Tuesday, 22 April 2025
มหาอำนาจโลก

เปิด 6 ชาติอาเซียนผนึก 'จีน-รัสเซีย' ต่อกร 'มหาอำนาจโลกเก่า' ที่จ้องเอาเปรียบ

จากสถานการณ์มหาอำนาจโลก อย่างสหรัฐกลุ่มประเทศตะวันตก กำลังเผชิญหน้ากับรัสเซียและจีน รวมทั้งพันธมิตรตะวันออก ซึ่งมีอาเซียนเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งด้วย โดยมีความเคลื่อนไหวที่ถูกจับตามองว่าจะเข้ากับฝ่ายไหนนั้น

ล่าสุดวานนี้ (11 มิ.ย. 65) เพจ World Update ได้โพสต์ภาพพร้อมข้อความโดยระบุที่มา AP, VOAthai, Global Time, The Time, ลึกชัดกับผิงผิง (สื่อจีน) และ ข่าวสารอาเซียน ซึ่งมีเนื้อหาที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่งต่อการขับเคลื่อนกลุ่มประเทศอาเซียน โดยมีข้อความบางส่วนที่สำคัญดังนี้

“กัมพูชา ลาว ติมอร์-เลสเต มาเลเซีย เวียดนาม เมียนมา เร่งขยายความร่วมมือฝ่ายระเบียบโลกใหม่ การแข่งขันหาพันธมิตรที่แน่นแฟ้นระหว่าง “ฝ่ายระเบียบโลกเก่าขั้วเดียวผูกขาด” ที่นำโดยสหรัฐ อังกฤษ ที่ครองอำนาจโลกมานานกว่า 7 ทศวรรษ กับ “ฝ่ายระเบียบโลกใหม่หลายขั้วที่เป็นธรรม” รัสเซีย-จีน 

โดยการแข่งขันชิงอำนาจโลกนี้น่าจะดำเนินไปอีกอย่างน้อย 3 ปี ฝ่ายใดกุมพลังงาน อาหาร อาวุธร้ายแรงไว้ได้ และเน้นใช้พระคุณ ก็จะชนะฝ่ายกุมเงินตรา แต่ใช้พระเดชในที่สุด

สำหรับภูมิภาคอาเซียนนั้น หากใครครองย่านนี้ได้ ก็ย่อมมีผลแพ้ชนะที่สำคัญ โดยฝ่ายระเบียบโลกเก่า พยายามดึงอาเซียนไปเป็นคู่ขัดแย้งกับจีนในยุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิก (NATO-2) โดยฐานยิงขีปนาวุธย้ายจากอาเซียนไปญี่ปุ่น เพื่อช่วยไต้หวัน แต่ในทางกลับกัน Asian - NATO ไม่มีความคืบหน้าใดๆ 

ล่าสุดทางฝ่ายจัดระเบียบโลกใหม่รุกคืบช้าๆ แต่ทว่ามั่นคง เริ่มจาก...

>> #กัมพูชา 
จีนเดินหน้าช่วยต่อเติมฐานทัพเรือเรียม เมืองสีหนุวิลล์ในอ่าวไทย มูลค่าราว 4,640 หยวน (24,000 ล้านบาท) เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับศักยภาพของกองทัพเรือกัมพูชา ในทางลับ จีนให้กัมพูชายืมเรือดำน้ำมาใช้ และเพิ่งส่งอาวุธหนักปืนใหญ่ จรวดหลายลำกล้อง รถหุ้มเกราะ ยานลำเลียงพล ฯลฯ จำนวนมากมาให้ประจำการ

>> #เมียนมา
จีนให้ยืมเรือดำน้ำมาใช้ในการปกป้องทะเลอันดามัน ชายฝั่งเมืองเจ้าก์ผิ่ว เป็นที่ตั้งของฐานทัพเรือดะญะวดีของกองทัพเรือ โดยเป็นต้นทางท่อก๊าซและน้ำมันของจีน ที่วางพาดผ่านพื้นที่เมียนมาขึ้นไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ข้ามชายแดนที่รัฐฉาน ส่งก๊าซและน้ำมันเข้าไปในจีนทางมณฑลยูนนาน และเป็นปลายทางของระเบียงเศรษฐกิจจีน-พม่า ที่รัฐบาลจีนใช้เป็นเส้นทางออกสู่ทะเลทางมหาสมุทรอินเดียที่สั้นที่สุด

โดยบริษัทของรัฐบาลจีนกำลังมีการก่อสร้างเขตเศรษฐกิจพิเศษและท่าเรือน้ำลึกอยู่ในเมืองเจ้าก์ผิ่ว เมียนมาในขณะนี้ รวมทั้งจีนได้สนับสนุนเครื่องบินรบ ขีปนาวุธ ยานเกราะ รถลำเลียงพล อากาศยานโดรน ปืนสงครามอิเล็กทรอนิกส์สอยโดรน ฯลฯ 

