Tuesday, 22 April 2025
สินค้า

อย่าหลงเชื่อ!! ‘ตำรวจไซเบอร์’ แนะ 10 แนวทางระวังภัย ‘เพจปลอม’ สวมรอยเฟซบุ๊กจริง ลวงขายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์

โฆษก บช.สอท. เตือนภัยระวังมิจฉาชีพหลอกลวงขายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ ระวังเจอเพจเฟซบุ๊กปลอม สวมรอยลอกเลียนแบบเพจเฟซบุ๊กจริง อย่าหลงเชื่อ

(12 มี.ค.66) พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ โฆษก กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) ขอประชาสัมพันธ์เตือนภัย กรณีการหลอกลวงขายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ ระวังเจอเพจในเฟซบุ๊กปลอม ลอกเลียนแบบของเพจในเฟซบุ๊กจริง ดังนี้

ที่ผ่านมาได้รับรายงานจากกองบังคับการตรวจสอบและวิเคราะห์อาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ตอท.) พบว่ามีประชาชนตกเป็นเหยื่อจากการซื้อสินค้าแต่ไม่ได้รับสินค้าเฉลี่ยกว่า 1,900 รายต่อสัปดาห์ ส่วนใหญ่สินค้าที่มักถูกหลอกลวง ได้แก่ โทรศัพท์มือถือ ผลไม้ บัตรคอนเสิร์ต รถจักรยานยนต์มือสอง และปลาแซลมอน เป็นต้น

โดยภัยจากการซื้อขายสินค้าออนไลน์มีหลากหลายรูปแบบ เริ่มตั้งแต่การซื้อสินค้าแต่ไม่ได้รับสินค้า หรือซื้อสินค้าแต่ได้รับสินค้าไม่ตรงกับที่สั่งซื้อ หรือได้ไม่ตรงปก หรือซื้อสินค้าแต่ได้รับสินค้าที่ไม่มีคุณภาพ ไปจนถึงการใช้หลักฐานการโอนเงินปลอมเพื่อหลอกลวงผู้ขาย เป็นต้น โดยส่วนใหญ่มิจฉาชีพมักจะสร้างความน่าเชื่อถือของร้านค้า การการันตีสินค้า การรีวิวสินค้าปลอม รวมไปถึงการโฆษณาสรรพคุณเกินจริง

นอกจากนี้ยังมีการสร้างเพจในเฟซบุ๊กปลอมตั้งชื่อลอกเลียนแบบให้เหมือน หรือคล้ายคลึงกับเพจในเฟซบุ๊กที่มีการซื้อขายสินค้าจริง โดยการคัดลอกรูปภาพสินค้า และเนื้อหาจากเพจจริงมาใช้ เมื่อหลอกลวงผู้เสียหายได้หลายรายก็จะเปลี่ยนชื่อเพจ หรือสินค้าไปเรื่อยๆ หรือสร้างเพจปลอมขึ้นมาใหม่ ยกตัวอย่างเช่น มีผู้เสียหายถูกหลอกลวงซื้อโทรศัพท์มือถือโทรศัพท์ซิมเน็ตรายปี ผ่านเพจปลอม Moblie2you ซึ่งเพจจริงคือ Mobile2youmbk หรือกรณีปลอมเพจหลายเพจขายทุเรียนของดาราท่านหนึ่ง เป็นต้น

ตามนโยบายของรัฐบาล โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ซึ่งรับผิดชอบงานในด้านการป้องกันปราบปราม ได้ให้ความสำคัญ และมีความห่วงใยต่อภัยการหลอกลวงประชาชนผ่านช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ โดยได้กำชับไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งวางมาตรการในการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดในโลกออนไลน์ทุกรูปแบบอย่างต่อเนื่อง และจริงจัง

ที่ผ่านมา กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดย พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. ได้ขับเคลื่อนตามนโยบายของรัฐบาล และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดในโลกออนไลน์ทุกรูปแบบ มุ่งเน้นการประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ให้แก่ประชาชนไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ

โฆษก บช.สอท. กล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ผ่านมา บช.สอท. ได้เร่งปราบปรามจับกุมผู้กระทำความผิดในลักษณะดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง มีปฏิบัติการสำคัญเมื่อต้นเดือน มี.ค.66 ระดมตรวจค้นกว่า 40 จุด ทั่วประเทศภายใต้ยุทธการ “ ปิด Job - Shop ทิพย์ ” หลอกขายสินค้าและบริการผ่านโลกออนไลน์ มีประชาชนหลายรายได้ความเสียหายหลายล้านบาท สามารถทำการจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับกว่า 30 ราย ตรวจยึดของกลางได้เป็นจำนวนมาก

อย่างไรก็ตามการซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ ถึงแม้จะมีข้อดีหลายๆ ประการ ไม่ว่าจะสะดวกสบาย มีให้เลือกหลากหลาย สามารถเปรียบเทียบราคาสินค้าแต่ละแหล่งได้ ติดตามโปรโมชันต่าง ๆ ได้ ที่สำคัญสามารถสั่งซื้อได้ตลอดเวลา แต่ก็เป็นช่องทางหนึ่งให้มิจฉาชีพฉวยโอกาสเข้ามาแสวงหาผลประโยชน์ หลอกลวงเอาทรัพย์สินของประชาชนโดยมิชอบ

‘ต้าเหลียน’ เปิดเส้นทางเดินเรือขนส่งสินค้าสู่ ‘ยุโรป’ สายใหม่ เชื่อมโยงการค้าตามแนวเส้นทางสายไหมทางทะเลแห่งศตวรรษที่ 21

