Friday, 6 June 2025
ลิเวอร์พูล

หนุ่มน้อยนักเตะ ‘รร.กีฬาหนองคาย’ ดังไกลถึง ‘พรีเมียร์ ลีก’ หลังเป็นไวรัล!! มีคนนำไปเทียบ ‘เทรนท์-แจ็ค กรีลิช-เมซุต โอซิล’

(19 ต.ค. 67) เหตุเกิดในการแข่งขันฟุตบอลนักเรียน 7 คนชิงแชมป์ 7 สี เมื่อวันก่อนซึ่ง โรงเรียนกีฬาหนองคาย ถล่ม หนองกี่พิทยาคม จาก บุรีรัมย์ ไปแบบขาดลอยถึง 5-0 แต่ทุกคนกลับติดภาพจำจังหวะที่ไม่เป็นประตูเมื่อ ชญานนท์ กะมุตะเสน นักเตะตัวรุกของทีมผู้ชนะได้ลากเลื้อยเข้าไปยิงเต็มข้อ พร้อมหันมาทำท่าดีใจด้วยการทำนิ้วรูปตัว N โดยไม่ได้ดูว่า ลูกบอลเจ้ากรรมถูกคู่แข่งสกัดได้บนเส้นประตู

เรื่องที่เกิดขึ้นกลายเป็น ไวรัล ทำเป็นคลิปแชร์ว่อนโซเชียล เกิดมีมต่าง ๆ มากมาย ถึงขั้นสกรีนลวดลายบนเสื้อยืดยังมี กระทั่งล่าสุด เพจเฟซบุ๊ก พรีเมียร์ลีก ได้นำรูปของ ชญานนท์ มาโพสต์แบบ 4 ช่องเคียงข้างท่าดีใจของสตาร์ดังทั้ง เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ แบ็กขวา ลิเวอร์พูล, แจ็ค กรีลิช ปีกทีมชาติอังกฤษสมัยสังกัด แอสตัน วิลล่า และ เมซุต โอซิล อดีตจอมทัพ อาร์เซนอล

พร้อมกันนั้นยังโพสต์แคปชันข้อความแบบปั่น ๆ พลางให้กำลังใจในเวลาเดียวกันว่า ‘ไม่เป็นไรนะน้อง...อย่างน้อยเราก็เท่’

‘อาร์เนอ’ เปิดใจหลัง ‘ลิเวอร์พูล’ แซงชนะ ‘ไบรตัน’ อวย!! ลูกทีมเต็มที่ ครึ่งแรก-ครึ่งหลัง ‘หนังคนละม้วน’

(3 พ.ย. 67) ‘ลิเวอร์พูล’ โกงความตายอีกแล้ว พลิกสถานการณ์จากที่ตามหลัง ไบรตัน ไปก่อน 0-1 จากประตูของ แฟร์ดี คาดิโอกลู ในนาที 14 กลับมายิงสองลูกรวดช่วงครึ่งหลังจาก โคดี กักโป นาที 69 และโมฮาเหม็ด ซาลลาห์ นาที 72 แซงชนะ 2-1 ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ 2024-25 เมื่อวันที่ 2 พ.ย.

จากผลที่เกิดขึ้นทำให้ ‘หงส์แดง’ เก็บเพิ่มเป็น 25 คะแนนจาก 10 นัดแซง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ขึ้นไปครองตำแหน่งจ่าฝูงอีกครั้งหลังมีแต้มมากว่า ‘เรือใบสีฟ้า’ 2 คะแนนในจำนวนนัดเท่ากัน ส่วน ไบรตัน หยุดอยู่ที่ 16 คะแนนจาก 10 นัดอยู่อันดับ 7 ตาราง

หลังเกม อาร์เนอ ซึ่งทำสถิติเป็นเฮดโค้ชของ ลิเวอร์พูล คนแรกที่พาทีมชนะในลีก 8 จาก 10 นัดแรก กล่าวถึงผลงานของทีม รวมถึงการขึ้นไปครองจ่าฝูงว่า 

“เราต้องการฟอร์มการเล่นในครึ่งหลังอีกครั้ง เพราะเราเล่นได้แย่ในครึ่งแรก พวกเขาเล่นได้ดีขึ้นเมื่อครองบอล เล่นเกมรุกได้ดีขึ้นเมื่อไม่มีบอล จากนั้นทุกอย่างก็เปลี่ยนไปในครึ่งหลังเพราะมันตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง”

