Saturday, 7 June 2025
สมุทรปราการ

สมุทรปราการ-วัดมหาวงษ์ ร่วมกับ ครอบครัวพาณิชย์พิศาล สรงน้ำขอพรเนื่องในเทศกาลวันสงกรานต์ ร่วมสืบสานประเพณีไทย

(17 เม.ย. 68) ณ วัดมหาวงษ์  อ.เมือง จ.สมุทรปราการ คณะสงฆ์วัดมหาวงษ์ได้ประกอบพิธีสวดมาติกาบังสุกุล และร่วมให้ประชาชนได้สรงน้ำขอพรพระภิกษุสงฆ์เนื่องในเทศกาลวันสงกรานต์ หรือวันปีใหม่ไทย ประจำปี 2568 

โดยในปีนี้ได้รับเกียรติจาก ครอบครัวพาณิชย์พิศาล ประธานฝ่ายฆราวาส นำโดยนายอัครนันท์-นางธัญยธรณ์ และนางสาวปิยนุช พาณิชย์พิศาล ครอบครัวเศรษฐีผู้ใจบุญที่ให้การสนับสนุนช่วยเหลือและช่วยพัฒนาวัดมหาวงษ์แห่งนี้มาโดยตลอด ตลอดจนคณะศิษย์ยานุศิษย์ คณะเจ้าหน้าที่ชมรมโฮปฯ และประชาชนชาวสมุทรปราการร่วมในพิธีครั้งนี้

โดยคณะสงฆ์สวดมาติกาบังสุกุลเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้แก่พระครูสุนทรธรรมวงศ์ อดีตเจ้าคณะตำบลปากน้ำ อดีตเจ้าอาวาสวัดมหาวงษ์ และบรรพบุรุษ บุรพาจารย์ผู้ที่เคยสร้างคุณประโยชน์ให้แก่วัดมหาวงษ์ โดยได้รับความเมตตาจากพระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์จากวัดต่างๆ ร่วมประกอบพิธีและพิจารณาผ้าบังสุกุล

นอกจากนี้ ยังมีการรำถวายขอพรองค์ท้าวเวสสุวรรณเพื่อความเป็นสิริมงคล รวมถึงการถวายกุฎิสงฆ์และกุฎิสงฆ์ที่ซ่อมแซมแล้วเสร็จ โดยทางครอบครัวพาณิชย์พิศาลเป็นประธานดำเนินการ จากนั้นได้ร่วมกันถวายภัตตาหารเพลแด่พระสงฆ์ ทั้งนี้ ทางวัดมหาวงษ์ยังได้รับความเมตตาจาก พระธรรมวชิราจารย์ รองเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร เจ้าอาวาสวัดสุวรรณรามราชวรวิหาร เป็นประธานฝ่ายสงฆ์นำคณะสงฆ์ร่วมประกอบพิธี โดยมี พระครูปลัดจริยวัฒน์ หลวงพี่ตุ๋ย ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดมหาวงษ์ เป็นประธานดำเนินงาน นำพระภิกษุสงฆ์ จำนวน 10 รูป เจริญชัยมงคลคาถาและเจริญพระพุทธมนต์ฉลองกุฏิหลังใหม่ 

จากนั้น คณะศิษย์ยานุศิษย์วัดมหาวงษ์และคณะเจ้าหน้าที่ชมรมโฮปสะพานบุญแห่งความหวังและศรัทธา ได้ร่วมกันรดน้ำขอพรครอบครัวพาณิชย์พิศาล นำโดย ครอบครัววรัณวงศ์เจริญ นายธนิตพงษ์-นางทิพย์ประภา วรัณวงศ์เจริญ และนางสาวปิยนุช พาณิชย์พิศาล ประธานชมรมโฮบฯ นำเจ้าหน้าที่ชมรมโฮปฯ ร่วมรดน้ำขอพรเนื่องในเทศกาลวันสงกรานต์ประจำปี 2568