(9 พ.ค. 66) สำนักข่าวซินหัว, ต้าเหลียน รายงานว่า การเดินเรือขนส่งตู้คอนเทนเนอร์สินค้าเส้นทางตรง ซึ่งเชื่อมเมืองท่าต้าเหลียน มณฑลเหลียวหนิงทางตะวันออกเฉียงเหนือของจีน เข้ากับพื้นที่ชายฝั่งตะวันตกของทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ได้เริ่มต้นการดำเนินงานครั้งแรก หลังจากเรือบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์เอ็มเอสซี เคธี (MSC Katie) แล่นออกจากสถานีตู้คอนเทนเนอร์ต้าเหลียน เมื่อวันจันทร์ (8 พ.ค.) ที่ผ่านมา

เส้นทางเดินเรือขนส่งสินค้าเปิดใหม่นี้ ใช้เรือบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ขนาดใหญ่ 11 ลำ แต่ละลำสามารถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์มาตรฐาน 14,000 ตู้ ซึ่งเชื่อมโยงต้าเหลียนกับท่าเรือสำคัญหลายแห่งในกลุ่มประเทศยุโรป อย่างประเทศอิตาลีและสเปน ตามแนวเส้นทางสายไหมทางทะเลแห่งศตวรรษที่ 21 รวมถึงแล่นผ่านกลุ่มประเทศในตะวันออกกลาง เช่น ประเทศอิสราเอลและซาอุดีอาระเบีย

‘หลีเสี่ยวกวง’ ผู้จัดการทั่วไปของบริษัท ต้าเหลียน คอนเทนเนอร์ เทอร์มินัล จำกัด ในเครือบริษัท เหลียวหนิง พอร์ต กรุ๊ป จำกัด เผยว่าการเปิดเส้นทางเดินเรือขนส่งสินค้านี้ เป็นประโยชน์ต่อการค้าระหว่างต้าเหลียนกับกลุ่มประเทศยุโรปอย่างมาก และจะส่งเสริมการเติบโตของกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีการแข่งขัน เช่น เครื่องจักรและอุปกรณ์ไฟฟ้า, ยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์, เคมีภัณฑ์, แร่ธาตุ, เครื่องมือ รวมถึงธัญพืชและอาหารแช่แข็ง

ทั้งนี้ หลีเสริมว่า ปัจจุบันท่าเรือต้าเหลียนดำเนินงานขนส่งตู้คอนเทนเนอร์สินค้า 105 เส้นทาง ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นเส้นทางการค้าระหว่างประเทศ 92 เส้นทาง ครอบคลุมท่าเรือมากกว่า 300 แห่งในกว่า 160 ประเทศและภูมิภาคทั่วโลก


ที่มา : https://www.xinhuathai.com/china/356664_20230509

‘ห้างสรรพสินค้า’ เตรียมสินค้าที่จำเป็นให้เพียงพอ รับมือฝนตก-น้ำท่วม พร้อมป้องกันการกักตุน-ขึ้นราคาสินค้า ขานรับนโยบาย ‘กระทรวงพาณิชย์’

(6 ต.ค. 66) ร้อยตรีจักรา ยอดมณี รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้สั่งการให้กรมการค้าภายในดูแลประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากภาวะน้ำท่วมและฝนตกหนักในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคกลางตอนบน ให้มีสินค้าอุปโภคบริโภคจำเป็นอย่างเพียงพอ และไม่มีการฉวยโอกาสจำหน่ายสินค้าแพงเกินสมควร หรือกักตุนสินค้า ซึ่งกรมฯ ได้มีการประชุมติดตามสถานการณ์ และซักซ้อมแนวทางเตรียมความพร้อมกับห้างค้าส่งค้าปลีก ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาคแล้ว

โดยเมื่อวันที่ 5 ต.ค. 66 รองอธิบดีกรมการค้าภายใน ได้ลงพื้นที่สำรวจสถานการณ์ ณ ห้างดูโฮม สาขารังสิต จ.ปทุมธานี พบว่าห้างฯ ได้จัดเตรียมสต็อกสินค้าจำเป็นไว้อย่างเพียงพอ ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์ซักล้างทำความสะอาด เครื่องสูบน้ำ สายยาง กระสอบทราย หรืออุปกรณ์ซ่อมแซมบ้าน เช่น แผ่นกระเบื้อง สีทาภายใน ปูนซีเมนต์ และยาแนวกันซึม เป็นต้น เมื่อประชาชนมาซื้อสินค้าหน้าร้าน สั่งออนไลน์ หรือสั่งทางโทรศัพท์ ก็จะสามารถรับสินค้าตามที่ต้องการได้โดยทันที ไม่มีปัญหาในการกระจายสินค้า รวมทั้งมีบริการช่างสำรวจหน้างานและซ่อมแซมด้วย

นอกจากนี้ ห้างดูโฮมเป็นหนึ่งในผู้ประกอบการที่ได้ประกาศร่วมกับกระทรวงพาณิชย์เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ว่าจะลดราคาสินค้าจนถึงปลายปี อาทิ กลุ่มวัสดุก่อสร้าง เช่น กระเบื้องปูพื้นและปูผนัง สุขภัณฑ์ ประตู หน้าต่าง เครื่องปั๊มน้ำ ลดสูงสุด 35% กลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น โทรทัศน์ เครื่องปรับอากาศ เครื่องซักผ้า ตู้เย็น และเตาไฟฟ้า ลดสูงสุด 55% กลุ่มของตกแต่งบ้านและอุปกรณ์ช่าง เช่น โคมไฟ สายไฟ แผงโซลาร์เซลล์ ลดสูงสุด 80% ทั้งนี้ จากการสอบถามผู้บริหารห้างฯ คาดว่าประชาชนจะออกมาจับจ่ายใช้สอยกันมากขึ้นในช่วงปลายปี เนื่องจากผู้รับเหมาก่อสร้างจะกลับมาดำเนินการกันมากขึ้นหลังสิ้นสุดฤดูฝน และคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามามากขึ้นด้วย

