Tuesday, 22 April 2025
มอก

สมอ. เตือนอย่าลืมติด QR code ย้ำต้องแสดงคู่เครื่องหมาย มอก. ให้เช็กได้ 

สมอ. ย้ำเตือนผู้รับใบอนุญาต มอก. กว่า 10,000 ราย ต้องแสดง QR code รายละเอียดสินค้าคู่กับเครื่องหมาย มอก. ให้ประชาชนสามารถตรวจสอบได้ พร้อมทั้งร้องเรียนในกรณีสงสัยในคุณภาพของสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐาน หลังจากมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2564 ที่ผ่านมา ฝ่าฝืนปรับ 3 แสนบาท

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า กระทรวงอุตสาหกรรมประกาศเป็นนโยบายให้ทุกหน่วยงานในสังกัดนำระบบอิเล็กทรอนิกส์มาใช้ในกระบวนการทำงาน เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ประกอบการและประชาชนให้มากยิ่งขึ้น ตามนโยบาย Ease of Doing Business ของรัฐบาล โดยเฉพาะภารกิจด้านการอนุญาตที่ต้องดำเนินการด้วยความรวดเร็ว เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันประชาชนก็สามารถตรวจสอบได้ เช่น รายละเอียดข้อมูลของสินค้าที่ได้มาตรฐาน สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ได้ประกาศให้ผู้รับอนุญาตทุกรายต้องแสดง QR Code คู่กับเครื่องหมายมาตรฐานที่สินค้าด้วย ซึ่งเป็นไปตาม พ.ร.บ. มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม 

และกฎกระทรวงว่าด้วยการกำหนดลักษณะ การทำ วิธีแสดง และการใช้เครื่องหมายมาตรฐานกับผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม พ.ศ. 2563 ที่กำหนดให้ผู้รับอนุญาตทุกราย ต้องแสดงรายละเอียดข้อมูลในใบอนุญาต และข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าที่ได้รับใบอนุญาตในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ คู่กับเครื่องหมายมาตรฐานที่สินค้า หรือสิ่งบรรจุ หีบห่อ สิ่งหุ้มห่อด้วยก็ได้ โดยให้เห็นได้ง่ายและชัดเจน ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2564 ที่ผ่านมา ทั้งนี้ เพื่อให้ประชาชนสามารถตรวจสอบและร้องเรียนได้ว่า สินค้าดี มีคุณภาพ และเป็นไปตามมาตรฐานหรือไม่ ซึ่งเป็นไปตามนโยบายรัฐบาลเพื่อคุ้มครองประชาชนให้ปลอดภัยจากการใช้สินค้า

ด้าน นายบรรจง สุกรีฑา เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม กล่าวเพิ่มเติมว่า สมอ. มีผู้ประกอบการที่ได้รับใบอนุญาต ทั้งที่เป็นผู้ทำในประเทศ และผู้นำเข้ากว่า 10,000 ราย จำนวนใบอนุญาตกว่า 80,000 ฉบับ ครอบคลุมกว่า 800 มาตรฐาน ซึ่งตาม พ.ร.บ.มาตรฐานฯ และกฎกระทรวงฉบับใหม่ กำหนดให้ผู้รับอนุญาตทุกรายจะต้องแสดงรายละเอียดข้อมูลในใบอนุญาต และข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าที่ได้รับใบอนุญาตในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ คู่กับเครื่องหมายมาตรฐานที่สินค้าด้วย สมอ. จึงได้จัดทำเป็น QR Code เพื่อให้ผู้รับอนุญาตนำไปแสดงบนสินค้าที่ได้รับใบอนุญาต ซึ่งจะทำให้ประชาชนสามารถตรวจสอบรายละเอียดของสินค้าได้ง่าย ๆ เพียงสแกน QR Code ก่อนตัดสินใจซื้อ รวมทั้งเป็นข้อมูลในการตรวจสอบหรือร้องเรียนในกรณีที่สินค้าไม่เป็นไปตามมาตรฐานตามที่ระบุไว้

