Monday, 9 June 2025
รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ

สำนักงานตำรวจแห่งชาติส่งร่างตำรวจกล้าที่เสียชีวิตจากเหตุเครื่องบินตก ไปบำเพ็ญกุศลยังภูมิลำเนา พร้อมดูแลพิธีต่าง ๆ ทุกแห่งอย่างสมเกียรติ 

(27 เม.ย. 68) พล.ต.อ.กรไชย คล้ายคลึง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) กล่าวว่า จากการที่ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ดูแลครอบครัวข้าราชการตำรวจ 6 นาย ที่เสียชีวิตจากเหตุเครื่องบินตำรวจตก ขณะปฏิบัติภารกิจทดสอบการบิน ฝึกกระโดดร่ม ในพื้นที่ทะเล อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ และจัดพิธีอย่างสมเกียรตินั้น จึงได้สั่งการกำชับหน่วยที่เกี่ยวข้อง ให้ดูแลการดำเนินการจัดพิธีบำเพ็ญกุศลศพเป็นไปด้วยความเรียบร้อย สมเกียรติแก่ผู้วายชนม์และครอบครัว , จัดกำลังตำรวจอำนวยความสะดวกการจราจรในเส้นทางจนถึงสถานที่ประกอบพิธีทางศาสนา และจัดกำลังตำรวจอำนวยความสะดวกในงานพิธี จนกว่าจะเสร็จพิธี

ทั้งนี้ ญาติของผู้วายชนม์ได้กำหนดให้มีการจัดพิธีบำเพ็ญกุศล ทั้งในกรุงเทพมหานครและภูมิลำเนา โดยในวันประกอบพิธีพระราชทานเพลิงศพ จะมีผู้บังคับบัญชาระดับสูงของสำนักงานตำรวจแห่งชาติเดินทางไปเป็นประธานในพิธี ดังนี้

1. พ.ต.อ.ประธาน เขียวขำ นักบิน (สบ 4) งกบ.บ.ตร. และ ร.ต.ท.ธนวรรษ เมฆประเสริฐสุข  วิศวกรอากาศยาน (สบ 1) จัดพิธีบำเพ็ญกุศลศพ ณ วัดตรีทศเทพวรวิหาร เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร และประกอบพิธีพระราชทานเพลิงศพ ในวันที่ 3 พฤษภาคม 2568 เวลา 15.00 น. โดยมี พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร ผบ.ตร. เป็นประธานในพิธี

2. พ.ต.ท.ปานเทพ มณิวชิรางกูล นักบิน (สบ 3) งกบ.บ.ตร. ออกเดินทางจาก บ.ตร.(ดอนเมือง) โดยเครื่องบินฟอกเกอร์ ในวันนี้ (27 เมษายน 2568)  เวลา 12.00 น. นำส่งไปยังสนามบินลำปาง เพื่อจัดพิธีบำเพ็ญกุศลศพ ณ วัดบ้านต้า ต.ชมพู อ.เมือง จ.ลำปาง และประกอบพิธีพระราชทานเพลิงศพ ในวันที่ 3 พฤษภาคม 2568 เวลา 13.00 น. โดยมี พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รอง ผบ.ตร. เป็นประธานในพิธี

3. ร.ต.อ.จตุรงค์ วัฒนไพรสาณฑ์ นักบิน (สบ 1) งกบ.บ.ตร. ออกเดินทางจากกรุงเทพมหานคร โดยรถยนต์ของศูนย์ส่งกลับ โรงพยาบาลตำรวจ ในวันนี้ (27 เมษายน 2568) นำส่งเพื่อจัดพิธีบำเพ็ญกุศลศพ ณ วัดสัตตนารถปริวัตรวรวิหาร ต.หน้าเมือง อ.เมือง จ.ราชบุรี และประกอบพิธีพระราชทานเพลิงศพ ในวันที่ 3 พฤษภาคม 2568 เวลา 16.00 น. โดยมี พล.ต.อ.กรไชย คล้ายคลึง รอง ผบ.ตร. เป็นประธานในพิธี