ทั้งนี้ กรมฯ จะติดตามสถานการณ์ปริมาณและราคาสินค้าจำเป็นอย่างใกล้ชิดต่อไป และขอเน้นย้ำถึงผู้ประกอบการว่าห้ามฉวยโอกาสจำหน่ายสินค้าแพงเกินสมควร และต้องปิดป้ายแสดงราคาสินค้าให้ชัดเจน กรณีการจำหน่ายสินค้าในราคาแพงเกินสมควรหรือกักตุนสินค้า มีโทษสูงสุดจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และกรณีที่ไม่ปิดป้ายแสดงราคาจำหน่ายจะมีโทษสูงสุดปรับไม่เกิน 10,000 บาท หากประชาชนไม่ได้รับความเป็นธรรมทางการค้า สามารถร้องเรียนมาที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 หรือทางแอปพลิเคชันไลน์ @MR.DIT

'ผลสำรวจ' ชี้!! 'เอกชน' จ่อขึ้นราคาสินค้า 15% ภายใน 1 เดือน หลังรัฐขึ้นค่าแรงวันละ 400 บาท ซวยแรงงานเสี่ยงตกงานอื้อ

เมื่อวานนี้ (29 เม.ย. 67) นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้า เปิดเผยว่า ผลการสำรวจทัศนคติของเอกชนทั้งภาคการผลิต การค้า และบริการต่อการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาท/วันภายในปี 2567 ว่าการขึ้นค่าแรงจะช่วยผลักดันให้ GDP โตขึ้น สามารถกระตุ้นกำลังซื้อ การผลิตและการลงทุนให้เพิ่มขึ้น แต่ค่าแรงที่สูงขึ้นอาจจูงใจให้นายจ้างลงทุนในการพัฒนาทักษะและเทคโนโลยี เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและผลผลิตของแรงงานมากขึ้น

นายธนวรรธน์ กล่าวต่อว่า หากค่าแรงเพิ่มเร็วเกินไป นายจ้างอาจปลดพนักงานหากรับมือต้นทุนไม่ไหว กระทบกำลังซื้อในระบบเศรษฐกิจ รวมทั้งต้นทุนค่าแรงอาจถูกผลักไปที่ราคาสินค้าทำให้เกิดแรงกดดันเงินเฟ้อ โดยเฉพาะสินค้าที่ใช้แรงงานเข้มข้น และหากไม่ลงทุนเพิ่มประสิทธิภาพ ต้นทุนที่สูงขึ้นอาจมีผลทำให้ขีดความสามารถแข่งขันลดลง ซึ่งส่งผลเสียในระยะยาว

“จากผลการสำรวจพบว่าเอกชนส่วน ใหญ่ 64.7% บอกว่าเตรียมจะปรับขึ้นราคาสินค้าและบริการ และอีก 35.3% บอกว่าจะไม่ปรับราคาสินค้า โดยหากปรับจะปรับราคาสินค้าเพิ่มขึ้นมากกว่า 15% ขึ้นไป โดยจะปรับราคาภายใน 1 เดือนต่อจากนี้ ส่วนคนที่ไม่ปรับราคานั้นจะใช้วิธี ปรับลดปริมาณสินค้า หรือลดต้นทุนอื่น ๆ รวมถึงลดจำนวนแรงงานแทน”

ทั้งนี้ ผู้ประกอบการกังวลว่าจะมีภาระต้นทุนของธุรกิจสูงขึ้น แต่ทักษะการทำงานของลูกจ้างยังคงเท่าเดิม ต้นทุนค่าแรงสูงขึ้นก็จริง แต่ภาระต้นทุนอื่น ๆ ของการทำธุรกิจสูงขึ้น เช่นเดียวกัน เช่น ค่าน้ำมัน ค่าไฟฟ้าจะผลกระทบนอกจากความสามารถในการแข่งขันแล้ว โดยรวมแล้วผู้ประกอบการ 72.6% ยังคงเห็นว่าการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำวันละ 400 บาท ยังไม่มีความเหมาะสม และยังมองว่าค่าจ้างแรงงานที่เหมาะสมควรจะอยู่ที่ 370 บาทต่อวัน

นายธนวรรธน์ กล่าวอีกว่า สำหรับแรงงาน หรือผู้ที่มีรายได้ไม่เกิน 15,000 บาท ผลสำรวจชี้ให้เห็นว่า ในกรณีที่ไม่สามารถปรับเพิ่มค่าแรงตามที่คาด ซึ่งส่วนใหญ่ 65.3% ขอเพียงให้เพิ่มเท่ากับค่าสาธารณูปโภคที่เพิ่มสูงขึ้น รองลงมาขอให้เพิ่มเท่ากับค่าเดินทาง เพิ่มเท่ากับค่าราคาอาหาร เพิ่มเท่ากับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ และเพิ่มเท่ากับค่าเช่าที่อยู่อาศัย และผลจากการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ อาจส่งผลให้ราคาสินค้าปรับเพิ่มสูงขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งแรงงานกว่า 60.8% ไม่สามารถรับได้

