Tuesday, 22 April 2025
รัดเกล้า_อินทวงศ์

‘รัดเกล้า’ เผย!! ‘ก.อุตสาหกรรม’ มุ่งแก้ปัญหา PM2.5 ยั่งยืน ผุดมาตรการ ‘คุม รับ รุก’ สร้าง ‘อุตฯ สีเขียว’ สอดรับ BCG Model

(9 ต.ค. 66) นางรัดเกล้า อินทวงศ์ สุวรรณคีรี รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม รับทราบและไม่ได้นิ่งนอนใจในความกังวลใจของชาวภูเก็ตเรื่องมลภาวะจากโรงงานอุตสาหกรรม จึงได้เดินหน้าสั่งการอุตสาหกรรมจังหวัด ทำการตรวจสอบอย่างใกล้ชิด และกำกับติดตามดูแลตามมาตรการระเบียบและข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องทันที

นอกจากนั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ยังย้ำอีกว่ารัฐบาลให้ความสำคัญ และเดินหน้าแก้ไขปัญหา PM2.5 ด้วยมาตรการ ‘คุม รับ รุก’ โดยกระทรวงอุตสาหกรรมได้วางวาระ PM2.5 เป็น 1 ใน 5 วาระเร่งด่วน ยกระดับสู่อุตสาหกรรมยั่งยืน รองรับการเปลี่ยนผ่านไปสู่อุตสาหกรรมที่มีมูลค่าเพิ่ม อุตสาหกรรมสีเขียว (Green Industry) และสอดคล้องกับนโยบาย BCG Model

รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า มาตรการ ‘คุม รับ รุก’ ได้แก่ 

1.คุม ควบคุมการระบายอากาศเสียจากโรงงาน โดยใช้อำนาจตาม พรบ. โรงงาน แก้กฎหมาย 
2.รับ การรับและรวบรวมข้อมูลด้านมลพิษอากาศจากโรงงานอย่าง Real-time 
3.รุก การตรวจโรงงานเชิงรุก กทม. ปริมณฑล เหนือ

โดย กระทรวงอุตสาหกรรมยังได้ดำเนินมาตรการควบคุมและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองการเชิงรุกกับโรงงานทั่วประเทศที่จำนวนกว่า 7 หมื่นโรงงาน ทั้งการตรวจโรงงานเชิงรุกในพื้นที่ กทม. และ ปริมณฑล ของโรงงานในกลุ่มเสี่ยงแล้วกว่า 896 โรงงาน (กทม. 260 โรงงาน ปริมณฑล 636 โรงงาน) ดำเนินการตรวจโรงงานเชิงรุกในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือจำนวน 668 โรงงาน

รวมทั้งขอความร่วมมือผู้ประกอบการให้ควบคุมการผลิต และตรวจสอบประสิทธิภาพการทำงานของระบบบำบัดมลพิษทางอากาศ ออกกฎหมายควบคุมด้านมลพิษอากาศ ออกกฎหมายกำหนดให้โรงงานบางประเภทที่อาจก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศ ให้ดำเนินการติดตั้งอุปกรณ์ตรวจสอบคุณภาพอากาศจากปล่องแบบอัตโนมัติอย่างต่อเนื่อง (CEMS) ตลอดจนการจัดระบบเฝ้าระวังและเตือนภัยมลพิษระยะไกล (Pollution Online Monitoring System) เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้ามาติดตามและตรวจสอบ

“รัฐบาลเร่งยกระดับอุตสาหกรรมไทยสอดรับ BCG Model มุ่งสู่อุตสาหกรรมที่มีมูลค่าเพิ่มและอุตสาหกรรมสีเขียว (Green Industry) พัฒนาพาอุตสาหกรรมไทยให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของโลกที่มุ่งไปสู่ความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม จึงต้องร่วมกับผู้ประกอบการและฝ่ายที่เกี่ยวข้องต่าง ๆ ปรับตัวตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำ” นางรัดเกล้าฯ กล่าว

'รัดเกล้า' เผย!! ครม.เห็นชอบร่างประกาศฯ คนต่างด้าวทำงานในไทย โฟกัส!! กลุ่มกิจการในเรือประมง ขยายเวลายื่นขออนุญาตได้ตลอดปี

(2 เม.ย.67) นางรัดเกล้า อินทวงศ์ สุวรรณคีรี รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี / รองโฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุมครม.เห็นชอบตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เสนอ ร่างประกาศ 2 ฉบับ คือ ร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องการออกหนังสือคนประจำเรือว่าด้วยการประมง โดย สาระสำคัญ มีการแก้ไขคุณสมบัติคนต่างด้าวที่จะยื่นหนังสือเป็นคนประจำเรือ รวมถึงแก้ไขระยะเวลาในการยื่นขออนุญาตได้ตลอดทั้งปี จากเดิมที่ 2 ช่วง คือ กำหนด 1 เม.ย.- 30 มิ.ย. และ 1 ก.ย.- 30 พ.ย. และร่างประกาศกระทรวงมหาดไทยเรื่องการอนุญาตให้คนต่างด้าว 4 สัญชาติ ได้แก่ กัมพูชา, ลาว, เมียนมา, เวียดนาม ที่ได้รับอนุญาตทำงานในราชอาณาจักรไทย เป็นกรณีพิเศษ ในกิจการประมง 

