Tuesday, 22 April 2025
มอเตอร์โชว์

"บิ๊กตู่” ย้ำประชาชนร่วมงานมอเตอร์โชว์ หรือกิจกรรมรวมกลุ่มจำนวนมาก ต้องเคร่งครัดปฏิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุขส่วนบุคคลขั้นสูงสุด และเข้มงวด Covid Free Setting เพื่อให้อยู่กับโควิดได้อย่างปลอดภัย และเศรษฐกิจขับเคลื่อนต่อไปได้

เมื่อวันที่ 24 มี.ค.นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) อย่างใกล้ชิดซึ่งพบจำนวนผู้ติดเชื้อในไทยยังเพิ่มขึ้น นายกรัฐมนตรี มีความห่วงใยประชาชนที่จะเข้าร่วมกิจกรรมที่มีการรวมกลุ่มคนจำนวนมากซึ่งขณะนี้มีการจัดกิจกรรมขึ้นในหลายพื้นที่เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศสอดคล้องกับมาตรการผ่อนคลายกิจกรรมด้านเศรษฐกิจและการดำเนินชีวิตของ ศบค.และรัฐบาล ทั้งที่จัดในห้างสรรพสินค้าต่าง ๆ หรือกิจกรรมข้างนอก

รวมไปถึงการจัดงานมอเตอร์โชว์ หรือ งาน บางกอก อินเตอร์ เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2022 ครั้งที่ 43 (Motor Show 2022) ที่มีกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 23มีนาคม - 3 เมษายน 2565 ณ อาคารชาเลนเจอร์ฮอลล์ 1- 3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี ซึ่งคาดประชาชนจำนวนมากสนใจเข้าร่วมงาน  จึงเน้นย้ำผู้ออกบูธภายในงาน และทุกคนที่เข้าร่วมชมงานหรือกิจกรรมต่าง ๆ ปฏิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุขส่วนบุคคลขั้นสูงอย่างเคร่งครัด ฉีดวัคซีนให้ครบตามเกณฑ์อย่างน้อย 2 เข็มขึ้นไป รวมถึงเข้มงวดการปฏิบัติตามมาตรการ Covid Free Setting เพื่อให้ทุกคนเที่ยวชมงานและเข้าร่วมกิจกรรมอย่างมีความสุขและปลอดภัยจากโควิด-19 

“อย่างไรก็ดีการจัดกิจกรรมต่าง ๆ ล้วนได้รับความร่วมมือจากผู้เข้าร่วมงานทุกภาคส่วนรวมถึงประกอบการในการปฏิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุขเป็นอย่างดี ตัวอย่างเช่นการจัดงาน Motor Show 2022 ผู้จัดงานก็ได้มีการกำหนดมาตรการด้านสุขอนามัยกับผู้ที่เกี่ยวข้อง แบ่งเป็น 3 กลุ่ม คือ 1) กลุ่มผู้รับเหมาตกแต่งภายใน จะต้องได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ตั้งแต่ 2 เข็มขึ้นไป และแสดงผลตรวจ ATK ทุก 3 วัน  2) ผู้ออกบูธภายในงานต้องได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ตั้งแต่ 2 เข็มขึ้นไป และแสดงผลตรวจ ATK ทุก 4 วัน และ 3) ผู้เข้าชมงาน ต้องได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ตั้งแต่ 2 เข็มขึ้นไป และมีการตั้งจุดคัดกรองตรวจวัดอุณหภูมิตลอดการจัดงานด้วย

ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวถือเป็นเรื่องที่ดีอย่างมากเพราะแสดงให้เห็นถึงความร่วมมือร่วมใจของทุกภาคส่วนและการรับผิดชอบที่ทุกคนมีต่อคนเองและผู้อื่น ซึ่งจะทำให้พวกเราสามารถอยู่ร่วมกับโควิดได้อย่างปลอดภัย และร่วมกันขับเคลื่อนกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศให้ไทยสามารถเดินหน้าต่อไปได้แม้อยู่ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ก็ตาม” โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว

"บิ๊กตู่' สั่งดูแลเส้นทางจราจรงาน "มอเตอร์โชว์" ลดปัญหาการจราจรคับคั่ง พร้อมติดตามการให้บริการผู้ป่วยโควิด – 19 อย่างครอบคลุม "เจอ แจก จบ" ดูแลผู้ป่วยไปแล้วเกือบ 7 แสนราย สธ. เผยพบ 92% พึงพอใจในระดับมากถึงมากที่สุด

เมื่อวันที่ 27 มีนาคม นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์  จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม สั่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เตรียมพร้อมอำนวยความสะดวกในเส้นทางจราจร ที่จะเดินทางไปงานมอเตอร์โชว์ อิมแพค เมืองทองธานื เพื่อลดปัญหาจราจรติดขัดบนทางด่วน   หลังได้รับรายงานเมื่อวานนี้ ตั้งแต่เปิดงาน-ช่วงบ่ายมีรถสะสมบนทางด่วนกว่า 400 เมตรและการจราจรติดขัดบนทางด่วนนายกว่า 30  นาที วันเดียวกันนี้  (27 มี.ค.) ซึ่งยังเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ คาดว่า จะมีประชาชนเข้าร่วมชมงานเป็นจำนวนมาก  จึงขอให้ทั้งตำรวจภูธร จ. นนทบุรี การท่าพิเศษแห่งประเทศไทยร่วมจังหวัดนนทบุรี ติดตามสภาพการจราจร เพื่ออำนวยความสะดวกการเดินทาง ใช้รถ ใช้ถนนของประชาชน ขณะเดียวกัน ยังกำชับให้ผู้จัดงานและเจ้าหน้าที่ประจำบูธภายในงาน ต้องปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุขในการป้องการแพร่ระบาดโควิด-19 อย่างเคร่งครัด รวมทั้งประชาชนที่จะเข้าร่วมชมต้องป้องกันตนเองขั้นสูงสุดด้วย

