Tuesday, 22 April 2025
สมุย

Travel + Leisure ยกกรุงเทพฯ เมืองที่ดีสุดในอาเซียน ส่วน ‘ภูเก็ต – สมุย’ รั้งอันดับ 1,2 เกาะน่าเที่ยวที่สุด

เมื่อวันที่ (4 ก.ค. 65) นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ยินดีที่เว็ปไซต์ท่องเที่ยว Travel + Leisure ยกให้กรุงเทพฯ เป็นเมืองที่ได้คะแนนจากนักท่องเที่ยวมากที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (Best Cities in Southeast Asia 2022) ด้านเกาะภูเก็ต และเกาะสมุย เป็นเกาะที่น่าท่องเที่ยวที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อันดับ 1 และ 2 ตามลำดับ

นายธนกร กล่าวว่า ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกในปีนี้ชื่นชอบจากเหตุผลหลายประการ ทั้งรอยยิ้มที่อบอุ่น สตรีทฟู๊ดส์ที่อร่อย และความรู้สึกดีของการนั่งรถตุ๊กตุ๊กหรือมอเตอร์ไซค์ ตระเวนเที่ยวทั่วกรุงเทพฯ และเป็นเมืองที่มีความหลากหลาย สามารถท่องเที่ยวแบบหรูหรา ในห้องพักมีสระว่ายน้ำส่วนตัว อาหารระดับดาวมิชลิน นอกจากนี้กรุงเทพฯ ยังเป็นจุดศูนย์กลางในการเดินทางไปท่องเที่ยวที่อื่น ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้อย่างสะดวกและมีหลายทางเลือกในการเดินทาง

‘ชัยวุฒิ’ รุด ‘สมุย’ ตรวจสถานีพยากรณ์อากาศ พบเสียหายนับ 10 ปี และฝืนตั้งสถานีบนที่ราบ

‘ชัยวุฒิ’ ลงพื้นที่สมุย ตรวจ สถานีเรดาร์ พยากรณ์อากาศ หลังชาวบ้านร้องเรียน เสียนานนับ 10 ปี พบพิรุธ ฝืนตั้งสถานีบนที่ราบทั้งที่รู้ว่าใช้งานไม่ได้ ส่อทุจริต เร่งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ 

(23 ม.ค.66) นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัล เพื่อเศรษฐกิจและสังคม นำคณะลงพื้นที่เกาะสมุย ตรวจสถานีเรดาร์ ตรวจอากาศ หลังจากที่ชาวบ้านร้องเรียนว่าไม่สามารถใช้งานได้ ซึ่งการลงพื้นที่ตรวจสอบครั้งนี้ เนื่องจากเรดาร์เป็นหัวใจสำคัญของการตรวจสอบ เมฆฝน พายุ จึงปัจจัยสำคัญในการพยากรณ์อากาศ และแจ้งเตือนประชาชน โดยสถานีแห่งนี้ ก่อสร้าง และ ติดตั้งอุปกรณ์ ตั้งแต่ปี 2553 และ ระหว่างใช้งานก็เสียหายต่อเนื่อง จนกระทั้ง ปี 2556 ต้องหยุดใช้งาน เพราะหมดอายุประกัน ทำให้ไม่มีเรดาร์บนเกาะสมุยตรวจอากาศในอ่าวไทยจนถึงปัจจุบัน และการลงพื้นที่ครั้งนี้จะก็หาแนวทางแก้ไข 

นายชัยวุฒิ ยอมรับว่า ตั้งแต่รับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลฯ ไม่เคยได้รับรายงานเรื่องนี้ จนกระทั่งมาตรวจสอบงบประมาณการจัดซื้อเรดาร์ ถึงพบปัญหา จึงให้ตรวจสอบเพิ่มเติมว่ามีที่ไหนเสียหายอีกบ้างเพื่อแก้ไข

‘บางกอกแอร์เวย์ส’ อัดเงินลงทุน 2,300 ล้านบาท ปรับปรุง 2 สนามบิน ‘สมุย-ตราด’ รับนักท่องเที่ยว

