Tuesday, 22 April 2025
ลอสแอนเจลิส

นักแสดงหนุ่มถูกยิงดับ เพื่อหยุดโจรไม่ให้ขโมยรถ สะท้อนปัญหาใหญ่แห่งมหานครลอสแอนเจลิส

(28 พ.ค. 67) เพจ 'BrandThink' ได้เผยรายงานจากสำนักข่าวต่างประเทศ ระบุว่า ‘จอห์นนี แวกเตอร์’ (Johnny Wactor) นักแสดงหนุ่มชาวอเมริกัน ถูกยิงเสียชีวิตด้วยวัยเพียง 37 ปี ในเมืองลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ขณะพยายามเข้าไปหยุดโจรไม่ให้ขโมยชิ้นส่วนรถยนต์ จากรถของเขาในช่วงเช้าของวันที่ 25 พฤษภาคม ที่ผ่านมา

ตามรายงานระบุว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นบริเวณหัวมุมถนนเวสต์พิโกบูเลอวาร์ดและถนนเซาท์โฮปสตรีท ในย่านดาวน์ทาวน์ของมหานครลอสแอนเจลิส โดยเกิดขึ้นขณะที่แวกเตอร์กําลังกลับไปที่รถหลังจากเลิกงาน แล้วพบว่ามีชายคนหนึ่งกําลังทำอะไรบางอย่างกับรถของเขา ซึ่งขณะนั้นแวกเตอร์คิดว่าชายผู้นี้อาจไม่ได้มีพิษมีภัยอะไร จึงเดินเข้าไปถามว่าเกิดอะไรขึ้น แต่แล้วจู่ ๆ ชายคนนี้ก็กลับชักปืนขึ้นมายิงไปที่นักแสดงหนุ่มทันที ก่อนจะหลบหนีไปพร้อมกับโจรอีกสองราย ที่ขณะนี้ตำรวจก็ยังไม่สามารถจับกุมตัวได้

ด้าน ‘สการ์เลตต์ แวกเตอร์’ ผู้เป็นแม่ของนักแสดงหนุ่มให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า เธอรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างมาก เพราะสิ่งที่พวกโจรกระทำกับลูกของเธอ เป็นการกระทำที่ ‘ไร้หัวใจ’ ในขณะที่ ‘แกรนด์ แวกเตอร์’ น้องชายของอดีตนักแสดงระบุว่า ในวันที่เกิดเหตุนั้นแวกเตอร์ได้ไปทำงานเป็นบาร์เทนเดอร์ในร้านแห่งหนึ่ง และกำลังเดินไปส่งเพื่อนร่วมงานหญิงที่รถของเธอ สำหรับเขา พี่ชายเป็นบุคคลที่มีเสน่ห์ที่สุดคนหนึ่งเท่าที่เขาเคยรู้จัก เพราะไม่ว่าเขาจะพูดหรือฟังอะไรก็ตาม เขาจะทำสิ่งนั้นออกมาจากใจจริง ๆ 

ทั้งนี้สำหรับ จอห์นนี่ แวกเตอร์ ถือเป็นนักแสดงที่มีชื่อเสียงอยู่ไม่น้อย เพราะได้ฝากผลงานการแสดงทั้งภาพยนตร์และละครโทรทัศน์ รวมทั้งสิ้นกว่า 44 เรื่อง โดยบทที่ทำให้เขาโด่งดังคือการแสดงเป็น ‘แบรนโด คอร์บิน’ (Brando Corbin) ในละครเรื่อง ‘General Hospital’ ที่ฉายทางสถานีโทรทัศน์ ABC ของอเมริกา โดยเรื่องนี้ได้รับการจดทะเบียนใน Guinness World Records ว่าเป็นละครอเมริกันที่ออกอากาศยาวนานที่สุดในโลก (ออกฉาย 61 ตอน) ซึ่งผลงานที่มากมายเช่นนี้ ทำให้แฟนคลับของเขาเสียใจอย่างมากที่อนาคตของนักแสดงหนุ่มต้องมาดับไปภายในเพียงเสี้ยววินาที จากฝีมือของโจรไร้ศีลธรรมและไม่มีความรับผิดชอบต่อสังคม 

