Sunday, 20 April 2025
รวมไทยสร้างชาติ

'ธนกร' ชี้!! เหตุ 'รวมไทยสร้างชาติ-พีระพันธุ์' ขยับความนิยมมาอันดับ 4   เพราะ 10 เดือนร่วมรัฐบาล ลุยทำงานเต็มที่ ตามอุดมการณ์ DNA 'ลุงตู่'

(1 ก.ค.67) นายธนกร วังบุญคงชนะ อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ สส.แบบบัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวว่า จากที่ศูนย์สำรวจความคิดเห็น 'นิด้าโพล' สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลการสำรวจประชาชนถึงคะแนนนิยมทางการเมืองบุคคลที่ประชาชนจะสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรี พบว่า เสียงประชาชนยังคงให้ความไว้วางใจ พึงพอใจการทำงานของนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ มาเป็นอันดับ 4  ระบุว่าเพราะมีภาพลักษณ์ที่ดี มีความน่าเชื่อถือ การทำงานมีความซื่อสัตย์ สุจริต

ส่วนคะแนนนิยมพรรครวมไทยสร้างชาติ  ก็ยังครองใจประชาชน โดยให้คะแนน มาเป็นอันดับที่ 4 เช่นกัน

ทั้งนี้ จากผลสำรวจดังกล่าวสะท้อนถึง เสียงที่ประชาชน มองและได้รับประโยชน์ จากการทำงานในฐานะพรรคร่วมรัฐบาล ผ่านมา 10 เดือน ของนายพีระพันธุ์ และพรรครวมไทยสร้างชาติที่มุ่งมั่นตั้งใจ แก้ไขปัญหา โดยเฉพาะด้านพลังงานที่นายพีระพันธุ์ ที่กำลังขับเคลื่อน ตามแนวทาง 'รื้อ ลด ปลด สร้าง' ออกกฎหมายด้านพลังงาน เพื่อแก้ปัญหาทั้งระบบในระยะยาว  

นอกจากนี้ สส. ทั้ง 36 คนรวมถึง อดีตผู้สมัครและสมาชิกพรรค ยังคงทำงานดูแลพี่น้องประชาชนในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง เชื่อว่าในส่วนของพลังเงียบที่ยังไม่ตัดสินใจให้คะแนนนิยมกับบุคคลและพรรคการเมืองใดนั้น เมื่อถึงเวลา จะเห็นประชาชนให้ความไว้วางใจพรรครวมไทยสร้างชาติอย่างแน่นอน

“รวมไทยสร้างชาติยังคงยึดมั่นอุดมอุดมการณ์ DNA ของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ให้แนวทางตั้งแต่แรก คือการลงพื้นที่รับฟังปัญหาและเร่งแก้ไขให้กับพี่น้องประชาชนทันทีอย่างต่อเนื่องนั้น ต้องขอขอบคุณโพลที่สำรวจความคิดเห็นประชาชน ซึ่งผลที่ออกมาสะท้อนให้เห็นถึงความพึงพอใจผลการทำงาน ของทั้งนายพีระพันธุ์ และสส.ของพรรค ที่คะแนนนิยมมาเป็นอันดับ 4 ตนเชื่อว่า พลังเงียบที่ไม่แสดงความเห็น แท้จริงแล้ว ยังคงจับตาดูการทำงานของรัฐบาลและทุกพรรคการเมือง ที่หาเสียงไว้จะทำได้จริงและรักษาสัญญากับประชาชน หรือไม่” นายธนกร ระบุ

‘อัครเดช’ เผย ‘รวมไทยสร้างชาติ’ ดันกม.ปรับโครงสร้างราคาน้ำมัน เรียก สส. คุย-หารือ 2 ก.ค. เตรียมความพร้อมก่อนเปิดสมัยประชุม

(1 ก.ค. 67) นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี ในฐานะโฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ เปิดเผยว่า เนื่องจากมีพระราชกฤษฎีกาเรียกประชุมรัฐสภาสมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง พ.ศ. 2567 ในวันที่ 3 กรกฎาคม 2567 นี้นั้น นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ และนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค ได้นัดประชุมสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรครวมไทยสร้างชาติ ในวันที่ 2 กรกฎาคม 2567 เวลา 16.00 น. เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการประชุมในการเปิดสมัยประชุมครั้งนี้ 

โฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวต่อว่า ในส่วนของพรรครวมไทยสร้างชาติได้เตรียมร่างกฎหมายที่จะเสนอไปเข้าสู่การพิจารณาของสภาหลายฉบับ ซึ่งเป็นกฎหมายที่จะแก้ปัญหาความเดือดร้อนให้พี่น้องประชาชนในหลายเรื่อง โดยเฉพาะกฎหมายที่เกี่ยวกับการรื้อ ลด ปลด สร้าง ปรับโครงสร้างราคาน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งทางหัวหน้าพรรคและทีมกฎหมายของพรรคได้เร่งดำเนินการ เพื่อคืนความเป็นธรรมทางด้านพลังงานเชื้อเพลิงให้ประชาชนทั้งประเทศ