"นายก ฯ ใส่ใจ ห่วงใยประชาชนที่วางแผนจะไปชมงาน มอเตอร์โชว์ หรือกิจกรรมต่างๆ ในช่วงนี้การ์ดอย่าตกและเน้นดูแลตนเองขั้นสูงสุด  พร้อมย้ำผู้จัดงาน ประสานทุกหน่วยงาน เตรียมความพร้อมเส้นทางจราจร สถานที่จอดรถ ไม่ให้กระทบต่อประชาชนที่สัญจรไปมาตามปกติ ที่สำคัญต้องปฏิบัติตามมาตรความปลอดภัยสาธารณสุข ที่สอดคล้องกับข้อกำหนดของ ศบค. ในการควบคุมและเฝ้าระวังการแพร่ระบาดโควิด-19 อย่างเคร่งครัดด้วย"  นายธนกรกล่าว

‘สุริยะ’ ปลื้มยอดจอง EV ในมอเตอร์โชว์สูง สั่งหนุนเต็มสูบ ดันไทยเป็นฮับผลิต EV

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ปลื้มกระแสรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศมาแรง ดันยอดจองภายในงานมอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 43 รวมทั้งสิ้น 3,000 คัน สั่งเร่งเครื่องสนับสนุนเต็มสูบ หวังดันไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตยานยนต์ไฟฟ้า

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม กล่าวถึงงานบางกอกอินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2022 หรือ งานมอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 43 ที่ปิดฉากลงไปเมื่อ 3 เมษายนที่ผ่านมา มียอดจองรถยนต์ภายในงานรวมทั้งสิ้น 33,936 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา 13.6% โดยเป็นยอดจองรถยนต์ไฟฟ้ารวมประมาณ 3,000 คัน คิดเป็น 10% โดยส่วนหนึ่งมาจากมาตรการของภาครัฐที่ส่งเสริมรถยนต์ไฟฟ้า ประกอบกับรถยนต์และรถยนต์จักรยานยนต์รุ่นใหม่ที่แนะนำในช่วงงาน รวมถึงแคมเปญกระตุ้นยอดขายของค่ายรถ ขณะที่ผู้บริโภคให้ความเชื่อมั่นในมาตรฐานด้านความปลอดภัยของการจัดงานทำให้มีตัวเลขผู้เข้าชมงานสูงถึง 1,578,898 คน

นอกจากนี้ การจัดงานปีนี้มีบริษัทผู้ประกอบกิจการรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้น สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลที่ต้องการให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางในการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า โดยอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมหลักที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทย โดยมีมูลค่าการส่งออกกว่า 1.09 ล้านล้านบาท หรือ 6.4% ของ GDP ของประเทศ ในปี 64 ประเทศไทยผลิตรถยนต์รวม 1.7 ล้านคัน และคาดว่าปี 65 ประเทศไทยจะผลิตรถยนต์เพิ่มขึ้นรวม 1.8 ล้านคัน

นายสุริยะ กล่าวว่า กระทรวงอุตสาหกรรม ได้หารือร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ สมาคมยานยนต์ไทย สมาคมผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไทย และภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องกำหนดวิสัยทัศน์ให้ไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าและชิ้นส่วนที่สำคัญของภูมิภาค โดยกำหนดเป้าหมายในปี 68 การผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศรวม 225,000 คันต่อปี คิดเป็น 10% ของการผลิตรถยนต์ทั้งหมด และในปี 73 การผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศรวม 725,000 คันต่อปี คิดเป็น 30% ของการผลิตรถยนต์ทั้งหมด ซึ่งจะทำให้ภายในปี 73 สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ไม่น้อยกว่า 200,000 ล้านบาท และสร้างความต้องการแรงงานยานยนต์สมัยใหม่ประมาณ 30,000 อัตราต่อปี

สัปดาห์แรก ‘มอเตอร์โชว์’ คนแห่จองรถทะลุ 1.3 หมื่นคัน รถยนต์ไฟฟ้ามาแรงยอดพุ่งกว่า 1 พันคัน

สัปดาห์แรกของการจัดงาน “บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 44” ค่ายรถที่เข้าร่วมงานกวาดยอดจองไปแล้วมากกว่า 1.3 หมื่นคัน มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 32.5% ขณะที่ยอดจองรถยนต์ไฟฟ้าพุ่งมากกว่า 1,000 คัน

นายจาตุรนต์ โกมลมิศร์ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์ เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ผู้จัดงาน “บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์” เปิดเผยว่า “ในช่วงสัปดาห์แรกของการจัดงาน มีผู้บริโภคให้ความสนใจเข้าชมงานเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะการนำรถยนต์รุ่นใหม่ ๆ เข้ามาจัดแสดงภายในงานจากหลายค่าย เป็นตัวช่วยกระตุ้นผู้เข้าชมให้มางานได้เป็นอย่างดี การผ่อนปรนมาตรการการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในเรื่องการเว้นระยะห่างของกระทรวงสาธารณสุข ก็เป็นอีกหนึ่งส่วนที่ทำให้คนรู้สึกผ่อนคลาย และมีความมั่นใจในการออกมาเยี่ยมชมงานมากกว่าในช่วงหลายปีที่ผ่านมา

โดยในช่วงของสัปดาห์แรกของการจัดงาน มีรายงานตัวเลขจากค่ายรถที่นำรถ เข้ามาร่วมจัดแสดงภายในงาน พบว่ามีตัวเลขยอดจองรถยนต์กว่า 13,343 คัน คิดเป็นอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาถึง 32.5 เปอร์เซ็นต์  ซึ่งในจำนวนดังกล่าว มียอดจองเฉพาะรถไฟฟ้า 100% มากกว่า 1,000 คัน