อย่างไรก็ตาม การเสียชีวิตของแวกเตอร์นี้ ได้สะท้อนปัญหาใหญ่ที่แก้ไขไม่ได้สักทีของมหานครลอสแอนเจลิส อย่างปัญหาเรื่อง ‘อาชญากร’ ที่ทำให้เมืองนี้ถูกมองว่าเป็นหนึ่งในเมืองที่อันตรายมากที่สุดของสหรัฐอเมริกา โดยในปี 2023 ที่ผ่านมานั้น จากสถิติพบว่าอัตราการก่ออาชญากรรมต่อทรัพย์สินในนครลอสแอนเจลิสอยู่ที่ 27.53 ต่อประชากร 1,000 คน และมีจำนวนอาชญากรรมรุนแรงที่เกิดขึ้นเฉลี่ย 32,000 ครั้งต่อปี เลยทีเดียว 

และในส่วนตัวเลขของอาชญากรรมต่อทรัพย์สินนั้น มีแนวโน้มสูงขึ้นจากปี 2022 ถึง 3.5 เปอร์เซ็นต์ และตัวเลขด้านการโจรกรรมยานยนต์เพิ่มขึ้นเป็น 2 เปอร์เซ็นต์ โดยมีทรัพย์สินที่ถูกขโมยไปแล้วรวมมูลค่ากว่า 150,000 ดอลลาร์ หรือราวๆ 5.5 ล้านบาท แต่กลับจับกุมผู้ต้องหาได้เพียง 128 ราย และยึดอาวุธปืนได้ 15 กระบอกจากทั้งหมดเท่านั้น ซึ่งสถานการณ์หลังจากนี้ของลอสแอนเจลิสจะเป็นเช่นไร ก็เป็นเรื่องที่หลายฝ่ายเป็นกังวลและเรียกร้องให้รัฐแคลิฟอร์เนียออกมาจัดการกับปัญหานี้อย่างเป็นจริงเป็นจังเสียที

อุกอาจ!! 'แก๊งวัยรุ่นมะกัน' รวมพลปล้นร้าน 7-Eleven มูลค่าความเสียหาย 40,000 เหรียญสหรัฐ พบ!! ไม่ใช่ครั้งแรก

(29 ส.ค. 67) เพจ 'World Forum ข่าวสารต่างประเทศ' ได้เผยแพร่ภาพการปล้นร้านสะดวกซื้อ 'เซเว่นอีเลฟเว่น' (7 Eleven) โดยวัยรุ่นที่มีการรวมตัวกันประมาณ 30-50 คน

ทั้งนี้ วัยรุ่นกลุ่มดังกล่าว ได้เข้าปล้น 7-Eleven สาขา ซานเปโดร ลอสแอนเจลิส ประมาณ เวลา 01:39 น. ของวันเสาร์ที่ 24/08/2024  

จากรายงาน คนร้ายได้ขโมยบุหรี่ไปกว่า 1,000 ซอง ตั๋วล็อตเตอรี่ และเครื่องคิดเงิน 2 เครื่อง ที่มีเงินสดอยู่ข้างในประมาณ 5,000 เหรียญสหรัฐฯ ก่อนจะหลบหนีไปได้ เบื้องต้นมูลค่าความเสียหายจากการประเมินอยู่ที่ 40,000 เหรียญสหรัฐ

เหตุการณ์นี้ไม่ใช่ครั้งแรก เพราะก่อนหน้านั้นช่วงเดือนสิงหาคม 7-Eleven หลายสาขาในลอสแอนเจลิส ก็เคยถูกปล้นมาแล้ว เพียงแต่ไม่แน่ชัดว่าเป็นวัยรุ่นกลุ่มเดียวกันหรือไม่ ซึ่งขณะนี้ทางเมืองลอสแองเจลลิสได้ขอเพิ่มกำลังตำรวจเพื่อตรวจตราเพิ่มขึ้นแล้ว

ประกันอ่วม!! จ่ายเงินชดเชย ‘ไฟป่าแอลเอ’ สูงที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ คาดพุ่งทะลุถึง 5.2 ล้านล้านบาท เหตุ!! ลามถึงเขตอสังหาริมทรัพย์ ราคาแพง

(12 ม.ค. 68) ไฟป่าลอสแอนเจลิส ที่ปะทุขึ้นยังคงลุกลามอย่างต่อเนื่อง แต่คาดการณ์ว่าจะเป็นไฟป่าที่สร้างความเสียหายสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ของสหรัฐ และสูงติดอันดับต้นๆ ของกลุ่มภัยธรรมชาติในสหรัฐอเมริกา