“กองหน้าของเรายิงประตูได้ แต่ความแตกต่างหลักคือเราอยู่ในตำแหน่งที่ดีกว่า และได้บอลมากขึ้น เมื่อไม่มีบอล พวกเขาสร้างปัญหาให้เรา แต่ในครึ่งหลังเรายังคงวิ่งต่อไป”

“(เกี่ยวกับตำแหน่งจ่าฝูง) มันสำคัญกว่าหากคุณเล่นกับ อาร์เซนอล ในสนามของพวกเขา และคุณสามารถเสมอได้นอกบ้าน ไบรตัน ก็เป็นทีมที่แข็งแกร่งมากเช่นกัน พวกเขาแสดงให้เห็นในฤดูกาลนี้ หากคุณเผชิญหน้ากับทีมแบบนี้ และตามหลังอยู่ 1-0 และสามารถกลับมาชนะ 2-1 ซึ่งในความคิดของผม มันสมควรแล้ว มันทำให้ผมมั่นใจมากขึ้น และมากกว่าตำแหน่งที่เราอยู่ตอนนี้”

นอกจากนั้นเฮดโค้ชวัย 46 ปียังอัพเดตอาการบาดเจ็บของ อิบราฮิมา โคนาเต กองหลังคนสำคัญซึ่งมีอาการเจ็บที่แขน และค้องถูกเปลี่ยนตัวออกช่วงพักครึ่งแรกว่า 

“เขาเจ็บมากในช่วงพักครึ่ง ดังนั้นคุณต้องเปลี่ยนตัว สิ่งดีคือเรามีตัวสำรองสองคนซึ่งดีมากคือ โจ โกเมซ และจาเรลล์ ควานซาห์ ผมเลือก โจ ในวันนี้เพราะ จาเรลล์ เหนื่อยมาก และเขาพิสูจน์ให้เห็นว่า ผมคิดถูก เพราะเขาเล่นได้โดดเด่นในครึ่งหลัง”

‘เป๊ป กวาร์ดิโอลา’ ยอมรับสภาพ!! อาจต้องเสียแชมป์พรีเมียร์ลีก หลัง ‘เรือใบสีฟ้า’ พ่ายแพ้ 4 เกมติดต่อกัน นับตั้งแต่เข้ามาคุมทีม

(10 พ.ย. 67) แมนเชสเตอร์ ซิตี แชมป์เก่าพรีเมียร์ ลีก ฤดูกาลที่แล้ว แม้จะได้ประตูออกนำ ไบร์ทตันฯ ไปก่อน 1-0 แต่ก็โดนเจ้าถิ่นรัว 2 เม็ดรวดในช่วงท้ายเกม แซงชนะไป 2-1 ยัดเยียดความปราชัยให้ ’เดอะ ซิตีเซนส์’ เป็นเกมที่ 4 ติดต่อกันทุกรายการ

“เกมนี้เราทำดีไม่ได้ตลอดทั้ง 90 นาที เราเล่นได้ดีแค่ในครึ่งแรก และบางช่วงเวลาในครึ่งหลัง เราแพ้อีกครั้ง ดังนั้นต้องเคลียร์หัวของเรา เบรกทีมชาติ และหวังว่านักเตะของเราจะกลับมาฟิตอีกครั้ง” เป๊ป เริ่มกล่าว

“ไบร์ทตันฯ เป็นทีมที่ดี ตั้งแต่ยุค เกรแฮม พ็อตเตอร์ อยู่ที่นี่แล้ว พวกเขามีนักเตะดาวรุ่งที่ดี มีคุณภาพที่ดี ตอนนี้เราต้องพยายามเอาชนะอีกครั้ง เราไม่สามารถรักษาจังหวะการเล่นในครึ่งหลังได้ นี่พวกเราก็แพ้ 4 เกมติดแล้ว”

“เราต้องเปลี่ยนบางสิ่งอย่างรวดเร็ว โปรแกรมก็ยากขึ้นเรื่อย ๆ แต่มันก็มาถึงเมื่อนักเตะเริ่มฟิตกลับมา”

“บางทีหลังจากผ่านไป 7 ปีที่คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 6 สมัย บางทีมันก็อาจเป็นหนึ่งปีที่ทีมอื่นเหมาะสมกว่า” นายใหญ่เรือใบสีฟ้า ทิ้งท้าย

สำหรับ แมนเชสเตอร์ ซิตี จะกลับมาลงสนามอีกครั้งหลังพักเบรกทีมชาติ พบ ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ คืนวันเสาร์ที่ 23 พฤศจิกายน เวลา 00.30น. ต่อด้วยลงเล่นเกมยุโรป พบ เฟเยนูร์ด คืน 26 พ.ย. และมีคิวฟาดแข้งเกมบิ๊กแมตช์ในการออกไปเยือน ลิเวอร์พูล วันที่ 1 ธันวาคม เวลา 23.00 น.