“สมอ. ขอย้ำเตือนผู้รับใบอนุญาตทุกราย รีบดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมาย หาก สมอ. ตรวจพบจะตักเตือนก่อนในครั้งแรก และหากยังพบการกระทำผิดซ้ำ จะดำเนินการตามกฎหมายทันที ซึ่งต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 3 แสนบาท และต้องถูกพักใช้ใบอนุญาตอีกด้วย โดยสามารถดูรายละเอียดได้ที่ www.tisi.go.th และ www.facebook.com/tisiofficial หรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ กองตรวจการมาตรฐาน 1 โทร. 02-430-6822, กองตรวจการมาตรฐาน 2 โทร. 02-430-6823 และกองตรวจการมาตรฐาน 3 โทร. 02-430-6824” เลขาธิการ สมอ. กล่าวทิ้งท้าย

‘รมว.ปุ้ย’ ระทึก!! หลังเจอเหตุพาวเวอร์แบงก์บึ้ม ไฟลต์ กทม.-เมืองคอน จี้สนามบินตรวจ ‘มอก.’ ก่อนขึ้นเครื่อง สั่ง ‘สมอ.’ คุมเข้มโรงงานผลิต-นำเข้า

เมื่อวันที่ 24 ก.พ. 67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินโดยสารสายการบินไทยแอร์เอเชีย เที่ยวบิน FD3188 ระหว่างกำลังบินจากสนามบินดอนเมืองมุ่งหน้านครศรีธรรมราช เกิดเหตุการณ์พาวเวอร์แบงก์ของผู้โดยสารระเบิดบนเครื่องบิน ทำให้ผู้โดยสาร 186 ชีวิต ต่างอยู่ในอาการแตกตื่นกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก่อนลูกเรือบนเครื่องบินสามารถดับไฟได้สำเร็จ

ทั้งนี้ น.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม หนึ่งในผู้โดยสารที่อยู่บนเครื่องบินลำดังกล่าว ระบุว่า เดินทางคนเดียวเพื่อกลับบ้านที่ จ.นครศรีธรรมราช เพื่อไปหาลูกสาว 2 คน โดยนั่งข้างหน้าแถวที่ 2 แต่จุดเกิดเหตุอยู่บริเวณกลางๆ ของเครื่อง อยู่ดีๆ มีคนส่งเสียง ลุกขึ้น เราก็หันดูว่าเกิดเหตุอะไร ได้กลิ่นไหม้ ไม่รู้เกิดอะไรขึ้น แอร์โฮสเตสบอกให้นั่งลงและเดินไปเดินมาหาตัวดับเพลิง

“ตอนนั้นคิดว่าน่าจะอะไรไหม้สักอย่างแต่ไม่รู้ สักพักแอร์โทรหากัปตันและเข้าไปห้องกัปตันก่อนจะออกมา และเดินไปเดินมาสักพัก ซึ่งตัวเองก็ตกใจและดูนาฬิกาว่าใกล้ถึงหรือยัง ก็เหลือประมาณ 15 นาทีจะถึง แต่ก็สงสัยว่าตกลงเป็นอะไร เพราะไม่มีการพูดอะไร แต่มีคนตกใจยืนอยู่” น.ส.พิมพ์ภัทรากล่าว และว่า จากนั้นแอร์ก็ไปหยิบถังขยะมาและใส่ถุงพลาสติก และหยิบน้ำจากขวดเล็กๆ จากตู้รถเข็นอาหารมาเททีละขวด ส่วนตัวเมื่อเห็นแล้วจึงเข้าไปช่วย เพราะคิดว่าชีวิตเราขึ้นอยู่กับน้ำตรงนี้หรือเปล่า เลยเข้าไปช่วยทันที และมีผู้โดยสารอีก 2 คนไปช่วยกัน ตอนนั้นไม่รู้แอร์จะเอาไปทำอะไร แต่ก็ช่วยไปก่อน จนแอร์ดับไฟสำเร็จ

น.ส.พิมพ์ภัทรา กล่าวว่า พอลงเครื่องมาก็ยังไม่ได้ถามอะไรกับสายการบิน เพราะเจอเหตุการณ์ของเครื่องบินบ่อย เช่น ล้อไม่กาง แต่ครั้งนี้มีกลิ่นและเป็นไฟเลยกังวลกว่าปกติ จนมารู้ทีหลังว่ามีนักข่าวในพื้นที่นครศรีธรรมราชนั่งอยู่ในเครื่องไปโพสต์และเป็นข่าวออกมา จึงโทรไปถามว่าอยู่บนเครื่องด้วยหรือ จึงทราบว่านักข่าวนั่งข้างหลัง เห็นเหตุการณ์ นักข่าวบอกเห็นประกายไฟ

