Tuesday, 22 April 2025
สุพิศพิทักษ์ธรรม

ลุ้น ‘นิพนธ์-นายกฯชาย’ จะเลือก ‘เก่า หรือ ใหม่’ ยืนอยู่ฝั่งไหนในศึกชิง ‘นายกฯอบจ.สงขลา’

(5 พ.ย. 67) น่าสนใจเมื่อ ‘สุพิศ พิทักษ์ธรรม’ อดีตอธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ประกาศเจตนารมณ์ ‘ทดแทนแผ่นดินเกิด เดินตามรอย ‘ป๋า-พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์’ อดีตนายกรัฐมนตรี อดีตประธานองคมนตรี รัฐบุรุษอาวุโสผู้ล่วงลับ

สุพิศ ยังโพสต์เฟซบุ๊ก ระบุข้อความ ‘ พร้อม’ ชีวิตนี้เพื่อสงขลา หรือแม้แต่ ‘ผู้ประสานสิบทิศ สุพิศ พิทักษ์ธรรม ชีวิตนี้พร้อมเพื่อสงขลา

ประโยคเหล่านี้เป็นการสะท้อนเจตนารมณ์ ในการใช้ชีวิตหลังจากนี้ไป คือการลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา ที่ปัจจุบันมี ‘ไพเจน มากสุวรรณ์’ นั่งบริหารอยู่ และจะหมดวาระในวันที่ 19 ธันวาคม 2567 นี้ และจะมีการเลือกตั้งใหม่ในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2568สุพิศยังกล่าวอ้างถึงผู้หลักผู้ใหญ่สองคนว่าให้การสนับสนุน คือ นิพนธ์ บุญญามณี อดีตนายกฯอบจ.สงขลา อดีตรัฐมนตรีช่วยมหาดไทย และนายกฯชาย-เดชอิศม์ ขาวทอง อดีตนายกฯอบจ.สงขลา รัฐมนตรีช่วยสาธารณสุข ก็ไม่แน่ใจว่า สองคนที่สุพิศกล่าวอ้างถึง ได้มีการคุยกันในรายละเอียดแล้วมากน้อยแค่ไหน เพราะยังมีรายละเอียดของการสนับสนุนอีกมาก และที่น่าจะเป็นประเด็น คือการจัดทีมคนลงสมัคร ส.อบจ.ในอนาคตด้วย ซึ่งแน่นอนว่า ทั้งนิพนธ์ และนายกฯชาย จะต้องส่งคนของตัวเองไปสมัครเป็น ส.อบจ.ด้วย สุพิศเองก็ต้องมีคนของตัวเองลงสมัครด้วย บวกรวมกับส.อบจ.เก่า น่าจะเกิดปัญหาความซ้ำซ้อนกันในพื้นที่

การได้ถ่ายรูปร่วมกันในวันชิงชนะเลิศฟุตบอลคิงคัพ อาจจะไม่ใช่สัญญาณ 100% ว่าให้การสนับสนุน เพียงแต่สถานการณ์บังคับ ต้องได้ยินจากปากของทั้งสองท่าน หรือได้เห็นพฤติกรรมของการช่วยเหลือ จึงจะเชื่อได้ว่า สนับสนุนจริง การได้พบปะกินข้าวกันในวันเสาร์-อาทิตย์ ที่บ้านเขารูปช้าง ถือเป็นเรื่องปกติที่นิพนธ์เปิดรับผู้สนับสนุนทุกอาทิตย์อยู่แล้ว

ยังเชื่อไม่ได้ 100% ว่า นิพนธ์ นายกฯชาย จะให้การสนับสนุนสุพิศ จนกว่าจะได้เห็นอะไรที่ชัดกว่านี้ สำหรับนิพนธ์ ผมเชื่อว่า ‘เลือดข้นกว่าน้ำ’ ด้วยเลือด ‘น้ำเงินขาว’ จากรั้วมหาวชิราวุธเช่นเดียวกับ ‘ไพเจน’ ใจของนิพนธ์จึงน่าจะอยู่กับไพเจนมากกว่า ส่วนเรื่องความหมองใจกันน่าจะเป็นเรื่องเล็กที่เคลียร์ใจกันได้ คุยกันได้ ผิดก็ขอโทษกันไป ปัญหาชาติบ้านเมืองสำคัญกว่า 

