Sunday, 8 June 2025
สงครามยูเครนรัสเซีย

‘จีน’ ฟาด!! G7 ควรใส่ใจปัญหาของตน หยุดบังคับชาติอื่นคว่ำบาตรตามคำสั่ง

ไม่นานมานี้ กลุ่มมหาอำนาจ G7 ซึ่งประกอบด้วย สหรัฐฯ, อังกฤษ, แคนาดา, ฝรั่งเศส, เยอรมัน, อิตาลี และญี่ปุ่น ได้ออกมากดดันให้ ‘รัฐบาลจีน’ ให้แสดงท่าทีกระตุ้นให้รัสเซียยุติสงครามในยูเครน และยุติความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการทหารกับรัสเซีย รวมทั้งเรียกร้องให้จีนต้องสนับสนุนเอกราชและอิสรภาพของยูเครนด้วย

ทันทีที่ G7 แสดงท่าทีดังกล่าว ฟากรัฐบาลจีน ก็ได้ออกมาตอบโต้ท่าทีดังกล่าวทันที โดย จ้าว ลี่เจี้ยน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศได้ออกแถลงการณ์เมื่อวันจันทร์ (16 พ.ค.65) ที่ผ่านมาว่า…

กลุ่ม G7 ควรจะหยุดความพยายามในการบีบบังคับให้ชาติอื่นคว่ำบาตรตามคำสั่งของตน และควรหันไปสนใจปัญหาความเป็นอยู่ของประชาชนในประเทศของตนเอง มากกว่าที่จะเข้าไปแทรกแซงประเทศอื่นให้ทำตามคำสั่ง

‘ปูติน’ ลั่น!! พร้อมช่วยโลกฝ่าวิกฤตอาหาร หากตะวันตกยกเลิกมาตรการคว่ำบาตร

(27 พ.ค.65) ไม่นานมานี้ ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย ได้บอกกล่าวกับนายกรัฐมนตรีมาริโอ ดรากี ของอิตาลี ว่า รัสเซียพร้อมที่จะให้การสนับสนุนที่สำคัญ เพื่อหลีกเลี่ยงวิกฤตอาหารที่กำลังจะเกิดขึ้น หากชาติตะวันตกยกเลิกมาตรการคว่ำบาตร 

หลังจากที่ชาติตะวันตกพร้อมใจกันใช้มาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซียเพื่อตอบโต้ปฏิบัติการทางทหารในยูเครน ซึ่งขัดขวางห่วงโซ่อุปทานอาหาร, ปุ๋ย และสินค้าโภคภัณฑ์อื่นๆ จากทั้งรัสเซียและยูเครน โดยเฉพาะข้าวสาลี ซึ่งทั้งสองประเทศ ผลิตข้าวสาลีได้ร้อยละ 30 ของอุปทานข้าวสาลีทั่วโลก 

รัฐบาลรัสเซียแถลงภายหลังจากการสนทนาทางโทรศัพท์ระหว่างผู้นำรัสเซียและอิตาลีว่า “ปูตินเน้นย้ำว่าสหพันธรัฐรัสเซียพร้อมที่จะมีส่วนสนับสนุนสำคัญในการเอาชนะวิกฤติอาหารด้วยการส่งออกธัญพืชและปุ๋ย ภายใต้การยกเลิกข้อจำกัดที่มีแรงจูงใจทางการเมืองโดยตะวันตก” 

‘รัสเซีย’ สั่งกองกำลังนิวเคลียร์ซ้อมรบ หลังสหรัฐฯ ประเคนจรวดล้ำสมัยให้ยูเครน

กองกำลังนิวเคลียร์ของรัสเซียกำลังซ้อมรบในเมืองอิวาโนโว ทางตะวันออกเฉียงเหนือของมอสโก ตามรายงานของสำนักข่าวอินเตอร์แฟ็กซ์ โดยอ้างการเปิดเผยของกระทรวงกลาโหมรัสเซียเมื่อวันพุธ (1มิ.ย.65) ซึ่งเป็นความเคลื่อนไหวที่มีขึ้นแทบจะทันทีหลังจากสหรัฐฯ ระบุว่า จะมอบระบบจรวดล้ำสมัยแก่ยูเครน เพื่อช่วยบีบให้รัสเซียเข้าสู่การเจรจายุติสงคราม