ทั้งนี้ ภาครัฐจำเป็นต้องเข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาเรื่องค่าแรงหรือค่าครองชีพ คือ ช่วยเหลือค่าครองชีพกลุ่มเปราะบาง กระตุ้นเศรษฐกิจแรงงานจะได้มีรายได้เพิ่ม ให้นายจ้างช่วยค่าอาหาร ช่วยเหลือให้เงินอุดหนุนค่าสาธารณูปโภค กระตุ้นเศรษฐกิจภูมิภาคให้แรงงานกลับถิ่น และมีสวัสดิการค่าเดินทางให้กับแรงงานรายได้น้อย นอกจากนี้ แรงงานยังกังวลเรื่องตกงาน และมีความเสี่ยงจากการไม่มีเงินเก็บซึ่งสัดส่วนถึง 81.3% จะสามารถอยู่ได้ไม่เกิน 3 เดือน

“INTERLINK MID YEAR SALE 2024 คุ้มเต็มสิบ” ลดสะเทือนกลางกรุงเทพฯ ยิ่งซื้อ ยิ่งคุ้มไปกันใหญ่ สร้างกำไรคืนคู่ค้า กับมหกรรมสินค้าลดราคาจัดหนักสูงถึง 70%

งานนี้มีแต่คุ้ม ! ลดกลางปี คุ้มกลางใจ บมจ.อินเตอร์ลิ้งค์ คอมมิวนิเคชั่น กลับมาอีกครั้งกับมหกรรมลดยิ่งใหญ่กับ “INTERLINK MID YEAR SALE 2024 คุ้มเต็มสิบ” เปิดประเดิมที่กรุงเทพฯ ก่อนขนคาราวานสินค้า และอุปกรณ์ LINK AMERICAN & GERMAN RACK EVERYWHERE แบบครบโซลูชั่น ไปให้ช้อปทั่วไทย จัดเต็มโปรโมชั่นลดสนั่นสูงสุดถึง 70% คัดสรรดีลพิเศษมาให้ถูกจริง ในราคาคุ้มชัวร์ ถูกกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว จบทุกงานระบบ ครบทุกความต้องการ ต้องสินค้าที่ INTERLINK

วันนี้ (1 ก.ค. 67) บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ILINK ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายสายสัญญาณที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน และผู้นำเข้า และค้าส่งอุปกรณ์เครือข่ายส่งสัญญาณ ด้วยอุดมการณ์ของผู้ก่อตั้งที่ต้องการนำเทคโนโลยีมาพัฒนาประเทศไทย และทำธุรกิจเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี กว่า 38 ปี ได้ดำเนินการขับเคลื่อนธุรกิจ ภายใต้วิสัยทัศน์ และพันธกิจ “เติบโต ต่อเนื่อง และยั่งยืน” ไปพร้อมกันทั้งลูกค้า และพันธมิตร รวมถึงเป็นผู้ที่มีความสามารถ และความเชี่ยวชาญด้านสายสัญญาณอันดับต้น ๆ ของประเทศ ที่ลูกค้าทุกท่านต่างเชื่อมั่น และไว้วางใจให้เป็นสินค้าคุณภาพ ราคาถูกกว่า และบริการที่ดีกว่า ร่วมกับการรับมีการประกันสินค้าถึง 30 ปี การันตีด้วยมาตรฐานสากล และมาตรฐานอันดับโลก นำโดย CEO คุณสมบัติ อนันตรัมพร ประธานกรรมการฯ จัดงานใหญ่เอาใจนักช้อปทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทยกับ “INTERLINK Mid Year Sale 2024 คุ้มเต็มสิบ” ขนสินค้ายกใหญ่ให้ประโยชน์สุด ๆ เสิร์ฟความคุ้มกันที่แรกในพื้นที่กรุงเทพฯ ณ โรงแรม เดอะ เซนต์ รีจิส กรุงเทพฯ

สำหรับงานนี้ เป็นมหกรรมลดกลางปีที่ออกเดินทางออนทัวร์ ลดแบบฉ่ำ ๆ ให้ทั่วไทย ขนสินค้าในราคาคุ้มสุดขีด ไปมอบให้กับคู่ค้าทั่วทุกภูมิภาคได้เลือกซื้อกัน ได้แก่ ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ โดยเป็นการนำทัพ ยกขบวนสินค้า LINK AMERICAN & GERMAN RACK EVERYWHERE ไปลดสุดคุ้ม จัดให้ช้อปในราคาสบายกระเป๋า งานนี้ มีแต่คุ้ม ลดให้ในราคาน่าทึ่ง เพื่อหนุนคืนกำไรให้คู่ค้าในทั่วทุกภูมิภาค สู่การทำรายได้เพิ่มพูนให้เติบโตร่วมกันอย่างแข็งแกร่ง ซึ่งได้จัดสรรสินค้ามาไว้ให้ช้อปกันเพลิน ๆ ฟินกับโปรโมชัน ดีลเด็ดลดแรง ขนมาให้จับจองสินค้าที่ราคานี้ไม่มีที่ไหนแน่นอน

ภายในงานจะได้พบกับสินค้า Products Highlight ครบทุกหมวดหมู่ ครบทั้ง Solution มาลดแรงสูงถึง 70% ทั้ง สาย LAN (UTP), สาย Fiber Optic/PON, COAXIAL (CCTV), Telephone, Networking, ตู้จัดเก็ปอุปกรณ์นวัตกรรมใหม่อย่าง German Rack ที่ได้เฉลิมฉลองเปิดตัวใหม่ไปเมื่อเร็ว ๆ นี้ รวมถึง LINK Rack เราก็ขนมาจัดราคาพิเศษให้อีกด้วย นอกจากนี้สาย Solar ที่เป็นกระแสมาแรงอย่างต่อเนื่องก็ยังขนมาให้เลือกซื้อไปพร้อมกับอุปกรณ์หัวขั้วต่อที่ตอบโจทย์ครบทั้งระบบโซลาร์ ที่ได้รับมาตรฐาน AD8 อีกทั้งยังจัดมาให้ครบชุดกับกลุ่มอุปกรณ์ที่รองรับระบบ Solar Roof และ Solar Farm ซึ่งนับว่าสินค้าคุ้มทุกชิ้น ใช้ดีตอบโจทย์ทั้งระบบ ที่ครบเครื่อง เรื่องสายสัญญาณอย่างแท้จริง 