(13 มิ.ย.67) นายพุฒิพงศ์ ปราสาททองโอสถ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในช่วงปี 2567-2569 บริษัทฯ มีแผนลงทุนพัฒนาศักยภาพการให้บริการสนามบิน 2 โครงการ วงเงินลงทุนรวมประมาณ 2,300 ล้านบาท ประกอบด้วย 1.โครงการปรับปรุงอาคารผู้โดยสารของสนามบินสมุย วงเงินลงทุนประมาณ 1,500 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้ อยู่ระหว่างการศึกษา และเตรียมการขออนุญาต รวมถึงการออกแบบในรายละเอียดต่าง ๆ โดยคาดว่า จะใช้ระยะเวลาดำเนินการ 2 ปี แล้วเสร็จภายในปี 2568

ในเบื้องต้นได้วางแผนปรับปรุงสนามบินเพื่อเพิ่มจำนวนพื้นที่พักคอย (Boarding gate) ภายในอาคารผู้โดยสาร จากเดิม 7 อาคาร เพิ่มเป็น 11 อาคาร และเพิ่มเคาน์เตอร์เช็กอิน จำนวน 10 เคาน์เตอร์ รวมถึงพื้นที่เชิงพาณิชย์ด้วย โดยเมื่อโครงการปรับปรุงสนามบินสมุยฯ แล้วเสร็จ จะช่วยรองรับจำนวนผู้โดยสารที่เพิ่มมากขึ้น สอดคล้องกับเป้าหมายของรัฐบาลที่ต้องการให้สนามบินสมุยมีผู้โดยสารขาเข้าอยู่ที่ 2 ล้านคนต่อปี และขาออก 2 ล้านคนต่อปี จากปัจจุบันมีผู้โดยสารขาเข้าอยู่ที่ 1 ล้านคนต่อปี และขาออก 1 ล้านคนต่อปี

ขณะเดียวกัน การปรับปรุงสนามบินสมุยดังกล่าว จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการรองเที่ยวบินได้ 73 เที่ยวบินต่อวัน จากในปัจจุบันมีเที่ยวบินอยู่ที่ 50 เที่ยวบินต่อวัน สำหรับในขณะนี้ สนามบินสมุยมีจำนวนสายการบินที่เปิดให้บริการรวม 2 สายการบิน คือ สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส และสายการบินสกู๊ต (วันละ 1 เที่ยวบิน และเตรียมเพิ่มเป็นวันละ 2 เที่ยวบินในเร็ว ๆ นี้) นอกจากนี้ ล่าสุดยังมีสายการบินของประเทศทิเบตสนใจเปิดเที่ยวบินมายังสนามสมุยด้วย ซึ่งตอนนี้ได้ยื่นเรื่องขออนุญาตต่อสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) แล้ว

นอกจากนี้ โครงการพัฒนาสนามบินตราด วงเงินลงทุนประมาณ 700-800 ล้านบาท ปัจจุบัน อยู่ระหว่างการศึกษาโครงการฯ คาดว่า จะเริ่มดำเนินก่อสร้างต้นปี 2568 ใช้ระยะเวลาก่อสร้าง 1-2 ปี แล้วเสร็จพร้อมเปิดให้บริการในช่วงกลางปี 2569 ทั้งนี้ โครงการดังกล่าว จะใช้พื้นที่ประมาณ 200-300 ไร่ จะมีการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารแห่งใหม่ อยู่ห่างจากพื้นที่สนามบินเดิมเล็กน้อย สามารถรองรับผู้โดยสารได้ 200 กว่าคนต่อเที่ยวบิน จากปัจจุบันรองรับผู้โดยสารได้ประมาณ 100 คนต่อเที่ยวบิน ส่วนอาคารผู้โดยสารแห่งเดิม จะปรับปรุงเป็นอาคารคลังสินค้า (Cargo)

ส่วนสนามบินตราด จะดำเนินการขยายระยะทางวิ่ง (Runway) จาก 1,800 เมตร ขยายเป็น 2,000-2,100 เมตร เพื่อให้รองรับเครื่องบินไอพ่นขนาดเล็ก รวมถึงเครื่องบินโบอิ้ง 737, แอร์บัส เอ320, แอร์บัส เอ319 จากปัจจุบันรองรับได้แค่เครื่องบิน ATR72-600 เท่านั้น อย่างไรก็ตาม การพัฒนาสนามบินตราดนั้น เนื่องจากบริษัทฯ เล็งเห็นถึงโอกาสในการเพิ่มศักยภาพของสนามบินตราดให้สามารถรองรับผู้โดยสารในเที่ยวบินที่เดินทางมาจากต่างประเทศได้ในอนาคต โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวจีนที่ติดต่อและสนใจที่จะเดินทางมายังสนามบินตราด พร้อมทั้งจะพัฒนาให้เป็นสนามบินนานาชาติ (International Airport) และคาดหวังจะพัฒนาให้คล้ายกับสนามบินสมุยด้วย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น จะต้องมาพิจารณาถึงความเป็นไปได้ และความนิยมของผู้โดยสารต่อไป

