Thursday, 24 April 2025
สร้างชาติ

‘ปชป.’ เรียกน้ำย่อย คิกออฟ 8 นโยบายฐานราก ก่อนชูยุทธศาสตร์ใหญ่ ‘สร้างเงิน สร้างคน สร้างชาติ’

(13 ม.ค. 66) ที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์, นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรค และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และนายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และผู้อำนวยเตรียมการเลือกตั้งของพรรค ได้ร่วมกันแถลงข่าวถึงนโยบายซีซั่น 1 ของพรรคภายใต้สโลแกน ‘ทำได้ไว ทำได้จริง’ โดยนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ได้กล่าวว่า... 

ขณะนี้เรากำลังเข้าสู่โหมดของการเลือกตั้ง และเหลือเวลาประมาณ 2 เดือนเศษที่จะต้องมีการเลือกตั้ง ซึ่งทางพรรคประชาธิปัตย์ได้เตรียมความพร้อมในการเลือกตั้งมาตลอดเวลา ทั้งด้านนโยบายและด้านตัวบุคคล โดยมียุทธศาสตร์ ‘สร้างเงิน สร้างคน สร้างชาติ’ สร้างเงิน เป็นยุทธศาสตร์ทางด้านเศรษฐกิจที่มุ่งเน้นหลายเรื่อง เช่น ประกันรายได้คนไทย และประกันรายได้ให้กับประเทศ ส่วนการสร้างคนนั้น คือยุทธศาสตร์ทางด้านสังคมซึ่งจะมุ่งเน้นในเรื่องของการศึกษาและการสาธารณสุข สวัสดิการตลอดชีพ และสุดท้ายการสร้างชาติ ก็จะสร้างชาติด้วยนโยบายทางการเมืองที่จะมุ่งเน้นประชาธิปไตยอันนี้มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขและประชาธิปไตยสุจริต ซึ่งจะมีรายละเอียดตามมาอีกครั้ง ส่วนวันนี้จะเป็นการเปิดตัว 8 นโยบายฐานรากก่อน 

สำหรับนโยบายทั้ง 8 นั้น จะมุ่งเน้นหลักไปที่การพัฒนาเกษตรและการพัฒนาหมู่บ้านชุมชนทั้งในต่างจังหวัดและในกรุงเทพมหานคร โดยทางด้าน นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรค ได้กล่าวเสริมเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า นโยบายด้านการเกษตรเป็นนโยบายฐานรากของคนไทย ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน ประกอบไปด้วย 8 นโยบายหลัก รายละเอียดดังนี้…

นโยบายที่ 1. ประกันรายได้ จ่ายเงินส่วนต่าง ข้าว มัน ยาง ปาล์ม ข้าวโพด ซึ่งเป็นนโยบายต่อเนื่องจากความสำเร็จของพรรคประชาธิปัตย์ในการประกันรายได้ เราจะจ่ายเงินส่วนต่างให้กับเกษตรกร

นโยบายที่ 2. ชาวนารับ 30,000 บาทต่อครัวเรือน ปัจจุบันมีเกษตรกรปลูกข้าวกว่า 4.7-4.8 ล้านครัวเรือน เราช่วยให้ชาวนารับ 30,000 บาทต่อหนึ่งครัวเรือน นโยบายนี้สร้างความเข้มแข็งให้กับพี่น้องชาวนา ให้มีความสามารถในการพัฒนาตัวเอง อย่างยั่งยืน

นโยบายที่ 3. ฟรี นม โรงเรียน 365 วัน เพื่อเป็นการพัฒนาเด็ก พัฒนาบุคลากรของประเทศ ซึ่งประเทศชาติต้องการพัฒนาเด็กให้กลายเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพในวันข้างหน้า และยังเป็นการช่วยเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมได้มีส่วนช่วยดูแลเด็กไทยอีกด้วย 

นโยบายที่ 4. ประมงท้องถิ่น รับ 100,000 บาททุกปี นโยบายนี้จะให้กลุ่มประมงทุกกลุ่ม กว่า 2,800 กลุ่ม ซึ่งจะได้รับทันทีเมื่อประชาธิปัตย์ได้เป็นรัฐบาล เพื่อให้กลุ่มประมงมีความเข้มแข็งในตัวเองอย่างยั่งยืน

ฟุตบอลรักเมืองไทย 'วปอ.-พระปกเกล้า' ชูลดความเหลื่อมล้ำ-ร่วมสร้างชาติให้มั่นคง ขณะที่ 'อุ๊งอิ๊ง' ร่วมเชียร์ลั่นสนามศุภชชาศัย

เมื่อวานนี้ (1 ก.ย.67) ที่ สนามศุภชลาศัย นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา เป็นประธานเปิดการแข่งขัน ฟุตบอลประเพณี 'วปอ.-สถาบันพระปกเกล้า' ภายใต้แนวคิด 'รักเมืองไทย-ลดความเหลื่อมล้ำ-ร่วมสร้างชาติให้มั่นคง' ชิงถ้วยรางวัลสภากาชาดไทย และ ชิงถ้วยรางวัลจาก พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ ซึ่งปีนี้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 2 

โดยมี นายวิทวัส ชัยภาคภูมิ เลขาธิการ สถาบันพระปกเกล้า พลโท ทักษิณ สิริสิงห ผู้อำนวยการวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร สถาบันวิชาการป้องกันประเทศนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นายอนุทิน ชาญวีรกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย 