นอกจากนี้ ยังมีดีลสุดฮอตกับสินค้าไอเท็มสุดฮิต SHOCK DEAIL และช่วง CASH BACK กับโปรโมชั่นเสริมมาเสิร์ฟจัดหนักส่วนลดกระหน่ำให้อีกมากมายตลอดทั้งงาน อีกทั้ง ทุกท่านยังได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศ Premium Cocktail ที่อบอวลไปด้วยช่วงเวลาแห่งความสุข สนุกกับการช้อปสุดมันส์ และรอยยิ้มจากลูกค้าที่ได้รับความคุ้มค่าไปอย่างท่วมท้น อีกทั้งทุกท่านยังได้ร่วมลุ้นรับของรางวัลสุด Surprise ตลอดงาน ทั้งสร้อยคอทองคำ โทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต Gift Voucher ต่าง ๆ มามอบให้ลูกค้าภายในงานนี้โดยเฉพาะ

“INTERLINL MID YEAR SALE 2024 นี้ มีแต่คุ้ม ผมมีความตั้งใจนำสินค้ามาลดราคา เพื่อคืนกำไรให้แก่คู่ค้าในราคาต่ำกว่าทุน คืนความคุ้มค่า ด้วยการจัดใหญ่ ลดราคาสินค้า LINK AMERICAN และ GERMAN RACK ให้ทุกชิ้น ซึ่งราคานี้ไม่มีที่ไหนแน่นอนอีกแล้ว นับเป็นความตั้งมั่นที่จะเดินหน้าขับเคลื่อนธุรกิจ พร้อมสร้างรายได้ สู่การทำกำไรร่วมกันไปพร้อมกับลูกค้าอย่างเต็มกำลัง ควบคู่ไปกับทุกท่านจะได้รับสินค้าที่มีประสิทธิภาพเหลือล้น และมีมาตรฐานการรับรอง พร้อมกับมีการการันตีด้านคุณภาพ มีการรับประกันสินค้าถึง 30 ปี ที่ตอบโจทย์ครบ ตรงจุดทุกงานระบบโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งขนทั้งความคุ้มค่า ในราคาสบายกระเป๋าที่เรานำมาจัดโปรโมชั่นให้ อีกทั้ง เป็นการช่วยส่งเสริมการขายให้แก่คู่ค้าได้เป็นอย่างดีอีกด้วย เพื่อก้าวสู่การเติบโตร่วมกันอย่างแข็งแกร่งทั้งคู่ค้า และพันธมิตรแบบมีคุณภาพที่ยั่งยืนไปพร้อมกัน” คุณสมบัติฯ กล่าวเสริมตอนท้าย

KResearch คาด ส่งออกปีนี้ซบเซาต่อเนื่อง ลุ้น!! ‘อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์’ เป็นพระเอกขี่ม้าขาว

(29 ต.ค. 67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ‘ศูนย์วิจัยกสิกรไทย’ หรือ ‘KResearch’ ได้สรุปสภาวะการส่งออกของประเทศไทย ดังต่อไปนี้

การส่งออกไทยในไตรมาสสุดท้ายของปี 2024 คาดว่าจะเติบโตในอัตราที่ต่ำกว่าช่วง 9 เดือนก่อนหน้า เนื่องจาก

1.ปัญหาเชิงโครงสร้างในประเทศที่ยังคงอยู่ ประกอบกับแรงกดดันจากแนวโน้มอุปสงค์โลกที่ชะลอตัวโดยเฉพาะในตลาดจีน โดยดัชนีภาคการผลิต (Manufacturing PMI) และดัชนีคำสั่งซื้อใหม่เพื่อการส่งออก (New export order) ของโลกอยู่ในระดับต่ำสุดในรอบ 11 เดือน (รูปที่ 2) นอกจากนี้ การส่งออกเกาหลีใต้ 20 วันแรกของเดือน ต.ค. หดตัว -2.9%YoY ซึ่งถือเป็นการหดตัวครั้งแรกนับตั้งแต่เดือน ก.พ. 2024 แม้การส่งออกเซมิคอนดักเตอร์ยังขยายตัวดี

2.นโยบายกีดกันการค้ากับจีน โดยสงครามการค้าอาจรุนแรงขึ้นหากสงครามการค้ารอบใหม่เกิดขึ้นจากนโยบายของทรัมป์ฯ ทั้งนี้ ถึงแม้ว่าการส่งออกไทยไปสหรัฐฯ ในช่วงปลายปี 2024 อาจได้รับแรงหนุนบางส่วนจากการเร่งนำเข้าสินค้าของสหรัฐฯ ก่อนที่มาตรการทางการค้าจะยกระดับขึ้นในปี 2025 แต่อัตราการขยายตัวการส่งออกไปสหรัฐฯ คงไม่เพิ่มขึ้นจากช่วง 9 เดือนแรกของปี 2024 ซึ่งอยู่ที่ 12.5%YoY มากนัก เนื่องจากแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่เติบโตชะลอลงและสินค้าคงคลังที่อยู่ในระดับสูง