4. จ.ส.ต.ประวัติ พลหงสา ผบ.หมู่ งชอ.บ.ตร. ออกเดินทางจาก บ.ตร. (ท่าแร้ง)โดยเฮลิคอปเตอร์เบลล์ 412 EP ในวันนี้ (27 เมษายน 2568) เวลา 12.00 น. นำส่งไปยังสนามเฮลิคอปเตอร์ชั่วคราว เทศบาลตำบลโคกล่าม อ.จตุรพักตรพิมาน จ.ร้อยเอ็ด เพื่อจัดพิธีบำเพ็ญกุศลศพ ณ วัดราชวรี บ้านโคกล่าม ต.โคกล่าม อ.จตุรพักตรพิมาน จ.ร้อยเอ็ด และประกอบพิธีพระราชทานเพลิงศพ ในวันที่ 30 เมษายน 2568 เวลา 15.00 น. โดยมี พล.ต.อ.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ที่ปรึกษาพิเศษ ตร.เป็นประธานในพิธี

5. ส.ต.ต.จิราวัฒน์ มากสาขา ผบ.หมู่ งชอ.บ.ตร. ออกเดินทางจาก บ.ตร. (ดอนเมือง) โดยเครื่องบินฟอกเกอร์ ในวันนี้ (27 เมษายน 2568) เวลา 12.00 น. นำส่งไปยังท่าอากาศยานสงขลา เพื่อจัดพิธีบำเพ็ญกุศลศพ ณ วัดปะโอ ต.ม่วงงาม อ.สิงหนคร จ.สงขลา และประกอบพิธีพระราชทานเพลิงศพ ในวันที่ 1 พฤษภาคม 2568 เวลา 15.00 น. โดยมี พล.ต.ท.สำราญ  นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. เป็นประธานในพิธี

สำนักงานตำรวจแห่งชาติขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อการสูญเสียเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้เสียสละจากเหตุการณ์ครั้งนี้

รอง ผบ.ตร. ประชุมคณะกรรมการตำรวจที่เสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ในช่วงที่ผ่านมา และกรณีเครื่องบินตก เพื่อติดตามเร่งรัดเรื่องสิทธิประโยชน์และสวัสดิการต่างๆ 

(28 เม.ย. 68) เวลา 14.00 น. พล.ต.อ.กรไชย คล้ายคลึง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการตำรวจที่เสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ในช่วงที่ผ่านมา และกรณีเครื่องบินตก ณ ห้องประชุม 2 ชั้น 2 อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อติดตามเร่งรัดเรื่องการขอรับสิทธิประโยชน์และสวัสดิการต่างๆ อันเป็นการติดตามช่วยเหลือดูแลข้าราชการตำรวจและครอบครัว เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อน ตลอดจนบำรุงและเสริมสร้างขวัญกำลังใจให้แก่ข้าราชการตำรวจที่ได้อุทิศตนเสียสละในการปฎิบัติหน้าที่ ตามนโยบาย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. ด้านสวัสดิการ ที่ให้มีการจัดสวัสดิการและสิทธิประโยชน์ต่างๆ ที่ข้าราชการตำรวจพึงได้รับให้มากที่สุด