ส่วนนายกฯชายเดิมใจอยู่กับไพเจนอยู่แล้ว เขานัดเจอกันบ่อย แต่ด้วยแรงดูดที่หนักหน่วงทำให้ใจของนายกฯชายไขว้เขวไปบ้าง แต่ถึงวันหนึ่งเมื่อทุกอย่างตกผลึก เชื่อว่า ยังมีเวลาให้เปลี่ยนใจได้ อนาคตกับที่ยืนสำคัญกว่า

กล่าวสำหรับสุพิศการกล่าวว่าจะเดินตามรอยป๋า ไม่ได้เป็นผลดีต่อเขามากนัก เพราะป๋า มีภาพลักษณ์ที่ดี มีคุณธรรม จริยธรรมที่สูงส่ง นอกจาก ‘เกิดมาต้องทดแทนบุญคุณแผ่นดิน’ แล้ว ป๋า ยังเป็นคนที่ซื่อสัตย์ สุจริต เป็นที่ประจักษ์ ไม่มีข้อกล่าวหา ร้องเรียนตลอด 8 ปี ของการเป็นนายกรัฐมนตรี

อีกแค่เดือนกว่าๆ นายกฯไพเจนจะหมดวาระแล้ว และอีกไม่กี่วันก็จะได้รู้ข้อเท็จจริงว่า นิพนธ์-นายกฯชาย ช่วยใครกันแน่ หรืออาจจะวางเฉยในสถานการณ์ได้เสียก็เป็นได้

‘นครโมเดล’ สะเทือน!! ถึง ‘สงขลา’ ถ้า ‘ไพเจน’ ปักหลักสู้!! ‘สุพิศ’ ก็เหนื่อย

(30 พ.ย. 67) พลันเมื่อ ‘ไพเจน มากสุวรรณ์’ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา (อบจ.สงขลา) ถอนตัวไม่ลงรักษาแชมป์ ชื่อของ ‘สุพิศ พิทักษ์ธรรม’ อดีตอธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ที่ลาออกจากราชการ มาอาสาเปลี่ยนแปลงเมืองสงขลาก็โดดเด่นอยู่คนเดียว

‘สุพิศ’ มีความมุ่งมั่นตั้งใจอย่างแรงกล้าที่จะเข้ามาขอทำงานเปลี่ยนแปลงเมืองสงขลา ด้วยยแนวคิด ‘สงขลาเมืองสะอาด’ อันสะท้อนให้เห็นว่า สงขลายังมีอะไรอีกหลายอย่างที่จะต้องปัดกวาดแก้ไข และมองเห็นปัญหาบ้านเกิดอีกหลายอย่างถึงยอมเสียสละหน้าที่ราชการในระดับอธิบดีที่ไม่ใช่จะเป็นกันง่ายๆ

เมื่อไพเจนถอนตัว เส้นทางนายกฯอบจ.สงขลาของสุพิศก็คล่องขึ้น หายใจสะดวกขึ้น ถ้าสุพิศปักหลักสู้ สุพิศก็จะเหนื่อย เพราะ 4 ปีของไพเจนบนตำแหน่งนายกฯอบจ.สงขลา แน่นอนว่า คนสงขลาจะต้องมองเห็นผลงานมากกว่าของสุพิศ