คิว-ข่าวสมุทรปราการ รายงาน

สมุทรปราการ-พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้องคมนตรีเชิญสัญญาบัตร พัดยศ และผ้าไตร ถวายแด่เจ้าอาวาสวัดบางพลีใหญ่กลาง

(14 พ.ค.68) เวลา 10.00 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ พลเอก กัมปนาท รุดดิษฐ์ องคมนตรี เชิญสัญญาบัตร พัดยศ และผ้าไตร ถวายแด่ พระสงฆ์ที่ได้รับการโปรดพระราชทานสัญญาบัตรเป็นพระราชาคณะ จำนวน 1 รูป ดังนี้ พระวชิรคณาทร (จรูญ ฐานธมฺโม) เจ้าอาวาสวัดบางพลีใหญ่กลาง

ด้วยพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ มหิศรภูมิพลราชวรางกูร กิติสิริสมบูรณอดุลยเดช สยามินทราธิเบศรราชวโรดม บรมนาถบพิตร พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ พระราชทานสัญญาบัตรตั้งสมณศักดิ์พระราชาคณะให้พระสงฆ์ โดยทรงพระราชดำริว่าซึ่งดำรงในสมณคุณ มีอุปการะยิ่งแก่การพระศาสนา สมควรได้เลื่อนอิสริยฐานันดรในสมณศักดิ์สูงขึ้น  ณ วัดบางพลีใหญ่กลาง ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ

โดยทรงพระราชทานตั้งสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นราช แด่พระครูปลัดสุวัฒนศีลคุณ (พระครูแจ้) ดร. เจ้าอาวาสวัดบางพลีใหญ่กลาง เป็นพระวชิรคณาทร (จรูญ ฐานธมฺโม) ท่านเจ้าคุณแจ้ ณ อุโบสถวัดบางพลีใหญ่กลาง 

โดยมี พล.ต.ต.วิชิต บุญชินวุฒิกุล ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ หัวหน้าส่วนราชการ คณะไวยาวัจกรวัดบางพลีใหญ่กลาง คณะครู คณะแพทย์ ทหาร ตำรวจ และศิษยานุศิษย์ ร่วมให้การต้อนรับ นอกจากนี้ยังมีคณะสงฆ์ทรงสมณศักดิ์จากวัดต่างๆ ร่วมแสดงมุทิตาสักการะแด่ พระวชิรคณาทร (จรูญ ฐานธมฺโม) เจ้าอาวาสวัดบางพลีใหญ่กลาง ณ อุโบสถวัดบางพลีใหญ่กลาง 


 

สมุทรปราการ-พลเอก กัมปนาท รุดดิษฐ์ องคมนตรี เป็นประธานเปิดอาคารเรียนนามพระราชทาน “อาคารเทพรัตน์” โรงเรียนบางบ่อวิทยาคม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ (19 พ.ค.68) ที่ผ่านมา เวลา 09.00 น. ณ โรงเรียนบางบ่อวิทยาคม  ต.บางบ่อ อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ พลเอก กัมปนาท รุดดิษฐ์ องคมนตรี ได้ให้เกียรติเดินทางมาเป็นประธานในพิธีเปิดอาคารเรียนหลังใหม่  นามพระราชทาน “อาคารเทพรัตน์” โรงเรียนบางบ่อวิทยาคม สมุทรปราการ

โดยมี นายศุภมิตร ชิณศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ พร้อมด้วย นายสมศักดิ์ แก้วเสนา ปลัดจังหวัดสมุทรปราการ และหัวหน้าส่วนราชการ ตลอดจนคณะผู้บริหารโรงเรียนบางบ่อวิทยาคม นำโดย นายวิโรจน์ จำปาทอง ผู้อำนวยการโรงเรียนบางบ่อวิทยาคม นำคณะครูนักเรียน บุคลากร ผู้ปกครองโรงเรียนบางบ่อวิทยาคม ร่วมให้การต้อนรับ

