Tuesday, 22 April 2025
สถานีชาร์จ

'ก.อุตฯ' เดินหน้าขับเคลื่อน EV ชงมาตรฐานเข้ม 'แบตเตอรี่-สถานีชาร์จ' เป็นสินค้าควบคุมต้องได้มาตรฐาน

กระทรวงอุตสาหกรรมเดินหน้าขับเคลื่อนนโยบาย EV เร่งรัด สมอ. ชงมาตรฐาน 'แบตเตอรี่มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า - รถยนต์ไฟฟ้า' และ 'สถานีชาร์จ' เป็นสินค้าควบคุมต้องได้มาตรฐาน พร้อมนำทีมลงพื้นที่พบผู้ผลิตและจำหน่ายยานยนต์ไฟฟ้าชั้นนำของไทย เพื่อศึกษาข้อมูลประกอบการทำมาตรฐานอย่างต่อเนื่อง รองรับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยในอนาคต

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า กระทรวงอุตสาหกรรมเดินหน้าขับเคลื่อนนโยบาย EV อย่างต่อเนื่อง โดยเร่งรัดให้สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) นำมาตรฐานแบตเตอรี่ไฟฟ้า ทั้งมอเตอร์ไซค์ และรถยนต์ รวมทั้งสถานีชาร์จ เสนอบอร์ดเพื่อขอความเห็นชอบในการบังคับใช้มาตรฐาน โดยกำหนดให้เป็นสินค้าควบคุมเพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภค 

ทั้งนี้ กระทรวงอุตสาหกรรมได้จัดทำมาตรฐานยานยนต์ไฟฟ้าและที่เกี่ยวข้องออกมาอย่างต่อเนื่อง โดยประกาศใช้แล้วจำนวน 128 มาตรฐาน เช่น จักรยานยนต์ไฟฟ้า, รถตุ๊กตุ๊กไฟฟ้า, ระบบการสื่อสารระหว่างรถยนต์ไฟฟ้ากับโครงข่ายไฟฟ้า  ระบบขับเคลื่อนรถยนต์ไฟฟ้า, ระบบเบรกของรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า, เต้าเสียบและเต้ารับสำหรับยานยนต์ไฟฟ้า, เซลล์และแบตเตอรี่สำหรับยานยนต์ไฟฟ้า, ชิ้นส่วนสำหรับดัดแปลงรถจักรยานยนต์ที่ใช้น้ำมันเป็นรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า, ระบบจอดอัตโนมัติของรถยนต์, สมรรถนะของยานยนต์ไฟฟ้ามอเตอร์สำหรับยานยนต์ไฟฟ้า และอุปกรณ์ไฟฟ้าในรถยนต์ EV เป็นต้น  

ซึ่งในการกำหนดมาตรฐานดังกล่าว อ้างอิงมาจากข้อกำหนดและมาตรฐานระหว่างประเทศ ครอบคลุมทั้งด้านความปลอดภัย และด้านการใช้พลังงาน และทั้ง 128 มาตรฐานนั้นยังเป็นมาตรฐานภาคสมัครใจที่กระทรวงอุตสาหกรรมมีนโยบายส่งเสริมให้ผู้ประกอบการยื่นขอการรับรอง แต่เนื่องจากปัจจุบันแนวโน้มการเติบโตของอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าและความต้องการรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องตามกระแสโลก ขณะเดียวกันแนวคิดการยกเลิกการใช้ยานยนต์ที่เป็นเครื่องยนต์สันดาป รวมถึงกระแสการตื่นตัวต่อภาวะโลกร้อนที่เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญให้รถยนต์ไฟฟ้าเข้ามามีบทบาทมากขึ้น กระทรวงอุตสาหกรรมจึงต้องมีการพิจารณาบังคับใช้มาตรฐานที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยของผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้นตามไปด้วย

‘วัดอินทาราม’ เปิดสถานีชาร์จในวัดแห่งแรกของไทย เจ้าอาวาส เจิมหัวชาร์จ พรมน้ำมนต์ เพื่อความเป็นสิริมงคล

พระครูพิศิษฏ์ประชานาถ (ดร.หลวงพ่อแดง นันทิโย) รองเจ้าคณะอำเภออัมพวา เจ้าอาวาสวัดอินทาราม ต.เหมืองใหม่ อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม ได้เจิมและปะพรมน้ำพระพุทธมนต์สถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า หรือ EV Station  ที่ทางวัดอินทารามติดตั้งขึ้นภายในวัดอินทาราม และตรวจสอบระบบการใช้งานเรียบร้อยแล้ว นับเป็นสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าในวัดแห่งแรกของ จ.สมุทรสงคราม โดยมีพระสงฆ์จำนวน 5 รูป เจริญพระพุทธมนต์เพื่อความเป็นสิริมงคล