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ระบุว่าสหรัฐฯ จะมอบระบบจรวดที่ล้ำสมัยกว่าเดิมและกระสุนแก่ยูเครน เพื่อที่กองกำลังเคียฟจะสามารถโจมตีเป้าหมายสำคัญต่าง ๆ ในสมรภูมิรบได้แม่นยำกว่าเดิม

ไบเดน ระบุว่า การรุกรานยูเครนของรัสเซียจะจบลงผ่านการเจรจา แต่สหรัฐฯ จำเป็นต้องมอบอาวุธและกระสุนแก่ยูเครน เพื่อคานอำนาจการต่อรองสูงสุดบนโต๊ะเจรจา

"เราได้เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว ส่งอาวุธและกระสุนแก่ยูเครนจำนวนมาก เพื่อที่พวกเขาสามารถสู้รบในสนามรบและอยู่ในสถานะที่เข้มแข็งที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้บนโต๊ะเจรจา" ไบเดน เขียนในบทความที่เผยแพร่ในหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์ส

เจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลประธานาธิบดีไบเดน ระบุว่า อาวุธที่ส่งมอบนั้น จะรวมไปถึง M142 ระบบจรวดปืนใหญ่เคลื่อนที่สูง (HIMARS) ซึ่งกองทัพยูเครนบอกเมื่อ 1 เดือนก่อน ว่า "มีความสำคัญยิ่ง" สำหรับตอบโต้การโจมตีด้วยขีปนาวุธของรัสเซีย

แม้จะมีความกังวลว่าอาวุธดังกล่าวอาจลากสหรัฐฯ เข้าสู่ความขัดแย้งโดยตรงกับรัสเซีย แต่ในเรื่องนี้ เจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลอเมริกาบอกว่า ทางยูเครนให้คำรับประกันว่าระบบจรวดนี้จะไม่ถูกใช้ในการโจมตีภายในรัสเซีย

ทว่า ไม่นานหลังจากสหรัฐฯ แถลงเกี่ยวกับการตัดสินใจในครั้งนี้ ทางกระทรวงกลาโหมรัสเซียก็ได้ออกมาเปิดเผยว่า กองกำลังนิวเคลียร์ของรัสเซีย กำลังซ้อมรบในเมืองอิวาโนโว ทางตะวันออกเฉียงเหนือของมอสโก ตามรายงานของสำนักข่าวอินเตอร์แฟ็กซ์

'ปธ.สภาฯ รัสเซีย' แฉ!! สหรัฐฯ แบนน้ำมันรัสเซีย แต่กลับเดินหน้าซื้อน้ำมันเพิ่มเกือบเท่าตัว

สหรัฐฯ เผยให้เห็นถึงความเจ้าเล่ห์ตลบตะแลง ด้วยการประกาศแบนน้ำมันรัสเซีย แต่ความจริงคือยังคงเดินหน้าซื้อเชื้อเพลิงของมอสโกในปริมาณมาก จากการเปิดเผยของ ยาเชสลาฟ โวโลดิน ประธานสภาผู้แทนราษฎรรัสเซีย (สภาดูมา) เมื่อช่วงกลางสัปดาห์

วอชิงตัน อ้างว่า ได้เคลื่อนไหวห้ามนำเข้าน้ำมันดิบรัสเซียทั้งหมด ผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมบางส่วน ก๊าซธรรมชาติเหลวและถ่านหิน ในช่วงต้นเดือนมีนาคม ส่วนหนึ่งในมาตรการคว่ำบาตรเล่นงานมอสโก ตอบโต้กรณีรุกรานยูเครน

"น้ำมันรัสเซียจะไม่เป็นที่ต้อนรับตามท่าเรือต่างๆ ของสหรัฐฯ อีกต่อไป" โจ ไบเดน ประธานาธิบดีอเมริกา ประกาศ ณ เวลานั้น แต่คำพูดไม่ได้มาพร้อมกับการกระทำ โวโลดิน เหน็บแนมผ่านข้อความที่โพสต์บนเทเลแกรมในวันพุธ (8 มิ.ย.)