จากนั้น นายวิโรจน์ จำปาทอง ผู้อำนวยการโรงเรียนบางบ่อวิทยาคม กล่าวรายงานถึงวัตถุประสงค์ของการก่อสร้างอาคารเรียนหลังใหม่ โดยมี คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน คณะครู บุคลากรทางการศึกษา คณะผู้ปกครอง นักเรียนโรงเรียนบางบ่อวิทยาคม ตลอดจนแขกผู้มีเกียรติ และประชาชนชาวอำเภอบางบ่อ เข้าร่วมในพิธีเป็นจำนวนมาก

นอกจากนี้ ทางโรงเรียนบางบ่อวิทยาคม ยังได้รับความเมตตาจากท่านเจ้าคุณพระวชิรธรรมวิธาน เจ้าคณะอำเภอบางบ่อ เจ้าอาวาสวัดสุคันธาวาส นำคณะสงฆ์เจริญชัยมงคลคาถาเจริญพระพุทธมนต์ จากนั้นประธานในพิธีพร้อมด้วยแขกผู้มีเกียรติร่วมถวายเครื่องไทยธรรมแด่พระสงฆ์ พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์และ ประพรมน้ำมนต์เพื่อความเป็นสิริมงคล ในการนี้ท่านเจ้าคุณพระวชิรธรรมวิธาน เจ้าอาวาสวัดสุคัลธาวาสได้เจิมแผ่นศิลาฤกษ์ จากนั้น องคมนตรีได้กดปุ่มเปิดแพรคุมป้ายอาคารเรียนอย่างเป็นทางการ 

พร้อมกันนี้ องคมนตรีได้มอบโล่ประกาศเกียรติคุณ แก่ผู้มีอุปการะคุณ และมอบโล่ศิษย์เก่าดีเด่น และมอบรางวัลแข่งขันเครื่องบินพลังยางให้แก่นักเรียนโรงเรียนบางบ่อวิทยาคมอีกด้วยด้วย สำหรับ อาคารเรียนหลังใหม่ โรงเรียนบางบ่อวิทยาคม ได้รับการสนับสนุนงบประมาณปี 2563 โครงการก่อสร้างอาคารเรียน 4 ชั้น 18 ห้องเรียน จากองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ เป็นจำนวนเงิน 50,906,000 บาท ซึ่งได้ดำเนินการจ้างด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) โดยผู้รับจ้างคือ บริษัท พี อี ซี ซี กรุ๊ป จำกัด ในวงเงิน 39,800,000 บาท ตามสัญญา เลขที่ 1/2563 ลงวันที่ 18 สิงหาคม 2563 โดยเริ่มก่อสร้าง ตั้งแต่วันที่ 18 สิงหาคม 2563 ถึงวันที่ 19 กรกฎาคม 2565 และได้มีการขยายสัญญาเพิ่มเติม เนื่องจากเกิดสถานการณ์น้ำท่วมโรงเรียน และโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 และดำเนินการก่อสร้างต่อเรื่อยมาจนกระทั่งอาคารแล้วเสร็จ เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2566

ทั้งนี้ เพื่อแสดงความจงรักภักดี เทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ และเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ ผู้บริหาร ครู บุคลากรทางการศึกษา ผู้ปกครอง นักเรียน และประชาชนอำเภอบางบ่อ  ทางโรงเรียนจึงได้ดำเนินการขอพระราชทานชื่ออาคาร จากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จนได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พระราชทานชื่ออาคารเรียนดังกล่าวว่า “อาคารเทพรัตน์” และพระราชทาน พระราชานุญาตให้เชิญอักษรพระนามาภิไธย “ส.ธ.” ประดับที่ป้ายชื่อพระราชทาน เมื่อวันที่  6 มกราคม 2568

คิว-ข่าวสมุทรปราการ รายงาน

สมุทรปราการ-กรมทางหลวง เปิดเวทีรับฟังเสียงประชาชนแผนการพัฒนาโครงข่าย ทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 และหมายเลข 9 