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยยังคงประมาณการภาพรวมการส่งออกไทยในปี 2024 อยู่ที่ 2.5% โดยในไตรมาสที่ 4/2024 คาดว่าการส่งออกไทยจะขยายตัวชะลอลงตามอุปสงค์โลกที่ชะลอตัว 

นอกจากนี้ ยังต้องติดตามสถานการณ์อุทกภัยหากมีความยืดเยื้อหรือผลกระทบเคลื่อนย้ายไปยังพื้นที่ภาคกลางและใต้ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อผลผลิตและการส่งออกสินค้าเกษตรมากขึ้น อย่างไรก็ดี การส่งออกไทยมีโอกาสที่จะขยายตัวได้ดีกว่าคาด หากการส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ หากพิจารณาการนำเข้าสินค้าของไทยในเดือน ก.ย. 2024 พบว่า ขยายตัวสูงสวนทางการส่งออกที่ 9.9%YoY จากการนำเข้าทองคำที่ขยายตัวถึง 910.8%YoY ประกอบกับการย้ายฐานการผลิตจากจีนมาไทย ส่งผลให้มีการนำเข้าเครื่องจักรและชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์จากจีนขยายตัวต่อเนื่อง ได้แก่ แผงวงจรไฟฟ้า อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ รวมถึงการนำเข้าสินค้าอุปโภคและบริโภคจากจีนก็สูงขึ้นเช่นกัน อาทิ ของตกแต่งบ้านและเครื่องใช้เบ็ดเตล็ด ส่งผลให้ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่าภาพรวมดุลการค้าไทย (ตามฐานศุลกากร) ในปี 2024 จะยังติดลบต่อเนื่องเป็นปีที่ 3

TCL ยกทัพสินค้า โชว์ความยิ่งใหญ่ในงาน CES 2025: ลาสเวกัส สหรัฐอเมริกา เผยโฉมนวัตกรรมจอแสดงผล – เปิดตัว AI สุดล้ำในผลิตภัณฑ์ใหม่

TCL Electronics แบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าสำหรับผู้บริโภคชั้นนำและแบรนด์ผู้ผลิตทีวีอันดับ 2 ของโลก ยกทัพสินค้าบุกงาน CES 2025 ณ ลาสเวกัส สหรัฐอเมริกา เผยโฉมนวัตกรรมใหม่ เทคโนโลยีจอแสดงผลหลากหลายประเภท เปิดตัว AI สุดล้ำในผลิตภัณฑ์ใหม่ พร้อมระบบนิเวศบ้านอัจฉริยะแบบครบวงจร สะท้อนความมุ่งมั่นการมอบไลฟ์สไตล์ที่ชาญฉลาด สร้างสุขภาวะที่ดี และสร้างแรงบันดาลใจสู่ความยิ่งใหญ่ไปทั่วโลก

บริษัท ทีซีแอล อิเล็กทรอนิกส์ (ไทยแลนด์) ประกาศแต่งตั้ง นายแกรี่ จ้าว ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการคนใหม่ในช่วงต้นปี 2025 ทั้งนี้ นายแกรี่ ถือเป็นผู้บริหารรุ่นใหม่ที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญด้านการบริหารผลิตภัณฑ์ในกลุ่มสินค้าเครื่องปรับอากาศของ TCL Thailand การันตีด้วยยอดขายที่เติบโตเป็นอย่างมากในปี 2024 ที่ผ่านมา

นายแกรี่ จ้าว กล่าวว่า “ในปีนี้ TCL มุ่งเน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ โดยนำเทคโนโลยีใหม่ๆ และ AI เข้ามาเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งาน เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคยุคใหม่ที่ต้องการความสะดวกสบายของเทคโนโลยีในชีวิตประจำวัน และเป็นฟังก์ชันที่ช่วยปกป้องผู้บริโภคจากสภาวะแวดล้อมของโลกที่เปลี่ยนไป อาทิ เครื่องปรับอากาศที่มีนวัตกรรมฟอกกลิ่น ลดฝุ่น ลดการใช้พลังงาน

นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญกับการนำวัสดุรีไซเคิลมาใช้ในการออกแบบและเป็นส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ จากความมุ่งมั่นในการยกระดับเครื่องใช้ไฟฟ้าให้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคทั่วโลก ซึ่ง TCL ได้นำเทคโนโลยีเหล่านี้ไปจัดแสดง ให้ผู้บริโภคได้สัมผัสประสบการณ์จริงในงาน CES 2025 ณ เมืองลาสเวกัส ประเทศสหรัฐอเมริกา โดย Consumer Technology Association (CTA)”

ทั้งนี้ TCL ประกาศศักดาความเลิศทางเทคโนโลยี ด้านนวัตกรรมจอแสดงผล และ โซลูชันสมาร์ทโฮม โดยมีผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจ ได้แก่ สมาร์ทโฟน TCL 50 PRO NXTPAPER 5G ซึ่งได้รับรางวัลนวัตกรรม CES 2025 อันทรงเกียรติในประเภทอุปกรณ์พกพา อุปกรณ์เสริม และ แอป พร้อมด้วย 6 รางวัลจากงาน Global Top Brands Awards Ceremony (GTB) ประจำปี 2024-2025 โดย International Data Group (IDG) ซึ่งจัดโดย Asia Digital Group และ Europe Digital Group ร่วมกับ TWICE โดยได้รับการสนับสนุนจาก IDC ถือเป็นรางวัลที่มีอิทธิพลมากที่สุดในกลุ่มผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ โดยมีสินค้าที่ได้รับรางวัลตั้งแต่ ทีวีและเครื่องปรับอากาศ ไปจนถึงเครื่องซักผ้า TCL Premium QD-Mini LED TV X11K ได้รับรางวัล "Mini LED Display Technology Innovation Award" จากรายละเอียดภาพ ความคมชัด และความลึกที่ไม่มีใครเทียบได้  , เครื่องปรับอากาศรุ่น FreshIN ได้รับรางวัล "Smart Fresh Air Technology Innovation Award", เครื่องซักผ้าฝาหน้ารุ่น Super Drum ของ TCL ได้รับรางวัล "Clean Technology Innovation Gold Award" 

