Tuesday, 22 April 2025
ศิลปินแห่งชาติ

เปิดใจ!! 'น้าโย่ง-ครูโจ้' ความภูมิใจหลังได้รับเลือกเป็นศิลปินแห่งชาติ ลั่น!! ขออนุรักษ์-สืบสานศิลปวัฒนธรรมไทยให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล

(28 ส.ค. 67) ผู้สื่อข่าวรายได้ว่า ตามที่ กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) ประกาศผลการคัดเลือกศิลปินแห่งชาติ ปี 2566 จำนวน 12 คน ดังนี้ 

สาขาทัศนศิลป์ 4 คน ได้แก่
1.ศ.เกียรติคุณกัญญา เจริญศุภกุล (สื่อผสม) 
2.นางวิภาวดี พัฒนพงศ์พิบูล (สถาปัตยกรรมภายใน) 
3.ร้อยตรีทวี บูรณเขตต์ (ประณีตศิลป์-ช่างปั้น หล่อ) 
4.นายสุดสาคร ชายเสม (ประณีตศิลป์-เครื่องประกอบฉาก)

สาขาวรรณศิลป์ จำนวน 2 คน ได้แก่
1.นายประสาทพร ภูสุศิลป์ธร 
2.นายวศิน อินทสระ 

สาขาศิลปะการแสดง 6 คน ได้แก่ 
1.นายสมบัติ แก้วสุจริต (นาฏศิลป์ไทย-โขน ละคร) 
2.นายไชยยะ ทางมีศรี (ดนตรีไทย) 
3.นายพิเชษฐ์ เอี่ยมชาวนา (การแสดงพื้นบ้าน-เพลงฉ่อย) 
4.จ่าโทหญิง ปรียนันท์ สุนทรจามร (นักร้องเพลงไทยสากล-ลูกทุ่ง) 
5.นายสุธีศักดิ์ ภักดีเทวา (นาฏศิลป์สากล)
6.รศ.บรรจง โกศัลวัฒน์ (ภาพยนตร์) นั้น

นายพิเชษฐ์ เอี่ยมชาวนา หรือ โย่ง เชิญยิ้ม ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (การแสดงพื้นบ้าน-เพลงฉ่อย) กล่าวว่า รู้สึกดีใจสุด ๆ ไปเลย กับรางวัลอันทรงเกียรตินี้ ที่ผ่านมาพยายามทำตัวให้เป็นประโยชน์ต่อสังคม โดยเฉพาะ ในส่วนของการเรียนรู้ และการแสดงเพลงฉ่อย ลิเก เป็นสิ่งที่ตนหัดเล่นตั้งแต่สมัยเป็นเด็กเล็ก ๆ และเมื่อเราเห็นคนดูมีความสุขกับการแสดง เราก็มีความสุขตามไปด้วย

ทั้งนี้ตนพร้อมและยินดี ที่จะช่วยธำรงรักษา และถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านศิลปะการแสดงพื้นบ้านตามที่ตนถนัด สู่เด็กและเยาวชนคนรุ่นใหม่ ผ่านกิจกรรมของกรมส่งเสริมวัฒนธรรม วธ. ถือเป็นโอกาสที่เราจะได้ช่วยสังคม เพื่อที่จะทำให้มรดกอันล้ำค่าคงอยู่ ไม่สูญหาย ถือเป็นการอนุรักษ์ สืบสานศิลปวัฒนธรรมไทยซึ่งเป็นรากเหง้าของชาติ ให้คงอยู่

ด้าน นายสุธีศักดิ์ ภักดีเทวา หรือครูโจ้ เดอะสตาร์ (นาฏศิลป์สากล) กล่าวว่า เมื่อได้ทราบข่าวก็หัวใจเต้นแรง และขอพูดตรง ๆ ว่ารู้สึกดีใจ และภูมิใจมาก เพราะการแสดงสาขานี้เป็นศาสตร์ที่ผสมผสานนาฏศิลป์ไทย และตะวันตกให้สอดประสานเป็นวัฒนธรรม การได้รับยกย่องเป็นศิลปินแห่งชาติ ถือเป็นรางวัลของวงค์ตระกูล ภักดีเทวา ซึ่งตนอยากนำความรู้ในส่วนนี้ไปถ่ายทอดให้ผู้ที่สนใจได้ศึกษาเรียนรู้ นาฏศิลป์สากล ไม่ใช่แค่การเต้น ที่ปัจจุบันมีผู้สนใจจำนวนมาก แต่สิ่งที่ยากคือ ต้องสื่อให้เห็นว่า เป็นศาสตร์ที่มีตัวต้น เป็นตัวดำเนินเรื่องที่ผสมผสานวัฒนธรรมต่าง ๆ เข้าด้วยกัน