นายอัครเดช ยังกล่าวอีกว่า ในช่วงของการปิดสมัยประชุมที่ผ่านมา หัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรค ได้กำชับให้ สส. ลงพื้นที่อย่างหนักเพื่อรับฟังปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน เพื่อที่จะได้นำปัญหาเหล่านั้นเข้าสู่สภา โดยการใช้กลไกของสภา ทั้งการเสนอเป็นญัตติ การตั้งกระทู้ รวมไปถึงผ่านคณะกรรมาธิการคณะต่าง ๆ เพื่อสะท้อนไปยังรัฐบาลให้ได้เร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชนต่อไป

‘เจือ ราชสีห์’ ตรวจเยี่ยมโครงการสะพานข้ามทะเลสาบสงขลา แก้ปัญหาการสัญจร-ผลักดันสู่แหล่งท่องเที่ยวใหม่ของจังหวัด

(2 ก.ค.67) เมื่อไม่นานมานี้ ‘เจือ ราชสีห์’ ผลักดัน-ติดตามโครงการสะพานข้ามทะเลสาบสงขลา เชื่อม อ.เมืองสงขลา และ อ.สิงหนคร จ.สงขลา อย่างจริงจัง เพื่อแก้ปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน เป็นแลนด์มาร์กท่องเที่ยวแห่งใหม่ของ จ.สงขลา

นายเจือ ราชสีห์ ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ลงพื้นที่ร่วมประชุมคณะกรรมการศึกษาความเหมาะสมในเบื้องต้นโครงการก่อสร้างสะพานข้ามทะเลสาบสงขลา ระหว่าง อ.เมืองสงขลาและอ.สิงหนคร จังหวัดสงขลา ณ บริเวณท่าแพขนานยนต์ ฝั่งเทศบาลนครสงขลา 

ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาได้แต่งตั้งคณะกรรมการชุดใหญ่และได้มอบหมายให้คณะกรรมการชุดเล็ก โดยมีนายไผท ทันประจำสินธุ์ ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงชนบทสงขลา นางปิยวรรณ ชูนวล ตัวแทนโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดสงขลา นางภัตติมา รุ่งพัฒนพันธ์ ปลัดอำเภอเมืองสงขลาตัวแทนนายอำเภอเมืองสงขลา และตัวแทนภาคประชาชน ได้ลงพื้นที่ดูทางขึ้น-ลงของสะพาน เพื่อสรุปรายงานผลให้กับที่คณะกรรมการที่ประชุมใหญ่ได้ทราบในครั้งต่อไป 

ซึ่งโครงการดังกล่าวจะสามารถแก้ปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนที่ต้องเดินทางสัญจรไป-มา ระหว่าง อ.เมืองสงขลาและอ.สิงหนคร ให้ได้รับความสะดวกมากขึ้น และจะช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดสงขลาได้อีกทางหนึ่งด้วย

'อัครเดช-รวมไทยสร้างชาติ' ระดมหัวกะทิ ลุยแผนรับมือเพลิงไหม้โรงงาน ยกบทเรียนไฟไหม้ถังเก็บสารเคมี ‘มาบตาพุด แทงค์ เทอร์มินัล’ เป็นแม่แบบ

(3 ก.ค.67) นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส. จังหวัดราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการอุตสาหกรรม คณะผู้แทนราษฎร เปิดเผยถึงกรณีเพลิงไหม้ถังเก็บสารเคมี บริษัท มาบตาพุด แทงค์ เทอร์มินัล จำกัด ว่า จากเหตุการณ์เพลิงไหม้ถังเก็บสารเคมี บริษัท มาบตาพุด แทงค์ เทอร์มินัล จำกัด เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2567 ที่ผ่านมา เป็นเหตุให้ส่งผลกระทบต่อทั้งสุขภาพและสิ่งแวดล้อมของประชาชนในบริเวณนั้นอย่างกว้างขวาง คณะกรรมาธิการได้เล็งเห็นถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นจากเหตุไฟไหม้ และความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียง ควรต้องทบทวนและถอดบทเรียนจากเหตุการณ์ไฟไหม้ดังกล่าว เพื่อหาแนวทางร่วมกันกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ เพื่อป้องกันเหตุและลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต

ในวันนี้ คณะกรรมาธิการ จึงได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับกรณีไฟไหม้ถังเก็บสารเคมี บริษัท มาบตาพุด แทงค์ เทอร์มินัล จำกัด คือ กรมควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดระยอง การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สํานักงานสาธารณสุขจังหวัดระยอง สํานักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดระยอง สํานักงานเทศบาลเมืองมาบตาพุด และบริษัท มาบตาพุด แทงค์ เทอร์มินัล จํากัด มาให้ข้อมูลแก่ทางคณะกรรมาธิการ

โดยคณะกรรมาธิการ ได้พิจารณาใน 2 ประเด็น คือ ประเด็นที่ 1 แผนการเผชิญเหตุเพลิงไหม้สารเคมีในพื้นที่โรงงานอุตสาหกรรม ในเบื้องต้น ได้ให้ความเห็นว่า การดำเนินการดับเพลิงล่าช้ากว่าที่ควรจะเป็น จึงได้มอบหมายให้สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดระยอง และการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ทบทวนแผนการดำเนินการดับเพลิง กรณีเพลิงไหม้สารเคมีและเพลิงไหม้ที่ต้องใช้สารเคมีในการดับเพลิงในพื้นที่โรงงานอุตสาหกรรม 