นอกจากนี้ TCL ยังได้รับการเสนอชื่อให้เป็นหนึ่งใน "10 แบรนด์ยอดนิยมแห่งยุโรป 2024-2025" และ "10 แบรนด์ทีวีระดับโลก 2024-2025" ซึ่งตอกย้ำความเป็นผู้นำและมีอิทธิพลในอุตสาหกรรม ขณะที่ผลิตภัณฑ์ประเภทอื่นๆ เช่น สมาร์ทล็อค แว่น AR RayNeo และ เราเตอร์เคลื่อนที่ ยังได้รับรางวัล "Best of CES 2025" จากสื่อต่างประเทศหลายรางวัล, รางวัล “CES Picks Award” ประจำปี 2025 ในประเภท TechRadar Pro ในผลิตภัณฑ์ TCL LINKPORT IK511 ซึ่งเป็นดองเกิล 5G RedCap ของ TCL พร้อมด้วย TCL 50 PRO NXTPAPER 5G และ ท้ายสุดกับรางวัล “Circana Consumer Electronics Performance” Award ประจำปี 2025 สำหรับส่วนแบ่งการตลาดทีวีที่เพิ่มขึ้นสูงสุดในอเมริกาเหนือ

>> ปฏิวัติเทคโนโลยีจอแสดงผล 
TCL ผู้นำด้านนวัตกรรมจอแสดงผล โดดเด่นด้วยผลิตภัณฑ์เรือธงอย่าง TCL X11K QD-Mini LED TV ที่มาพร้อมนิยามความบันเทิงภายในบ้านรูปแบบใหม่ ด้วยโซนหรี่แสงเฉพาะจุดกว่า 14,000 โซน ซึ่งให้ความคมชัดและความแม่นยำในการแสดงภาพ ยกระดับด้วยเทคโนโลยี All-domain Halo Control ให้ประสบการณ์การรับชมเสมือนจริง 

พร้อมความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับ Bang & Olufsen แบรนด์เครื่องเสียงระดับไฮเอนด์ เพื่อนำเสนอโซลูชันเสียงเฉพาะตัวให้แก่ผู้ใช้งาน รวมถึง TCL A300 Series TV ดีไซน์บางเฉียบและสไตล์โดดเด่น พร้อมประสบการณ์เสียงระดับพรีเมียม 

ภายในงานยังมีการจัดแสดง TV QD-Mini LED ขนาด 115 นิ้ว รุ่น QM891G ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก พร้อมด้วย Q85 Soundbar คู่หูที่สมบูรณ์แบบสำหรับทีวีขนาดใหญ่พร้อมประสิทธิภาพเสียงที่สมจริง และ สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการเล่นเกม R83 Professional Monitor Series ซึ่งออกแบบมาเพื่อรองรับผู้ที่ต้องการประสบการณ์การรับชมภาพที่มีความแม่นยำสูงระดับพิกเซล

>> เทคโนโลยี NXTPAPER 4.0 และผลิตภัณฑ์อื่นๆ
นอกจากนี้ TCL ยังได้นำเสนอ NXTPAPER 4.0 เทคโนโลยีจอแสดงผลกระดาษอิเล็กทรอนิกส์สี ซึ่งได้รับรางวัลด้านการออกแบบ ช่วยลดความเมื่อยล้าของดวงตาจากการใช้งานหน้าจอในระยะยาว โดยเปิดตัวใน TCL NXTPAPER 11 Plus Tablet และ มีแผนขยายไปยังสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นๆ 

อีกหนึ่งไฮไลท์ คือ แว่นตาอัจฉริยะ RayNeo X3 Pro ที่มาพร้อมเทคโนโลยี AR ด้วยพลังการประมวลผลในตัว ที่ไม่จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์ภายนอก และมาในรูปแบบของดีไซน์ที่กะทัดรัด และ PLAYCUBE Projector โปรเจกเตอร์พกพาที่มาพร้อมสไตล์และความอเนกประสงค์ ยิ่งไปกว่านั้น TCL ยังจัดแสดงนวัตกรรมด้านอิเล็กทรอนิกส์ยานยนต์ด้วยโซลูชันห้องนักบินและการขับขี่อัจฉริยะ

>> ผู้บุกเบิกคุณสมบัติ AI และการเชื่อมต่ออัจฉริยะ 
ภายในงาน CES 2025 ยังได้เปิดตัว TCL Ai Me หุ่นยนต์ AI โมดูลาร์รุ่นแรกของโลก มาตรฐานทรงแคปซูลที่สามารถถอดประกอบได้ ถือเป็นผลิตภัณฑ์ต้นแบบที่ผสมผสานให้เข้ากับการใช้ชีวิตอัจฉริยะได้อย่างลงตัว ยกระดับชีวิตประจำวันด้วยการโต้ตอบอย่างเป็นธรรมชาติ มอบประสบการณ์ที่สามารถปรับให้เข้ากับความต้องการของแต่ละบุคคลได้ 

อีกหนึ่งไฮไลท์ คือ ทีวีรุ่นเรือธงต่างๆ ของ TCL ที่ผนวกโมเดล Gemini ของ Google และมีแผนเปิดตัว Google TV รุ่นใหม่ที่มีความสามารถของ Gemini ในปี 2025 โดยมุ่งปฏิวัติความบันเทิงภายในบ้านที่สามารถโต้ตอบได้อย่างสมจริงมากขึ้น