นอกจากนี้ยังทำรางรถไฟเจาะทะลุภูเขาจากยูนาน เพื่อเชื่อมการเดินทางกับพม่าเสร็จเรียบร้อยแล้ว คล้ายเชื่อมกับลาวทางตอนเหนือ

>> #ลาว 
ได้รับความช่วยเหลือทางทหารจากกองทัพรัสเซีย เบลารุส เช่น สนามบินทหาร เครื่องบินรบ ขีปนาวุธ รถถัง โดยขนย้ายเข้ามาจากท่าเรือผ่านประเทศเวียดนาม 

ช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา พล.ต.กราเยฟ ดิมิทรี วราดิมีโรวิช หัวหน้าสำนักงานผู้แทนกระทรวงกลาโหมรัสเซีย ประจำลาว ได้เดินสายเยี่ยมหน่วยทหารในพื้นที่ หลวงพระบาง และแขวงไซยะบูลี ภาคเหนือของลาว พร้อมช่วยเสริมเขี้ยวเล็บ ตรวจสอบ ประเมินสภาพอาวุธยุทโธปกรณ์ ยานพาหนะที่มี ให้การช่วยเหลือปรับปรุงให้ทันสมัย 

>> #เวียดนาม 
สำหรับเวียดนามนั้น ได้สมัครเข้าร่วมเป็นสมาชิกกลุ่ม BRICS ที่นำโดยรัสเซีย - จีน - อินเดีย แล้ว มีประชากรรวมกันกว่า 40% ของโลก ทำให้มีตลาดผู้บริโภค และฐานการผลิตขนาดใหญ่ ซึ่งมีศักยภาพทางเศรษฐกิจเป็นอย่างมาก 

โดยในปี 2021 มีมูลค่าการค้าร่วมกันราว 16.6 ล้านล้านบาท มีอัตราเพิ่มขึ้น 39.2% ต่อปี และมีระบบ “ศุลกากรอัจฉริยะ” เชื่อมต่อระหว่างกัน

‘จีน - รัสเซีย’ 2 มหาอำนาจกระชากหน้ากากโจร ชี้ โลกต้องได้รู้ ‘ผู้ร้ายตัวจริง’ ล้มแผนเจรจา ‘รัสเซีย - ยูเครน’

(22 มี.ค.66) Proactive PR : Strategy to win the game สองมหาอำนาจจับมือมั่นเพื่อกลยุทธ์ใช้สื่อกระชากหน้ากากโจร

หากใครได้ติดตามข่าวใหญ่สัปดาห์นี้เรื่องการเยือนรัสเซียอย่างเป็นทางการของประธานาธิบดี สีจิ้นผิง แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ได้พบปะหารือกับประธานาธิบดีปูตินแห่งรัสเซีย เรื่องความร่วมมือระหว่างทั้งสองมหาอำนาจในหลากมิติและหลายเรื่องที่จะทำให้ทั้งสองประเทศกระชับมิตรภาพให้แน่นแฟ้นมากขึ้น แต่ไฮไลท์สำคัญของการหารือคือ การเสนอแผนเจรจาสันติภาพและการหยุดยิงระหว่างรัสเซียกับยูเครน โดยจีนจะเป็นคนกลางในการเจรจา ภาพการสนทนาของผู้นำทั้งสองคนมีนัยสำคัญในเชิงบวก ทั้งสารัตถะในการเจรจา การจัดสถานที่ในการจัดเจรจาที่ให้เกียรติเสมอกันและดูถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน 

ตัดภาพไปอีกภาพอีกคนละทวีป เจ้าหน้าที่หลายฝ่ายหลายระดับของสหรัฐอเมริกาได้แถลงข่าวในทำนองเดียวกันทุกส่วนว่า ไม่เห็นด้วยกับการดำเนินการของจีนในการเสนอแผนเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียกับยูเครน ทุกหน่วยออกข่าวออกมาในเชิงกร้าวร้าว ไม่เห็นด้วย และจะไม่ยอมให้เกิดการเจรจาได้อย่างแน่นอน

ในมุมมองของการประชาสัมพันธ์ ตัวแสดงในเรื่องนี้มี 2 ฝั่ง

ฝั่งระเบียบโลกเก่า ที่มีอเมริกาเป็นคนสั่งซ้ายหันขวาหันมาตลอดหลายสิบปีตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ยุติลง อีกฝั่งคือผู้ท้าทายที่จะกำหนดให้มีระเบียบโลกหลายขั้ว เพื่อความเสมอภาคและเพื่อความร่วมมือทางความมั่นคงและเศรษฐกิจการค้าที่ถ้อยทีถ้อยอาศัยกันและไม่อยู่ในความควบคุมจากระเบียบโลกขั้วเดียวแบบเดิม ๆ 

เฉพาะในกรณีของการทำข่าวในช่วงเวลาเดียวกันและประเด็นข่าวเดียวกันคือ #แผนเจรจาสันติภาพ