เมื่อวานนี้ (27 พ.ค.68) เวลา 09.00 น. ณ ห้องประชุม Green Heart ชั้น 2 โรงแรมเดอะกรีนวิว ต.บางเสาธง อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ โดยนายพิชากร ศรีจันทร์ทอง ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงสมุทรปราการ ให้เกียรติเป็นประธานกล่าวเปิดการประชุม สรุปผลการคัดเลือกรูปแบบการพัฒนาโครงการ (สัมมนา ครั้งที่ 2) โครงการศึกษา ออกแบบ วิเคราะห์ แผนการพัฒนาโครงข่าย ทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 7 และหมายเลข 9 ของกรมทางหลวง 

โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อนำเสนอความก้าวหน้าของการศึกษาและสรุปผลการคัดเลือกรูปแบบการพัฒนาโครงการที่เหมาะสมให้กลุ่มเป้าหมายได้รับทราบ พร้อมรับฟังความคิดเห็น และข้อเสนอแนะที่มีต่อการศึกษาของโครงการจากกลุ่มเป้าหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำไปใช้พิจารณาประกอบการออกแบบรายละเอียด รวมทั้งการกำหนดมาตรการลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมของโครงการ 

โดยมีผู้แทนจากหน่วยงานต่างๆ อาทิ ราชการ รัฐวิสาหกิจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น องค์กรธุรกิจเอกชน สื่อมวลชน และภาคประชาชน เข้าร่วมการประชุม โดยการประชุมในครั้งนี้ บริษัทที่ปรึกษาโครงการฯ ได้นำเสนอสรุปผลการคัดเลือกรูปแบบการพัฒนาโครงการ 

โดยทางด้าน นายนิรันดร์ จันทร์ชม วิศวกรโยธาชำนาญการพิเศษ กรมทางหลวง เปิดเผยว่า สำหรับพื้นที่ศึกษาโครงการตั้งอยู่บริเวณทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 7 ประมาณกิโลเมตรที่ 25+900 ถึง กิโลเมตรที่ 30+800 ครอบคลุมพื้นที่ 4 ตำบล 2 อำเภอ 1 จังหวัด ได้แก่ บริเวณพื้นที่ตำบลบางเสาธง อำเภอบางเสาธง ตำบลเปร็ง ตำบลบางบ่อ และตำบลระกาศ อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ 

ทั้งนี้แนวทางการพัฒนาโครงการจะเป็นการก่อสร้างสะพานยกระดับ เพื่อรองรับรถเข้าทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 7 โดยถนนโครงการจะออกแบบเป็นสะพานยกข้ามถนนทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 7 โดยได้มีการคัดเลือกตำแหน่งที่ตั้งทางแยกต่างระดับของโครงการ ซึ่งมีแนวทางเลือกทั้งหมด 3 แนวทาง ได้แก่ 
ตำแหน่งที่ 1 จุดตัดระหว่างถนนสายร่วมพัฒนา-ทล.34 บริเวณกิโลเมตรที่ 26+500 ในเขตตำบลบางเสาธง อำเภอบางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งตำแหน่งนี้มีจุดเด่นที่ลักษณะทางกายภาพเป็นพื้นที่ราบและมีชุมชนในพื้นที่ค่อนข้างน้อย แต่มีจุดด้อยคือมีตำแหน่งใกล้กับด่านเก็บค่าผ่านทาง ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการจราจรระหว่างการก่อสร้าง และต้องรอแผนการพัฒนาแนวเส้นทางของกรมทางหลวงชนบทที่ชัดเจน อีกทั้งการขนส่งวัสดุเพื่อการก่อสร้างยาก เนื่องจากไม่มีถนนเชื่อมต่อ และเขตทางเดิมเหลือพื้นที่น้อยสำหรับก่อสร้างทางชั่วคราว

