Wednesday, 23 April 2025
วันคล้ายวันสถาปนา

รมว.สุชาติ เปิดงานเนื่องในวันคล้ายวันสถาปนา 29 ปีกระทรวงแรงงาน

วันที่ 23 กันยายน 2565 นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานในพิธีถวายภัตตาหารเช้าแด่พระสงฆ์ จำนวน 10 รูป เพื่อบำเพ็ญกุศลให้กับอดีตผู้บริหาร ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่กระทรวงแรงงานที่ล่วงลับ และเจริญพระพุทธมนต์ เพื่อความเป็นสิริมงคล เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันสถาปนากระทรวงแรงงาน ครบรอบ 29 ปี ณ ห้องประชุมกระทรวงแรงงาน ชั้น 5 อาคารกระทรวงแรงงาน 

จากนั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานในพิธีกราบสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวงแรงงาน ประกอบด้วย พระพุทธสุทธิธรรมบพิตร พระพุทธชินราช ศาลพระภูมิชัยมงคล และท้าวมหาพรหมเทวฤทธิ์ จากนั้น รมว.แรงงาน นำคณะผู้บริหารถวายความเคารพหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในโอกาสวันคล้ายวันสถาปนากระทรวงแรงงาน ประจำปี พ.ศ.2565 โดยมี นายสุรชัย ชัยตระกูลทอง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงาน นายพรศักดิ์ เจริญประเสริฐ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี นางธิวัลรัตน์ อังกินันทน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายสุเทพ ชิตยวงษ์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พล.ต.ต.นันทชาติ ศุภมงคล นายสุทธิ สุโกศล จ่าเอกยศสิงห์ เหลี่ยมเลิศ ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่ประจำกระทรวงแรงงาน นางเธียรรัตน์ นะวะมะวัฒน์ โฆษกกระทรวงแรงงาน (ฝ่ายการเมือง) นายบุญชอบ สุทธมนัสวงษ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูงกระทรวงแรงงาน ข้าราชการเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงาน เข้าร่วมในครั้งนี้ด้วย ณ บริเวณกระทรวงแรงงาน 

จากนั้น นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานในพิธีมอบเครื่องหมายเชิดชูเกียรติ “ตรีเทพพิทักษ์”จำนวน 40 คน มอบโล่อาสาสมัครแรงงานดีเด่นระดับภาคและระดับประเทศ จำนวน 9 คน มอบโล่รางวัลและใบประกาศเกียรติบัตรศูนย์บริการร่วมกระทรวงแรงงานดีเด่นระดับกระทรวง และระดับเขตตรวจราชการ จำนวน 6 คน และมอบของที่ระลึกให้กับผู้เกษียณอายุราชการ ประจำปี 2565 

โดยในปีนี้กระทรวงแรงงานมีผู้เกษียณอายุราชการจำนวนทั้งสิ้น 249 คน เนื่องในวันคล้ายวันสถาปนา 29 ปีกระทรวงแรงงาน แรงงานรวมใจ ฟื้นฟูเศรษฐกิจไทยรุ่งเรือง ณ ห้องประชุมกระทรวงแรงงาน ชั้น 5 อาคารกระทรวงแรงงาน ซึ่งมีการถ่ายทอดสดผ่าน Facebook Live ของกระทรวงแรงงาน โดย นายสุชาติ กล่าวว่า กระทรวงแรงงาน ได้เริ่มก่อตั้งมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2536 จนถึงปัจจุบัน รวม 29 ปี จากอดีตจนถึงปัจจุบันภารกิจของกระทรวงแรงงานมีการปรับเปลี่ยน และเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะนับตั้งแต่ปี 2563 จนถึงปัจจุบัน กระทรวงแรงงาน ต้องเผชิญกับวิกฤตในหลายๆ ด้าน ทั้งจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งส่งผลกระทบต่อสถานการณ์ทั่วโลก รวมทั้งประเทศไทย ซึ่งได้รับผลกระทบทั้งด้านเศรษฐกิจ และสังคม โดยเฉพาะภาคแรงงานและสถานประกอบกิจการ ซึ่งเป็นสิ่งท้าทายให้กระทรวงแรงงานต้องเร่งแก้ไขปัญหาเพื่อรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ สร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รักษาระดับการจ้างงาน 