ไฟป่าแอลเอ ครั้งนี้คร่าชีวิตผู้คนไปแล้วอย่างน้อย 11 ราย และทำลายอาคารบ้านเรือนไปกว่า 12,000 หลัง ตั้งแต่วันอังคารที่ 7 ม.ค. ส่งผลให้ชุมชนที่เคยเป็นที่ตั้งของทรัพย์สินมูลค่าหลายล้านดอลลาร์ต้องพังทลายไปทั้งชุมชน แม้จะยังเร็วเกินไปที่จะสรุปมูลค่าความเสียหายได้อย่างแม่นยำ แต่จากการประมาณการต่างๆ บ่งชี้ว่า ความสูญเสียที่เกิดขึ้นจนถึงขณะนี้มีแนวโน้มว่าจะสร้างความเสียหายเป็นมูลค่าสูงที่สุดเท่าที่เคยเกิดไฟป่าสหรัฐมา

การประมาณการเบื้องต้นโดย AccuWeather ระบุว่า ความเสียหายและความสูญเสียทางเศรษฐกิจจนถึงขณะนี้อยู่ที่ระหว่าง 135,000 - 150,000 ล้านดอลลาร์ (ราว 5.2 ล้านล้านบาท) ในขณะที่ความเสียหายจากพายุเฮอริเคนเฮเลน เมื่อปี 2024 ซึ่งพัดถล่ม 6 รัฐทางตะวันออกเฉียงใต้เมื่อฤดูใบไม้ร่วงที่แล้ว อยู่ที่ 225,000 - 250,000 ล้านดอลลาร์

ทั้งนี้ จากการเปรียบเทียบข้อมูลจนถึงปัจจุบันพบว่า ไฟป่าแอลเอในครั้งนี้คาดว่าจะสร้างความเสียหายเป็นวงเงินสูงที่สุด ทุบสถิติของไฟป่า Camp Fire ในรัฐแคลิฟอร์เนียเมื่อปี 2018 ซึ่งมีมูลค่าความเสียหายอยู่ที่ประมาณ 1.25 หมื่นล้านดอลลาร์ ส่วนความเสียหายจาก ‘ภัยธรรมชาติ’ ที่คิดเป็นมูลค่าสูงที่สุดในสหรัฐนั้นยังคงเป็นกลุ่ม ‘พายุเฮอร์ริเคน’ นำโดยเฮอร์ริเคนแคทรีนา เมื่อปี 2005 ที่ความเสียหาย 2.01 แสนล้านดอลลาร์

ทางด้านบริษัทโบรกเกอร์ประกันภัย Aon PLC เปิดเผยเมื่อวันศุกร์ว่า ไฟป่าในเขตลอสแอนเจลิสมีแนวโน้มที่จะกลายเป็นไฟป่าที่สร้างความเสียหายสูงสุดในประวัติศาสตร์สหรัฐ แม้ว่าจะไม่ได้ออกประมาณการก็ตาม Aon จัดอันดับไฟป่าที่รู้จักกันในชื่อ Camp Fire ในเมืองพาราไดซ์ รัฐแคลิฟอร์เนีย ในปี 2018 ให้เป็นไฟป่าที่สร้างความเสียหายสูงสุดในประวัติศาสตร์สหรัฐจนถึงขณะนี้ โดยมีมูลค่า 12,500 ล้านดอลลาร์เมื่อปรับตามอัตราเงินเฟ้อ คร่าชีวิตผู้คนไป 85 ราย และทำลายบ้านเรือนไปประมาณ 11,000 หลัง

สำหรับสถานการณ์เมื่อวันเสาร์ ไฟป่าในแอลเอซึ่งทวีความรุนแรงขึ้นจากพายุลม Santa Ana และภัยแล้งรุนแรง ยังคงไม่สามารถควบคุมได้เป็นส่วนใหญ่ ซึ่งหมายความว่ายอดรวมความเสียหายจากไฟป่ามีแนวโน้มว่าจะเพิ่มมากขึ้นอย่างมาก

ทางด้านบริษัทจัดอันดับเครดิต ‘มูดีส์’ (Moody's) เปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า ไฟป่าครั้งนี้จะเป็นไฟป่าที่สร้างความเสียหายมากที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐ เนื่องจากได้ลุกลามไปยังพื้นที่ที่มีประชากรหนาแน่นและมีอสังหาริมทรัพย์ระดับไฮเอนด์ แม้ว่ารัฐนี้จะเคยประสบกับไฟป่าครั้งใหญ่มาบ้างแล้ว แต่โดยทั่วไป ไฟป่าจะกระจุกตัวอยู่ในพื้นที่ตอนในที่ไม่มีประชากรหนาแน่น ส่งผลให้มีการทำลายล้างต่อเอเคอร์น้อยลง และส่วนใหญ่จะสร้างความเสียหายต่อบ้านเรือนที่มีราคาถูกกว่า