ทั้งนี้เพื่อให้การบริหารจัดการแรงงานประมงได้รับการจ้างงานอย่างถูกกฎหมาย โดยให้ยื่นคำขอหนังสือคนประจำเรือเป็นกรณีพิเศษหรือ ได้ตลอดปี และในอนาคตนอกเหนือจาก 4 สัญชาติ สามารถจะมาทำงานดังกล่าวได้ ทั้งนี้กรมประมงได้เปิดรับฟังความคิดเห็นรวมถึงวิเคราะห์ผลกระทบที่เกิดจากกฎหมายดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว

"นายกฯ สั่งการให้คณะกรรมการกฤษฎีกา ตรวจสอบให้เกิดความเรียบร้อย โดยเรื่องของการแก้ไขปัญหาประมงในระยะยาว มอบหมายให้คณะกรรมการประมงแห่งชาติ ที่มีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ เป็นประธานไปศึกษาการแก้ปัญหาต่อไป" รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว

'รัดเกล้า' ชวนร่วมฉลอง 2 กิจกรรมส่งท้าย ‘Pride Month 2024’ ปูทาง ‘ไทย’ เป็นเจ้าภาพ ‘Bangkok World Pride 2030’

(28 มิ.ย. 67) นางรัดเกล้า อินทวงศ์ สุวรรณคีรี รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอเชิญชวนร่วมเฉลิมฉลองส่งท้ายเทศกาลเดือน Pride อย่างยิ่งใหญ่ ปลายเดือนมิถุนายน 2567 กับ 2 กิจกรรม งาน Pride Nation Samui International Pride Festival เกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี และปิดท้ายกับงาน LOVE PRIDE ♡ PARADE 2024 ที่สนามกีฬาแห่งชาติ กรุงเทพฯ ร่วมกันเฉลิมฉลองความรัก ความมีเสรีภาพ และความหลากหลายทางเพศ

รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า 2 งานที่จะจัดปลายเดือนมิถุนายนนี้ คืองาน Pride Nation Samui International Pride Festival ระหว่างวันที่ 24-29 มิถุนายน 2567 ณ เกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งถือเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวยอดนิยมของชาวต่างชาติ โดยภายในงานจะรวบรวมศิลปินทั้งในประเทศและนานาชาติ ถือเป็นการรวมพลังเพื่อเปลี่ยนเกาะสมุยให้เป็น Prideradise กับขบวนพาเหรด Pride และเทศกาลดนตรี (Music Festival) ทั้งนี้ คาดว่างานครั้งนี้จะดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้มาสัมผัสกับความงดงามของเกาะในประเทศไทย เช่นเกาะสมุย และยังเป็นโอกาสในการพบปะและแลกเปลี่ยนความหลากหลายทางวัฒนธรรมอีกด้วย

และงาน LOVE PRIDE ♡ PARADE 2024 จะจัดขึ้นในวันที่ 30 มิถุนายน 2567 ระหว่างเวลา 16.00-18.30 น. โดยจะเป็นขบวนพาเหรดที่ยิ่งใหญ่ และยาวที่สุดในเอเชียกว่า 6 กิโลเมตร ซึ่งจัดขึ้นด้วยความร่วมมือของภาครัฐ และภาคเอกชนมากกว่า 100 องค์กร เพื่อให้ไทยกลายเป็นหมุดหมายสำคัญของ Pride Festival Destination ภายใต้วิสัยทัศน์ 'IGNITE THAILAND TOURISM' โดยจะเคลื่อนขบวนพาเหรดจากสนามกีฬาแห่งชาติ ไปยังถนนพระรามที่ 1 ผ่านย่านสำคัญต่าง ๆ และไปสิ้นสุดที่อุทยานเบญจสิริ ถือเป็นอีก 1 งานใหญ่โค้งสุดท้ายในเดือน Pride ที่จะเป็นแรงส่งทางการท่องเที่ยว กระตุ้นการเดินทาง ทั้งยังช่วยผลักดันให้ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดงาน Bangkok World Pride 2030 ได้สำเร็จอีกทางหนึ่งด้วย

“เดือนมิถุนายนของทุกปี ถือเป็นเดือน Pride ที่จะร่วมเฉลิมฉลองความเท่าเทียม โดยในช่วงโค้งสุดท้าย 2024 นี้ จะมี 2 งานส่งท้ายทั้งที่เกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี และกรุงเทพฯ ซึ่งที่กรุงเทพฯ ท่านนายกฯ จะมาเป็นประธานเปิดงานด้วยตนเองร่วมกับทุกคน จึงอยากขอเชิญชวนมาร่วมเฉลิมฉลองส่งท้ายกันอย่างยิ่งใหญ่ในโอกาสนี้ เพื่อปูทางไปสู่การเป็นเจ้าภาพ World Pride ในปี 2030 ทั้งนี้คาดว่า ในช่วงเดือน Pride จะสร้างเม็ดเงินได้ไม่ต่ำกว่าหนึ่งหมื่นล้านบาท และพาเหรดที่กรุงเทพฯ จะมีผู้เข้าร่วมชมงานตลอดทั้งขบวน 6 กิโลเมตรกว่า 1 ล้านคน” นางรัดเกล้า กล่าว


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top