ในการประชุมมี พล.ต.ท.สมพร สัจพจน์ ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ ตร., พล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ รอง ผบช.สกพ., พล.ต.ต.จักรกฤษ เครือสุนทรวานิช รอง ผบช.สกพ., พล.ต.ต.บริสุทธิ์ นุศรีวอ ผบก.ทพ., พล.ต.ต.เศรษฐศักดิ์ ยิ้มเจริญ ผบก.สก., พล.ต.ต.อำนาจ เดชบุณเหลือง ผบก.บ.ตร., และ ผ่านระบบการประชุมทางไกลผ่านจอภาพ (Video Conference) โดยมี พล.ต.ต.พรพิทักษ์ รู้ยืนยง รอง ผบช.ภ.5, พล.ต.ต.ไพศาล พฤกษจำรูญ รอง ผบช.7, พล.ต.ต.ธเนศ แก้วละเอียด รอง ผบช.ภ.9, พล.ต.ต.ภูมิวิทย์ เวชกามา ผบก.ภ.จว.ร้อยเอ็ด, พล.ต.ต.ภูมิปัญญ์ญา นวตระกูลพิสุทธิ์ ผบก.ภ.จว.ลำปาง, พล.ต.ต.วชิรพงษ์ อมราพิทักษ์ ผบก.ภ.จว.ราชบุรี, พล.ต.ต.เสกสันต์ ชูรังสฤษฎิ์ ผบก.ภ.จว.สงขลา, พล.ต.ต.ภัทรภณ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ผบก.อก.ผบช.น. ร่วมประชุม

พล.ต.อ.กรไชยฯ ได้สั่งการให้หน่วยที่เกี่ยวข้องตรวจสอบและสำรวจข้อมูลข้าราชการตำรวจที่เสียชีวิต หรือ บาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่ พร้อมเร่งรัดดำเนินการเสนอเรื่องขอรับสิทธิประโยชน์อันพึงมีพึงได้ หรือสิทธิบำเหน็จความชอบเป็นกรณีพิเศษ ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีให้แก่ข้าราชการตำรวจในสังกัดโดยเร็ว พร้อมสำรวจข้อมูลข้าราชการตำรวจที่พิการ หรือทุพพลภาพ หรือไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ ทั้งกรณีที่เกิดขึ้นเนื่องจากการปฎิบัติหน้าที่ หรือเหตุใดๆ ก็ตาม ให้ครบถ้วนสมบูรณ์และเป็นปัจจุบัน

นอกจากนี้ กำชับหน่วยที่เกี่ยวข้องดูแลการดำเนินการจัดพิธีบำเพ็ญกุศลศพแก่ข้าราชการตำรวจ กองบินตำรวจ ทั้ง 6 นาย จากเหตุเครื่องบินตำรวจตก ขณะปฏิบัติภารกิจทดสอบการบิน ฝึกกระโดดร่ม ในพื้นที่ทะเล อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย สมเกียรติแก่ผู้วายชนม์และครอบครัว

พล.ต.อ.กรไชยฯ กล่าวว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะได้มีการจัดทำคู่มือการเสนอขอรับสิทธิแจกจ่ายให้หน่วย เพื่อนำไปเป็นแนวทางการเร่งรัดการดำเนินการปูนบำเหน็จความชอบให้แก่ข้าราชการตำรวจที่เสียชีวิต หรือได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่ สร้างกลไกการรายงานเหตุ และหนังสือแจ้งสิทธิประโยชน์เบื้องต้นให้หน่วยต้นสังกัด ตลอดจนการลดขั้นตอนและกำหนดแนวทางเพิ่มเติมในส่วนของกระบวนการพิจารณาและบรรจุทายาท เพื่อให้สามารถดำเนินการอย่างถูกต้อง รวดเร็ว สมบูรณ์

ทั้งนี้ ก่อนการประชุม พล.ต.อ.กรไชยฯ ได้กล่าวถึงเหตุการณ์อากาศยาน กองบินตำรวจตก ขณะปฏิบัติภารกิจทดสอบการบิน ฝึกกระโดดร่ม ในพื้นที่ทะเล อ.หัวหิน จว.ประจวบคีรีขันธ์ โดยทราบจากรายงานว่านักบินพยายามบังคับเครื่องไม่ให้ตกในชุมชน นับว่าเป็นความเสียสละ กล้าหาญและมีจิตวิญญาณของความเป็นตำรวจ ที่จะต้องนึกถึงความปลอดภัยของประชาชนเป็นลำดับแรก จึงขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งกับครอบครัวของข้าราชการตำรวจ พร้อมนำผู้ร่วมประชุมยืนไว้อาลัยในเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นเวลา 1 นาที