โดยให้ทบทวนถึงจำนวนรถดับเพลิงที่บรรจุสารเคมี บุคลากรที่มีความชำนาญในการดับเพลิงที่ใช้สารเคมีว่ามีความจำนวนเหมาะสมกับความเสี่ยงหรือไม่อย่างไร 

อย่างไรก็ตาม แม้สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดระยอง จะได้ชี้แจงว่าได้มีแผนการดำเนินงานระหว่าง พ.ศ. 2564 ถึง พ.ศ. 2570 อยู่แล้ว และทางการนิคมอุตสาหกรรมจะได้ชี้แจงว่าปัจจุบันมีรถดับเพลิงที่ใช้สำหรับกรณีเกิดจากสารเคมีโดยเฉพาะอยู่แล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถพิจารณาถึงการนำมาใช้ที่ความเหมาะสมได้ ดังนั้น จึงมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กลับไปพิจารณาทบทวนแผนการเผชิญเหตุ เพื่อให้จังหวัดระยองเป็นจังหวัดต้นแบบในการเผชิญเหตุเพลิงไหม้ในอุตสาหกรรมหนักที่ไม่สามารถใช้น้ำในการดับเพลิงได้ และจะมีการเข้าชี้แจงต่อ กมธ. อุตสาหกรรมอีกครั้งหนึ่ง 

นายอัครเดช กล่าวต่อว่า ประเด็นที่ 2 คือประเด็นผลกระทบต่อพี่น้องประชาชนในพื้นที่ ซึ่งแบ่งออกเป็นผลกระทบต่อสุขภาพของพี่น้องประชาชน และผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม 

สำหรับผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนนั้นปรากฏว่า กรมควบคุมมลพิษได้ร่วมกับสาธารณสุขจังหวัดระยองได้มีการดูแลช่วยเหลือประชาชนเป็นอย่างดี และไม่พบปัญหาใด ๆ 

สำหรับด้านสิ่งแวดล้อม กรมควบคุมมลพิษได้ดำเนินการตรวจวัดความปนเปื้อนในน้ำทะเล อากาศ และสิ่งแวดล้อมอื่น ๆ บริเวณโดยรอบพบว่าในช่วงแรกของเหตุการณ์มีการปนเปื้อน แต่กลับเข้าสู่ภาวะปกติในเวลาต่อมา 

ขณะที่ การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยได้ให้ข้อมูลว่า เบื้องต้นได้มีการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบไปแล้วประมาณ 10 ล้านบาท ทาง กมธ. อุตสาหกรรม จึงได้เสนอแนะให้เยียวยาอย่างต่อเนื่องจนกว่าจะกลับเข้าสู่สถานการณ์ปกติ 

“ในฐานะตัวแทนคณะกรรมาธิการอุตสาหกรรมขอยืนยันว่า คณะกรรมาธิการจะดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าวอย่างต่อเนื่องเพื่อป้องกันไม่ให้มีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นซ้ำอีกในอนาคต” นายอัครเดชกล่าว

‘รัดเกล้า’ ประสานเหล่ากูรู จัดกิจกรรมให้ความรู้ ‘ทางการเงิน’ หวังเสริมสร้างภูมิปัญญา-ภูมิคุ้มกัน ให้แก่ชุมชนวัดไชยทิศ 

เมื่อวานนี้ (7 ก.ค.67) นางรัดเกล้า อินทวงศ์ สุวรรณคีรี รองโฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ และอดีตผู้สมัคร สส.เขตบางพลัด-บางกอกน้อย ประสานนำ ‘กิจกรรมให้ความรู้ทางการเงินสำหรับชุมชน’ (Financial Literacy) ภายใต้หลักสูตร ‘หลักสูตรอภินิหารทางการเงิน’ มามอบให้ชุมชนวัดไชยทิศ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร ในวันอาทิตย์ที่ 7 กรกฎาคม 2567 ระหว่างเวลา 09.00 – 12.00 น.

สำหรับกิจกรรมในครั้งนี้จัดขึ้นโดย ธนาคารกรุงไทย ร่วมมือกับ กระทรวงการคลัง กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) และ คลินิกแก้หนี้โดยบริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท (SAM) โดยมีคุณนวลศิริ ไวทยานุวัตติ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย, ดร.ชาลิสา พุกกะรัตน์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ส่วนส่งเสริมความรู้ทางการเงิน ฝ่ายคลินิกแก้หนี้ บริษัท บริหารสินทรัพย์ สุขุมวิท จำกัด และ คุณอภิชัย สายสดุดี ผู้อำนวยการกลุ่มงานกิจกรรมองค์กร กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) เข้าร่วมด้วย

นางรัดเกล้า กล่าวต้อนรับผู้ร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ว่า “ด้วยความตระหนักถึงความสำคัญในการพัฒนาชุมชนให้เข้มแข็ง จึงได้ประสานความร่วมมือไปยัง ธนาคารกรุงไทย ซึ่งทางธนาคารกรุงไทย ได้มีโครงการที่ร่วมมือกับ กระทรวงการคลัง กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) และ คลินิกแก้หนี้โดยบริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท (SAM) นั่นคือ ‘กิจกรรมให้ความรู้ทางการเงินสำหรับชุมชน’ (Financial Literacy) ภายใต้หลักสูตร ‘หลักสูตรอภินิหารทางการเงิน’ อยู่แล้ว จึงได้ประสานกิจกรรมดังกล่าวนี้ให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่