‘อลงกรณ์’ เป็นกำลังใจให้!! ‘พีระพันธุ์’ ขจัดผูกขาดพลังงาน ขอให้มันจบในรุ่นเรา ชี้!! “คุณไม่ได้เดินเดียวดายคนเดียว” มีคนอีกไม่น้อย ที่พร้อมสนับสนุน ทำดีไม่มีพัง

(5 ม.ค. 68) หลังจากนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานโพสต์ข้อความว่า มีขบวนการปั้นข่าวรุมถล่ม โดยระบุกลุ่มทุนพลังงานไม่พอใจการทำงานของนายพีระพันธุ์ตามที่ปรากฏเป็นข่าวเมื่อวานนี้ (4 ม.ค. 68)

ปรากฎว่า วันนี้ (5 ม.ค. 68)นายอลงกรณ์ พลบุตร อดีตรัฐมนตรีและสส.พรรคประชาธิปัตย์ ปัจจุบันเป็นประธานสถาบันเอฟเคไอไอ.ไทยแลนด์(FKII Thailand)
และรองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ พรรคประชาธิปัตย์ได้โพสต์ในเฟสบุ๊กส่วนตัวถึงนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาคโดยมีข้อความดังต่อไปนี้

ถึง คุณพีระพันธุ์

“You will never walk alone”

ขอให้รู้ว่า คุณไม่ได้เดินเดียวดายคนเดียว

แต่มีผมและพวกเราอีกไม่น้อยที่พร้อมสนับสนุนและเป็นกำลังใจ ไม่ใช่เพียงเพราะความเป็นเพื่อนหรือคนที่เคยทำงานใต้ชายคาเดียวกันคือ ‘พรรคประชาธิปัตย์’ มาเกือบ 30 ปี แต่เพราะตรงกันในจุดยืนขจัดการผูกขาด(Anti-Monopoly)โดยเฉพาะการผูกขาดด้านพลังงาน

ประเทศของเรายังมีการผูกขาดทางเศรษฐกิจที่ต้องช่วยกันทลายให้หมดไปเพราะเป็นสาเหตุของปัญหาความเหลื่อมล้ำและการคอรัปชั่นที่ทำให้ประเทศล้าหลังและประชาชนยากจนมาอย่างยาวนาน

ขอให้การผูกขาดจบในรุ่นของเราด้วยเจตจำนงทางการเมือง(Political will)ร่วมกันที่แน่วแน่เพื่อส่งต่อประเทศไทยที่ดีกว่าให้กับลูกหลานของเรา

ทำดีไม่มีพังครับ

อลงกรณ์ พลบุตร

5 มกราคม 2568

ชายอังกฤษวัย 53 ขับรถพุ่งใส่แฟนบอลลิเวอร์พูล บาดเจ็บกว่า 45 ราย กลางขบวนแห่ฉลองแชมป์

เมื่อวานนี้ (26 พ.ค.68) เกิดเหตุการณ์รถยนต์พุ่งชนฝูงชนที่กำลังเฉลิมฉลองการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกสมัยที่ 20 ของสโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล บนถนนวอเตอร์สตรีท เมืองลิเวอร์พูล ประเทศอังกฤษ ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บ 47 ราย ในจำนวนนี้มีเด็ก 4 คน และมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 2 ราย

เบื้องต้นผู้ขับขี่รถยนต์ดังกล่าว เป็นชายชาวอังกฤษ อายุ 53 ปี ถูกจับกุมในที่เกิดเหตุ โดยตำรวจเมอร์ซีย์ไซด์ระบุว่า เหตุการณ์นี้ไม่เกี่ยวข้องกับการก่อการร้าย และเชื่อว่าเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยลำพัง

หนึ่งในผู้เห็นเหตุการณ์ระบุว่า ฝูงชนกรูเข้าทุบกระจกเพื่อหยุดยั้ง แต่คนขับกลับเร่งเครื่องพุ่งชนต่ออีก ชาวเมืองและแฟนบอลต่างตกตะลึงกับเหตุการณ์ที่ทำให้วันแห่งความสุขกลายเป็นฝันร้าย