แต่ในครั้งนี้ ไฟป่าได้ทำลายทรัพย์สินหลายพันหลังในเขตแปซิฟิก พาลิเซดส์ (Pacific Palisades) และมาลิบู (Malibu) ซึ่งเป็นบ้านของดาราฮอลลีวูดและผู้บริหารระดับสูงหลายคนที่มีทรัพย์สินมูลค่าหลายล้านดอลลาร์ โดยมีดาราดังหลายคนสูญเสียบ้านเรือนไปจากไฟไหม้ในครั้งนี้

อิมาน เคลิฟ ตั้งเป้าคว้าเหรียญทองโอลิมปิก 2028 ที่แอลเอ แม้เจอกระแสกดดันจากทรัมป์ ออกมาโจมตีนักกีฬาที่มีภาวะ DSD

(20 มี.ค. 68) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า อิมาน เคลิฟ (Imane Khelif) นักมวยหญิงชาวแอลจีเรีย ประกาศเป้าหมายชัดเจนว่าเธอจะกลับมาคว้าเหรียญทองโอลิมปิกในปี 2028 ที่ลอสแอนเจลิส สหรัฐอเมริกา แม้ว่าจะต้องเผชิญอุปสรรคจากกระแสต่อต้านของประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งเป็นแกนนำในการผลักดันกฎกติกาที่เข้มงวดเกี่ยวกับเพศสภาพของนักกีฬา

อย่างที่ทราบกันดีว่า เคลิฟ คว้าเหรียญทองให้แอลจีเรียในศึกโอลิมปิก 2024 ที่กรุงปารีส ด้วยการเอาชนะ หลิว หยาง จากจีน ที่คะแนนเอกฉันท์ 5-0 เสียง ในรอบชิงชนะเลิศ ส่วนรอบรองชนะเลิศ เธอคว้าชัยเหนือ ‘บี’ จันทร์แจ่ม สุวรรณเพ็ง นักชกสาวไทย ด้วยคะแนน 5-0 เสียง ทำให้จันทร์แจ่มคว้าเหรียญทองแดงไปครอง 

อย่างไรก็ตาม เส้นทางสู่เหรียญทองของเธอไม่ได้ราบรื่น เนื่องจากก่อนหน้านี้ เคลิฟเคยถูกตัดสิทธิ์จากการแข่งขันชิงแชมป์โลกปี 2023 เนื่องจากไม่ผ่านการตรวจระดับฮอร์โมนเพศชาย แต่ในโอลิมปิก 2024 คณะกรรมการโอลิมปิกสากล (IOC) ได้อนุญาตให้เธอเข้าร่วมแข่งขัน หลังจากตรวจสอบเอกสารและยืนยันว่าเธอเป็นเพศหญิงตามกฎหมาย

แม้จะได้รับอนุญาตให้แข่งขัน แต่เคลิฟยังคงเผชิญกับกระแสวิพากษ์วิจารณ์จากสังคมและบุคคลสำคัญ เช่น ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่แสดงความไม่พอใจต่อการเข้าร่วมแข่งขันของเธอ 

ทรัมป์แสดงจุดยืนมาโดยตลอดเกี่ยวกับกฎระเบียบเพศสภาพในวงการกีฬา และเคยกล่าวโจมตีอย่างรุนแรงต่อนักกีฬาข้ามเพศและผู้ที่มีภาวะเพศกำกวม (DSD – Differences in Sexual Development) โดยเรียกร้องให้มีการห้ามนักกีฬาข้ามเพศและนักกีฬาที่มีภาวะ DSD ลงแข่งขันในประเภทหญิง ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อเคลิฟและนักกีฬาหญิงอีกหลายคน

ทั้งนี้ เคลิฟประกาศอย่างชัดเจนว่า โอลิมปิก 2028 คือเป้าหมายสำคัญของเธอ และเธอจะไม่ยอมให้กฎเกณฑ์ที่ไม่เป็นธรรมมาหยุดยั้งเส้นทางการเป็นแชมป์ของ 

“เหรียญทองที่สอง แน่นอนที่สุด กับการแข่งขันที่อเมริกา ลอส แองเจลิส และฉันตอบแบบตรงไปตรงมานะ ผู้นำของสหรัฐฯ ออกคำสั่งที่เกี่ยวข้องกับคนข้ามเพศในอเมริกา แต่ฉันไม่ใช่คนข้ามเพศ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับฉัน และไม่ทำให้ฉันรู้สึกกังวลเลย” นักชกวัย 25 ปี กล่าว 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top