โดยการให้ความรู้ในครั้งนี้ ยึดหลักการพึ่งพาตนเอง ลดการพึ่งพิงภายนอก การคำนึงถึงศักยภาพ ทรัพยากร ภูมิปัญญา วิถีชีวิต วัฒนธรรม และสิ่งแวดล้อมในท้องถิ่นเป็นหลัก และสอดคล้องกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจของชาติ ในการสร้างชุมชนเข้มแข็ง น้อมนำปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ในการพัฒนา ให้เกิดความสมดุลมีความเข้มแข็งจากภายใน โดยคนในชุมชนได้มาร่วมกันคิด กำหนดแนวทาง และจัดกิจกรรมพัฒนาชุมชนต่อไป” 

นางรัดเกล้า กล่าวต่อไปว่า กิจกรรมในครั้งนี้ เป็นการเสริมองค์ความรู้ด้านการเงินเชิงรุก (pro-active) มุ่งหวังให้เป็นจุดเริ่มต้นสำหรับพี่น้องประชาชนในพื้นที่จะได้เรียนรู้และเสริมสร้างภูมิปัญญาและภูมิคุ้มกันทางการเงิน สามารถนำไปใช้ในการบริหารจัดการ และแก้ไขปัญหาด้านการเงินของตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

ในเบื้องต้นโครงการนี้มีเป้าหมายที่จะจัดกิจกรรมทั้งสิ้น 18 ครั้ง ในปี 2567 มุ่งเป้าครอบคลุมที่พื้นที่ กทม. และปริมณฑล

‘พลัฏฐ์’ รุดตรวจสอบความเสียหาย ‘ไฟไหม้เยาวราช’ พร้อมสนับสนุน ‘น้ำ-อาหาร’ ช่วยเหลือผู้ประสบภัยเบื้องต้น

เมื่อวานนี้ (8 ก.ค.67) เพจเฟซบุ๊ก ‘พรรครวมไทยสร้างชาติ United Thai Nation Party’ ได้โพสต์ข้อความระบุว่า…

นายพลัฏฐ์ ศิริกุลพิสุทธิ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ และอดีตผู้สมัคร สส. กรุงเทพมหานคร เขต 1 พรรครวมไทยสร้างชาติ ลงพื้นที่สำรวจความเสียหาย และช่วยเหลือประชาชน จากเหตุเพลิงไหม้ภายในชุมชนตรอกโพธิ์ ถนนเยาวราช พื้นที่เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร เมื่อคืนวันที่ 6 กรกฎาคม 2567 ที่ผ่านมา ซึ่งลักษณะที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้ปลูกติดกันหลายหลังเรือน โดยเพลิงลุกไหม้เสียหายหมดทั้งชุมชน จำนวนรวม 44 หลังคาเรือน มีผู้ประสบภัย 166 ราย และในจำนวนประสบภัยส่วนหนึ่งเป็นคนต่างชาติ

โดยเหตุการณ์ในครั้งนี้ ไม่มีผู้เสียชีวิต ขณะที่ผู้บาดเจ็บได้ทำการส่งรักษาตัวที่โรงพยาบาลหัวเฉียว และโรงพยาบาลกลาง ส่วนมากสามารถกลับบ้านได้แล้ว เพราะบาดเจ็บเล็กน้อยจากอาการสำลักควันเท่านั้น

ส่วนความช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบในเบื้องต้น ทางวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร และวัดสัมพันธวงศ์ ได้เปิดพื้นที่ให้ผู้ประสบภัย ซึ่งส่วนมากเป็นผู้เช่าและต่างด้าว ได้เข้าพักอาศัยชั่วคราว ขณะเดียวกันทางกรุงเทพมหานคร, กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) และวัด ได้ดูแลในเรื่องน้ำ อาหาร และเสื้อผ้าอย่างเพียงพอแล้ว โดยตนได้นำน้ำและอาหารไปสนับสนุนด้วย

ทั้งนี้ ในส่วนของปัญหาเรื่องห้องอาบน้ำและห้องสุขานั้น ทาง กทม.ได้จัดสรรเพิ่มเติมแล้ว และภายหลังจากนี้ ทาง กทม. และ พม. จะดำเนินการจัดสรรห้องพักใหม่ (เช่า) เพื่อให้ผู้ที่ประสบภัยได้มีที่พักอย่างถาวรต่อไป

'รวมไทยสร้างชาติ' ยัน!! ไม่รับร่าง ‘สื่อลามกเสรี’ พร้อมจี้หน่วยงานเกี่ยวข้อง กวดขันสื่อลามกผิด กม.

(10 ก.ค. 67) นายพงศ์พล ยอดเมืองเจริญ ในฐานะรองโฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ เปิดเผยภายหลังการประชุมสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรครวมไทยสร้างชาติ ว่า ในการประชุมในวันนี้นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติและนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค ได้ร่วมประชุม 

ทั้งนี้ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรในครั้งนี้จะมีการเสนอร่างพระราชบัญญัติหลายฉบับ โดยที่ประชุมพรรครวมไทยสร้างชาติ ดังนี้...

ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้มีสาระสำคัญเกี่ยวกับการห้ามทำร้ายร่างกายบุตรหลานและห้ามกลั่นแกล้งที่แสดงผ่านคำพูด (Bully) กับบุตรหลานในการเลี้ยงดูและสั่งสอนนั้น ที่ประชุมพรรคฯ มีความเห็นว่า ร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวมีความซ้ำซ้อนกับกฎหมายหลายฉบับ อีกทั้งเกรงว่าจะไปละเมิดสิทธิเสรีภาพในครัวเรือนของผู้ปกครองที่มีความเป็นส่วนตัวในครัวเรือน ควรให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องศึกษาเพิ่มเติม

นายพงศ์พล กล่าวต่อไปว่า ประเด็นที่สำคัญในการประชุม คือ การเสนอร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่มีสาระสำคัญคือการให้สื่อลามกที่มีนักแสดงอายุมากกว่า 20 ปีให้ถูกกฎหมาย ในที่ประชุม สส.พรรครวมไทยสร้างชาติล้วนแสดงความคิดเห็นในทิศทางเดียวกันคือไม่เห็นด้วย โดยทางพรรคฯ มีความเห็นว่า กรณีสื่อลามกในประเทศไทยถือว่าเป็นปัญหามาอย่างยาวนาน การทําให้สื่อลามกถูกกฎหมายจะเป็นจุดที่ยิ่งทำให้มีสื่อลามกผลิตเยอะมากขึ้น ทางพรรครวมไทย มีข้อเสนอแนะว่า ต้องเร่งรัดให้เจ้าหน้าที่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ให้เอาจริงเอาจังกับการกวดขันสื่อลามกซึ่งผิดกฎหมาย เพื่อรักษาไว้ซึ่งศีลธรรมและวัฒนธรรมอันดีของประเทศ 

นอกจากนี้ทางพรรคจะมีการเสนอญัตติด่วน เกี่ยวกับการหาแนวทางการบริหารจัดการการดับเพลิงจากกรณีศึกษาเยาวราช เพื่อให้เกิดแผนปฏิบัติการในตลาด ชุมชนเก่าแก่ที่มีกระจายอยู่ทุกภูมิภาคทั่วประเทศเป็นการวางแผนแก้ไขปัญหาเชิงรุก เพื่อสร้างความมั่นใจแก่พี่น้องประชาชนถึงความมั่นคงปลอดภัยในครัวเรือน

ทั้งนี้ ในที่ประชุมของทางพรรคยังได้มีการแสดงความเห็นถึงการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติอื่น ๆ เช่น ร่างพระราชบัญญัติการจัดสรรที่ดิน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ,ร่างพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และร่างพระราชบัญญัติสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่ค้างจากการพิจารณาในสัปดาห์ที่ผ่านมา 

'รัดเกล้า' ไม่เห็นด้วย 'สส.ก้าวไกล' เสนอกฎหมายห้ามตีบุตรหลาน ชี้!! บริบทสังคม 'ไทย-ตะวันตก' มีความต่าง แนะ!! ให้ความรู้ผู้ปกครองดีกว่า

(12 ก.ค.67) เนเน่ รัดเกล้า อินทวงศ์ สุวรรณคีรี รองโฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ และรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กระบุว่า…

#รักวัวให้ผูกรักลูกให้ตี สุภาษิตไทยที่บ่งบอกให้เห็นว่าคนไทยนั้นมีความเข้าใจว่า #ตีลูก นั้นเป็นส่วนหนึ่งของการสื่อถึงความรักที่มีต่อลูก ซึ่งความเชื่อนี้อยู่คู่กับคนไทยมายาวนาน แต่ถ้าถามว่า ‘ตีลูกดีจริงไหม’ จริง ๆ แล้วปัจจุบันนี้มีงานวิจัยมากมาย ทั้งด้านจิตวิทยา ด้านครุศาสตร์ ฯลฯ ที่บ่งชี้ว่า ในกระบวนการสั่งสอนหรือโน้มน้าวสมองมนุษย์ (ไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่) ให้เรียนรู้ จดจำ และทำตามได้ #แย่ที่สุด #ไร้ประสิทธิภาพที่สุด ก็คือการลงโทษ (Punishment) หรือ การตี นั่นแหละ…

การลงโทษนั้น นอกเหนือจากไม่มีประสิทธิภาพแล้วอาจจะนำไปสู่ผลที่ได้ที่ตรงกันข้ามด้วยซ้ำ เช่น การทำให้เด็กมีพฤติกรรมชอบโกหกเพื่อหลีกเลี่ยงความผิด หรือ ความผูกพันและความสัมพันธ์อันดีที่พ่อแม่มีต่อลูกทุกบั่นทอนลง เป็นต้น

ฉะนั้น ก็เป็นเรื่องที่พอจะเข้าใจได้ว่าทำไมถึงมีกระแสต้องการที่จะยกเลิก #การตีลูก โดยล่าสุด นายณัฐวุฒิ บัวประทุม สส.พรรคก้าวไกล เสนอการแก้ไขกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ โดยจะเพิ่มสาระสำคัญคือ ห้าม #ทําร้ายร่างกาย และห้าม #กลั่นแกล้งผ่านคําพูด #Bully กับบุตรหลานในการเลี้ยงดูและสั่งสอน ซึ่งฟังแล้วดูดี และต้องขอขอบคุณคุณณัฐวุฒิที่ให้ความสำคัญในเรื่องนี้... 