ตำแหน่งที่ 2 จุดตัดระหว่างถนน สป.2003 บริเวณกิโลเมตรที่ 27+900 ในเขตตำบลบางเสาธง อำเภอบางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งตำแหน่งนี้มีจุดเด่นที่ลักษณะทางกายภาพเป็นพื้นที่ราบและมีชุมชนในพื้นที่ค่อนข้างน้อย แต่มีจุดด้อยคือมีตำแหน่งใกล้ด่านเก็บค่าผ่านทาง ซึ่งส่งผลกระทบต่อการจราจรระหว่างก่อสร้าง ต้องรอแผนการพัฒนาแนวเส้นทางของกรมทางหลวงชนบทที่ชัดเจน การขนส่งวัสดุเพื่อการก่อสร้างยาก เนื่องจากไม่มีถนนเชื่อมต่อ และเขตทางเดิมเหลือพื้นที่น้อยสำหรับก่อสร้างทางชั่วคราว

ตำแหน่งที่ 3 จุดตัดระหว่างถนนรัตนโกสินทร์ 200 ปี บริเวณกิโลเมตรที่ 30+200 ในเขตตำบลเปร็ง อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ มีจุดเด่นคือสามารถเชื่อมต่อการเดินทางกับโครงข่ายถนนเดิมที่มีอยู่ในปัจจุบัน มีระยะห่างจากด่านเก็บค่าผ่านทางลาดกระบังที่เหมาะสม ลักษณะทางกายภาพเป็นพื้นที่ราบ และพื้นที่ก่อสร้างไม่ผ่านลำน้ำสำคัญ แต่มีจุดด้อยคือมีบ้านเรือนและชุมชนที่ได้รับผลกระทบค่อนข้างมาก

โดยจากการพิจารณาคัดเลือกพบว่า ตำแหน่งที่ 3 มีความเหมาะสมที่สุด เนื่องจากมีแนวเส้นทางที่ชัดเจน สามารถเชื่อมต่อกับโครงข่ายถนนเดิมได้อย่างมีประสิทธิภาพ รองรับปริมาณจราจรได้ดีและเอื้อต่อการเข้าถึงพื้นที่ก่อสร้างอย่างสะดวก ลดความยุ่งยากด้านการก่อสร้างและต้นทุนการขนส่งวัสดุ นอกจากนี้ยังมีต้นทุนจัดกรรมสิทธิ์ที่ดินต่ำ และให้ประโยชน์ต่อผู้ใช้ทางมากกว่าแนวทางอื่น ส่วนการคัดเลือกรูปแบบทางแยกต่างระดับของโครงการ มีแนวทางเลือกทั้งหมด 4 รูปแบบ ได้แก่ 

ทางแยกต่างระดับรูปแบบที่ 1 Double Trumpet มีการก่อสร้างสะพานยกระดับ เพื่อรองรับการสัญจรระหว่างทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 7 กับโครงข่ายถนนที่เชื่อมต่อในทุกทิศทาง ทางแยกต่างระดับรูปแบบที่ 2 Partial Cloverleaf with Semi Directional Ramp ฝั่งตะวันตกของแนวทางเลือก มีการก่อสร้างสะพานยกระดับ เพื่อรองรับการสัญจรระหว่างทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 7 กับโครงข่ายถนนที่เชื่อมต่อในทุกทิศทางทางแยกต่างระดับรูปแบบที่ 3 Partial Cloverleaf with Semi Directional Ramp ฝั่งตะวันออกของแนวทางเลือก มีการก่อสร้างสะพานยกระดับ เพื่อรองรับการสัญจรระหว่างทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 7 กับโครงข่ายถนนที่เชื่อมต่อในทุกทิศทาง 

ทั้งนี้ แม้ทางแยกต่างระดับรูปแบบที่ 2 และรูปแบบที่ 3 จะมีลักษณะทางกายภาพและจุดเด่น-จุดด้อยโดยรวมใกล้เคียงกัน แต่มีความแตกต่างกันในรายละเอียดด้านทิศทางการเดินทางบางจุดที่แตกต่างกัน 