ประธานรัฐสภารัสเซียเขียนต่อว่า "ข้อมูลจากกระทรวงพลังงานสหรัฐฯ บ่งชี้ว่ามีการส่งมอบน้ำมันจากรัสเซียเพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัวในเดือนมีนาคม เปรียบเทียบกับเดือนกุมภาพันธ์ จาก 2,325 ล้านบาร์เรล เป็น 4,218 ล้านบาร์เรลตามลำดับ"

"แม้ประกาศแบน แต่ประเทศของเราขยับขึ้นจากที่ 9 สู่ลำดับ 6 ในอันดับประเทศที่ส่งน้ำมันป้อนแก่สหรัฐฯ มากที่สุด" เขากล่าว

โวโลดิน เน้นย้ำข้อเท็จจริงที่ว่าในเดือนดังกล่าว เป็นช่วงเวลาที่วอชิงตันกำลังกดดันให้อียูละทิ้งน้ำมันรัสเซีย และสุดท้ายก็ประสบความสำเร็จ "ชัดเจนว่ามันเป็นสัญญาณของ 2 มาตรฐาน" เขาระบุ "ตอนนี้ ปล่อยให้พวกนักการเมืองและข้าราชการในยุโรปอธิบายประชาชนของพวกเขาเองว่า ทำไมพวกเขาถึงต้องอดทนกับการขึ้นราคาของไบเดน"

ความเห็นดังกล่าวเป็นการพาดพิงถึงประธานาธิบดี โจ ไบเดน ที่พยายามเชื่อมโยงภาวะเงินเฟ้อในสหรัฐฯ ราคาก๊าซและอาหารที่พุ่งทะยาน กับปฏิบัติการรุกรานยูเครนของรัสเซีย โดยให้คำจำกัดความมันว่า "การขึ้นราคาของปูติน"

'ไบเดน' จ่ออัดฉีดงบทหารให้ยูเครน 1 พันล้านยูเอส หวังต้านรัสเซียเผด็จศึกยูเครนตะวันออกเต็มที่

โจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐฯ ทุ่มสุดตัว เตรียมจัดงบประมาณด้านการทหารเพิ่มให้กับยูเครนอีก 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อฟาดกับกองทัพรัสเซียที่บุกหนักในแคว้นดอนบาสทางฝั่งตะวันออกของยูเครน และเป็นงบอัดฉีดก้อนใหญ่ที่สุดที่เท่าสหรัฐฯ เคยส่งให้ยูเครนในคราวเดียวนับตั้งแต่วันที่รัสเซียยกพลบุกยูเครนเป็นต้นมา

สำหรับงบประมาณ 1 พันล้านเหรียญสหรัฐนี้ จะถูกนำมาจัดเตรียมอาวุธล้ำสมัยชุดใหญ่ ทั้ง ขีปนาวุธต้านเรือรบ, ปืนใหญ่วิถีโค้ง, ระบบจรวดปืนใหญ่เคลื่อนที่สูง (HIMARS) ที่ทาง โวโลดิมีร์ เซเลนสกี้ ผู้นำยูเครนได้ร้องขอมา โดยกองทัพสหรัฐฯ ได้ส่งคนเข้าไปทำการฝึกการใช้อาวุธเหล่านี้ให้กับฝ่ายกองกำลังยูเครนเรียบร้อยแล้ว 

และนอกเหนือจากแพ็คเกจอาวุธยุทโธปกรณ์พันล้านแล้ว โจ ไบเดน ยังเบิกงบความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมให้กับยูเครนอีก 225 ล้านเหรียญเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดหาอาหาร น้ำดื่ม ยา ที่พักพิง และกองทุนชดเชยให้กับชาวยูเครนที่ได้รับผลกระทบจากการสู้รบครั้งนี้ ซึ่ง โจ ไบเดน ก็ได้ให้คำมั่นสัญญาว่า สหรัฐฯ จะอยู่เคียงข้างชาวยูเครนที่ต้องเผชิญชะตากรรมอันน่าสงสารจากสงครามในบ้านของพวกเขา 

ในขณะที่ด้าน ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสหรัฐ ยังได้กำชับในที่ประชุม ชาติพันธมิตรในกรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยี่ยมเมื่อเร็ว ๆ นี้ว่าให้ชาติพันธมิตรตะวันตกกว่า 45 ชาติต้องช่วยกันส่งอาวุธไปสนับสนุนกองทัพยูเครน และต้องแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะช่วยกันต้านกองกำลังรัสเซียอย่างเต็มที่ โดยรัฐมนตรี ออสติน กล่าวย้ำว่า ศึกครั้งนี้เดิมพันสูงมาก และฝ่ายเราจะแพ้ไม่ได้เป็นอันขาด

‘ผู้นำฝรั่งเศส-เยอรมนี-อิตาลี’ ดอดพบเซเลนสกี้ กล่อม ‘ยูเครน’ ให้อ่อนข้อต่อ ‘รัสเชีย’ จริงหรือ?