แต่คงต้องถามด้วยว่า ทุกปัญหาสามารถแก้ได้ด้วยการแก้กฎหมายไหม คงต้องขออนุญาตไม่เห็นด้วย

หลักความคิดว่าการ ‘ลงโทษ’ คือการทำทารุณกรรม คือการ #บูลลี่ เป็นแนวคิดของทางตะวันตก ซึ่งแนวคิดนี้ใช่ว่าจะไม่ดี แต่หากจะแก้ปัญหาให้ประเทศไทย เราก็ต้องเข้าใจบริบทสังคมไทยด้วยว่ามันมีวิวัฒนาการมายังไง แล้วออกแบบแนวทางที่เหมาะสมให้ตัวเราเอง การคล้อยตามแนวคิดคนอื่น หยิบยกนำวิถีของเขา ยกเอากฎหมายของเขาที่เราคิดว่าดี เอามาบังคับใช้ในประเทศไทยนั้น ก็ไม่ต่างอะไรกับการบังคับให้คนไทยสวมใส่รองเท้าของฝรั่ง ที่ทั้งใหญ่เกินไป เดินไม่สะดวก ไม่ได้เหมาะสมกับเราเลยในหลายๆ ด้าน…

เนเน่ ขอเสนอใน 3 ประเด็นดังนี้

#หนึ่ง ขอย้ำว่าการ #แก้กฎหมายไม่ใช่ทางออก อย่างแน่นอน ร่างพระราชบัญญัติที่พรรคก้าวไกลเสนอมีความ ซ้ำซ้อนกับกฎหมายหลายฉบับ แถมอีกว่าเมื่อวันอังคารที่ 9 กรกฎาคม 2567 ผ่านมานี้เอง ครม. เพิ่งเห็นชอบให้ประเทศไทยถอนข้อสงวน ข้อ 22 ของอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็กไป ซึ่งตรงนี้มีนัยยะสำคัญค่ะ ตอนที่ประเทศไทยตัดสินใจเข้าเป็นภาคีอนุสัญญาฯ โดยการภาคยานุวัติเมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2535 เราได้สงวนไว้ถึง 3 ข้อ เพราะ ณ ตอนนั้นบริบทของสังคมไทยและกฎหมายของเรายังไม่มีความพร้อมเพียงพอ แต่เมื่อเวลาผ่านพ้นไป ในวันนี้กฎหมายของไทยมีความเข้มแข็งเรื่องการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิที่เกี่ยวข้องกับเด็กในด้านต่างๆ เพียงพอแล้ว เราจึงสามารถถอนข้อสงวนข้อสุดท้ายออกได้ กล่าวคือกฎหมายของไทยตอนนี้มีมาตรฐานในระดับสากลเพียงพอแล้วค่ะ ไม่จำเป็นต้องมาแก้กฎหมายอะไรให้มันยุ่งยากซับซ้อนเข้าไปอีก

#สอง สิ่งที่ขาดหายไปคือ #ความเข้าใจและการอัปเดตข้อมูล ว่าศาสตร์การสอนในโลกปัจจุบันนี้มีการศึกษาวิจัยก้าวหน้าไปถึงจุดไหน เราเจือจางความคุ้นชินกับธรรมเนียมเดิม ๆ ของคนไทยที่เชื่อว่าการเลี้ยงดูบุตรต้องมีการสั่งสอนโดยใช้ลงโทษ การตีเป็นหนึ่งในขั้นตอนที่จะทำให้เด็กออกมาเป็นคนดี ถ้าทางรัฐจะต้องทำอะไร ควรจะเป็นการให้ความรู้แก่ผู้ปกครองมากกว่าค่ะ ซึ่งในโรงพยาบาลต่างๆ มีนักจิตวิทยาเก่ง ๆ อยู่มากมาย ในขณะที่ปัจจุบันนี้ เด็กๆ ทุกคนต้องได้รับการฉีดวัคซีนขั้นพื้นฐานเพื่อป้องกันเขาจากโรคต่าง ๆ เขาก็ควรที่จะได้รับวัคซีนเพื่อป้องกันภัยร้ายทางจิตใจด้วย ซึ่ง #วัคซีนที่ดีคือพ่อแม่ที่มีความรู้ ควรมีหลักสูตรฟรี (และบังคับเรียน) สำหรับพ่อแม่ทุกคน ให้ได้รับการอบรมเป็นระยะๆ เพื่อให้มีความรู้และศาสตร์ของการเป็นพ่อแม่ที่มีคุณภาพไปประกอบการเลี้ยงลูกอย่างมีคุณภาพ โดยเนื้อหาหลักสูตรควรออกแบบให้เหมาะสมแบ่งเป็นตามช่วงวัยของเด็กค่ะ