ทางแยกต่างระดับรูปแบบที่ 4 Trumpet with Semi Directional Ramp มีการก่อสร้างสะพานยกระดับ เพื่อรองรับการสัญจรระหว่างทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 7 กับโครงข่ายถนนที่เชื่อมต่อในทุกทิศทางโดยจากการพิจารณาคัดเลือกพบว่า ทางแยกต่างระดับรูปแบบที่ 4 Trumpet with Semi Directional Ramp มีความเหมาะสมที่สุด เนื่องจากมีจุดเด่นในด้านสิ่งแวดล้อม ส่งผลกระทบต่อชุมชนน้อยที่สุด และยังมีความเหมาะสมด้านวิศวกรรม ทั้งในแง่ความสะดวกในการก่อสร้างและการบริหารจัดการด่านเก็บค่าผ่านทาง สำหรับการศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม ได้ดำเนินการรวบรวมข้อมูลทุติยภูมิ สำรวจและเก็บตัวอย่างด้านสิ่งแวดล้อม เพื่อนำมาประกอบการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมเบื้องต้น (IEE) โดยมีประเด็นที่ศึกษาครอบคลุม 4 ด้าน ได้แก่ ทรัพยากรสิ่งแวดล้อมทางกายภาพ ทรัพยากรสิ่งแวดลอมทางชีวภาพ คุณค่าการใช้ประโยชน์ของมนุษย์ และคุณค่าต่อคุณภาพชีวิต ซึ่งจะนำไปศึกษาต่อในขั้นรายละเอียด (EIA) เพื่อเตรียมกำหนดมาตรการป้องกัน แก้ไข และลดผลกระทบสิ่งแวดล้อม และแผนการจัดการด้านสิ่งแวดล้อมต่อไป

ภายหลังการประชุมครั้งนี้ กรมทางหลวง จะรวบรวมข้อมูลความคิดเห็น และข้อเสนอแนะจากทุกภาคส่วนนำมาพิจารณาประกอบการศึกษาและรายละเอียดของโครงการให้มีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งจะดำเนินการจัดกิจกรรมการมีส่วนร่วมของประชาชนอย่างต่อเนื่อง เพื่อประชาสัมพันธ์รายละเอียดข้อมูลโครงการไปสู่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและประชาชนในพื้นที่โครงการได้รับทราบข้อมูลที่ถูกต้อง โดยมีกำหนดจัดการประชุมหารือมาตรการลดผลกระทบสิ่งแวดล้อม (กลุ่มย่อย ครั้งที่ 2) ในช่วงประมาณเดือนสิงหาคม - กันยายน 2568 และกำหนดจัดประชุมสรุปผลการศึกษาโครงการ (สัมมนา ครั้งที่ 3) ในช่วงประมาณเดือนพฤศจิกายน - ธันวาคม 2568 เพื่อนำเสนอสรุปผลการศึกษาในทุกด้านให้ประชาชนได้รับทราบรายละเอียดขั้นตอนการดำเนินงานต่อไป โดยผู้สนใจสามารถติดตามความคืบหน้าและรายละเอียดของโครงการฯ ได้ที่ เว็บไซต์ www.m7-m9-interchange-ruamphathana-rd34.com หรือ Line Official : @515fcrum

สมุทรปราการ-ลพบุรี ส่งเสริมการตลาดเปิดงาน 'ลพบุรี MARKET FEST เทศกาลของดี ของเด็ดจังหวัดลพบุรี'  

                    

เมื่อวันที่ (29 พ.ค.68) นายประยูร ศิริวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี เป็นประธานในพิธีเปิดงาน ภายใต้โครงการส่งเสริมการตลาดสินค้าเกษตรปลอดภัย และการบริโภคอาหารเพื่อสุขภาพ กิจกรรม ส่งเสริมการตลาดและเชื่อมโยงการจำหน่ายสินค้าผลิตภัณฑ์ และอาหารปลอดภัยนอกพื้นที่จังหวัดลพบุรี โครงการตามแผนปฏิบัติราชการของจังหวัดลพบุรี ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 