ทั้งนี้ ตัวเลขยอดจองรถไฟฟ้าสูงเกินเป้าหมายที่ทางคณะผู้จัดงานฯ คาดการณ์ไว้เล็กน้อย ส่วนหนึ่งเพราะในงานบางกอก มอเตอร์โชว์ปีนี้ มีผู้จำหน่ายรถไฟฟ้าเข้ามาร่วมงานหลายแบรนด์ และยังมีการเปิดตัวรถรุ่นใหม่อีกหลายรุ่น แต่คงต้องรอดูตัวเลขยอดจองหลังจบงานอีกครั้งในสัปดาห์หน้า ว่าจะมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมามากน้อยเพียงใด

อย่างไรก็ตาม ในช่วงระยะเวลาที่เหลือของการจัดงาน อยากเชิญชวนผู้ที่สนใจเข้ามาเลือกชม เลือกซื้อรถภายในงาน เพราะนอกจากเป็นการรวมรถยนต์ทุกค่ายไว้ในงานเดียวแล้ว ยังรวมโปรโมชั่นมากมายจากค่ายรถไว้ให้ผู้บริโภคเลือกตัดสินใจ อีกทั้งผู้เข้าชมงานยังมีโอกาสลุ้นรับรางวัลต่างๆ มากมายอีกด้วย

เปิดประวัติ ‘โรตารี่’ อายุยาวนานกว่า 100 ปี ความภาคภูมิใจของมาสด้า โดดเด่นด้วยเอกลักษณ์เฉพาะ ‘เครื่องยนต์ลูกสูบสามเหลี่ยม’ แรงไม่ซ้ำใคร

(9 มี.ค.67) วันเสาร์สุดสัปดาห์แบบนี้ THE STATES TIMES จะขอพาทุกท่าน ย้อนเวลา ไปหาเครื่องยนต์ที่ถือได้ว่า เป็นตำนานที่สร้างชื่อเสียงให้กับ ‘มาสด้า’ นั่นก็คือ ‘เครื่องโรตารี่’

ต้นกำเนิดของเครื่องยนต์โรตารี่ เริ่มต้นมาตั้งแต่เมื่อปี 1919 เมื่อ มร. เฟลิกซ์ แวนเคิ้ล (Mr. Felix Wankel) มีความคิดริเริ่มที่จะสร้างเครื่องยนต์สันดาปภายในแบบใหม่ที่ไม่ซ้ำแบบเครื่องยนต์ลูกสูบทั่วๆไป โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจาก 'เครื่องจักรเทอร์ไบน์' จนกระทั่งออกมาเป็นรูปร่างคล้ายเครื่องยนต์ 4 จังหวะ จุดระเบิดด้วยการหมุนรอบตัวเอง และได้ทำการทดลองมาอย่างต่อเนื่องจนสามารถออกแบบเป็น 'ลูกสูบสามเหลี่ยม' ขึ้นมา และเมื่อ มร. เฟลิกซ์ แวนเคิ้ล ได้เข้าทำงานในสถาบัน TES (Technical Institute of Engineering Study) จึงได้พัฒนาจนเสร็จสมบูรณ์พร้อมใช้งานในรถเพื่อการพาณิชย์ โดยนำโปรเจกต์นี้ไปเสนอต่อบริษัท NSU Motorenwerke AG ซึ่งเป็นบริษัทผลิตมอเตอร์ไซค์ และได้พัฒนาเครื่องยนต์โรตารี่ควบคู่กันไป ทำให้ 'เครื่องยนต์โรตารี่' เครื่องแรกถือกำเนิดขึ้นในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 1957 โดยใช้ชื่อว่า DKM 54 ในรถมอเตอร์ไซค์ รุ่น 50 ซี.ซี. สามารถทำความเร็วได้ถึง 192.5 กม./ชม. ที่สำคัญสามารถคว้าชัยชนะในรายการ 'World Grand Prix Championship' ซึ่งเรียกเสียงฮือฮาให้กับผู้คนทั่วโลกเป็นอย่างมาก

ในปี 1961 Mr.Tsuneji Matsuda ประธาน บริษัท Toyo Kogyu (โตโย โคเกียว) ผู้ผลิตรถยนต์จากแดนอาทิตย์อุทัยภายใต้ชื่อ 'มาสด้า' ได้ทำการซื้อลิขสิทธิ์มาพัฒนาใหม่ จนกระทั่งในเดือนเมษายน ปี 1963 Mr. Keichi Yamamoto ก็ได้ทำการพัฒนาขึ้นมาสำเร็จ แต่ยังพบข้อบกพร่องบางอย่างเกี่ยวกับ Apex Seal และ Oil Seal ซึ่งเสียหายง่าย จึงได้ร่วมมือกับ บริษัท Nippon Piston Ring & Oil Seal Co. เข้ามาช่วยแก้ปัญหาในส่วนนี้ได้สำเร็จ

ต่อมาในปี 1967 #มาสด้าก็ได้สร้างความฮือฮาขึ้นมาอีกครั้ง ด้วยการเปิดตัวรถคันแรก ที่ใช้ #เครื่องยนต์โรตารี่ ด้วย 'รุ่น Cosmo Sport 110S' ซึ่งเป็นรถยนต์มาสด้ารุ่นแรก ที่ใช้เครื่องยนต์โรตารี่หลังจากนั้นจึงได้เริ่มผลิตและจำหน่ายรถยนต์เครื่องยนต์โรตารี่ ตามออกมาอีกหลายรุ่น อาทิ แฟมิเลีย โรตารี่คูเป้ (R100 ในต่างประเทศ) ซาวันน่า(RX-3) #RX-7 และรุ่นยูโนส คอสโมมาสด้าถือเป็นผู้ผลิตรถยนต์รายแรกและรายเดียว ที่ประสบความสำเร็จในการใช้เครื่องยนต์โรตารี่ ในเชิงพาณิชย์จนถึงปัจจุบันโดยเริ่มมาจากการใช้เครื่องยนต์โรตารี่ในรถยนต์รุ่น Cosmo Sport 110S และทำให้ต่อมารถยนต์มาสด้าหลายรุ่น ก็ได้นำเอาเครื่องยนต์โรตารี่มาใช้