ทางฝ่ายรัสเซีย เป็นคู่กรณีโดยตรงกับยูเครน โดยมีจีนเป็นพันธมิตรที่แนบแน่นเสนอตัวเป็นตัวกลางในการเสนอกรอบการเจรจาสันติภาพ ในขณะที่อีกฝ่ายนั้นคือ ยูเครนที่เป็นคู่กรณีโดยตรงในกรณีพิพาท โดยมีนาโต้หลายสิบชาติที่มีเขตแดนติดกันและร่วมทวีปยุโรปด้วยกันทำหน้าที่ให้การสนับสนุนทั้งอาวุธยุทโธปกรณ์และเงินกู้ยืมเพื่อการสนับสนุน โดยมีสหรัฐอเมริกาและอังกฤษเป็นผู้คุมเกม ที่ก่อนหน้าแสดงตัวอยู่เบื้องหลัง แต่จากกรณีนี้จำเป็นต้องมาแสดงเบื้องหน้าอย่างโจ่งแจ้งว่าเป็นหัวโจกตัวจริง ออกมาแสดงความเห็นว่าไม่เห็นด้วยกับการเสนอแผนเจรจาสันติภาพโดยจีนเด็ดขาด จะเจรจาหรือไม่ฝ่ายที่จะต้องเป็นผู้กำหนดกติกาต่างๆ คือ อเมริกา (ที่ไม่ใช่เจ้าของดินแดน และไม่ใช่สมาชิกของทวีปยุโรปแต่อย่างใด)

ในมุมการออกข่าวให้สาธารณชนรับรู้และให้โลกได้คำนึงถึงว่า คู่กรณีตัวจริงฝ่ายหนึ่งที่พร้อมจะเปิดทางให้มีการเจรจาสันติภาพ กับอีกฝ่ายหนึ่ง ที่ไม่ใช่เจ้าของดินแดน และไม่ใช่คู่กรณีโดยตรง แต่พยายามจะรับบทผู้นำในการเจรจา ในที่สุดก็ทำให้ทุกคนได้รับรู้ว่าผู้ที่อยู่เบื้องหลังในการทำสงครามกันคือ ผู้ที่ต้องการกุมอำนาจในการกำหนดทิศทางโลกแต่เพียงผู้เดียว

สหรัฐฯ ชี้!! จีนพยายามก้าวขึ้นเป็นอันดับ 1 ของโลก หวังครอบงำโลกในด้านการทหาร-เศรษฐกิจ-การทูต

(29 ก.ย. 66) นายแอนโทนี บลิงเกน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ ออกมาระบุว่า จีนกำลังพยายามที่จะแซงหน้าสหรัฐเพื่อก้าวขึ้นเป็นมหาอำนาจโลก หลังถูกตามในเวทีที่จัดขึ้นโดยนิตยสารแอตแลนติก เมื่อวันที่ 28 กันยายน

เมื่อถูกตั้งคำถามเกี่ยวกับสิ่งที่เขามองว่าเป็นความมุ่งหมายของจีน บลิงเกนกล่าวว่า “ผมคิดว่าสิ่งที่จีนต้องการคือการเป็นมหาอำนาจที่ครอบงำโลก ทั้งด้านการทหาร เศรษฐกิจ และการทูต นั่นคือสิ่งที่สี จิ้นผิง กำลังพยายามทำ

อย่างไรก็ดี บลิงเกนรับว่า ในแง่หนึ่งมันไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ เพราะจีนมีประวัติศาสตร์ที่ไม่ธรรมดา ถ้าคุณมองและฟังผู้นำจีน พวกเขากำลังพยายามกอบกู้สิ่งที่พวกเขาเชื่อว่า เป็นที่ทางอันถูกต้องของพวกเขาบนโลกนี้

บลิงเกนยังกล่าวด้วยว่า เดิมพันในเรื่องไต้หวันนั้นสูงเป็นพิเศษ เพราะไต้หวันมีบทบาทในเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะการเป็นศูนย์กลางของเซมิคอนดักเตอร์ขั้นสูง หากมีวิกฤตที่ไต้หวันซึ่งมาจากการกระทำของจีน ก็จะทำให้เกิดวิกฤตเศรษฐกิจโลก

“ผมคิดว่าสิ่งที่จีนได้ยินเพิ่มขึ้นจากประเทศต่างๆ ทั่วโลกคืออย่ากวนน้ำให้ขุ่น เราต้องการ และทุกคนก็ต้องการ สันติภาพและความมั่นคง ทุกคนต้องการให้มีการรักษาสถานะที่ดำรงอยู่ในขณะนี้ต่อไป” บลิงเกนกล่าว

ก่อนหน้านี้บลิงเกนเคยพูดอ้อมๆ ถึงความปรารถนาของจีนที่จะปรับเปลี่ยนระเบียบโลก และฝ่ายบริหารของสหรัฐภายใต้การนำของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ที่แม้จะกดดันจีนอย่างชัดเจน แต่ก็ยังพยายามที่จะเจรจาด้วยความหวังว่าจะจัดการกับความตึงเครียดระหว่างกัน ซึ่งนำไปสู่การเยือนจีนของบลิงเกนในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา แต่ก็ดูเหมือนว่าจะไม่ได้ช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้นเท่าใดนัก


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top