รอง ผบ.ตร. เป็นประธานเปิดโครงการสัมมนาเชิงปฏิบัติการและฝึกอบรมข้าราชการตำรวจสายงานป้องกันปราบปรามอาชญากรรม ระดับผู้บริหารและผู้ปฏิบัติ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568

(6 พ.ค. 68) เวลา 08.30 น. พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) เป็นประธานเปิดโครงการสัมมนาเชิงปฏิบัติการและฝึกอบรมข้าราชการตำรวจสายงานป้องกันปราบปรามอาชญากรรม ระดับผู้บริหารและผู้ปฏิบัติ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 โดยมี พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. , พล.ต.ท.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ รองจเรตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วยผู้บังคับบัญชาและผู้เข้ารับการฝึกอบรม ร่วมพิธี ที่โรงแรมสามพรานภิรมย์ โรงเรียนนายร้อยตำรวจ อ.สามพราน จ.นครปฐม 
 
สำหรับการจัดโครงการดังกล่าว มีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการสร้างความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ตำรวจสายงานป้องกันปราบปรามอาชญากรรมทั้งระดับผู้บังคับบัญชาและระดับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ให้มีความพร้อมในการปฏิบัติงาน เข้าใจสภาพปัญหาสำคัญในการปฏิบัติงานในพื้นที่รับผิดชอบ สามารถวิเคราะห์แนวโน้มการเกิดอาชญากรรม และนำไปสู่การวางแผนในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมในพื้นที่ รวมถึงการแบ่งปันความรู้ เทคนิควิธีปฏิบัติงานใหม่ๆ เพื่อนำไปประยุกต์ใช้ในพื้นที่ของตนเอง ตลอดจนสร้างการมีส่วนร่วมในการเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาอาชญากรรม และปรับปรุงการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจให้สอดคล้อง เหมาะสมกับสถานการณ์ในปัจจุบัน

ทั้งนี้ แบ่งการฝึกอบรมออกเป็น 2 หลักสูตร โดยจะมีผู้บังคับบัญชาและข้าราชการตำรวจที่มีความรู้ความสามารถ มีประสบการณ์เป็นพิเศษในงานป้องกันปราบปราบอาชญากรรม รวมถึงบุคคลภายนอกที่มีความเชี่ยวชาญกับงานที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ร่วมเป็นวิทยากรในการฝึกอบรม ได้แก่
1. หลักสูตรการบริหารงานป้องกันปราบปรามอาชญากรรม รวม 72 นาย ประกอบด้วย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และรองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1-9 ที่รับผิดชอบงานป้องกันปราบปราม พร้อมทีมงานบริหารป้องกันปราบปราม หน่วยละ 6 นาย และหน่วยงานด้านยุทธวิธีและด้านอำนวยการ หน่วยละ 1 นาย ซึ่งมีการฝึกอบรมระหว่างวันที่ 5-7 พฤษภาคม 2568 ณ โรงแรมสามพรานภิรมย์ โรงเรียนนายร้อยตำรวจ อ.สามพราน จ.นครปฐม 

2. หลักสูตรผู้ปฏิบัติงานป้องกันปราบปรามอาชญากรรม เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจที่รับผิดชอบงานป้องกันปราบปรามของสถานีตำรวจ (สน./สภ.) ในสังกัดกองบัญชาการตำรวจนครบาล และตำรวจภูธรภาค 1-9 อย่างน้อย 1,484 นาย ฝึกอบรมผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ แบ่งการฝึกอบรมออกเป็น 2 รุ่น รุ่นแรกวันที่ 27-28 พฤษภาคม 2568 มีพิธีเปิดการฝึกอบรมฯ ณ ห้องประชุมศรียานนท์ ชั้น 2 อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ส่วนอีกรุ่นฝึกอบรมระหว่างวันที่ 29-30 พฤษภาคม 2568 