ด้านการเชื่อมต่อเครื่องเราเตอร์ TCL LINKHUB HH516 5G AI CPE ที่มาพร้อมความเสถียรของเครือข่ายอัจฉริยะด้วยปริมาณข้อมูลที่สูงขึ้น ความหน่วงต่ำลง และใช้พลังงานน้อยลง และยังจัดแสดง Smart Lock D1 Series รวมถึง D1 Pro ที่มาพร้อมการจดจำเส้นเลือดในฝ่ามือด้วย AI รุ่นใหม่ และ D1 Ultra กลอนประตูอัจฉริยะ 4-in-1 รุ่นแรกของโลกที่รวมกุญแจอัจฉริยะ กล้องรักษาความปลอดภัย กริ่งประตูวิดีโอ และ จอแสดงผลนวัตกรรมขนาด 3.5 นิ้วเข้าไว้ด้วยกัน

>> เป็นผู้นำด้านความยั่งยืนและการออกแบบ
ภายในบูธของ TCL ได้นำเสนอความมุ่งมั่นในการออกแบบที่ตระหนักถึงผู้ใช้งานและนวัตกรรมด้วยบรรยากาศที่เป็นธรรมชาติ มีสไตล์ และคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม โดยไฮไลท์เป็นรีโมทคอนโทรลที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งทำจากใบชารีไซเคิลและเฟอร์นิเจอร์กระดาษแข็ง เพื่อตอกย้ำวิสัยทัศน์ต่อแนวทางปฏิบัติที่ยั่งยืนของ TCL ในการใช้ชีวิตอัจฉริยะและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ TCL ยังนำเสนอผลิตภัณฑ์นวัตกรรมพร้อมโซลูชันบ้านอัจฉริยะและยั่งยืนอีกด้วย

เครื่องปรับอากาศ TCL FreshIN 3.0 นิยามใหม่ของเครื่องปรับอากาศที่ส่งเสริมสุขภาพ เพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานและความสะดวกสบาย โดยมีช่องรับอากาศบริสุทธิ์แบบยกได้ ทำหน้าที่นำอากาศจากภายนอกเข้ามา กำจัดกลิ่น เพิ่มระดับออกซิเจนภายในห้อง และยังใช้เทคโนโลยีประหยัดพลังงาน สามารถปรับความถี่ในการทำงานได้อย่างชาญฉลาด อีกทั้งสามารถสั่งการควบคุมด้วยเสียงอัจฉริยะยังช่วยให้ใช้งานแบบแฮนด์ฟรีได้โดยไม่ต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต

ตู้เย็น TCL FREE BUILT-IN ที่มีดีไซน์บางเฉียบ ประหยัดพื้นที่และใช้เทคโนโลยีล้ำสมัยที่ช่วยถนอมอาหารได้ดียิ่งขึ้น เช่นเดียวกับชุดเครื่องซักผ้าและเครื่องอบผ้า P680 ที่ออกแบบมาให้สามารถวางซ้อนได้สำหรับพื้นที่จำกัด มาพร้อมเทคโนโลยีป้องกันรอยยับและมีรอบการทำงานอัจฉริยะเพื่อการดูแลเสื้อผ้าที่ดีที่สุด

หัวใจสำคัญในความพยายามด้านสิ่งแวดล้อมของ TCL คือ ระบบจัดการพลังงานบ้านอัจฉริยะ (Smart Home Energy Management Solution - HEMS) ที่ผสานแผงโซลาร์เซลล์ การกักเก็บพลังงาน และฮีตปั๊มเพื่อการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ

>> ความเป็นเลิศด้านการร่วมมือกับพันธมิตรระดับโลก 
ด้วยการเป็นพันธมิตรกับทรัพย์สินทางปัญญาด้านกีฬาและความบันเทิงชั้นนำทั่วโลก ได้แสดงพลังแห่งนวัตกรรมให้กับคนรุ่นใหม่ในงาน CES 2025 TCL ได้ร่วมมือกับ NFL ลีกกีฬาที่มีผู้ชมมากที่สุดในอเมริกาเหนือ โดยมี Mr. Charles Woodson สมาชิก NFL Hall of Fame ร่วมพบปะกับแฟนๆ ที่งานเพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่าง TCL กับผู้ชม

การมีส่วนร่วมอย่างใกล้ชิดของ TCL กับชุมชนท้องถิ่นและพันธมิตรระดับโลกได้รับการยอมรับจากผู้บริโภคอย่างกว้างขวาง ซึ่งสะท้อนให้เห็นได้จากผลงานในปี 2024 จากการที่ TCL ครองอันดับ 2ของโลกในด้านการจัดส่งทีวีและในอเมริกาเหนือในด้านปริมาณการขายปลีกทีวีในช่วงสามไตรมาสแรกของปี

สำหรับ TCL Electronics (1070.HK) ถือเป็นแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าสำหรับผู้บริโภคชั้นนำที่เติบโตอย่างรวดเร็วและเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมทีวีระดับโลก ก่อตั้งในปี 2524 ปัจจุบัน TCL ดำเนินงานในตลาดมากกว่า 160 แห่งทั่วโลก บริษัทมีความเชี่ยวชาญด้านการวิจัย พัฒนา และผลิตสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าสำหรับผู้บริโภค ตั้งแต่ทีวี เครื่องเสียงไปจนถึงเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านอัจฉริยะ อุปกรณ์เคลื่อนที่ แว่นตาอัจฉริย


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top