พระครูพิศิษฏ์ประชานาถ กล่าวว่า เนื่องจากปัจจุบันประชาชนเริ่มใช้รถยนต์ที่ใช้ระบบไฟฟ้าเป็นพลังงานขับเคลื่อนมากขึ้น ซึ่งเป็นพลังงานสะอาด ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม อีกทั้งราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในปัจจุบันก็สูงขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่สถานีชาร์จไฟฟ้ารถยนต์ยังมีไม่เพียงพอและยังไม่แพร่หลาย โดยเฉพาะที่ จ.สมุทรสงคราม แม้จะเริ่มพบเห็นตามปั๊มน้ำมันบ้างแล้ว แต่ EV Station ก็ยังเปิดให้บริการกันน้อยมาก ทำให้ผู้ที่ใช้รถยนต์ไฟฟ้าบางรายขาดความมั่นใจในการเดินทางเนื่องจากเกรงว่าจะหาสถานีชาร์จไฟฟ้าไม่ได้

วัดอินทารามจึงได้ติดตั้งเครื่องชาร์จไฟฟ้ารถยนต์ไว้ที่บริเวณลานจอดรถหน้าพระอุโบสถหินอ่อน เป็นขนาด 7 กิโลวัตร์ จำนวน 3 เครื่อง รองรับหัวชาร์จมาตรฐานทุกรุ่น ให้บริการผู้ที่มาร่วมทำบุญและนักท่องเที่ยวสายมูที่มาสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของวัด เช่นหลวงพ่อโตซัมปอกง 300 ปี และท้าวเวสสุวรรณ โดยเปิดให้บริการชาร์จฟรีในช่วงกลางวันตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันที่ 12 สิงหาคม 2566  หลังจากนั้นจะให้บริการทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง โดยคิดค่ากระแสไฟฟ้าเพียงแค่ชั่วโมงละไม่เกิน 60 บาท

นายศิริพงษ์ ภัณฑารักษ์สกุล วิศวกรไฟฟ้าผู้ติดตั้งระบบ ซึ่งเป็นลูกศิษย์วัดอินทาราม บอกว่าเครื่องชาร์จไฟฟ้ารถยนต์ที่วัดอินทาราม ติดตั้งโดยบริษัท Friendly Charge รุ่น Delta AC Mini Plus 7.4 k W รองรับหัวชาร์จมาตรฐาน Type-2 รองรับรถไฟฟ้าได้ทุกรุ่นทุกแบบถึง 95 เปอร์เซ็นต์ มีระบบ IP55 ป้องกันฝนแดดและฝุ่นละออง  และระบบ IK08 กันแรงกระแทก รวมทั้งมีระบบควบคุมแรงดันไฟฟ้าตัดไฟอัตโนมัติเมื่อชาร์จเต็ม หรือมีเหตุขัดข้อง ภายในให้โซลูชั่นการชาร์จไฟฟ้าที่ดีที่สุดสำหรับการใช้งานระบบจ่ายเงินง่ายสะดวก สามารถแสกนคิวอาร์โคดใช้ผ่านเว็บเบราว์เซอร์ ไม่จำเป็นต้องโหลดแอพพลิเคชั่นเพียงกรอกข้อมูลรายละเอียดพื้นฐาน แล้วกด next  ก็เริ่มชาร์จได้ทันที อีกทั้งสามารถตั้งเวลาว่าต้องการชาร์จกี่ชั่วโมง เพื่อใช้เวลาในการทำบุญไหว้พระท่องเที่ยว อีกทั้งยังตรวจสอบในสมาร์ทโฟนเพื่อวางแผนการเดินทางท่องเที่ยวได้ เช่นหากต้องการชาร์จเต็มที่รถวิ่งได้ 400 ก.ม.จะใช้เวลาชาร์จประมาณ 6-7 ช.ม.