นับจากรถยนต์มาสด้า ที่ใช้เครื่อง โรตารี่ ปรากฏโฉมออกสู่สาธารณชนเป็นครั้งแรกจนถึงปัจจุบัน เป็นเวลาร่วม 50 ปี ของเครื่องยนต์นี้ที่ถูกผลิตและจำหน่ายไปทั่วโลกมากกว่า 2 ล้านคัน ซึ่งในระหว่างนั้นทาง มาสด้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่นมีโอกาสผลิตรุ่นพิเศษ เพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 40 ปี จึงได้เปิดตัวมาสด้า #RX-8รุ่นพิเศษ ในตลาดญี่ปุ่น โดยรุ่นพิเศษนี้ได้รับการพัฒนามาจากรุ่น RX-8 Type S(เกียร์ธรรมดา 6 สปีด) และ Type E(เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด) ถึงแม้ว่าเครื่องยนต์โรตารี่ จะได้หยุดการผลิตไปในบางช่วงเวลาเนื่องจากความเข้มงวดในบางตลาด แต่มาสด้าก็ไม่เคยที่จะหยุดพัฒนาและวิจัย

จนกระทั่งวันนี้ตำนานที่ถูกเล่าขานมาอย่างยาวนาน ได้ถือกำเนิดขึ้นมาอีกครั้ง นั่นคือ เครื่องยนต์โรตารี่ เจเนอเรชั่นใหม่ ที่มีชื่อเรียกว่า SKYACTIV-R หรือ เครื่องยนต์โรตารี่ที่แสดงให้เห็นถึงเจตนารมณ์ของมาสด้า ในการกล้าที่จะก้าวสู่ความท้าทายใหม่ๆ และกล้าที่จะต่างด้วยการใช้เทคโนโลยีใหม่ล่าสุด โดยได้พัฒนาขึ้นเป็นรถสปอร์ตต้นแบบ มาสด้าRX-Vision ที่ใช้เครื่องยนต์โรตารี่ เจเนอเรชั่นใหม่ สกายแอคทีฟ-อาร์ เป็นขุมพลังในการขับเคลื่อน ซึ่ง มาสด้า มอเตอร์คอร์ปอเรชั่น ได้เผยโฉมเป็นครั้งแรกในงาน โตเกียว มอเตอร์ โชว์ เพื่อสะท้อนถึงวิสัยทัศน์แห่งอนาคต ด้วยการเป็นรถสปอร์ตวางหน้า และขับเคลื่อนล้อหลังที่มาพร้อมรูปลักษณ์หรูหรางดงามตามแบบฉบับ โคโดะ ดีไซน์ อันเลื่องชื่อของมาสด้า

นี่คือเรื่องราวความเป็นมาบางส่วนเกี่ยวกับเครื่องยนต์โรตารี่ อันเป็นต้นกำเนิดของรถสปอร์ตมาสด้าหลากหลายรุ่น และส่งผ่านมาจนถึงปัจจุบัน

สรุปยอดจองมอเตอร์โชว์ ในงาน Bangkok International Motor Show ครั้งที่ 45

(8 เม.ย.67) งาน Bangkok International Motor Show 2024 ครั้งที่ 45 จัดขึ้นโดย บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ได้ปิดฉากลงอย่างสวยงาม

สรุปยอดจองรถยนต์ในงาน Bangkok International Motor Show ครั้งที่ 45 ระหว่างวันที่ 25 มีนาคม – 7 เมษายน 2567 @ Challenger Hall 1 – 4 เมืองทองธานี (14 วัน) รวมทั้งสิ้น 53,438 คัน เพิ่มขึ้น 10,553 คัน (+24.6%) จากปีก่อนหน้า Motor Show 2023 : 42,885 คัน

เพจ ‘Red Skull’ เผยซื้อ ‘รถป้ายแดง’ จากศูนย์ในราคาเต็ม ผ่านไปปีครึ่ง ผงะ!! ปรากฏรอยสติ๊กเกอร์ ‘Test Drive’ โพสต์ถามโซเชียล ควรทำไงดี?

(28 ก.ค. 67) เพจ Red Skull โพสต์เรื่องราวเจ้าของรถเจอสติ๊กเกอร์ Test Drive หลังจากใช้ไปเพียง 1 ปีครึ่ง ระบุว่า …

‘จองรถในงานมอเตอร์โชว์ รับรถป้ายแดง จากศูนย์ซื้อในราคาเต็มป้ายแดง ใช้รถผ่านไปปีครึ่งมีรอยสติ๊กเกอร์ Test Drive ขึ้นทั้งสองข้างประตูหน้าซ้าย-ขวา เจอแบบนี้ควรทำยังไงดีครับ’

จากโพสต์ดังกล่าว หลายคนเข้ามาแสดงความคิดเห็น อาทิ

สคบ. ต้องมา ดูปีที่ผลิต เช็คเลขไมล์ ถ้ามีใช้ไปก่อนแล้วพิสูจน์ได้ เข้าฉ้อโกงได้เลยนะ