ตำรวจขอความร่วมมือประชาชนงดเผยแพร่ภาพรุนแรงและหลีกเลี่ยงการคาดเดาสาเหตุของเหตุการณ์นี้ โดยระบุชัดเจนว่าผู้ต้องสงสัยเป็นชายผิวขาว เพื่อป้องกันการเผยแพร่ข้อมูลผิดพลาดในโซเชียลมีเดียที่เคยเกิดขึ้นก่อนหน้านี้

นายกรัฐมนตรีเคียร์ สตาร์เมอร์ แสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และยกย่องความกล้าหาญของเจ้าหน้าที่ผู้เข้าช่วยเหลือ พร้อมกล่าวว่า “ทุกคน โดยเฉพาะเด็ก ๆ ควรได้เฉลิมฉลองฮีโร่ของพวกเขาโดยปลอดภัย” ขณะที่สโมสรลิเวอร์พูลและพรีเมียร์ลีกต่างออกแถลงการณ์แสดงความเสียใจต่อเหตุรุนแรงดังกล่าวเช่นกัน

อดีตนาวิกโยธินอังกฤษ วัย 53 ปี ถูกตั้งข้อหาหนัก!! หลังขับรถพุ่งชนฝูงชน!! ในงานฉลองแชมป์ลิเวอร์พูล

(31 พ.ค. 68) Amthaipaper (หนังสือพิมพ์ไทยในอังกฤษ) รายงานว่า ชายชาวอังกฤษนาม Paul Doyle วัย 53 ปี จากย่าน West Derby เมืองลิเวอร์พูล อดีตนาวิกโยธินของกองทัพอังกฤษ ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งข้อหาหลายกระทง หลังจากเขาขับรถพุ่งชนกลุ่มแฟนบอลจำนวนมากในงานขบวนแห่ฉลองแชมป์ของสโมสร Liverpool FC จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บมากถึง เกือบ 80 คน บางรายอาการสาหัส

แม้เหตุการณ์จะเกิดขึ้นในช่วงขบวนแห่ที่ผู้คนหลั่งไหลกันมานับหมื่น แต่นาย Doyle ไม่ได้มาร่วมขบวนแห่แชมป์ ตามรายงานจากสื่อท้องถิ่น เขาขับรถมาส่งเพื่อนที่บริเวณใกล้เคียงจุดจัดงาน ก่อนจะเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการสอบสวนว่าพฤติกรรมของเขาในขณะนั้นเป็นการวางแผนไว้ล่วงหน้าหรือเกิดขึ้นด้วยเหตุอื่น

จากรายงานของตำรวจและสื่อหลายสำนัก นาย Paul Doyle ถูกตั้งข้อหาดังนี้
• ขับรถโดยประมาทอันตราย (Dangerous driving)
• ทำร้ายร่างกายสาหัสโดยเจตนา (Grievous bodily harm – GBH – with intent)
• พยายามทำร้ายร่างกายสาหัส (Attempted GBH)
• และทำร้ายร่างกายโดยมีเจตนา (Wounding with intent)

Paul Doyle คือใคร

Paul Doyle เป็นอดีตทหาร Royal Marine ที่เคยรับใช้ชาติ แต่หลังปลดประจำการ ดูเหมือนว่าเขาจะใช้ชีวิตเงียบ ๆ ในฐานะ คุณพ่อลูกสาม และถูกมองว่าเป็น คนรักครอบครัว (family man) โดยผู้ที่รู้จักใกล้ชิด

ภาพของเขาที่ยิ้มแย้ม นั่งเล่นกับลูก ๆ หรือสวมหมวกปาร์ตี้ในบรรยากาศครอบครัว ถูกนำมาเปรียบเทียบกับภาพขณะนั่งอยู่หลังพวงมาลัยในรถที่ใช้ก่อเหตุ ซึ่งสร้างความสับสนและตกใจให้กับสาธารณชนอย่างมาก

แม้จะมีบุคลิกดูอ่อนโยนและไม่มีประวัติน่ากังวลในอดีต แต่ข้อกล่าวหาจากทางการในครั้งนี้ชี้ว่าการกระทำของเขาอาจเกิดขึ้นโดยเจตนา ซึ่งเป็นประเด็นสำคัญที่กำลังถูกสอบสวนอย่างละเอียด

คดีนี้ยังอยู่ในระหว่างการดำเนินคดีและการไต่สวนในชั้นศาล ผู้ต้องหายังไม่ได้รับการตัดสินว่ามีความผิดตามกฎหมาย ข่าวนี้เป็นการรายงานข้อกล่าวหาที่ได้รับการเปิดเผยต่อสาธารณะ


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top