“เหตุการณ์ครั้งนี้ถือว่าแอร์ก็แก้ปัญหาได้ดี มีสติ แต่ไม่มีประกาศอะไรออกมา คนที่ลุกก็คือคนที่เกิดเหตุ ส่วนตัวพอรู้ว่าเป็นไฟ นึกถึงลูกๆ เลย ลูก 2 คน มองว่าเป็นการจัดการของสายการบิน ก็โอเค เพราะทุกคนไม่ตื่นตูม ไม่ช็อกตกใจจนอาจทำอะไรที่อันตรายได้ อย่างผู้โดยสารข้างๆ ก็พยายามถามแอร์ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่แอร์ไม่ตอบ เพราะกำลังพยายามแก้ไขปัญหาตรงหน้า” น.ส.พิมพ์ภัทรากล่าว

น.ส.พิมพ์ภัทรา กล่าวด้วยว่า เหตุการณ์นี้ในฐานะผู้อยู่ในเหตุการณ์เข้าใจการทำงานของสายการบินแอร์เอเชีย แต่ก็รู้สึกห่วงใยผู้โดยสาร ประชาชน เพราะแทบทุกคนต่างพกพาวเวอร์แบงก์ขึ้นเครื่อง ดังนั้น จะสั่งการให้ นายวันชัย พนมชัย เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) เข้าไปดูเรื่องความปลอดภัยที่เข้มข้น เพื่อให้เกิดความปลอดภัยกับประชาชนให้มากที่สุด

น.ส.พิมพ์ภัทรา กล่าวอีกว่า อยากเรียกร้องให้ผู้บริโภค สายการบิน และเจ้าหน้าที่สนามบิน ตรวจสอบพาวเวอร์แบงก์ที่ผู้โดยสารจะนำขึ้นเครื่อง ต้องมีสัญลักษณ์มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) เท่านั้น เนื่องจากพาวเวอร์แบงก์เป็นสินค้าควบคุมของ สมอ.ตั้งแต่ปลายปี 2563 คุณภาพต้องได้มาตรฐาน อาทิ ทนความร้อน ความจุไฟฟ้าที่กำหนด ที่ผ่านมา สมอ.ได้ส่งเจ้าหน้าที่ตรวจเข้มโรงงานผลิตรวมถึงผู้นำเข้า

หากพบผู้ใดฝ่าฝืนนำเข้า หรือผลิตพาวเวอร์แบงก์ไม่ขออนุญาตจะมีโทษตามกฎหมาย กรณีที่ทำ หรือนำเข้าสินค้าโดยไม่ได้รับอนุญาต จำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 2 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และร้านค้าที่จำหน่ายสินค้าที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐาน มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ล่าสุดสายการบินแอร์เอเชียออกแถลงการณ์ว่า ชี้แจงกรณีเที่ยวบิน FD3188 เส้นทางดอนเมือง-นครศรีธรรมราช ออกเดินทางจากท่าอากาศยานดอนเมือง เวลา 07.20 น. ได้พบเหตุแบตเตอรี่สำรอง (พาวเวอร์แบงก์) ของผู้โดยสารที่เดินทางในเที่ยวบินดังกล่าวเกิดมีควันและไฟลุกไหม้ ซึ่งพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินที่ได้รับการฝึกนำถังดับเพลิงควบคุมสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็ว โดยผู้โดยสารทุกคนปลอดภัย และเที่ยวบินได้ลงจอด ณ ท่าอากาศยานปลายทางอย่างปลอดภัย

ทั้งนี้ สายการบินขอขอบคุณผู้โดยสารที่นั่งบริเวณดังกล่าวที่ช่วยสังเกต พร้อมให้ความช่วยเหลือร่วมมือกับพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินของสายการบินด้วยความเรียบร้อยเป็นอย่างดี อย่างไรก็ตาม สายการบินแนะนำผู้โดยสารทุกคนโปรดตรวจสอบแบตเตอรี่สำรองก่อนนำขึ้นเครื่องให้มีคุณภาพและขนาดตามที่กำหนด โดยแบตเตอรี่สำรองจะไม่ได้รับอนุญาตให้บรรจุลงในสัมภาระใต้ท้องเครื่อง (ถือขึ้นเครื่องตามขนาดที่กำหนดเท่านั้น) เนื่องจากหากพบเหตุการณ์ที่ไม่ปกติ พนักงานที่ได้รับการฝึกจะสามารถดำเนินการได้อย่างทันท่วงที


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top