พร้อมทั้ง คณาจารย์ ศิษย์เก่า และศิษย์ปัจจุบัน ของ วปอ. และ สถาบันพระปกเกล้า ประกอบด้วย หลักสูตรการเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตยสําหรับนักบริหารระดับสูง (ปปร.) หลักสูตรการเสริมสร้างสังคมสันติสุข (4 ส.) หลักสูตรการบริหารงานภาครัฐและกฎหมายมหาชน (ปรม.) หลักสูตรการบริหารเศรษฐกิจสาธารณะสําหรับนักบริหารระดับสูง (ปศส.) หลักสูตรประกาศนียบัตรผู้นายุคใหม่ในระบอบประชาธิปไตย (ปนป.) หลักสูตรวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) หลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักร สำหรับผู้บริหารแห่งอนาคต (วปอ.บอ.) หรือ 'มินิ วปอ.' หลักสูตรการบริหารความมั่นคงสำหรับผู้บริหารระดับสูง (สวปอ.มส. SML) เข้าร่วมกิจกรรมกันอย่างคับคั่ง

โดยกิจกรรมเริ่มจาก การแสดงดุริยางค์ จากกองดุริยางค์ทหารอากาศ ตามด้วยการแสดงขบวนพาเหรดจากเหล่าศิษย์เก่าและปัจจุบัน ของ วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) และสถาบันพระปกเกล้า และการแสดงมินิคอนเสิร์ตของ 'ชัชชัย สุขขาวดี' หรือที่รู้จักในชื่อ 'หรั่ง ร็อคเคสตร้า' และ 'สปาย-ภาสกรณ์ รุ่งเรืองเดชาภัทร์' The Golden Song เวทีเพลงเพราะ

ต่อด้วยการแข่งขันฟุตบอล 3 คู่ ทีมแรก ประเภท YOUNG ทีมที่สองประเภท JUNIOR และทีมปิดแมตช์ ประเภท SENIOR โดยมีนักเตะกิตติมศักดิ์ ฝั่ง วปอ. อาทิ นายถิรชัย วุฒิธรรม พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ พลเอก ทรงวิทย์ หนุนภักดี พลเอก เฉลิมชัย สิทธิสาท ขณะที่ฝั่ง สถาบันพระปกเกล้า มี ดร.ชาญวิทย์ ผลชีวีน นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ นายธนกร วังบุญคงชนะ นายนิธิ สมุทรโคจร นายยุทธนา หยิมการุณ สำหรับผลการแข่งขันฟุตบอล รุ่น YOUNG สถาบันพระปกเกล้า ชนะ วปอ. 2:1 รุ่น JUNIOR สถาบันพระปกเกล้า ชนะ วปอ. 3:1 และรุ่น SENIOR  สถาบันพระปกเกล้า แพ้ วปอ. 0:5

นายอรรถพล เสือคำรณ ประธานฝ่ายจัดงาน ปปร.27 กล่าวว่า กิจกรรมแข่งขันฟุตบอลประเพณีในปีนี้ นอกจากจะเป็นการกระชับความสัมพันธ์ของ 2 สถาบันแล้ว ยังเป็นการปลูกฝังความรักชาติ รักสถาบันของประเทศไทย ให้ทุกฝ่ายได้เกิดความสามัคคีซึ่งกันและกัน ขณะที่ปีนี้ในประเทศของเราต้องเผชิญกับเหตุอุทกภัย การจัดกิจกรรมนี้จึงได้เปิดรับบริจาค โดยเงินทุกบาททุกสตางค์จะถูกส่งมอบไปยัง สภาการชาดไทย เพื่อนำไปก่อประโยชน์กับผู้ประสบภัยทุกคน

ด้าน ดร.วิกร ภูวพัชร์ ประธานฝ่ายจัดงาน วปอ.67 กล่าวว่า วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) กับ สถาบันพระปกเกล้า ถือว่าเป็นสถาบันหลักของประเทศที่ให้ความรู้ และผลิตบุคลากรของชาติ ระดับคุณภาพอย่างมากมาย ซึ่งการแข่งขัน ยึดรูปแบบฟุตบอลประเพณี 'จุฬาฯ-ธรรมศาสตร์' มาเป็นโมเดล และครั้งที่ 3 ปี 2568 ทางวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร รับหน้าที่เป็นภาพจัดการแข่งขันเพื่อสืบสานปรเพณีเช่นนี้ต่อไป 

นายวิทวัส​ ชัย​ภาคภูมิ​ เลขาธิการสถาบัน​พระ​ปกเกล้า​ กล่าว​ว่า​ ต้องขอ​ขอบคุณ​ในความทุ่มเทของนักศึกษาหลักสูตร ปปร. และ วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) เป็นอย่างยิ่งที่ร่วมกันจัดงานฟุตบอลประเพณี 'รักเมืองไทย' ครั้งที่ 2 ขึ้น​ ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ดี​ ทำให้นักศึกษา​ทั้งสองสถาบัน​ฯ​ ได้มีโอกาสพบปะสร้างสัมพันธ์ใหเ้แน่นแฟ้น เพื่อสร้างความเข้มแข็งด้านความร่วมมือด้านประชาธิปไตย สร้างความปรองดองสมานฉันท์ในสังคม​ โดยใช้กีฬาฟุตบอลเป็นสื่อกลาง


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top