ยื่น สคบ.ค่ะ เดี๋ยวเขาก็ประสานงานต่อให้ค่ะ

โห ทำไมทำแบบนี้รถ test drive ถ้าจะขายก็ขายตรงๆ ให้ส่วนลดเยอะๆ คนรับได้ก็มี ดีกว่ามาหลอกกันแบบนี้เสียชื่อสุดๆ

ALL NEW MG3 HYBRID+ กวาดยอดขายกว่า 3 หมื่นคัน ย้ำ!! ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ โดดเด่นด้วย ‘นวัตกรรมไฮบริด’

(2 พ.ย. 67) บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์ – ซีพี จำกัด และ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายรถยนต์เอ็มจีในประเทศไทย ย้ำภาพความสำเร็จของโกลบอลโมเดลรุ่นยอดนิยม ALL NEW MG3 HYBRID+ สร้างยอดขายทั่วโลกสองไตรมาสรวมกว่า 32,000 คัน พร้อมการันตี ความเชื่อมั่นด้วยรางวัลชั้นนำ อาทิ Affordable Car of the year 2024 จาก Auto Express UK และ รางวัล Best Value Car จาก The Business Car Awards ในสหราชอาณาจักร หลังปรากฏตัวครั้งแรกในงาน GENEVA INTERNATIONAL MOTOR SHOW 2024 และในประเทศไทย เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา

ALL NEW MG3 HYBRID+ หนึ่งในโกลบอลโมเดลที่เป็นยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนแบรนด์ เอ็มจี ด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่เจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ โดดเด่นด้วยนวัตกรรม และแนวทางการพัฒนายนตรกรรมพื้นฐานที่เริ่มต้นจากรถยนต์ไฮบริด และเป็นรถยนต์ไฮบริดรุ่นล่าสุดของ เอ็มจี ที่มีนวัตกรรมทางเทคโนโลยีก้าวหน้าภายใต้การพัฒนาของ SAIC MOTOR และนับเป็นโมเดลแรกที่ผสานระบบ HYBRID+ ที่สะท้อนความตั้งใจในการมอบความสมบูรณ์แบบ ทั้งในด้านสมรรถนะและประสิทธิภาพการขับขี่ที่เหนือกว่า และยังเป็นเครื่องยืนยันให้ผู้บริโภคเกิดความเชื่อมั่นว่า ไฮบริดที่ดีกว่าต้อง HYBRID+ ของเอ็มจีเท่านั้น

ALL NEW MG3 HYBRID+ โดดเด่นด้านการผสานพลังงานระหว่างเครื่องยนต์และระบบไฟฟ้าอย่างลงตัว ทำให้สมรรถนะใกล้เคียงกับรถยนต์ไฟฟ้า แต่ยังคงความรู้สึกขับสนุกด้วยโกลบอลจูนนิ่งจากวิศวกรระดับโลกมาพร้อมเทคโนโลยีไฮบริดที่ปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์ของการขับขี่ได้ถึง 8 รูปแบบ โดยมีอัตราสิ้นเปลืองที่ทำได้สูงสุดถึง 26.3 กิโลเมตรต่อลิตร ทำระยะทางได้ไกลสูงสุดมากกว่า 800 กิโลเมตร มาพร้อมกับความแรง ด้วยอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในเวลาเพียง 8 วินาที และอัตราเร่ง 80-120 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในเวลาเพียง 5 วินาที มาพร้อมดีไซน์ที่โฉบเฉี่ยวอันเป็นเอกลักษณ์ ในระดับราคาที่เข้าถึงได้ง่าย รุ่นเริ่มต้นหรือรุ่น D อยู่ที่ 579,900 บาท และรุ่น X ในราคา 619,900 บาท

จุดเด่นหลักๆ ของรถยนต์ ALL NEW MG3 HYBRID+

• ALL NEW MG3 HYBRID+ เป็นโมเดลที่ผู้บริโภคต่างให้ความสนใจอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงกลางปี และได้ประกาศราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการเมื่อช่วงปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา โดยถือเป็นรถแฮทช์แบคไฮบริดรุ่นล่าสุดของ เอ็มจี และเป็นโกลบอลโมเดลรุ่นที่สองที่ผลิตจากโรงงาน เอสเอไอซี มอเตอร์- ซีพี ณ จังหวัด ชลบุรี

• ALL NEW MG3 HYBRID+ ได้ทำการพัฒนาและปรับจูนทุกระบบโดยทีมวิศวกรระดับโลกเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดสำหรับการใช้งานจริงบนถนนทั่วโลก โดยผ่านการทดสอบในทุกสภาพเส้นทาง สภาพอากาศ รวมถึงวิ่งทดสอบในสถานการณ์ที่หลากหลาย พร้อมการออกแบบห้องโดยสารภายในให้มีความเงียบกว่ารถทุกรุ่นในระดับเดียวกัน

• ALL NEW MG3 HYBRID+ ให้มากกว่าในกลุ่มรถขนาดเล็ก B-Segment ด้วยการยกระดับระบบการทำงานของเครื่องยนต์ และมอเตอร์ไฟฟ้าให้มีการทำงานที่อิสระ ครอบคลุมโหมดการขับเคลื่อนที่หลากหลาย นำเสนอประสบการณ์การขับขี่ที่ครบครัน ทั้ง ประหยัดกว่า – ด้วยอัตราสิ้นเปลืองที่ทำได้สูงสุดถึง 26.3 กิโลเมตรต่อลิตร*กับน้ำมันหนึ่งถัง 36 ลิตร สามารถวิ่งได้ระยะทางสูงสุดมากกว่า 800 กิโลเมตร* แรงกว่า - แรงสุดในกลุ่มสามารถทำอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในเวลาเพียง 8 วินาที และอัตราเร่ง 80-120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในเวลาเพียง 5 วินาที มอบความคล่องตัวให้ความรู้สึกเหมือนขับรถไฟฟ้าโดยไม่ต้องกังวลเรื่องการชาร์จ กว้างกว่า - กว้างที่สุดในคลาสเดียวกัน โดยเฉพาะห้องสัมภาระท้ายจุได้มากถึง 293 ลิตร และเมื่อพับเบาะสามารถจุได้มากถึง 1,037 ลิตร ปลอดภัยกว่า - ด้วยระบบความปลอดภัยมาตรฐาน ADVANCED SYNCHRONIZED PROTECTION SYSTEM ซึ่งรวมระบบADVANCED DRIVER ASSISTANCE SYSTEM (ADAS) หรือระบบอำนวยความสะดวกช่วยควบคุมการขับขี่ และลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุจำนวน 8 ระบบ พร้อมระบบเบรกอัจฉริยะ (Intelligent Brake System) เหมาะสำหรับคนรุ่นใหม่ที่กำลังมองหารถยนต์ในกลุ่ม City Car ที่มาพร้อมฟังก์ชันระบบความปลอดภัยที่ครบครัน และเทคโนโลยีที่โดดเด่นด้วยความประหยัด