‘GWM’ ดัน!! ‘ไทย’ สู่ศูนย์กลางการผลิตระดับโลก วางแผนเติบโต ในระยะยาว เพิ่มกำลังการผลิต!! ขยายตลาด เร่งส่งออก ‘อาเซียน – ลาตินอเมริกา - ออสเตรเลีย’

(19 เม.ย. 68) GWM (Thailand) ยกระดับสู่การเป็นแบรนด์รถยนต์ที่มีผลิตภัณฑ์ครอบคลุมทุกประเภทพลังงานที่ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานทั่วทุกมุมโลก ด้วยแนวคิด “ครอบคลุมทุกการใช้งาน (All Scenarios) ด้วยผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมทุกพลังงาน (All Powertrains) สู่การตอบสนองทุกกลุ่มผู้ใช้งานอย่างแท้จริง (All Users)” 

ล่าสุด เดินหน้าขับเคลื่อนแผนการผลิตรถยนต์หลากหลายรุ่นครอบคลุมทุกประเภทพลังงานจากโรงงานอัจฉริยะ (GWM Smart Factory) ในจังหวัดระยอง เพื่อขยายการส่งออกสู่ตลาดโลก โดยในไตรมาสที่ 2 ปี 2568 นี้ GWM (Thailand) เตรียมเพิ่มกำลังการผลิตเพื่อส่งออกไปยังกลุ่มประเทศต่าง ๆ ทั้งในอาเซียน ออสเตรเลีย และลาตินอเมริกา โดยจะส่งรถยนต์เอสยูวีระดับพรีเมียม GWM TANK 500 HEV ไปยังประเทศมาเลเซีย ในขณะที่จะยังคงส่งออกรถยนต์ GWM TANK 300 HEV สู่ประเทศอินโดนีเซีย และ GWM HAVAL H6 HEV รวมถึงเจ้าสิงโตอารมณ์ดี GWM HAVAL JOLION HEV ไปรุกตลาดในประเทศเวียดนามอย่างต่อเนื่อง 

ยิ่งไปกว่านั้น ในเดือนเมษายนนี้ GWM (Thailand) เตรียมส่งออกเจ้าเหมียวไฟฟ้า NEW GWM ORA Good Cat รถยนต์ไฟฟ้า 100% รุ่นแรกที่ผลิตในประเทศไทยสู่ตลาดโลกเป็นครั้งแรก โดยจะส่งออกไปยังประเทศบราซิล ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์อีกด้วย ก่อนหน้านี้ GWM (Thailand) ได้มีการส่งออกรถยนต์เอสยูวีไปยังประเทศอินโดนีเซียและเวียดนามมาแล้ว โดยได้ส่งออกรถยนต์รุ่น GWM TANK 300 HEV, GWM TANK 500 HEV และ GWM HAVAL H6 HEV ไปยังประเทศอินโดนีเซีย ในขณะที่ประเทศเวียดนาม ได้ส่งออกรถยนต์ทั้งหมด 2 รุ่น ได้แก่ GWM HAVAL H6 HEV และ GWM HAVAL JOLION HEV ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีจากประเทศดังกล่าว ทั้งหมดนี้ คือ การสะท้อนความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจของ GWM (Thailand) ในการผลักดันให้ประเทศไทยเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญในการผลิตและส่งออกรถยนต์ที่ครอบคลุมทุกพลังงานสู่ตลาดโลก สร้างงาน สร้างรายได้ และนำความภาคภูมิใจกลับมาสู่คนไทย ด้วยการผลิตรถยนต์คุณภาพที่เปี่ยมด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำหน้าที่ผลิตในประเทศไทย โดยคนไทย สู่การมอบประสบการณ์เพื่อการเดินทางที่ 'เหนือกว่า' ให้แก่ผู้ใช้งานทั่วทุกมุมโลก ผ่านกลยุทธ์ 'GWM Go With More'