“ศิลปินแห่งชาติ ถือเป็นหนึ่งในซอฟต์พาวเวอร์ ซึ่งศิลปินไทยสามารถปักธง และได้รับรางวัลในระดับนานาชาติจำนวนมาก ดังนั้น ผมอยากถ่ายทอด เพื่อสืบสานและต่อยอด ให้การแสดงของคนได้เป็นที่ยอมรับมากยิ่งขึ้น” ครูโจ้ กล่าว

อาลัย ‘สันติ ลุนเผ่’ นักร้องเสียงทรงพลัง ศิลปินแห่งชาติ ถึงแก่กรรมอย่างสงบด้วยวัย 88 ปี

มีรายงานข่าวเศร้า การสูญเสียครั้งสำคัญของวงการเพลงและศิลปินไทย ข่าวการจากไปของ ร.ต.สันติ ลุนเผ่ ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (ดนตรีสากล - ขับร้อง) ประจำปี พ.ศ. 2558 ถึงแก่กรรมอย่างสงบด้วยวัย 88 ปี

ประวัติ สันติ ลุนเผ่
เรือตรี สันติ ลุนเผ่ เกิดเมื่อวันที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2479 ชื่อเดิมว่า ไพศาล ลุนเผ่ เป็นนักร้องชายชาวไทย เกิดที่บ้านในย่านวัดราชบพิธ กรุงเทพมหานคร เป็นบุตรของหม่องลุนเผ่ หม่องลุนเผ่นั้นเป็นนักร้องละครชาวพม่า อพยพมาอยู่ ณ จังหวัดลำปาง แล้วนำชื่อ ลุนเผ่ มาใช้เป็นชื่อสกุล ก่อนย้ายรกรากมายังกรุงเทพมหานคร

มีชื่อเสียงในฐานะเป็นนักร้องประจำคณะดุริยางค์แห่งกองทัพไทย และมีน้ำเสียงอันเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นในผลงานด้านเพลงปลุกใจ, เพลงคลาสสิก และเพลงประกอบภาพยนตร์ โดยเฉพาะ เพลง ‘หนักแผ่นดิน’, ‘ความฝันอันสูงสุด’, ‘ทหารพระนเรศวร’, ‘ดุจบิดามารดร’, ‘เกิดเป็นไทยตายเพื่อไทย’, ‘แด่ทหารหาญในสมรภูมิ’ และ ‘มาร์ชทหารไทย’ สันติได้บันทึกแผ่นเสียงเพลงแรกโดยวงดนตรีวายุบุตรคือเพลง ‘คมแสนคม’ ผลงานของ เชาว์ แคล่วคล่อง เป็นเพลงประกอบภาพยนตร์ไทยเรื่อง ‘คมแสนคม’ ในปี พ.ศ. 2507

สันติ ลุนเผ่ ได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติจากสำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ กระทรวงวัฒนธรรม เป็น ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (ดนตรีสากล - ขับร้อง) ประจำปี พ.ศ. 2558

ไพศาล หรือ สันติ ได้เข้าศึกษาที่โรงเรียนอัสสัมชัญ จนสำเร็จชั้นมัธยมศึกษาในปี 2496 และศึกษาต่อที่คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

สันติ ลุนเผ่ มีชื่อเสียงจากการขับร้องเพลงพระราชนิพนธ์ และเพลงรักชาติ เป็นจำนวนมากเช่น ความฝันอันสูงสุด ทหารพระนเรศวร ดุจบิดามารดร เกิดเป็นไทยตายเพื่อไทย แด่ทหารหาญในสมรภูมิ มาร์ชทหารไทย หนักแผ่นดิน ถามคนไทย ได้เข้ารับราชการทหารเรือ ประจำวงดุริยางค์ทหารเรือ มีหน้าที่สอนขับร้อง และเรียบเรียงเสียงประสาน จนกระทั่งนาวาเอกสำเร็จ นิยมเดช อดีตผู้บังคับกองดุริยางค์ทหารเรือ เสียชีวิต จึงลาออกจากราชการ