• ALL NEW MG3 HYBRID+ การันตีความเชื่อมั่นด้วยรางวัลชั้นนำ อาทิ รถยนต์ที่มอบความคุ้มค่าที่สุด “Affordable Car of the year 2024” จาก Auto Express UK และ “รางวัล Best Value Car” จาก The Business Car Awards ในสหราชอาณาจักร พร้อมยอดขายที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เดือนเมษายนจนถึงเดือนกันยายน รวมกว่า 32,000 คัน ทั้งยังเป็นรถยนต์ที่ผ่านคุณสมบัติและหลักเกณฑ์ในการเข้ารับคัดเลือกรอบแรก และได้รับการคัดเลือกเป็น 1 ใน 5 รุ่น ให้เข้าสู่รอบสุดท้ายของการตัดสิน รถยนต์ยอดเยี่ยมประจำปี 2567 (THAILAND CAR OF THE YEAR 2024) โดยสมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทย - สรยท. (THAI AUTOMOTIVE JOURNALISTS ASSOCIATION – TAJA)

• ALL NEW MG3 HYBRID+ อีกหนึ่งรุ่นที่ตอกย้ำแนวทางการดำเนินธุรกิจของแบรนด์ เอ็มจี ครบหนึ่งศตวรรษ ในการยกระดับผลิตภัณฑ์ด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยี เจาะกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่ และเป็นโมเดลที่สะท้อนภาพแนวทางการดำเนินธุรกิจในประเทศไทยในการนำเสนอยนตรกรรมไฮบริดประสิทธิภาพสูงที่จะเข้ามาแทนที่รถยนต์สันดาปภายใน โดยถือเป็นยนตรกรรมไฮบริดที่รวมทุกข้อดีของไฮบริดที่มี สู่ความลงตัวที่สุดในรุ่นนี้

‘กรังด์ปรีซ์’ เดินหน้า!! ‘ลดการใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว’ มุ่งกระตุ้น!! จิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อม ส่งเสริมไลฟ์สไตล์ที่ยั่งยืน

(22 ก.พ. 68) บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ บริษัท อิมแพค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด เดินหน้าสนับสนุนแนวคิด ‘ลดการใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว’ ผ่านกิจกรรม Sustainable Herbal Station Campaign 2025 ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 6 มีนาคม 2568 ภายในบริเวณพื้นที่รับรองของงาน “แถลงข่าวและประชุมผู้เข้าร่วมงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46”

แคมเปญนี้มุ่งเน้นการกระตุ้นจิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อม เชิญชวนให้ผู้เข้าร่วมงานพก ขวดน้ำแบบพกพา มาใช้แทนขวดพลาสติกแบบใช้แล้วทิ้ง เพียงแสดงขวดน้ำของท่าน ก็สามารถรับเครื่องดื่มสมุนไพรสดชื่น ฟรี! ทันทีที่จุดให้บริการภายในบริเวณงาน

การร่วมมือในครั้งนี้ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของวงการอุตสาหกรรมยานยนต์ และอีเวนต์ ที่ต้องการร่วมกันเป็นส่วนหนึ่งที่จะลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งส่งเสริมไลฟ์สไตล์ที่ยั่งยืนให้กับผู้เข้าร่วมงานทุกท่าน เพราะทุกการเปลี่ยนแปลง เริ่มต้นที่ตัวเรา มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในแคมเปญรักษ์โลก Sustainable Herbal Station Campaign 2025ร่วมกันการสร้างโลกที่ดีขึ้น ด้วยการพกขวดน้ำ ลดขยะพลาสติก เพื่ออนาคตที่ยั่งยืนต่อไป

สำหรับงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46 จะจัดขึ้นระหว่าง วันที่  24 มีนาคม – 6 เมษายน 2568 ที่จะถึงนี้  ณ อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพค เมืองทองธานี

‘กรังด์ปรีซ์ฯ’ ผนึกพันธมิตร 54 แบรนด์ดัง ปลุก!! อุตสาหกรรมยานยนต์ไทย ให้คึกคัก ไฮไลต์!! พื้นที่โซนใหม่ จัดแสดงอะไหล่รถ ‘อีวี-สันดาป’ ในงาน ‘บางกอกมอเตอร์โชว์’

(8 มี.ค. 68) บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ร่วมกับผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมยานยนต์กว่า 54 แบรนด์ดัง จัดงาน ‘บางกอกอินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์’ ครั้งที่ 46 ภายใต้ธีม ‘The Talk of Sensuous Automotive’ หรือ ‘สนทนาภาษายานยนต์’ ชูไฮไลต์พื้นที่โซนใหม่จัดแสดงอะไหล่รถอีวีและสันดาป หลังปิดดีลเครือข่ายผู้ผลิตและจำหน่ายจากประเทศจีน โดยงานจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 26 มีนาคม – 6 เมษายน พ.ศ.2568 ณ อิมแพค ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 1-3 และ ฟอรั่ม ฮอลล์ 4 เมืองทองธานี