#สาม เราต้องทำให้ #คนทำผิดโดนกฎหมายลงโทษ เราคงไม่สามารถพูดได้ว่าการลงโทษหรือการตีเด็กทุกกรณีนั้นเกิดจากความรักที่พ่อแม่มีให้เด็ก สำหรับคนที่มีจิตใจโหดร้ายทำทารุณกรรมต่อเด็ก ทั้งโดยตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ แต่เป็นการกระทำโดยไม่ได้มีเป้าหมายที่จะหล่อหลอมให้เด็กออกมาเป็นคนดีนั้น แม้ว่ากฎหมายของประเทศไทยตอนนี้ครอบคลุมแล้ว แต่คำถามคือกระบวนการบังคับใช้กฎหมายและการลงโทษผู้กระทำผิดเข้มแข็งเพียงพอหรือยัง ทางรัฐควรเพิ่มบทบาทและอำนาจให้กับผู้นำระดับท้องถิ่น ระดับชุมชน มีบทบาทมากขึ้น จะได้ช่วยดูแลสอดส่องความปลอดภัยให้กับเยาวชนในพื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพและทั่วถึง

ขอบคุณอีกครั้งที่ทำให้ประเด็นนี้มาเป็นความสนใจในสังคม แต่ขอชวนให้แก้ไขปัญหาอย่างถูกวิธีกันดีกว่านะคะ

#ข้อมูลวิจัยที่น่าสนใจ บี.เอฟ.สกินเนอร์ (B.F. Skinner ชื่อเต็ม Burrhus Frederic Skinner) นักจิตวิทยากลุ่มพฤติกรรมนิยม ชาวอเมริกันที่โด่งดังจากเป็นผู้คิดค้นทฤษฎีการวางเงื่อนไขด้วยการกระทำ (Operant Conditioning Theory) ที่เป็นข้อสรุปมาจากการทดลองที่มีชื่อเสียงของ Skinner ชื่อ Skinner's Box ซึ่งคือกล่องจะเป็นรูปทรงสี่เหลี่ยม มีคันโยก และหลอดไฟอยู่เหนือคันโยก โดยมีหนูขาวตัวเล็กๆ อยู่ในนั้น เมื่อหนูขาวหิว เขาจะวิ่งวนไปวนมา เขี่ยสิ่งต่าง ๆ ภายในกล่องเพื่อหาทางออกไป ซึ่งหากเขาเอามือไปแตะกับคันโยกในขณะหลอดไฟสีฟ้าสว่าง อาหารจะตกลงมาจากท่อจ่าย เมื่อสิ่งนี้เกิดขึ้นซ้ำๆ เจ้าหนูขาวเรียนรู้ว่าการแตะที่คันโยกนี้อาหารจะตกลงมา เขาก็ใช้เวลาวิ่งวนอย่างไร้เป้าหมายน้อยลงเรื่อย ๆ สิ่งนี้เรียกว่าการเสริมแรง (Reinforcement) ค่ะ

กับมนุษย์ก็เป็นเช่นนั้น การเสริมแรงเชิงบวก (Positive Reinforcement) เช่น การชื่นชม การให้กำลังใจ การให้รางวัล ได้พิสูจน์ให้เห็นหลายต่อหลายครั้งว่ามีประสิทธิภาพกว่า การเสริมแรงเชิงลบ (Negative Reinforcement) เช่น การตี การตำหนิ การหักคะแนน ค่ะ ในศาสตร์การสอนนั้น เมื่อนักศึกษาได้รับคำชม หรืออยู่ในสภาพแวดล้อมที่ทุกคนชื่นชมกัน (Antecedent) ย่อมทำให้เขาตั้งใจเรียน (Behavior) และเมื่อนักศึกษาได้ผลจากการกระทำ(Consequences) คือเกรด A นั้น หากอาจารย์อยากทำให้นักศึกษาอยากได้ A อย่างต่อเนื่อง อาจารย์สามารถชมเชยให้นักศึกษาตั้งใจเรียนอย่างต่อเนื่อง จนพฤติกรรมตั้งใจเรียนกลายเป็นนิสัยของนักเรียนค่ะ

‘อัครเดช’ หารือในสภาฯ เดินหน้า แก้ปัญหาให้ชาวบ้านโป่ง สร้างที่จอดรถ-ติดไฟส่องสว่าง-ซ่อมถนน บรรเทาความเดือดร้อน ปชช.

เมื่อเร็วๆนี้ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรสัปดาห์ที่ผ่านมานายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส. ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ วอน!! กระทรวงสาธารณสุข สร้างอาคารจอดรถ รองรับผู้มาใช้บริการ รพ.บ้านโป่ง 

ในขณะเดียวกัน ก็ยังได้ขอให้ กระทรวงมหาดไทย ติดตั้งไฟส่องสว่าง ถ.เลียบคลองชลประทาน หลังพบว่า มีไฟเพียงฝั่งขวาฝั่งเดียว พร้อมขอกรมป่าไม้ เร่งอนุญาตให้ อบจ.ราชบุรี เข้าซ่อมถนน บรรเทาความเดือดร้อนชาวบ้าน

นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดราชบุรี เขต 4 พรรครวมไทยสร้างชาติ ได้หารือในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ถึงความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนในอำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี ว่า จากการลงพื้นที่ในช่วงที่ผ่านมา พี่น้องประชาชนชาวบ้านโป่ง ได้ฝากปัญหาความเดือดร้อน 3 เรื่อง เพื่อประสานให้หน่วยงานที่รับผิดชอบพิจารณาดําเนินการแก้ไขต่อไป เรื่องแรก เป็นปัญหาที่จอดรถของโรงพยาบาลโป่ง ซึ่งมีไม่เพียงพอในการรองรับประชาชนที่มาใช้บริการ 