เจมส์ หยาง รองประธาน GWM ตลาดต่างประเทศ กล่าวว่า “GWM และทีมงานชาวไทยทุกคนล้วนภูมิใจในการเป็นส่วนหนึ่งที่ได้ร่วมสร้างการเติบโตให้แก่เศรษฐกิจประเทศไทยด้วยการผลิตและส่งออกรถยนต์ GWM หลากหลายรุ่น ครอบคลุมทุกประเภทพลังงานสู่ผู้ใช้งานทั่วโลก โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ออสเตรเลีย และลาตินอเมริกา ตอกย้ำศักยภาพของประเทศไทยในฐานะที่เป็นฐานการผลิตประจำภูมิภาคอาเซียน โดยการส่งออกรถยนต์ GWM ในไตรมาส 2/2568 นี้ สะท้อนให้เห็นถึงคุณภาพการผลิตและมาตรฐานระดับโลกของโรงงานของเราที่จังหวัดระยอง โดยผลิตภัณฑ์ภายใต้ GWM TANK ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้บริโภคในประเทศอินโดนีเซีย ส่วน GWM HAVAL ก็ได้รับการสนับสนุนที่ดีจากประเทศเวียดนาม ที่สำคัญในปีนี้จะเป็นครั้งแรกที่เราจะส่งออก NEW GWM ORA Good Cat ซึ่งถือเป็นโอกาสในการสร้างการเติบโตทางธุรกิจจากโรงงานผลิตขนาดใหญ่ของเรา โดยโรงงานที่จังหวัดระยองถือเป็นโรงงานการผลิตเต็มรูปแบบแห่งที่ 2 ของ GWM นอกประเทศจีน (ถัดจากประเทศรัสเซีย) ทั้งนี้ GWM จะมีการลงทุนอย่างต่อเนื่องในประเทศไทยเพื่อผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตและส่งออกรถยนต์ระดับโลกของ GWM เราพร้อมเติบโตไปในระยะยาวกับลูกค้ารวมถึงพาร์ทเนอร์ชาวไทย และสังคมไทยอย่างยั่งยืน”

ปัจจุบัน โรงงานอัจฉริยะของ GWM ในจังหวัดระยองสามารถรองรับกำลังการผลิตสูงสุดถึง 80,000 คันต่อปี โดย GWM (Thailand) ได้เพิ่มกำลังการผลิตเพื่อรองรับการจำหน่ายในประเทศและการส่งออกไปยังต่างประเทศ โดยรถยนต์ทุกรุ่นและทุกคันที่จำหน่ายในประเทศไทยล้วนผลิตจากโรงงานในประเทศไทยโดยฝีมือคนไทยทั้งสิ้น (ยกเว้นรุ่น GWM ORA 07 ที่นำเข้าจากประเทศจีน) โดยล่าสุด ALL NEW GWM HAVAL H6 ทั้งรุ่นไฮบริด และปลั๊กอิน-ไฮบริด และ NEW GWM TANK 300 DIESEL ที่เพิ่งเปิดตัวที่งานมอเตอร์โชว์ 2025 เมื่อปลายเดือนมีนาคม ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลามจากแฟน ๆ ชาวไทยและเริ่มส่งมอบให้กับลูกค้าชาวไทยไปแล้วนั้น ก็ผลิตจากสายการผลิตที่โรงงาน GWM จังหวัดระยองเช่นเดียวกัน โดยมีพนักงานผู้มีความเชี่ยวชาญกว่า 1,100 คน ซึ่งปฏิบัติงานภายใต้มาตรฐานการผลิตระดับสากล พร้อมทั้งใช้ชิ้นส่วนที่ผลิตในประเทศ (Local Content) ในสัดส่วนประมาณ 45 – 50% 

ซึ่งในอนาคต GWM (Thailand) ตั้งเป้าหมายที่จะเพิ่มสัดส่วนการใช้ชิ้นส่วนที่ผลิตในประเทศให้มากยิ่งขึ้น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตและการบริหารจัดการซัพพลายเชน รวมถึงการบริหารจัดการอะไหล่สำหรับการบริการหลังการขายให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้เพื่อให้ลูกค้าทั่วทุกมุมโลกได้สามารถเข้าถึงยนตรกรรมอัจฉริยะในทุกรูปแบบพลังงานของ GWM ได้ง่ายขึ้น คุ้มค่ามากยิ่งขึ้น พร้อมรับประสบการณ์การเดินทางที่เหนือกว่าในทุกด้านอย่างแท้จริง GWM (Thailand) เดินหน้าอย่างมั่นคงและต่อเนื่องในการผลิตรถยนต์ที่ครอบคลุมทุกพลังงานในหลากหลายเซกเมนต์จากหลากหลายตระกูล ครอบคลุม GWM TANK, GWM HAVAL และ GWM ORA เพื่อจำหน่ายในประเทศไทยและส่งออกสู่ตลาดโลก และจะยังคงมุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมยานยนต์อย่างต่อเนื่อง ทั้งด้านดีไซน์ สมรรถนะ และระบบขับเคลื่อนที่หลากหลาย เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าทั่วโลก และส่งมอบประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือกว่า เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยสู่เวทีระดับโลกได้อย่างเต็มภาคภูมิ


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top