Monday, 21 April 2025
พิพัฒน์รัชกิจประการ

'กระทรวงแรงงาน' ดีลสำเร็จ!! งานโรงพยาบาลญี่ปุ่น ปี 67 - 68   พร้อมรับแรงงานทักษะเฉพาะเพิ่ม 200% เงินเดือนเริ่มต้น 6 หมื่นบา

(10 เม.ย.67) นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มอบหมายนายสมชาย มรกตศรีวรรณ อธิบดีกรมการจัดหางาน หารือด้านขยายตลาดแรงงาน ร่วมกับ Mr.Daiki KAMO ผู้บริหารบริษัท Medical Corporation MIDORI-KAI และผู้แทนองค์กรผู้รับ พร้อมตรวจเยี่ยมผู้ฝึกปฏิบัติงานด้านเทคนิคในความดูแล ณ โรงพยาบาล Midorikai Medical Corporation Takesato Hospital เมืองคาสุคาเบะ จังหวัดไซตามะ 

นายสมชาย เปิดเผยว่า งานบริบาลผู้ป่วยหรือผู้สูงอายุ เป็นอีกหนึ่งสาขาอาชีพที่กรมการจัดหางานให้ความสำคัญต้องการผลักดันและส่งเสริมให้นายจ้างญี่ปุ่นนำเข้าแรงงานไทยเป็นจำนวนมาก โอกาสนี้ได้หารือถึงความเป็นไปได้ในการจ้างแรงงานไทยในอนาคตตามนโยบายของโรงพยาบาล และสิ่งที่ต้องการให้กรมการจัดหางานสนับสนุน เพื่อส่งเสริมการจ้างแรงงานไทยในภาคบริบาล เนื่องจากเป็นตำแหน่งงานที่ประเทศญี่ปุ่นขาดแคลนแรงงาน และให้ค่าตอบแทนสูง เดือนละประมาณ 250,000 เยน หรือราว 6 หมื่นบาท 

สำหรับโรงพยาบาล Midorikai Medical ก่อตั้งในปี พ.ศ. 2545 เป็นศูนย์ดูแลและรักษาผู้ป่วยอัลไซเมอร์ ขนาด 274 เตียง อาคาร 5 ตึก แบ่งการดูแลตามสภาพของผู้ป่วย มีการรับผู้ฝึกปฏิบัติงานด้านเทคนิค และแรงงานทักษะเฉพาะชาวไทย 17 ราย ประกอบด้วย ผู้ฝึกปฏิบัติงานด้านเทคนิค 8 ราย แรงงานทักษะเฉพาะ 8 ราย และอยู่ระหว่างยื่นขอวีซ่าทำงานประเภทบริบาล 1 ราย ซึ่งทางโรงพยาบาลยินดีรับแรงงานทักษะเฉพาะจากประเทศไทยในปีนี้และปี 2568 เพิ่มจำนวน 10 คน 

ขณะที่ในส่วนองค์กรผู้รับ มีแผนรับแรงงานทักษะเฉพาะ สาขางานบริบาล ซึ่งจัดส่งผ่านบริษัทจัดหางานที่ถูกต้องตามกฎหมายในประเทศไทย ในปี 2567 สาขางานบริบาล ประมาณ 30 คน และปี 2568 รวม 50 คน แบ่งเป็นสาขางานบริบาล ประมาณ 30 คน และสาขางานสายโรงงาน ประมาณ 20 คน ทั้งนี้ ถือว่าเพิ่มโอกาสในงานบริบาลให้แรงงานไทยถึง 252%

ในการนี้ อธิบดีกรมการจัดหางานได้เข้าเยี่ยมให้กำลังใจแรงงานไทยที่ทำงานอยู่ที่โรงพยาบาล Midorikai Medical พร้อมมอบโอวาทแก่แรงงานไทยที่เสียสละความสุขส่วนตัวห่างครอบครัวมาทำงานไกลบ้านแม้ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยอวยพรให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่พี่น้องแรงงานไทยเคารพนับถือ คุ้มครองและดลบันดาลให้มีแต่ความสุขสมหวังตามที่ตั้งใจทุกประการ