นายพุฒิพงศ์ ยังกล่าวถึงเผยแผนการดำเนินงานช่วงครึ่งปีหลัง 2567 ว่า จากข้อมูลของสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA) ใน มิ.ย. 2567 คาดการณ์ว่า อัตราการเติบโตของการเดินทางทางอากาศในปี 2567 ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเติบโตสูงที่สุดเมื่อเทียบกับภูมิภาคอื่นที่ 17.2% และในปี 2567 อุตสาหกรรมการบินจะสามารถกลับมาสู่ระดับที่สูงกว่าช่วงก่อนโควิด-19 ได้ แสดงให้เห็นถึงความต้องการเดินทางว่ามีแนวโน้มเติบโตได้ดี บริษัทฯ จึงได้วางกลยุทธ์การดำเนินงานในหลายมิติ เพื่อตอบสนองความต้องการในการเดินทางในช่วงที่จะเข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยว

ทั้งนี้ จากยอดการสำรองที่นั่งบัตรโดยสารล่วงหน้า (Advance Booking) ของสายการบินบางกอกแอร์เวย์สในทุกเส้นทาง พบว่า ยอดจองล่วงหน้าช่วง มิ.ย. - ธ.ค. 2567 มีอัตราการเติบโตสูงขึ้น 13% เมื่อเทียบกับปี 2566 ส่วนไตรมาส 2 มีการเติบโตขึ้น 3% และไตรมาส 3 ซึ่งถึงเป็นช่วงพีคซีซั่นของเส้นทางสมุย  มีอัตราเติบโตขึ้น 11% โดยเส้นทางสมุยยังเป็นอันดับ 1 มีสัดส่วน 65% ขณะที่ไตรมาส 4/2567 ซึ่งเป็นช่วงไฮซีซั่น ที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่นิยมเดินทางช่วงวันหยุดยาวสิ้นปีนั้น มียอดการจองตั๋วเครื่องบินล่วงหน้าเติบโตเพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา 35%

นายพุฒิพงศ์ กล่าวต่ออีกว่า สำหรับภาพรวมผลการดำเนินงานในปี 2567 นั้น ขณะนี้บริษัทฯ อยู่ระหว่างการพิจารณาภายในว่า จะมีการปรับเป้าหมายที่เคยตั้งไว้ก่อนหน้านี้หรือไม่ ผลมาจากจำนวนผู้โดยสารที่มีแนวโน้มที่ดี แต่ในเบื้องต้นยังคงเป้าหมายเดิมไว้ โดยจะมีผู้โดยสาร 4.5 ล้านคน มีจำนวนเที่ยวบิน 48,000 เที่ยวบิน ขณะที่อัตราบรรทุกผู้โดยสาร (Load Factor) อยู่ที่ 86% จากในช่วงไตรมาส 1/2567 อยู่ที่ 80 กว่า % และไตรมาส 2 อยู่ที่ 76-78% โดยมีเป้ารายได้ผู้โดยสารรวม 17,800 ล้านบาท จากราคาบัตรโดยสารเฉลี่ยต่อเที่ยวบินประมาณ 3,900 บาทต่อที่นั่ง

ปัจจุบันสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส มีเครื่องบินทั้งสิ้นจำนวน 24 ลำ แบ่งเป็น เครื่องบินแอร์บัส เอ320 จำนวน 3 ลำ, เครื่องบินแอร์บัส เอ319 จำนวน 11 ลำ และเครื่องบิน ATR72-600 จำนวน 10 ลำ โดยในปี 2567 มีแผนปลดระวางเครื่องบินแอร์บัส เอ 320 จำนวน 1 ลำ และจะจัดหาเครื่องบินแอร์บัส เอ319 เพิ่มจำนวน 2 ลำ เพื่อเป็นการรองรับอุปสงค์การเดินทางที่คาดว่าจะเติบโตขึ้น