รอง ผบ.ตร.สั่งการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมจากการก่อสร้างรถไฟฟ้า และพื้นที่เสี่ยง ที่ส่งผลกระทบทำให้การจราจรติดขัด ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล

(24 พ.ค. 68) พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากกรมอุตุนิยมวิทยาประกาศประเทศไทยเข้าสู่ฤดูฝนตั้งแต่วันที่ 15 พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมา โดยบางช่วงอาจมีฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน เกิดปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีการก่อสร้างรถไฟฟ้า และพื้นที่เสี่ยงต่างๆ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการจราจรในพื้นที่ดังกล่าว

เมื่อวานที่ผ่านมาจึงได้ประชุมหารือเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมจากการก่อสร้างรถไฟฟ้า และพื้นที่เสี่ยง ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยมี พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. พร้อมด้วยรองผู้บัญชาการที่รับผิดชอบงานจราจร ของกองบัญชาการตำรวจนครบาล , ตำรวจสอบสวนกลาง , ตำรวจภูธรภาค 1 , ตำรวจภูธรภาค 7 และสำนักงานยุทธศาสตร์ตำรวจ (สยศ.ตร.) , พล.ต.ท.นิธิธร จินตกานนท์ ผู้บัญชาการศึกษา ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานเสริมสร้างภาพลักษณ์ตำรวจจราจร ศูนย์บริหารงานจราจร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (คจร.ตร.) , พล.ต.ต.วีรพัฒน์ ศิวะแพทย์ รอง ผบช.สยศ.ตร. ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานป้องกันและลดอุบัติเหตุ คจร.ตร. , ผู้แทนกระทรวงคมนาคม , ผู้แทนสำนักการระบายน้ำ สำนักการจราจรและขนส่ง กรุงเทพมหานคร , ผู้แทนกรมชลประทาน , ผู้ช่วยผู้ว่าการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย ,ผู้แทนบริษัทผู้รับเหมาก่อสร้างรถไฟฟ้า และผู้เกี่ยวข้อง ร่วมประชุม ณ ศปก.ตร. ชั้น 20 อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

พล.ต.อ.ไกรบุญฯ ได้สั่งการให้ทุกหน่วยเตรียมความพร้อม บริหารจัดการร่วมบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในดำเนินการแก้ไขสถานการณ์น้ำท่วมที่ส่งผลกระทบทำให้การจราจรติดขัด โดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล โดยให้แต่ละกองบังคับการ และตำรวจภูธรจังหวัด สำรวจจุดที่มีปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่ และประสานความร่วมมือกับหน่วยงานที่รับผิดชอบ อาทิ กรุงเทพมหานคร (สำนักการระบายน้ำ สำนักการจราจรและขนส่ง) หน่วยงานเจ้าของถนน เทศบาล รวมทั้งชลประทานจังหวัด เพื่อแก้ปัญหารองรับการระบายน้ำท่วมขังกรณีที่มีฝนตกในปริมาณ 100 มิลลิเมตรต่อชั่วโมง โดยใช้วิธีการแก้ปัญหาให้เหมาะสมในพื้นที่ เช่น เพิ่มจำนวนเครื่องสูบน้ำ ติดตั้งเครื่องสูบน้ำที่มีกำลังสูง รวมทั้งประสานการปฏิบัติกับบริษัทผู้รับเหมาก่อสร้างรถไฟฟ้าในจุดนั้น ๆ ไม่ให้มีเครื่องจักร อุปกรณ์ วัสดุต่าง ๆ กีดขวางทางระบายน้ำ เป็นต้น