ดร.ปราจิน เอี่ยมลำเนา ประธานจัดงาน ‘บางกอกอินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์’ ครั้งที่ 46 กล่าวว่า สำหรับงานมอเตอร์โชว์ในปีนี้ จัดขึ้นภายใต้ธีม ‘The Talk of Sensuous Automotive’ หรือ ‘สนทนาภาษายานยนต์’ สื่อถึงปรัชญาแนวทางการออกแบบในโลกยานยนต์ที่สื่อสารเข้าถึงอารมณ์ความรู้สึกที่เต็มเปี่ยมด้วยพลัง ความปรารถนา แรงบันดาลใจ สื่อสารเป็นภาษาของยานยนต์ เพื่อสะท้อนแนวคิด การสร้างสรรค์พัฒนา และประสบการณ์สุนทรียภาพทางอารมณ์อย่างมีคุณค่า

นายจาตุรนต์ โกมลมิศร์ รองประธานจัดงานกล่าวว่างานมอเตอร์โชว์ครั้งนี้มีผู้ประกอบการยานยนต์จากยุโรปและเอเชียตอบรับเข้าร่วมออกบูธภายในงานฯ แล้ว 54 ราย แยกเป็นรถยนต์ 41 บริษัท และจักรยานยนต์ 13 ถือว่าได้รับการตอบรับจากผู้ประกอบการที่เข้าร่วมออกงานอย่างเป็นอย่างดี นอกจากนี้ ยังได้รับการตอบรับการเข้าร่วมออกงานฯของกลุ่มลูกค้ารายใหม่ที่เป็นแบรนด์ยานยนต์ไฟฟ้า ที่เพิ่งเข้ามาเปิดตัวในประเทศไทย อาทิ ZEEKR, OMODA&JAECOO, CHERY, KINGGEN, JUNEYAO , RIDDARA และ GEELY รวมถึงเทคโนโลยีระบบนำทางภายในรถยนต์ HUAWEI อีกด้วย นอกจากนี้ยังมีแบรนด์รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า YADEA ที่มาเปิดตัวครั้งแรกภายในงานฯ โดยในปีนี้มีผู้ประกอบการจากประเทศจีนเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา 14 ราย

ส่วนในไฮไลต์ของการจัดงานฯ ปีนี้ นอกจากมีการเปิดตัวรถยนต์และรถจักรยานยนต์รุ่นใหม่ๆ ทั้งรถสันดาปและรถอีวีของผู้ประกอบการยานยนต์แล้ว บริษัทฯ ได้จัดเตรียมพื้นที่ฟอรั่ม ฮอลล์ 4 พื้นที่กว่า 9,000 ตารางเมตร เพื่อรองรับการออกบูธอุปกรณ์ตกแต่งรถโดยเฉพาะ โดยในปีนี้ได้ขยายฐานผู้ออกบูธแสดงสินค้าสู่กลุ่มผู้ผลิตและจำหน่ายอะไหล่รถอีวีและสันดาปที่ต้องการขยายตลาดในประเทศไทย เนื่องจากเห็นโอกาสและศักยภาพของงานบางกอกอินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ที่เป็นงานจัดแสดงยานยนต์ระดับสากล

“จึงได้รับความร่วมมือจาก บริษัท หนานจิง ฉ่วงฉี เอ็กซิบิชั่น จากประเทศจีน ได้นำสินค้าอุปกรณ์อะไหล่รถยนต์ และรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า จากประเทศจีน มาจัดแสดงเพื่อให้ผู้ประกอบการในประเทศไทยที่สนใจเป็นร่วมตัวแทนจำหน่ายอีกด้วย นับได้ว่า เป็นครั้งแรกของการจัดงานแสดงรถยนต์เพื่อผู้ประกอบการธุรกิจอุตสาหกรรมยานยนต์โดยตรง เป็นการเชื่อมโยงทางธุรกิจ และการสร้างเครือข่ายระหว่างผู้ประกอบการ บนพื้นที่กว่า 3,800 ตารางเมตรภายในฟอรั่ม ฮอลล์ 4 ระหว่างวันที่ 24 – 30 มีนาคม 2568 มั่นใจได้ว่า จะได้สินค้าที่ตรงตามคุณภาพ ราคาจากผู้ประกอบการโดยตรง นอกจากนี้ ยังมีการออกบูธจัดแสดง USED CAR หรือรถมือสองระดับลักชัวรี่ รวมถึง สินค้าไลฟ์สไตล์ แฟชั่น สินค้ามูเตลู การแข่งขันชิงรางวัล พร้อมกิจกรรมสนุกๆอีกมากมาย ภายในฮอลล์อีกด้วย” นายจาตุรนต์กล่าว

และอีก 1 งานที่แต่งเติมสีสันให้ล้อกันไปกับงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งนี้ คือ MU-NIVERSE “เปิดจักรวาลมูเตลูไทย สู่คนรุ่นใหม่” เป็นอีเวนต์ที่รวบรวม เรื่องราวมูเตลูของเมืองไทยในแบบที่เข้าถึงง่าย เชื่อมโยง ความเชื่อม ศิลปะ เทคโนโลยี และไลฟ์สไตล์เข้าด้วยกัน ระหว่าง วันที่ 2-6 เมษายน 2568 ที่บริเวณฟอรั่ม ฮอลล์ 4 พบปะกับอ.ลักษณ์ โหราธิบดี และแขกรับเชิญสายมูชื่อดังมากมาย พร้อมกิจกรรมดูดวง ปรึกษาฤกษ์ออกรถ ป้ายทะเบียนมงคล สินค้าเครื่องรางวัตถุมงคล กิจกรรมแลกเปลี่ยนข้อมูลของดีของสะสมสายมู พร้อมรับสติ๊กเกอร์เสริมดวงรุ่นพิเศษเฉพาะงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ เท่านั้น