แต่แม้นสุพิศ พิทักษ์ธรรม จากทีมสงขลาพลังใหม่ จะยืนโดดเด่นอยู่คนเดียวก็ยังจะประมาทไม่ได้ ยังมีนิรันดร์ จินดานาค จากพรรคประชาชน ที่พรรคใช้ความพยายามอย่างแรงกล้าในการขอแจ้งเกิดในสนามท้องถิ่น แต่ยังไม่เคยสำเร็จ และไม่ควรลืมว่า สงขลาคือบ้านเกิดของ ‘ชัยธวัช ตุลาธน’ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล ต้นธารของพรรคประชาชน และยังมีน.ส.อภิญญา ยอดแก้ว ผู้สมัคอิสระ ที่เปิดตัวเสนอเป็นนายกอบจ.หญิงคนแรกของ จ.สงขลา ก็จะมาร่วมแบ่งคะแนนในรอบนี้ด้วย

แต่นั้นยังไม่น่าประหวั่นพลั่นพรึงเท่ากับการปรากฏชื่อ ‘ถาวร เสนเนียม’ จะร่วมลงชิงกับเขาด้วย เพราะไม่ควรลืมว่า ถาวร คืออดีต สส.สงขลาหลายสมัย อดีตอัยการที่คนสงขลารู้จัก แถมยังผ่านงานบริหารราชการแผ่นดินมาแล้วถึงสองกระทรวง รมช.มหาดไทย และ รมช.คมนาคม มีประสบการณ์ และคุณสมบัติพร้อม

แม้ถาวรจะยังไม่ตัดสินใจว่าจะลงสมัคร เพราะยังมีข้อกังวลเรื่องคดีที่รอศาลฏีกาตัดสิน ถาวรเกรงว่า ถ้าลงสมัครแล้วได้รับเลือกตั้ง แต่อีก 1 ปีต่อมาศาลฏีกาตัดสินออกมาเป็นลบ อบจ.สงขลาก็ต้องสูญเสียงบร่วม 100 ล้าน เพื่อจัดเลือกตั้งใหม่

แต่พลันที่มีชื่อถาวรปรากฏผ่านสื่อโซเชี่ยล ข่าวถูกแชร์ไปทั่ว เพียงวันเดียวก็สร้างความฮือฮาไปทั่ว ร้านน้ำชากาแฟต่างกล่าวขานถึงในเชิงสนับสนุน-เหมาะสม สมน้ำสมเนื้อกับสุพิศ ‘ถาวร’ ขอเวลา 4-5 วันในการประเมินคดี ประชุมร่วมกับทนายความเพื่อประเมินว่าคดีจะออกมาทางบวก หรือทางลบ แล้วจะตัดสินใจ แล้วจะแถลงข่าวให้ทราบโดยทั่วกัน เพียงแต่ถาวรอาจถูกตั้งคำถามเรื่องอายุ แต่ในทางการเมืองอายุเป็นเพียงตัวเลข โดนัล ทรัมป์ อายุเท่าไหร่แล้ว โจ ใบเด็น อายุเท่าไหร่กว่าจะหยุด

ที่ต้องประหวั่นพลั่นถึงถ้าถาวรลงสมัคร เพราะถาวรไม่ได้ไปคนเดียว เขามีองคาพยพมากมายในการจัดทัพกับช่วงเวลาสั้นๆ และอาจจะมีพรรครวมไทยสร้างชาติที่เขาสังกัดอยู่สนับสนุนอยู่เบื้องหลัง และมีพรรคภูมิใจไทย ที่มีพิพัฒน์ รัชกิจประการ เป็นแม่ทัพภาคใต้อยู่ และ ดร.นที รัชกิจประการ ภรรยา ก็จะพ้นโทษออกจากคุกในวันที่ 8 ธันวาคมนี้แล้ว ก็จะมาเป็นมือเป็นไม้ได้เป็นอย่างดี