นายพุฒิพงศ์ ระบุว่า ในปีนี้ บริษัทฯ จะจัดทำเอกสารสำหรับการคัดเลือกเอกชน (RFP) และออกประกาศเชิญชวนผู้ผลิตเครื่องบินเข้าร่วมเสนอราคาเครื่องบินที่จะนำเข้าเพิ่มฝูงบินของสายการบินบางกอกแอร์เวย์สในอนาคต โดยในเบื้องต้นมีความต้องการประมาณไม่ต่ำกว่า 20 ลำ อย่างไรก็ตาม คาดว่า จะทยอยรับมอบเครื่องบินในจำนวนดังกล่าวภายใน 2-3 ปีนี้ ซึ่งจะทำให้ในช่วง 3-5 ปีนี้ สายการบินบางกอกแอร์เวย์สมีเครื่องบินรวมประมาณ 30 ลำ

อโกด้าเผยกระแส 'The White Lotus' ดันเกาะสมุยขึ้นแท่นปลายทางสุดฮอต กระตุ้นยอดค้นหาที่พักพุ่งแรง นักท่องเที่ยวอเมริกันสนใจเพิ่ม 65%

(19 ก.พ. 68) แพลตฟอร์มจองที่พักออนไลน์ อโกด้า (Agoda) เปิดเผยว่าเกาะสมุยได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด หลังจากซีรีส์ดังระดับโลก The White Lotus ซีซั่น 3 ซึ่งมีการถ่ายทำในประเทศไทย เริ่มออกอากาศทาง HBO โดยพบว่ายอดค้นหาที่พักในเกาะสมุยเพิ่มขึ้น 12% ขณะที่ความสนใจจากนักท่องเที่ยวสหรัฐฯ พุ่งขึ้นถึง 65%

ปิแอร์ ฮอนน์ ผู้อำนวยการอโกด้าประจำประเทศไทย เปิดเผยว่าซีรีส์ The White Lotus เคยส่งผลให้การท่องเที่ยวในฮาวายและซิซิลีเติบโตอย่างมหาศาลจากสองซีซั่นที่ผ่านมา และในซีซั่น 3 ประเทศไทยได้รับเลือกให้เป็นสถานที่ถ่ายทำหลัก โดยมีโลเคชันสำคัญอย่างกรุงเทพฯ เกาะสมุย เกาะพะงัน และภูเก็ต ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้ชมทั่วโลก

หนึ่งในปัจจัยที่ช่วยกระตุ้นกระแสคือการร่วมแสดงของศิลปินชื่อดัง ลลิษา มโนบาล หรือ 'ลิซ่า BLACKPINK' รวมถึงนักแสดงฮอลลีวูดอย่าง แพทริก ชวาร์เซเน็กเกอร์ ซึ่งช่วยเพิ่มความสนใจจากทั้งแฟนซีรีส์และแฟนคลับของศิลปินระดับโลก

ข้อมูลจากอโกด้าระบุว่า นักเดินทางจากสหรัฐฯ ขึ้นแท่นหนึ่งใน 5 อันดับแรกของประเทศที่มีการค้นหาที่พักในเกาะสมุยมากที่สุดบนแพลตฟอร์ม แซงหน้านักท่องเที่ยวจากมาเลเซียที่เคยติดอันดับก่อนหน้านี้ ขณะเดียวกัน การค้นหาที่พักจากนักท่องเที่ยวในยุโรปก็เพิ่มขึ้น โดยประเทศที่มีอัตราการค้นหาสูงสุด ได้แก่ อิสราเอล เยอรมนี ฝรั่งเศส สหรัฐอเมริกา และสหราชอาณาจักร ตามลำดับ

ด้วยกระแสตอบรับที่ร้อนแรงจากซีรีส์ดัง คาดว่าการท่องเที่ยวไทยจะได้รับแรงกระตุ้นครั้งใหญ่ โดยเฉพาะเกาะสมุย ซึ่งกำลังกลายเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางระดับโลกที่นักเดินทางให้ความสนใจมากขึ้น ไม่เพียงแต่ช่วยฟื้นฟูอุตสาหกรรมท่องเที่ยวหลังโควิด-19 แต่ยังช่วยยกระดับภาพลักษณ์ของประเทศไทยในฐานะสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์และซีรีส์ระดับนานาชาติอีกด้วย


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top