ภายใต้ชื่องาน 'ลพบุรี MARKET FEST เทศกาลของดี ของเด็ดจังหวัดลพบุรี' โดยมี นางสาวกษมา สุทธวิชัย พาณิชย์จังหวัดลพบุรี พร้อมด้วย หัวหน้าส่วนราชการ คุณโอฬาร กิจเลิศไพโรจน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ศูนย์การค้าอิมพีเรียล เวิลด์ สำโรง ตลอดจนแขกผู้มีเกียรติ และสื่อมวลชน ณ Big Zone ชั้น 1 ศูนย์การค้าอิมพีเรียล เวิลด์ สำโรง อ.เมือง จ.สมุทรปราการ โดยจังหวัดลพบุรี โดยสำนักงานพาณิชย์จังหวัดลพบุรี ในฐานะที่เป็นหน่วยงานหลักในการส่งเสริม ด้านการตลาด ขับเคลื่อนเศรษฐกิจการค้าของจังหวัด 

กำหนดจัดกิจกรรมงานแสดงและจำหน่ายสินค้าและการเจรจาธุรกิจ ซึ่งจะช่วยให้เศรษฐกิจการค้าของผู้ผลิต ผู้ประกอบการ วิสาหกิจชุมชน เกษตรกรผู้ผลิตสินค้าเกษตร เกษตรปลอดภัย สินค้า OTOP/SMEs ตลอดจนผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องของจังหวัดลพบุรี ได้รับการ สนับสนุนส่งเสริมด้านการตลาดในการเพิ่มช่องทางการจำหน่ายอย่างต่อเนื่อง การจัดงาน 'ลพบุรี MARKET FEST : เทศกาลของดี ของเด็ดจังหวัดลพบุรี' จัดขึ้นระหว่างวันที่ 29 พฤษภาคม – 2 มิถุนายน 2568 ณ Big Zone ชั้น 1 ศูนย์การค้าอิมพีเรียล เวิลด์ สำโรง อ.เมือง จ.สมุทรปราการ

เพื่อให้ผู้ผลิตผู้ประกอบการสินค้าเกษตร ผลิตภัณฑ์และอาหารปลอดภัยของจังหวัดลพบุรี มีช่องทางการจำหน่ายสินค้าเพิ่มขึ้น รวมทั้งประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้สินค้าดี สินค้าเด่นของจังหวัดลพบุรี ให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย ภายในงานได้มีการจัดแสดงและจำหน่ายสินค้าเกษตร ผลิตภัณฑ์และอาหารปลอดภัย สินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) สินค้า OTOP/SMEs ของผู้ประกอบการ กลุ่มเกษตรกร กลุ่มวิสาหกิจชุมชม กลุ่มสมาชิก MOC BIZ CLUB เข้าร่วมแสดงและจำหน่ายสินค้า รวมทั้งสิ้น 50 คูหา
​นอกจากนี้ภายในงานยังมีกิจกรรมเจรจาธุรกิจ เพื่อเพิ่มช่องทางการจำหน่ายให้เพิ่มมากยิ่งขึ้น รวมถึงกิจกรรมพิเศษอื่นๆ เช่น กิจกรรมนาทีทองที่ทุกท่านจะสามารถซื้อสินค้าภายในงานได้ในราคาถูก , กิจกรรมจับสลากลุ้นรางวัลทุกวัน รวมมูลค่ากว่า 50,000 บาท ตลอดการจัดงาน และในทุกวัน เวลา 17.30 น. เป็นต้นไป

นอกจากนี้ ยังมีการแสดงมินิคอนเสิร์ตจากศิลปินชื่อดัง อาทิ ​29 พฤษภาคม 2568 พบกับ ก้านตอง ทุ่งเงิน​​ 30 พฤษภาคม 2568 พบกับ ก๊อต สุทธิรักษ์ 31 พฤษภาคม 2568 พบกับ ดอกแค ท็อปไลน์ 1 มิถุนายน 2568 พบกับ ญาณิ ท็อปไลน์ 2 มิถุนายน 2568 พบกับ ไอฟ์ ไหทองคำ