เฟซบุ๊กเพจ ‘Pat Sangtum’ โพสต์ข้อความในหัวข้อ ‘OVERNIGHT TRAIN TO KIEV’ ระบุว่า…

เมื่อผู้นำอิตาลี เยอรมนี และฝรั่งเศส นั่งรถไฟจากโปแลนด์ขบวนข้ามคืนเข้ายูเครน เพื่อไปเยี่ยม เซเลนสกี้ ที่กรุงคีฟ

เดากันว่า ผู้นำ 3 ท่านนี้ ไปเกลี้ยกล่อมให้เซเลนสกี้ เจรจากับปูติน 

อย่าเชื่อมาก!! 

เพราะข่าวต่าง ๆ จากการประชุม อ้างถึงคำพูดโอ้อวดและป้ายความเลวให้รัสเชียทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการฆ่าหมูชาวยูเครน หรือยุทธการของรัสเชียที่อ่อนแอ หรือกองทัพรัสเชียสูญเสียทหารและอาวุธจำนวนมาก

แต่บทสรุปจะออกมาเป็นเช่นไร ก็ยังไม่ทราบได้ หากอ้างถึงคำถามจาก ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส, นายกรัฐมนตรีโอลาฟ โชลซ์ ผู้นำเยอรมนี และนายกรัฐมนตรีมาริโอ ดรากี ผู้นำอิตาลี ว่า “ชัยขนะของยูเครน” มีนิยามว่าอย่างไร ชัยชนะทางทหารที่เซเลนสกี้ต้องการ คือ ชนะระดับไหน

อย่างไรเสีย ชาวยุโรปในประเทศต่าง ๆ ที่ได้รับผลกระทบจากค่าเงินเฟ้อ และความขาดแคลนทั้งน้ำมัน และสินค้าอุปโภคบริโภค เริ่มออกมาบอก EU และผู้นำยูเครนว่า รัสเชียต้องการอะไร ให้สนองตอบให้เร็วที่สุด

แบรนด์แทนที่ ‘แมคโดนัลด์’ ในรัสเซีย ขายเบอร์เกอร์วันเดียวทะลุ 1.2 แสนชิ้น

Vkusno & Tochka อดีตร้าน ‘แมคโดนัลด์’ ซึ่งเป็นชื่อใหม่และโลโก้ใหม่ในรัสเซีย ขายเบอร์เกอร์ได้มากกว่า 120,000 ชิ้นในวันเปิดตัวในกรุงมอสโก ทุบทุกสถิติที่เคยทำเอาไว้ก่อนหน้าที่เครือข่ายฟาสต์ฟู้ดดังสัญชาติสหรัฐฯ จะถอนตัวออกจากประเทศแห่งนี้ ตอบโต้กรณีรุกรานยูเครน

แม้ ‘บิ๊กแมค’ และ ‘แมคเฟลอร์รี’ ถูกถอดออกจากเมนูของสาขาต่าง ๆ ของ Vkusno & Tochka แต่ด้วยยอดขายที่ประสบความสำเร็จอย่างน่าตื่นตะลึงในวันเปิดทำการ ทำให้กลุ่มผู้บริหารของบริษัทต้องวางเป้าหมายการเติบโตที่สูงต่อในทันที

“ปัจจุบันประชาชนแห่เข้าไปยังร้าน Vkusno & Tochka ที่ต้อนรับลูกค้าด้วยโลโก้ใหม่ เฉดสีใหม่และกระดาษห่อใหม่ที่ไม่มีตราสัญลักษณ์แมคโดนัลด์ โดยวันแรก เราสามารถขายเบอร์เกอร์ได้เกือบ 120,000 ชิ้น ซึ่งถือเป็นปรากฏการณ์ที่ไม่เคยพบเห็นจากยอดขายรายวัน ตลอดช่วงเวลาที่แมคโดนัลด์เปิดบริการในรัสเซีย” โอเลค ปาโรเยฟ ผู้จัดการใหญ่ของกิจการใหม่แห่งนี้เปิดเผย