ขณะเดียวกัน อาคารนิราพาธพิธาน โรงพยาบาลบ้านโป่ง อาคาร 9 ชั้น ซึ่งตนได้ผลักดันและได้เป็นกรรมาธิการงบประมาณในการอนุมัติงบประมาณในการก่อสร้างอาคารดังกล่าว เมื่อครั้งเป็น สส.สมัยที่แล้ว และอาคารดังกล่าวกําลังจะก่อสร้างแล้วเสร็จ แน่นอนว่า เมื่ออาคารนี้สร้างเสร็จ จะมีพี่น้องประชาชนเดินทางมาใช้บริการกันเป็นจํานวนมาก และปัญหาที่จะเกิดขึ้นตามมานั่นก็คือ ปัญหาเรื่องที่จอดรถ เพราะในปัจจุบันที่จอดรถของโรงพยาบาลบ้านโป่งนั้นก็ไม่เพียงพออยู่แล้ว 

ดังนั้น จึงอยากจะขอให้ทางกระทรวงสาธารณสุข ได้พิจารณาสร้างอาคารจอดรถขนาด 300 คันให้กับโรงพยาบาลโป่งเพื่อดูแลพี่น้องประชาชนที่มารับการรักษาพยาบาลที่โรงพยาบาลโป่งด้วย 

สำหรับเรื่องที่สอง ได้รับการร้องเรียนจากทางพี่น้องประชาชน ตําบลท่าผา อำเภอบ้านโป่ง ว่า ถนนเส้นเลียบคลองชลประทานคลอง 1 ขวา 5 ซ้าย ในพื้นที่หมู่ที่ 2 ตําบลท่าผา ซึ่งเป็นถนนเลียบคลองฝั่งขวาเข้าหมู่บ้านหลักหก ปัจจุบันนี้มีไฟส่องสว่างดี แต่ทว่าฝั่งซ้ายกลับยังไม่มีไฟส่องสว่าง ซึ่งเป็นถนนที่เข้าหมู่บ้านโพธิ์ทองในพื้นที่หมู่ที่ 12 และหมู่ 9 ของตําบลท่าผา จึงขอให้กระทรวงมหาดไทยได้พิจารณาดําเนินการติดไฟส่องสว่างให้พี่น้องประชาชนด้วย

ขณะที่ เรื่องที่ 3 ปัจจุบันสะพานบ้านโป่ง ซึ่งเป็นสะพานหลักในการข้ามแม่น้ำแม่กลอง เชื่อมระหว่างบ้านโป่งฝั่งตะวันตกกับฝั่งตะวันออก ขณะนี้ อยู่ระหว่างการปิดใช้งาน เพื่อก่อสร้างสะพาน และขยายถนน จาก 2 ช่องจราจร เป็น 4 ช่องจราจร เพื่อรองรับถนน 4 เลน ที่กําลังก่อสร้างจาก ต.หนองปลาหมอ ไป ต.เบิกไพร ซึ่งขณะนี้พี่น้องประชาชนต้องใช้สะพานวัดโกสินารายณ์ เชื่อมกับสะพานวัดลาดบัวขาว ซึ่งเป็นสะพานข้ามแม่น้ำแม่กลอง 

อย่างไรก็ดี ปัจจุบันถนนที่เชื่อมจากสะพานนี้ไปถึง หมู่ที่ 11 บ้านโป่งลาน ต.เบิกไพร มีสภาพชำรุดเสียหายอย่างมาก จึงขอให้กรมป่าไม้ เร่งพิจารณาอนุญาตให้องค์การบริหารส่วนจังหวัดราชบุรี ได้เข้าไปเร่งปรับปรุงพื้นผิวการจราจร เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้พี่น้องประชาชนต่อไป

‘รวมไทยสร้างชาติ’ คิกออฟโครงการ ‘เลือดรวมไทย’  ชวนคนไทยร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการแบ่งปัน 23 ก.ค.นี้

(15 ก.ค.67) พรรครวมไทยสร้างชาติ จัดโครงการ ‘เลือดรวมไทย’ ถวายในหลวง 72,000 ซีซี โดยขอเชิญผู้สนใจเข้าร่วมบริจาคโลหิตถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 6 รอบ ณ โรงเรียนสามเสนนอก กรุงเทพมหานคร ในวันที่ 23 กรกฎาคม นี้

ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวมีเป้าหมายยอดรับบริจาคฯ โลหิตจำนวน 72,000 ซีซี เพื่อสำรองใช้ยามฉุกเฉิน โดยผู้บริจาคโลหิตจะได้เป็นส่วนหนึ่งของการแบ่งปัน อันเป็นแบบอย่างที่ดีของการให้โดยไม่หวังสิ่งตอบแทนอีกด้วย

สำหรับกิจกรรมในครั้งนี้ ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย จะจัดหน่วยเคลื่อนที่มารับบริจาคโลหิต ในวันอังคารที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2567 ตั้งแต่เวลา 09.00 น. เป็นต้นไป ณ ห้องประชุมครองราชย์ 60 ปี โรงเรียนสามเสนนอก เขตดินแดงกรุงเทพมหานคร

ทางพรรคฯ ขอเชิญชวนผู้ที่จะมาร่วมบริจาคทุกท่าน ร่วมกันแต่งกายด้วยเสื้อเหลือง ตราสัญลักษณ์ฯ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 6 รอบ


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top