พร้อมทั้งสร้างขวัญกำลังใจให้กับพี่น้องผู้ใช้แรงงาน โดยกระทรวงแรงงานได้มีมาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจให้สามารถกลับมาสู่ภาวะปกติได้โดยเร็วในหลาย ๆ ด้าน ได้แก่ 
1) ด้านการพัฒนาทักษะฝีมือ โดยการ up-skill re-skill และ new-skill เพื่อพัฒนาศักยภาพแรงงานให้สอดคล้องกับสถานการณ์และตลาดแรงงานในยุค New Normal 
2) ด้านการส่งเสริมการมีงานทำ จัดงาน Job Expo Thailand 2020 ล้านงานเพื่อล้านคน เตรียมตำแหน่งงานผ่านแพลตฟอร์มไทยมีงานทำ ส่งแรงงานไทยไปทำงานต่างประเทศ จัดระเบียบแรงงานต่างด้าว ตลอดจนดูแลคุณภาพชีวิตผู้ใช้แรงงานให้เหมาะสม 
3) ด้านคุ้มครองและแก้ไขปัญหาแรงงาน บริหารจัดการกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้างและใช้ระบบแรงงานสัมพันธ์ให้เกิดประโยชน์ต่อผู้ใช้แรงงาน แก้ไขปัญหาการถูกเลิกจ้างไม่เป็นธรรม 
4) การดูแลผู้ประกันตนที่อยู่ในระบบประกันสังคม โดยการจ่ายเงินเยียวยา การลดเงินสมทบ การตรวจโรคโควิด-19 เชิงรุกแก่ผู้ประกันตนในสถานประกอบกิจการ แคมป์คนงาน การฉีดวัคซีนโควิดแก่ผู้ประกันตนในกรุงเทพมหานครและจังหวัดเศรษฐกิจ การจัดหา Hospitel รองรับผู้ประกันตนที่ป่วยโควิด ดำเนินโครงการ Factory Sandbox เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้แรงงานและสร้างความเชื่อมั่นในการขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจในภาคการผลิต การปรับค่ำจ้างขั้นต่ำ เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันที่ราคาสินค้าอุปโภคและบริโภคสูงขึ้น ให้พี่น้องแรงงานสามารถดำรงชีพอยู่ได้อย่างเหมาะสม ซึ่งจะประกาศใช้ในวันที่ 1 ตุลาคมนี้ จากภารกิจดังกล่าว ถือเป็นภารกิจสำคัญของกระทรวงแรงงานที่ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่ายทั้งภาครัฐและภาคเอกชนที่ได้ตั้งใจทุ่มเท แรงกาย แรงใจในการปฏิบัติภารกิจที่สำคัญนี้เป็นอย่างดี 

กรมอู่ทหารเรือ จัดกิจกรรมเนื่องในวันคล้ายวันสถาปนา ครบรอบ 133 ปี

เมื่อวานนี้ (9 ม.ค. 66) พลเรือโท สุทธิศักดิ์ บุตรนาค เจ้ากรมอู่ทหารเรือ จัดกิจกรรมเนื่องในวันคล้ายวันสถาปนากรมอู่ทหารเรือ ครบรอบปีที่ 133 โดยมีนายทหารชั้นผู้ใหญ่ อดีตผู้บังคับบัญชา และผู้แทนหน่วยงานภาครัฐและเอกชนในพื้นที่สัตหีบ เข้าร่วมในพิธี ณ กองบังคับการกรมอู่ทหารเรือ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี

การจัดกิจกรรมเนื่องในวันคล้ายวันสถาปนากรมอู่ทหารเรือปีนี้ ได้จัดให้มีกิจกรรมได้แก่ วันที่ 1 ธ.ค.65 นำกำลังพลร่วมบริจาคโลหิต ณ โรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ และนำกำลังพลร่วมบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ ณ วัดคีรีภาวนาราม อ.บ้านฉาง จ.ระยอง วันที่ 28 ธ.ค. 65 มอบทุนการศึกษาให้แก่บุตรข้าราชการ ลูกจ้างประจำ และพนักงานราชการ สังกัดกรมอู่ทหารเรือ ณ กองบังคับการกรมอู่ทหารเรือ วันที่ 5 ม.ค.66 จัดกิจกรรม Big Cleaning Day บริเวณพื้นที่กรมอู่ทหารเรือ วันที่ 6 ม.ค.66 มอบเงินทุนการศึกษาให้กับโรงเรียนอนุบาลอธิฎฐาน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี และในวันนี้ 9 ม.ค. 66 จัดพิธีสงฆ์และถวายภัตตาหารแด่พระสงฆ์ ณ กองบังคับการกรมอู่ทหารเรือ

พลเรือโท สุทธิศักดิ์ บุตรนาค เจ้ากรมอู่ทหารเรือ กล่าวว่า กรมอู่ทหารเรือ ดำเนินการซ่อมสร้างเรือตั้งแต่สมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ซึ่งในสมัยนั้น ได้มีเรือกลไฟใช้ราชการในยุคนั้นมีชื่อเรียกว่า อู่เรือหลวง กรมอู่ทหารเรือ ตั้งอยู่ด้านใต้ของวัดระฆังโฆสิตาราม จังหวัดธนบุรี มีเนื้อที่ 40 ไร่ กาลเวลาต่อมา เรือหลวงมีมากขึ้นและมีขนาดของเรือใหญ่ขึ้นมาเป็นลำดับ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าโปรดให้สร้างอู่ไม้ขนาดใหญ่ และเสด็จพระราชดำเนิน ประกอบพิธีเปิดอู่เรือหลวงเป็นปฐมฤกษ์ เมื่อวันศุกร์ที่ 9 มกราคม พ.ศ.2433 จึงได้ถือเอาวันที่ 9 มกราคม ของทุกปี เป็นวันคล้าย วันสถาปนากรมอู่ทหารเรือ กิจการอู่เรือก็ได้เริ่มดำเนินการและได้มีการเปลี่ยนแปลง ปรับปรุงในด้านองค์วัตถุที่สำคัญ ๆ เพื่อเพิ่มพูนขีดความสามารถให้พอเพียงกับจำนวนเรือ และความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี วันที่ 11 ธันวาคม พ.ศ.2465 ได้ทรงกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พลเรือเอกพระบรมวงศ์เธอพระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ เสนาธิการทหารเรือ มาเป็นผู้บัญชาการในหน้าที่เจ้ากรมยุทธโยธาทหารเรืออีกตำแหน่งหนึ่ง ปี พ.ศ.2475 สร้างอู่ใหม่ขนาดกว้าง 9.8 เมตร ยาว 130 เมตร ลึก 4 เมตร เรียกว่าอู่หมายเลข 2