สำหรับ แมคโดนัลด์ส คอร์ป ได้ถอนตัวออกจากรัสเซียโดยสมบูรณ์ พร้อมขายสาขาทั้งหมดที่พวกเขาเป็นเจ้าของแก่ผู้ถือใบอนุญาตท้องถิ่นอย่าง นายอเล็กซานเดอร์ โกเวอร์ (Alexander Gover) นักธุรกิจชาวรัสเซีย ในเดือนพฤษภาคม และเจ้าของกิจการใหม่ได้กลับมาเปิดร้านราว ๆ 50 สาขา ในวันที่ (12 มิ.ย. และ 13 มิ.ย.) ที่ผ่านมา ภายใต้ชื่อภาษารัสเซียว่า Vkusno & Tochka (มีความหมายรวมๆ อร่อยและถูกใจ) ภายใต้สโลแกน ‘ชื่อเปลี่ยนไปแต่หัวใจเหมือนเดิม’ (The name changes, love stays)

ทั้งนี้ โกเวอร์ ยังตั้งเป้าขายสาขาให้ถึงระดับ 1,000 สาขาภายใน 4 ถึง 5 ปีข้างหน้า โดยครั้งอยู่ภายใต้แบรนด์เก่า แมคโดนัลด์มีสาขาอยู่ในรัสเซียราวๆ 850 สาขาเท่านั้น

ส.ส.หัวเสรีนิยมจากพรรคเดโมแครตโดนถล่มเละ หลังเรียกร้องยุติสงครามยูเครนด้วยการเจรจา

รอยเตอร์ส - เมื่อ (25 ต.ค.) ที่ผ่านมากลุ่มส.ส.หัวเสรีนิยมจากพรรคเดโมแครต ตัดสินใจถอนหนังสือฉบับหนึ่งที่ส่งถึงทำเนียบขาว เรียกร้องให้หาทางคลี่คลายวิกฤตสงครามในยูเครนด้วยการเจรจา หลังจากความเคลื่อนไหวดังกล่าวถูกวิพากษ์วิจารณ์จากคนในพรรคของพวกเขาเอง

พรามิลา จายาปาล ส.ส.จากพรรคเดโมเครต ประธานกลุ่ม ส.ส.หัวก้าวหน้าในสภาคองเกรสของสหรัฐฯ (Congressional Progressive Caucus) กล่าวว่า "ทางกลุ่มได้ถอนหนังสือในเรื่องเกี่ยวกับยูเครน ที่ส่งถึงทำเนียบขาวเมื่อเร็ว ๆ นี้" พร้อมระบุว่า "หนังสือฉบับนี้ร่างไว้ตั้งแต่หลายเดือนก่อน เคราะห์ร้ายที่มันถูกเผยแพร่โดยเจ้าหน้าที่โดยไม่ผ่านการตรวจสอบ"

หนังสือฉบับนี้ที่ลงนามโดยสมาชิกหัวก้าวหน้า 30 คน ถูกเผยแพร่ต่อสาธารณชนเมื่อวันจันทร์ (24 ต.ค.) และทำให้ส.ส.ของพรรคเดโมแครตคนอื่น ๆ รู้สึกเหมือนถูกเล่นงานโดยไม่ทันตั้งตัว ราว 2 สัปดาห์ ก่อนถึงศึกเลือกตั้งกลางเทอมในวันที่ 8 พฤศจิกายน ซึ่งจะเป็นตัวตัดสินว่าพรรคจะยังคงครองเสียงข้างมากในสภาคองเกสไว้ได้หรือไม่

ขณะเดียวกันหนังสือฉบับนี้ได้ถูกเผยแพร่ออกมา ในช่วงเวลาที่สมาชิกรีพับลิกันก็มีเรื่องให้กังวลเช่นกัน หลังมีข่าวว่าทางพรรคอาจปรับลดเงินช่วยเหลือทางทหารและมนุษยธรรม ที่มอบให้แก่ยูเครนนับตั้งแต่ถูกรัสเซียเปิดฉากรุกรานในเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งมันก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง

หลังถูกวิจารณ์อย่างหนัก สมาชิกของกลุ่มส.ส.หัวก้าวหน้าในสภาคองเกรสหลายคน เผยแพร่ถ้อยแถลงแสดงจุดยืนสนุบสนุนยูเครน เน้นย้ำว่าที่ผ่านมา พวกเขาก็ให้ความร่วมมือกับสมาชิกเดโมแครตคนอื่นๆ ในการลงมติเห็นชอบมอบเงินช่วยเหลือหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐแก่ยูเครน

บางส่วนในนั้นอ้างว่าพวกเขาลงนามในหนังสือดังกล่าวตั้งแต่หลายเดือนก่อน และตอนนี้สิ่งต่าง ๆ ได้เปลี่ยนไปแล้ว 

"จังหวะเวลาของการเจรจาคือทุก ๆ อย่าง ฉันลงนามในหนังสือนี้เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน แต่หลายสิ่งหลายอย่างได้เปลี่ยนไปแล้วนับตั้งแต่นั้น ถ้าเป็นวันนี้ ฉันจะไม่ลงนามมัน" ส.ส.ซารา จาค็อบส เขียนบนทวิเตอร์

ส.ส.เจมี ราสคิน ซึ่งลงนามในหนังสือดังกล่าวเช่นกัน ระบุในถ้อยแถลงว่า เขารู้สึกยินดีที่ได้ทราบว่ามันถูกถอนออกมาแล้ว

สื่อซาอุฯ แฉ ‘เซเลนสกี’ ควัก 3.2 ล้านดอลลาร์ ซื้อห้องหรูตึกสูงที่สุดในโลก ‘เบิร์จคาลิฟา’ ให้แม่วันเกิด

(6 มิ.ย. 68) สื่อรัฐซาอุดีอาระเบีย Al Arabiya รายงานว่า โวโลดีมีร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน ได้ซื้ออพาร์ตเมนต์สุดหรู มูลค่า 3.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 115.2 ล้านบาท) ในอาคารเบิร์จคาลิฟา ซึ่งเป็นตึกที่สูงที่สุดในโลก มีความสูง 828 เมตร (2,717 ฟุต) ตั้งอยู่ในเมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เพื่อเป็นของขวัญวันเกิดครบรอบ 74 ปีให้กับมารดา เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2024

ตามรายงานของ Al Arabiya นักข่าวของช่องได้ตรวจสอบทะเบียนอสังหาริมทรัพย์ของอาคารที่สูงที่สุดในโลก และพบว่ามีการลงทะเบียนชื่อ 'ริมมา เซเลนสกายา' ซึ่งเป็นมารดาของผู้นำยูเครน เป็นเจ้าของห้องพักดังกล่าว โดยอพาร์ตเมนต์อยู่ในโครงการ 'Armani Residences' ซึ่งเป็นห้องพักหรูที่ออกแบบโดยดีไซเนอร์ชื่อดัง จอร์โจ อาร์มานี (Giorgio Armani) นักออกแบบเสื้อผ้า ชาวอิตาลี

ข้อมูลนี้สร้างความประหลาดใจ เนื่องจากข้อมูลทางราชการของยูเครนระบุว่า ริมมา เซเลนสกายา เป็นเพียงผู้รับบำนาญธรรมดา อาศัยอยู่ที่เมืองครีวอยร็อก ในประเทศยูเครน ไม่มีรายได้หรือฐานะที่เอื้ออำนวยต่อการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ระดับไฮเอนด์ในต่างประเทศ

แม้ยังไม่มีถ้อยแถลงจากทางการยูเครน แต่ศูนย์ต่อต้านข้อมูลบิดเบือนของรัฐบาลยูเครนได้ออกแถลงการณ์ปฏิเสธข่าวนี้ โดยระบุว่าเป็น 'ข้อมูลเท็จ' อย่างไรก็ตาม กระแสข่าวจากหลายช่องทางทำให้เกิดข้อสงสัยใหม่เกี่ยวกับทรัพย์สินของผู้นำยูเครนและครอบครัว ท่ามกลางสงครามที่ประเทศกำลังเผชิญอยู่ในปัจจุบัน


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top