สรุปความง่ายๆ ว่า ถ้าถาวรลงสมัคร ก็จะเป็นคู่ชิงของสุพิศที่สนุก เพราะเป็นสนามของคนรู้ใจ รู้เกมกันอยู่ แต่ถ้าถาวรไม่ลงสุพิศก็จะลอยลำ แต่ทำอย่างไรให้สุพิศ สลัดพรรคประชาธิปัตย์ให้พ้นตัว เดินออกห่างจากคนที่คนสงขลา และคนใต้ไม่ชอบให้ดี เพราะจะเป็นตัวถ่วงคะแนนในสถานการณ์ประชาธิปัตย์ขาลง อ่อนแอ

ประชาธิปัตย์อ่อนแอจนนำพาให้ ‘เจ้ต้อย-กนกพร เดชเดโช’ พ่ายแพ้ในสนาม อบจ.นครศรีฯ เปิดทางให้ ‘น้ำ-วาริน ชิณวงศ์’ เข้ามาสร้าง ‘นครโมเดล’ ได้สำเร็จ

นครโมเดล
-ไม่ซื้อเสียง
-ไม่มีหัวคะแนน
-ไม่ฮั้วประมูล
-ไม่โกงกิน
-ไม่รังแกคนอื่น
-ไม่ใช่บ้านใหญ่

นครโมเดลนอกจากการสร้างปรากฏการณ์เหล่านี้แล้ว ‘นครเข้มแข็ง’ ยังใช้สื่อโซเชี่ยลในการแนะนำตัว หาเสียงอย่างเป็นระบบ เนื้อหาที่โดนใจในอารมณ์คนนครฯ ที่ต้องการเปลี่ยนแปลง ประกอบกับบุคลิกการเป็นผู้นำที่เข้มแข็งของสาวมั่น จึงทำให้นครโมเดลสำเร็จ

ความพ่ายแพ้ของเจ้ต้อย ทำให้นครโมเดลถูกกล่าวขานถึง และสั่นสะเทือนไปถึงสงขลา นี้คือปรากฏการณ์ที่ ‘สุพิศ’ ต้องทบทวน และกำหนดทิศทางใหม่ให้ชัดเจน

‘สุพิศ พิทักษ์ธรรม’ ยันการลาออกจากอธิบดีทำตามขั้นตอน พร้อมประกาศเดินหน้าหาเสียงชิงตำแหน่งนายก อบจ.สงขลา

เมื่อวันที่ (24 ธ.ค. 67) จากกรณีมีกระแสข่าวเกี่ยวกับความสมบูรณ์ของการลาออกจากราชการในตำแหน่งอธิบดีกรมฝนหลวงของนายสุพิศ พิทักษ์ธรรม ซึ่งขณะนี้ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) สงขลา อาจมีความไม่สมบูรณ์ตามขั้นตอนทางกฎหมาย จนอาจส่งผลกระทบต่อการลงสมัครรับเลือกตั้งนั้น ล่าสุด นายสุพิศได้ออกมาชี้แจงเพื่อยืนยันข้อเท็จจริง

นายสุพิศ เปิดเผย กับผู้สื่อข่าวว่า การลาออกจากราชการของตนได้ดำเนินการอย่างถูกต้องตามขั้นตอนและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยได้ปฏิบัติตามระเบียบของคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) ว่าด้วยการลาออกจากราชการของข้าราชการพลเรือนสามัญทุกประการ โดยในครั้งที่ลาออก ตนได้ทำหนังสือแจ้งไปยังปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาโดยตรง และได้รับการเห็นชอบจากปลัดกระทรวงแล้ว ขณะนี้เอกสารดังกล่าวอยู่ในขั้นตอนที่เลขาธิการคณะรัฐมนตรีกำลังพิจารณาตามกระบวนการของทางราชการ ซึ่งจากระเบียบที่ได้อ้างถึงข้างต้นนั้นหากลาออกจากราชการเพื่อลงสมัครรับเลือกตั้ง ให้การลาออกมีผลนับแต่วันที่ขอลาออก นายสุพิศ กล่าว 