กรมอู่ทหารเรือ จัดกิจกรรมเนื่องในวันคล้ายวันสถาปนา ครบรอบ 134 ปี

วันที่ 9 ม.ค.67 พลเรือโท ธิติ  นาวานุเคราะห์ เจ้ากรมอู่ทหารเรือ จัดกิจกรรมเนื่องในวันคล้ายวันสถาปนากรมอู่ทหารเรือ ครบรอบปีที่ 134 โดยมีนายทหารชั้นผู้ใหญ่ อดีตผู้บังคับบัญชา และผู้แทนหน่วยงานภาครัฐและเอกชนในพื้นที่สัตหีบ เข้าร่วมในพิธี ณ กองบังคับการกรมอู่ทหารเรือ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี

การจัดกิจกรรมเนื่องในวันคล้ายวันสถาปนากรมอู่ทหารเรือวันนี้ ได้จัดพิธีสงฆ์โดยนิมนต์พระสงฆ์ 10 รูป มาเจริญพระพุทธมนต์ เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่หน่วยงาน ข้าราชการ และเพื่อเป็นการอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้กับอดีตผู้บังคับบัญชา ข้าราชการในสังกัดที่ล่วงลับไปแล้ว

พลเรือโท ธิติ  นาวานุเคราะห์ เจ้ากรมอู่ทหารเรือ กล่าวว่า กรมอู่ทหารเรือ ดำเนินการซ่อมสร้างเรือตั้งแต่สมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ซึ่งในสมัยนั้น ได้มีเรือกลไฟใช้ราชการในยุคนั้นมีชื่อเรียกว่า อู่เรือหลวง กรมอู่ทหารเรือ ตั้งอยู่ด้านใต้ของวัดระฆังโฆสิตาราม จังหวัดธนบุรี มีเนื้อที่ 40 ไร่ กาลเวลาต่อมา เรือหลวงมีมากขึ้นและมีขนาดของเรือใหญ่ขึ้นมาเป็นลำดับ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าโปรดให้สร้างอู่ไม้ขนาดใหญ่ และเสด็จพระราชดำเนิน ประกอบพิธีเปิดอู่เรือหลวงเป็นปฐมฤกษ์ 

เมื่อวันศุกร์ที่ 9 มกราคม พ.ศ.2433 จึงได้ถือเอาวันที่ 9 มกราคม ของทุกปี เป็นวันคล้าย วันสถาปนากรมอู่ทหารเรือ กิจการอู่เรือก็ได้เริ่มดำเนินการและได้มีการเปลี่ยนแปลง ปรับปรุงในด้านองค์วัตถุที่สำคัญ ๆ เพื่อเพิ่มพูนขีดความสามารถให้พอเพียงกับจำนวนเรือ และความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี วันที่ 11 ธันวาคม พ.ศ.2465 ได้ทรงกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พลเรือเอกพระบรมวงศ์เธอพระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ เสนาธิการทหารเรือ มาเป็นผู้บัญชาการในหน้าที่เจ้ากรมยุทธโยธาทหารเรืออีกตำแหน่งหนึ่ง ปี พ.ศ.2475 สร้างอู่ใหม่ขนาดกว้าง 9.8 เมตร ยาว 130 เมตร ลึก 4 เมตร เรียกว่าอู่หมายเลข 2 
          
ปัจจุบันกรมอู่ทหารเรือมีภารกิจ คือ มีหน้าที่อำนวยการ ประสานงาน แนะนำ กำกับการ และดำเนินการในเรื่องการซ่อม สร้างดัดแปลง ทดสอบ วิจัยและพัฒนาเกี่ยวกับเรือ อากาศยาน ยานรบ และอุปกรณ์ การช่างที่เกี่ยวข้อง การส่งกำลังพัสดุสายช่างตลอดจนให้การฝึก และศึกษา วิชาอื่นๆ ตามที่ได้รับมอบหมายซึ่งมีเจ้ากรมอู่ทหารเรือเป็นผู้บังคับบัญชารับผิดชอบ


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top