และนอกจากนี้ วันที่ 29 และ 31 พฤษภาคม 2568 เวลา 16.45 น. จะได้พบกับการรังสรรค์เมนูใหม่ จากของดีเมืองลพบุรี โดย chef owner @chunk’s เชฟบูม กันต์ยรัตน์ เพียรพอดีตน ให้ทุกท่านได้ลิ้มรสความอร่อยผู้สนใจสามารถเข้าร่วมชมงานได้ฟรี ระหว่างวันที่ 29 พฤษภาคม – 2 มิถุนายน 2568 ณ Big Zone ชั้น 1 ศูนย์การค้าอิมพีเรียล เวิลด์ สำโรง อำเภอเมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ

สมุทรปราการ-สุดยิ่งใหญ่!! มหกรรมการจัดการศึกษาท้องถิ่น เทศบาลตำบลแพรกษา เจ้าภาพใหญ่ จัดการแข่งขันทักษะวิชาการ ระดับภาคตะวันออก ครั้งที่ 30 

(1 มิ.ย. 68) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เทศบาลตำบลแพรกษา โดยนางอรัญญา สุวรรณบุตร นายกเทศมนตรีตำบลแพรกษา พร้อมด้วย ดร.ยงยุทธ สุวรรณบุตร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดสมุทรปราการ สมัยที่ 25 ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์นายกเทศมนตรีตำบลแพรกษา ดำเนินการเตรียมพร้อมจัดการแข่งขันทักษะวิชาการ ระดับภาคตะวันออก ครั้งที่ 30 ระหว่างวันที่ 5-7 กรกฎาคม 2568 ซึ่งทางเทศบาลตำบลแพรกษาได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพใหญ่ในการจัดการแข่งขันในครั้งนี้ ภายใต้แนวคิด EDUCATION COME FIRST ท้องถิ่นสร้างคน เยาวชนเก่งดี เวทีพหุปัญญา 

ตามที่กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นได้ขอความร่วมมือจังหวัดแจ้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีความพร้อมและประสงค์รับเป็นเจ้าภาพระดับประเทศ/ระดับภาคในการดำเนินกิจกรรมส่งเสริมศักยภาพการจัดการศึกษาท้องถิ่น ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 เข้าร่วมประชุมพิจารณาคัดเลือกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีความพร้อม และประสงค์รับเป็นเจ้าภาพระดับประเทศ/ระดับภาคในการดำเนินกิจกรรมส่งเสริมศักยภาพจัดการศึกษาท้องถิ่น เมื่อวันพุธที่ 10 มกราคม 2567 ผ่านระบบ Cisco Meeting Server นั้น

กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นพิจารณาแล้วเห็นว่าเพื่อให้การดำเนินกิจกรรมส่งเสริมศักยภาพการจัดการศึกษาท้องถิ่น ประจำปีงบประมาณ พศ 2568 เป็นไปด้วยความเรียบร้อย จึงขอความร่วมมือจังหวัดแจ้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ได้รับการพิจารณาคัดเลือกเป็นเจ้าภาพระดับประเทศ/ระดับภาค ในการดำเนินกิจกรรมส่งเสริมศักยภาพการจัดการศึกษาท้องถิ่น ประจำปีงบประมาณ 2568 ทราบและจัดทำคำของบประมาณรายการเงินอุดหนุนสำหรับส่งเสริมศักยภาพการจัดการศึกษาท้องถิ่นพร้อมประมาณการรายละเอียด ค่าใช้จ่าย สถานที่ และห้วงระยะเวลาในการดำเนินกิจกรรมที่ชัดเจน โดยบันทึกคำของบประมาณรายจ่ายประจำปี ในระบบสารสนเทศเพื่อการจัดทำงบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (BBL) ภายในวันที่ 15 มกราคม 2567 เพื่อให้สำนักงบประมาณพิจารณาจัดสรรงบประมาณรายการดังกล่าวต่อไป 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top