นอกจากนี้ นายสุพิศ ยังเปิดเผยว่า ตนได้สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมจากสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดสงขลาเกี่ยวกับคุณสมบัติของผู้สมัครรับเลือกตั้ง ซึ่งได้รับการยืนยันว่าไม่มีปัญหาหรือข้อขัดข้องแต่อย่างใด

ในช่วงท้ายของการให้สัมภาษณ์ นายสุพิศ ได้ย้ำถึงความมั่นใจในความถูกต้องของการลาออกจากราชการ พร้อมเดินหน้าทำงานหาเสียง พบปะพี่น้องประชาชนในพื้นที่ทั้ง 16 อำเภอของจังหวัดสงขลา เพื่อนำเสนอนโยบายและวิสัยทัศน์ในการพัฒนาจังหวัด โดยกล่าวว่า 

“ผมขอยืนยันกับพี่น้องประชาชนทุกท่านว่า การลาออกของผมชอบด้วยกฎหมายเรียบร้อยแล้ว และต่อจากนี้ผมจะมุ่งมั่นทำงานเพื่อแนะนำตัว เพื่อขอโอกาสจากพี่น้องประชาชนชาวสงขลาพร้อมนำเสนอนโยบายที่ตอบโจทย์ความต้องการของพี่น้องประชาชนอย่างเต็มที่ทั้งโครงสร้างพื้นฐาน การศึกษา สาธารณสุข การส่งเสริมอาชีพ“

การยืนยันครั้งนี้เป็นการแสดงถึงความโปร่งใสและความตั้งใจของนายสุพิศที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลาอย่างมั่นคง พร้อมมุ่งหวังสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกให้กับชาวสงขลาในอนาคต

‘สุพิศ พิทักษ์ธรรม’ ประกาศ!! ยกระดับ 4 อำเภอชายแดนสงขลา สู่ศูนย์กลางเศรษฐกิจ การค้า สร้างรายได้พัฒนาคุณภาพชีวิต

(19 ม.ค. 68) นายสุพิศ พิทักษ์ธรรม ผู้สมัครนายก อบจ.สงขลา เบอร์ 5 ทีมสงขลาพลังใหม่ ได้จัดปราศรัยเพื่อประชาสัมพันธ์นโยบายขึ้นที่สนามกีฬากลาง อ.นาทวี โดยมีพี่น้องประชาชนจาก 4 อำเภอชายแดน ได้แก่ จะนะ เทพา นาทวี และสะบ้าย้อย มาร่วมงานอย่างล้นหลาม บรรยากาศเต็มไปด้วยความหวังและพลังจากประชาชนที่รอคอยการเปลี่ยนแปลง

นายสุพิศ ประกาศวิสัยทัศน์ที่จะยกระดับ 4 อำเภอชายแดนให้เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจและการค้า ด้วยการพัฒนาด่านชายแดนไทย-มาเลเซียให้มีความพร้อมครบวงจร ทั้งโครงสร้างพื้นฐาน ระบบโลจิสติกส์ และพื้นที่สำหรับการค้าขายระหว่างประเทศ เพื่อเชื่อมโยงเศรษฐกิจในระดับภูมิภาค

นอกจากนี้ ยังมีแผนสนับสนุนการพัฒนาอาชีพให้ประชาชนในพื้นที่ โดยเน้นการเพิ่มมูลค่าให้กับเกษตรกรรม เช่น ส่งเสริมการปลูกปาล์มน้ำมัน ในพื้นที่นาร้าง ผลักดันทุเรียน ให้กลายเป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ของจังหวัดสงขลา พร้อมนำเทคโนโลยีมาดูแลความปลอดภัยของประชาชน

ทั้งนี้ สุพิศ เน้นย้ำว่า การสนับสนุนด้านการเกษตรจะช่วยสร้างรายได้ที่มั่นคงให้เกษตรกรและเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันของพื้นที่ชายแดน