นายอโณทัย เอี่ยมลำเนา ประธานเจ้าหน้าที่สายการผลิต บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “สำหรับกิจกรรมในปีนี้ นอกจากกิจกรรม E-Racing ที่เปิดโอกาสให้ผู้เข้าชมได้สัมผัสประสบการณ์การแข่งขันรถยนต์เสมือนจริงผ่านเครื่องเล่น Simulator แล้ว ทางผู้จัดยังได้รับความร่วมมือจาก R.C.S. (Runbike Championship Series) ประเทศญี่ปุ่น จัดกิจกรรมการแข่งขันจักรยานทรงตัวรายการ “Grandprix Runbike Championship With R.C.S.” ขึ้นภายในงาน โดยเป็นการจัด Pre-Event จำนวน 2 สนาม ซึ่งการจัดการแข่งขันดังกล่าวถือเป็นก้าวสำคัญในการผลักดันวงการกีฬาสำหรับเยาวชนในประเทศไทย รวมถึงบูธแสดงสินค้าเกี่ยวกับเด็ก กีฬา และไลฟ์สไตล์ ตลอดจนโซนกิจกรรมสำหรับครอบครัวอีกด้วย”

นายพีระพงศ์ เอี่ยมลำเนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “ที่ผ่านมาบริษัทฯ ในฐานะผู้จัดงาน ได้มีการพัฒนารูปแบบการให้บริการใหม่ๆ มาอย่างต่อเนื่อง เพื่ออำนวยความสะดวกให้ทั้งผู้เข้าร่วมงาน และผู้เข้าชมงานได้รับประสบการณ์ใหม่ๆ โดยเฉพาะการนำเทคโนโลยี digital transformation เข้ามาอำนวยความสะดวกในการเข้าชมงาน”

“เราได้พัฒนาบัญชี LINE Official Account หรือ Line OA ขึ้น เพื่อเพิ่มความสะดวกใช้ในการลงทะเบียน และยังเป็นการเพิ่มช่องทางการสื่อสารระหว่างบริษัทฯ กับผู้บริโภคในการนำเสนอผลิตภัณฑ์และรูปแบบการให้บริการใหม่ๆ ทั้งกลุ่ม Auto และ กลุ่ม Lifestyle ที่บริษัทฯ พัฒนาขึ้นมา เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจ”

“นอกจากนี้ เรายังได้จัดทำโปรแกรม Fullloop ที่สามารถเก็บข้อมูลฟีดแบ็กจากผู้เข้าชมได้ในรูปแบบที่สะดวกและรวดเร็วมากขึ้น ผู้เข้าชมสามารถกรอกแบบสอบถามสั้นๆ เพื่อประเมินการจัดงาน ช่วยให้ผู้จัดงานสามารถรวบรวมข้อมูลได้ทันทีและวิเคราะห์ผลได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งการเก็บฟีดแบ็กจากผู้เข้าชมในงานมีความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้ผู้จัดงานสามารถปรับปรุงการจัดงานในหลายๆ ด้าน และตอบสนองต่อความต้องการของผู้เข้าชมได้ดียิ่งขึ้น”

อย่างไรก็ตาม คาดว่าการจัดงานฯ ปีนี้จะสร้างรายได้เพิ่มขึ้นมากกว่า 10% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ขณะที่ภาพรวมอุตสาหกรรมยานยนต์ปีนี้คาดว่าจะทรงตัว เนื่องจากภาพรวมเศรษฐกิจในประเทศยังไม่ฟื้นตัวชัดเจนและเศรษฐกิจโลกยังมีความไม่แน่นอน ประกอบกับสถาบันการเงินเข้มงวดการปล่อยสินเชื่อเนื่องจากภาวะหนี้ครัวเรือนอยู่ในระดับสูง อย่างไรก็ตาม ประเมินว่าผู้บริโภคยังมีความต้องการซื้อรถใหม่และรถมือสอง

สำหรับบัตรเข้าชมงานฯ มีจำหน่ายบริเวณด้านหน้างาน และ ทางออนไลน์ ผ่านไลน์แอปพลิเคชั่น ทั้งนี้นอกจากสิทธิประโยชน์จากการร่วมลุ้นรางวัลรถยนต์และรถจักรยานยนต์แล้ว สามารถนำบัตรเข้าชมงานแบบซื้อที่ลงทะเบียนเรียบร้อยแล้ว มาร่วมกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลต่างๆมากมายได้ที่ บูธกิจกรรมพิเศษ ภายในอาคารฟอรั่ม ฮอลล์4 และ สำหรับการจัดงานฯ ครั้งนี้ ผู้จัดงานฯ ได้จัดเตรียมรถshuttle ไว้อำนวยความสะดวก สำหรับผู้ที่เดินทางด้วยรถไฟฟ้า BTS สายสีชมพู สามารถลงที่สถานีศรีรัช แล้วต่อรถ shuttle ที่ผู้จัดงานฯได้เตรียมไว้ เพื่อเข้าสู่งาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46 เส้นทางศรีรัช - ACTIVE HALL 4 โดยไม่มีค่าใช้จ่ายแต่ประการใด

งาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46 เริ่มวันที่ 26 มีนาคม – 6 เมษายน 2568 ณ อิมแพค ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 1-3 และ ฟอรั่ม ฮอลล์ 4 เมืองทองธานี งานแสดงเทคโนโลยียานยนต์ อันดับ 1 ของเมืองไทย


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top