น และเมื่อมีการจับกุมผู้กระทำความผิดได้แล้ว ให้ขยายผลการจับกุมทุกรายเพื่อให้ทราบถึงผู้ร่วมกระทำความผิด เครือข่ายของผู้กระทำความผิด และให้ดำเนินการติดตามจับกุมผู้ร่วมกระทำความผิด/เครือข่ายของผู้กระทำความผิด ต่อไป

ผลการดำเนินการระดมกวาดล้างอาชญากรรม ในห้วงระหว่างวันที่ 5 – 31 ต.ค.65 สตม. สามารถ จับกุมคนต่างด้าวอยู่เกินกำหนดอนุญาต (Overstay) ได้ทั้งสิ้น 719 คดี จับกุมผู้ต้องหาได้ 779 คน เมื่อเปรียบเทียบสถิติการจับกุมคนต่างด้าวอยู่เกินกำหนอนุญาต (Overstay) ห้วงเดือนตุลาคม ปี 2564 กับเดือนตุลาคมปี 2565 ผลปรากฏว่ามีสถิติเพิ่มขึ้น 584 คดี คิดเป็น ร้อยละ 432.59 และเมื่อเปรียบเทียบสถิติการจับกุมคนต่างด้าวอยู่เกินกำหนดอนุญาต (Overstay) ห้วงเดือนกันยายน 2565 กับเดือนตุลาคม 2565 ปรากฏว่ามีสถิติเพิ่มขึ้น 563 คดี คิดเป็น ร้อยละ 360.90

ทั้งนี้ พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผบช.สตม. ได้ตระหนักถึงความสำคัญของการดูแลรักษาความปลอดภัยในการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจ จึงสั่งการให้ สตม. มีการระดมกวาดล้างอาชญากรรม ในห้วงการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปคอย่างต่อเนื่อง และให้มีผลการปฏิบัติเป็นรูปธรรม ตลอดเดือนพฤศจิกายน 2565 โดยมีเป้าหมายหลักเป็นคนต่างด้าวที่กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 โดยเฉพาะข้อหาเป็นคนต่างด้าวอยู่เกินกำหนดอนุญาต (Overstay) และกฎหมายอื่น ๆ เพื่อดำเนินการตามนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และเป็นการเตรียมความพร้อมในการดูแลรักษาความปลอดภัยให้กับผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปคและคณะบุคคลสำคัญที่เข้าร่วมภารกิจการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปคตลอดระยะเวลาการประชุมในครั้งนี้ 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top