ศักยภาพของ 4 อำเภอชายแดน

อ.จะนะ

เป็นศูนย์กลางการค้าขายและเส้นทางคมนาคมสำคัญระหว่างสงขลา-ปัตตานี อีกทั้งยังเป็นแหล่งรวมสถานศึกษาด้านศาสนา และสถานที่จัดการแข่งขันนกเขาชวาเสียงระดับอาเซียน

อ.เทพา

มีความโดดเด่นจากเส้นทางรถไฟที่เชื่อมโยงพื้นที่ชายแดน และชื่อเสียงของ ‘ไก่ทอดเทพา’ ที่กลายเป็นสินค้าอาหารระดับประเทศ

อ.นาทวี

ด่านชายแดนไทย-มาเลเซีย (ด่านบ้านประกอบ)แห่งใหม่ที่มีศักยภาพสูงในอนาคต อุดมด้วยผลไม้พื้นเมือง และยังเป็นแหล่งประวัติศาสตร์สำคัญ เช่น อุโมงค์เขาน้ำค้าง

อ.สะบ้าย้อย

พื้นที่ต้นกำเนิดกาแฟโรบัสต้าชั้นเยี่ยม และบ้านเกิดของ ‘ทุเรียนฟอสซิล’ พันธุ์ใหม่ที่สร้างชื่อเสียงในระดับประเทศ

นายสุพิศ ได้กล่าวถึงความสำคัญของการพัฒนาพื้นที่ชายแดน โดยเฉพาะในมิติของการสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ การยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน และการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างคนในพื้นที่อย่างแข็งแกร่ง โดยย้ำว่า 4 อำเภอชายแดนของสงขลามีศักยภาพที่พร้อมจะเติบโต หากได้รับการสนับสนุนด้านนโยบายและโครงสร้างที่เหมาะสม ทีมสงขลาพลังใหม่มุ่งมั่นที่จะผลักดันให้พื้นที่ชายแดนแห่งนี้เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจ การค้า และเกษตรกรรมสมัยใหม่ เพื่อสร้างอนาคตที่ดีกว่าให้กับประชาชนทุกคนในจังหวัดสงขลา

‘สุพิศ’ ปราศรัยทิ้งทวนชิงเก้าอี้ นายกอบจ. สงขลา ลั่น ดันหาดใหญ่ศูนย์กลาง ศก.ภาคใต้ - เร่งสร้างรายได้ให้ชาวสงขลา

สงขลา – ‘สุพิศ’ ปราศรัยเวทีสุดท้ายทิ้งทวนประกาศกร้าวดันหาดใหญ่เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจภาคใต้ดึงนักท่องเที่ยวมาเลเซียเพิ่มเม็ดเงินสร้างงาน สร้างรายได้ให้ชาวสงขลาจัดเทศกาลท่องเที่ยวทุกอำเภอ หากชาวสงขลาเชื่อมั่นจะทำให้เห็นภายใน 4 ปีแน่นอน

เมื่อวันที่ (30 ม.ค.68) ที่สี่แยกสะพานดำ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา นายสุพิศ พิทักษ์ธรรม ทีมสงขลาพลังใหม่ พร้อม นายสมพร ใช้บางยาง ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ นายอับดลรอหมาน กาเหย็มและทีมบริหาร ผู้สมัครสมาชิก อบจ.ทีมสงขลาพลังใหม่  ขณะที่มวลชนนับหมื่นหลั่งไหลมาให้กำลังใจเวทีสุดท้ายของการเลือกตั้งในครั้งนี้ 