ก่อนเสียชีวิต สันติ ลุนเผ่ ประกอบอาชีพร้องเพลง สอนขับร้องดนตรีคลาสสิก และเป็นที่ปรึกษาคณบดี วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล

คอนเสิร์ตการกุศล เชิดชูกวีเพลง 3 แผ่นดิน "ไตรกาล" ครูสุรพล โทณะวณิก ศิลปินแห่งชาติ 

(13 มี.ค. 68) สมาคมช่างภาพผู้สื่อข่าวโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ จัดคอนเสิร์ตการกุศลครั้งยิ่งใหญ่ เพื่อเชิดชูศิลปินแห่งชาติ ครูสุรพล โทณะวณิก เพื่อหาเงินทุนเป็นสวัสดิการรักษาพยาบาลของครูเพลง และเงินทุนสวัสดิการรักษาพยาบาลของสมาชิก และทุนการศึกษาของบุตรหลานสมาชิก ในปีการศึกษา 2568

นายศิริ สาระผล นายกสมาคมช่างภาพผู้สื่อข่าวโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์
เปิดเผยรายละเอียดการจัดคอนเสิร์ตการกุศลในครั้งนี้ว่า "สมาคมได้รับเกียรติจาก ครูสุรพล โทณะวณิก ศิลปินแห่งชาติ ให้นำบทเพลงอมตะจำนวนกว่า 30 บทเพลง มานำเสนอ และพี่แจ้ ดนุพล แก้วกาญจน์ ให้เกียรติเป็น Exclusive Producer งานนี้ครบเครื่องในเรื่องเวที แสง สี เสียงอย่างยิ่งใหญ่

โดยกำหนดแสดง ในวันเสาร์ที่ 17 พฤษภาคม 2568 ระหว่างเวลา 17.00 น. - 20.00 น. ณ บีซีซี ฮอลล์ เซ็นทรัลลาดพร้าว กรุงเทพมหานคร"

ด้านพี่แจ้ ดนุพล แก้วกาญจน์ ชี้แจงเพิ่มเติมว่า ครูสุรพล โทณะวณิก นับได้ว่าเป็นปูชนียบุคคลท่านหนึ่ง ในวงการเพลงของไทย ท่านได้แต่งเพลงกว่า 1000 เพลง ตลอดระยะเวลา 73 ปี ซึ่งบทเพลงหลายบทเพลงเป็นที่คุ้นหูและรับฟังกันมาตลอด อาทิเช่น โอ้รัก, หนาวเนื้อ, รอ, ฟ้ามิอาจกั้น, ยามรัก, พิษรัก, บาดหัวใจ, ภาษาใจ 

โดยเฉพาะเพลง ใครหนอ, อยากลืมกลับจำ, ในโลกแห่งความฝัน และเพชรตัดเพชร ได้รับรางวัลแผ่นเสียงทองคำ ครั้งที่ 1 ปี 2507 ส่งผลให้ได้รับเชิดชูเกียรติเป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง ประจำปี พ.พ.ศ. 254

" สำหรับศิลปินผู้ที่จะขับร้องถ่ายทอดบทเพลง ได้รับเกียรติจ ศรีไศล สุชาติวุฒิ, วินัย พันธุรักษ์, สุนทร สุจริตฉันท์, นคร เวชสุภาพร, ชรัส เพื่องอารมณ์, ศรัณยา ส่งเสริมสวัสดิ์, อุเทน พรหมมินทร์, ต้อม เรนโบว์, สบชัย ไกรยูรเสน, สุรี แสงเสรีชน, ตั๊ก ลีลา, จิ๊บ รด., นนทิยา จิวบางป้า, ศักดิ์สิทธิ์ เวชสุภาพร, นัท เลอทาน่า, ชิสา วิเศษกุล และอลิซ ธนัชศลักษณ์

พร้อมทีมแสงสีเสียงระดับมืออาชีพอิ่มเอม จากบทเพลงอมตะดังกล่าวตลอดระยะเวลา 3 ชั่วโมงเศษ" พี่แจ้ ดนุพล แก้วกาญจน์ กล่าวยืนยัน

เปิดจองตั๋วผ่านช่องทาง ไทยทิคเก็ต เมเจอร์ ในวันที่ 13 มีนาคมเป็นต้นไป บัตรราคา 1,000 บาท, 2,000 บาท, 3,000 บาท, 4,000 บาท, 4,500 บาท และพร้อมรับของที่ระลึกทุกที่นั่ง จองบัตรคอนเสิร์ตผ่าน ThaiTicketMajor


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top