ทั้งนี้ หากพี่น้องประชาชนต้องการสอบถามข้อมูล แจ้งเหตุ หรือต้องการความช่วยเหลือเกี่ยวกับสถานการณ์น้ำท่วม สามารถติดต่อสายด่วนกองบังคับการตำรวจจราจร หมายเลข 1197 หรือสายด่วนตำรวจทางหลวง หมายเลข 1193 หรือสายด่วนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 191 และ 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สำนักงานตำรวจแห่งชาติเปิดรายชื่อถนน 94 จุดทั่วประเทศ เข้มงวดบังคับใช้กฎหมายจราจร ตาม “โครงการถนนปลอดภัย” คิกออฟวันนี้พร้อมกันทั่วประเทศ

(1 มิ.ย. 68) พล.ต.ท.นิธิธร จินตกานนท์ ผู้บัญชาการศึกษา ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานเสริมสร้างภาพลักษณ์ตำรวจจราจร ศูนย์บริหารงานจราจร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารงานจราจร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้สั่งการให้ทุกหน่วยจัดทำ “โครงการถนนปลอดภัย” ให้ดำเนินการเสริมสร้างวินัยจราจรและสร้างความปลอดภัยทางถนน เพื่อให้การบริหารงานจราจรเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและมีประสิทธิภาพ โดยให้บังคับใช้กฎหมายจราจรทางบกและกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับรถหรือการใช้ทางบนถนนดังกล่าวอย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุและสร้างความปลอดภัยในการสัญจร โดยเริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2568 เป็นต้นไป 

ทั้งนี้ กองบังคับการ/ตำรวจภูธรจังหวัด ในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ได้พิจารณาเลือกถนนสายสำคัญในพื้นที่ หรือถนนที่มีการฝ่าฝืนกฎจราจรจำนวนมาก หรือถนนที่มีอุบัติเหตุในเส้นทางบ่อยครั้ง หรือถนนที่มีที่ตั้งของสถานศึกษาอยู่หลายแห่ง เพื่อรณรงค์ให้ผู้ใช้รถใช้ถนนต้องปฏิบัติตามกฎหมายจราจรในทุกมิติ รวมจำนวนถนนที่เข้าร่วมโครงการทั้งสิ้น 94 จุด ทั่วประเทศ แบ่งเป็น พื้นที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล จำนวน 11 จุด , ตำรวจภูธรภาค 1 จำนวน 9 จุด , ตำรวจภูธรภาค 2 จำนวน 9 จุด , ตำรวจภูธรภาค 3 จำนวน 10 จุด , ตำรวจภูธรภาค 4 จำนวน 13 จุด , ตำรวจภูธรภาค 5 จำนวน 8 จุด , ตำรวจภูธรภาค 6 จำนวน 9 จุด , ตำรวจภูธรภาค 7 จำนวน 9 จุด , ตำรวจภูธรภาค 8 จำนวน 8 จุด และตำรวจภูธรภาค 9 จำนวน 8 จุด 

นอกจากนี้ พล.ต.ท.นิธิธรฯ กล่าวว่า วันนี้ได้เริ่มดำเนิน “โครงการถนนปลอดภัย” พร้อมกันทั่วประเทศ ซึ่งเป็นโครงการที่ศูนย์บริหารงานจราจร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง มุ่งเป้าลดการเกิดอุบัติเหตุจราจร สร้างความปลอดภัยให้แก่ทุกคนที่ใช้รถใช้ถนน พร้อมขอเชิญชวนผู้ใช้รถใช้ถนนให้ร่วมกันปฏิบัติตามกฎจราจร ไม่ฝ่าฝืนกฎจราจรในถนนเส้นดังกล่าวในทุกมิติ เพราะหากพบการกระทำผิดเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรจะกวดขันดำเนินคดีอย่างเข้มงวดทุกกรณี

หากประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนพบเหตุต้องสงสัย หรือสอบถามข้อมูลเส้นทางเพิ่มเติม  แจ้งอุบัติเหตุจราจร และขอความช่วยเหลือด้านการจราจร สามารถติดต่อได้ที่สายด่วนกองบังคับการตำรวจจราจร 1197 และสายด่วนตำรวจทางหลวง 1193 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top