โดยนายสุพิศ พิทักษ์ธรรม กล่าวบางช่วงบนเวทีว่า วันนี้ตนมีความตั้งใจมุ่งมั่นตั้งใจที่จะมาสร้างเมืองสงขลาอย่างเต็มกำลังความสามารถ โดยเฉพาะพื้นที่หาดใหญ่ซึ่งเป็นเมืองศูนย์กลางทางด้านเศรษฐกิจของภาคใต้ก็ว่าได้ วันนี้เราอยากดึงนักท่องเที่ยวมาเลเซียเข้ามาในพื้นที่จังหวัดสงขลาโดยเฉพาะพื้นที่อำเภอหาดใหญ่เพื่อกระจายเม็ดเงินให้ทั่วทุกพื้นที่สร้างรายได้ให้ภาคธุรกิจทั้งรายเล็กและรายใหญ่ ขับเคลื่อนเรื่องการจัดงานเทศกาลเฟสติวัลตลอดทั้งปี ดึงนักท่องเที่ยวจากต่างจังหวัดเข้าสงขลาให้มากที่สุด และการส่งเสริมการลงทุนสร้างงาน สร้างรายได้ ให้ประชาชน นอกจากนี้เราจะให้ความสำคัญกับเรื่องการจัดการขยะ ลดมลพิษอากาศ นำสายไฟฟ้าลงดิน

นอกจากนี้นายสุพิศ  พิทักษ์ธรรม ยังกล่าวเปิดใจบนเวทีอีกว่า วันนี้ตนเองลาออกจากอธิบดีกรมฝนหลวงการบินเกษตรเพื่อมาลงสมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา ก็เพื่ออยากใช้ความรู้ความสามารถที่สั่งสมมาตลอดช่วงที่ผ่านมาเพื่อทำประโยชน์ให้กับสงขลาบ้านเกิดจริง ๆ ไม่เคยมีอะไรแอบแฝงขอให้ทุกท่านเชื่อมั่นในตัวผม 

ขณะที่ในวันที่ 31 ม.ค. จะเป็นวันหาเสียงวันสุดท้ายเหล่าบรรดาผู้สมัครจากทั้ง 9 ทีมก็จะมีกำหนดการขึ้นรถแห่เพื่อเชิญชวนประชาชนชาวสงขลาออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งให้ได้มากที่สุด….

‘สุพิศ’ ผู้สมัครเบอร์ 5 คว้าชัย!! นายกฯ อบจ.สงขลา ยัน!! พร้อมทำงานทันที หลัง ‘กกต.’ ประกาศรับรอง

(2 ก.พ. 68) ที่จ.สงขลา สำหรับผลการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการของการเลือกตั้งองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา ปรากฏว่า ผู้ที่มีคะแนนนำสูงสุด คือ นายสุพิศ  พิทักษ์ธรรม ผู้สมัครเบอร์ 5 ที่ได้รับการสนับสนุน จากสองแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ คือนายนิพนธ์ บุญญามณี อดีตรมช.มท.  และนายเดชอิศม์ ขาวทอง รมช.สธ. ผู้ที่มีคะแนนอันดับ 2 คือ นายประสงค์  บริรักษ์  ผู้สมัครเบอร์ 3 และอันดับ 3 คือนายนิรันดร์  จินดานาค ผู้สมัครจากพรรคประชาชน เบอร์ 2  

นายสุพิศ  พิทักษ์ธรรม อดีตอธิบดีกรมฝนหลวงฯพร้อมทีมบริหารได้กล่าว ขอบคุณทุกคะแนนเสียงที่ประชาชนชาวสงขลามอบให้ และไว้วางใจให้นั่งเก้าอี้นายก อบจ.สงขลาและทุกคะแนนเสียงที่มอบให้ทีมผู้สมัครส.อบจ.ของทีมเราทุกคะแนนโดยทันทีที่ กกต.ประกาศรับรองก็จะเดินหน้าทำงานทันทีตามแนวทางที่ได้เคยประกาศไว้ขอบคุณครอบครัวและทุกท่านที่เป็นกำลังใจให้ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา

โดยในวันนี้ (2 ก.พ.) ‘ทีมสงขลาพลังใหม่’ มีกำหนดการขึ้นรถแห่ขอบคุณชาวสงขลาโดยเริ่มจากอำเภอหาดใหญ่และอำเภอเมืองสงขลาและอำเภออื่นๆ


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top