ผู้สนใจสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่กองบริหารแรงงานไทยไปต่างประเทศ กรมการจัดหางาน โทรศัพท์ 0 2245 1021 หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกระทรวงแรงงาน โทร. 1506 กด 2 กรมการจัดหางาน หรือสายด่วนกรมการจัดหางาน โทร.1694

พิพัฒน์ หนุนจ้างงานอุตสาหกรรมการบิน หารือไทยเวียตเจ็ทนำเครื่องพร้อมนักบินเข้า ลดค่าตั๋วบิน เสริมท่องเที่ยวในประเทศ

เมื่อวันที่ (14 ส.ค.67) เวลา 13.30 น. นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ให้การต้อนรับ นายวรเนติ หล้าพระบาง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท ไทยเวียตเจ็ท แอร์ จอยท์ สต๊อค จำกัด ในโอกาสเข้าพบเพื่อเยี่ยมคารวะและหารือการส่งเสริมการจ้างงานที่เพิ่มขึ้นของอุตสาหกรรมการบินเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว โดยมี นายภุชงค์ วรศรี ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่ประจำกระทรวงแรงงาน นายวรรณรัตน์ ศรีสุขใส รองปลัดกระทรวงแรงงาน นายเดชา พฤกษ์พัฒนรักษ์ รองปลัดกระทรวงแรงงาน นายสมชาย มรกตศรีวรรณ อธิบดีกรมการจัดหางาน เข้าร่วม ณ ห้องจัตุมงคล ชั้น 6 อาคารกระทรวงแรงงาน 

นายพิพัฒน์ กล่าวว่า ผมขอขอบคุณคณะผู้บริหารบริษัท ไทยเวียตเจ็ทฯ ที่มาเยี่ยมเยียนกระทรวงแรงงานในวันนี้ รวมถึงหารือกันในประเด็นการขอเพิ่มจำนวนนักบินและเครื่องบินนำเข้ามาในประเทศเพื่อให้แรงงานมีงานทำ มีรายได้มากขึ้นในอุตสาหกรรมการบิน ซึ่งในเรื่องนี้ผมได้มอบหมายให้อธิบดีกรมการจัดหางานไปหารือในรายละเอียดข้อกฎหมายกับผู้เกี่ยวข้อง เกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการออกประกาศ เพื่อให้นักบินต่างชาติเข้ามาบินได้ในระยะเวลาสั้นๆ เช่นระยะ 6 เดือน เพื่อทำให้ช่วยแก้ไขปัญหาสายการบินขาดแคลนนักบิน ขณะเดียวกันจะเป็นการช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยว ที่สำคัญจะทำให้ค่าตั๋วโดยสารมีราคาถูกลงจากปัจจุบันลงได้

นายพิพัฒน์ กล่าวต่อว่า รัฐบาลมีนโยบายสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยเฉพาะการออกมาตรการต่างๆ เพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ผมขอขอบคุณและชื่นชมผู้บริหารบริษัทไทยเวียตเจ็ท ที่บริษัทมีแนวทางการพัฒนานักบิน ส่งเสริมการจ้างงานในอุตสาหกรรมการบินอย่างต่อเนื่อง เป็นผลทำให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวเติบโตและฟื้นตัวโดยเร็ว สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลในปัจจุบัน 

ด้าน นายวรเนติ หล้าพระบาง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยเวียตเจ็ท แอร์ จอยท์ สต๊อค จำกัด กล่าวว่า ในนามบริษัท ไทยเวียตเจ็ทฯ ขอขอบคุณท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และคณะที่เปิดโอกาสให้เข้าพบและหารือเรื่องการจ้างงานในอุตสาหกรรมการบินในวันนี้ ซึ่งที่ผ่านมาไทยเวียตเจ็ทเราเป็นบริษัทสายการบินที่ไม่เคยปลดพนักงานมาก่อน และเราดูแลพนักงานอย่างดีที่สุด แม้ตั้งแต่ช่วงโควิดที่ผ่านมาหลายบริษัทลดกำลังการผลิตลง แม้กระทั่งธุรกิจสายการบินเองก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน แต่บริษัทขอชื่นชมนโยบายรัฐบาลที่มีมาตรการต่างๆ ออกมาอย่างชัดเจน เช่น ฟรีวีซ่าให้กับนักท่องเที่ยว เพื่อช่วยกระตุ้นและส่งเสริมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวให้กลับมาฟื้นตัวได้โดยเร็ว ซึ่งบริษัทมีแผนที่จะเพิ่มจำนวนนักบินให้ได้ 300 คน เพิ่มจำนวนพนักงานเป็น 2,500 - 3,000 อัตรา ภายใน 5 ปี เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว การจ้างงาน และขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ

'พิพัฒน์' มุ่งสร้างความสุขในองค์กร หารือ สสส. ร่วมยกระดับคุณภาพชีวิตคนทำงาน

วันที่ 16 สิงหาคม 2567 เวลา 13.30 น. นายพิพัฒน์รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ให้การต้อนรับ นายอาทิตย์ อิสโม นายกสมาคมผู้นำการเปลี่ยนแปลงเพื่อพัฒนาแรงงาน ที่ได้นำนายแพทย์พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ ผู้อำนวยการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และคณะเข้าพบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เพื่อหารือการดำเนินกิจกรรมพัฒนาคุณภาพชีวิตแรงงานด้วยการสร้างสุขภาวะในองค์กร (Happy Workplace) โดยมี นายอารี ไกรนรา เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูงกระทรวงแรงงาน เข้าร่วม ณ ห้องจัตุมงคล ชั้น 6 อาคารกระทรวงแรงงาน     

นายพิพัฒน์ กล่าวว่า ผมพร้อมด้วยผู้บริหารกระทรวงแรงงาน ขอขอบคุณผู้อำนวยการกองทุน สสส.และคณะ ที่ได้มาเยี่ยมเยียนถึงกระทรวงแรงงานในวันนี้ ซึ่งที่ผ่านมากระทรวงแรงงานกับ สสส.ได้ทำงานร่วมกันมาอย่างต่อเนื่อง และขอขอบคุณที่ สสส.ได้สนับสนุนงบประมาณกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานในการขับเคลื่อนงานด้านการสร้างเสริมสุขภาพของพี่น้องผู้ใช้แรงงานในสถานประกอบการ การได้มาหารือกันในวันนี้จึงเป็นนิมิตรหมายที่ดีว่า นอกเหนือจากการขับเคลื่อนงานด้านสุขภาวะในองค์กรแล้ว สสส.จะมีแนวทางสนับสนุนความร่วมมือร่วมกับหน่วยงานอื่นๆ ในสังกัดกระทรวงแรงงานอย่างไร เช่น ความร่วมมือในการรณรงค์ป้องกันการเกิดอุบัติเหตุจากการทำงาน ซึ่งในส่วนนี้ผมได้มอบหมายให้ สสปท.ไปวางระบบป้องกันก่อนการเกิดเหตุ ซึ่งทุกหน่วยงานต้องช่วยกันป้องกันไว้ก่อนเพื่อไม่ให้เกิดเหตุแล้วมาเยียวยาทีหลัง

“ผมจะพัฒนากระทรวงแรงงานให้เป็นกระทรวงต้นแบบด้านองค์กรสุขภาวะ ซึ่งจะต้องอาศัยการทำงานร่วมกันกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง กระทรวงแรงงานเราเป็นกระทรวงที่ดูแลแรงงานตั้งแต่ระดับล่างสุดไปจนถึงแรงงานระดับสูงสุด เพราะทุกคนเป็นคนทำงานที่ต้องแลกกับรายได้ เราจึงต้องดูแลเพื่อให้แรงงานทุกภาคส่วนมีคุณภาพชีวิตที่ดีและมีสิทธิเท่าเทียมกันทั้งหมด ดังนั้น การหารือร่วมกันทั้งสองฝ่ายในวันนี้ กระทรวงแรงงานเองพร้อมสนับสนุนขับเคลื่อนความร่วมมือเพื่อมุ่งสร้างสุขภาวะในองค์กรและยกระดับคุณภาพชีวิตคนทำงานให้ดียิ่งขึ้น” นายพิพัฒน์ กล่าว    

ด้าน นายแพทย์พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ ผู้อำนวยการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า ในนาม สสส.ขอขอบคุณท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และคณะ ที่เปิดโอกาสให้เข้าพบเพื่อหารือความร่วมมือในการดำเนินกิจกรรมพัฒนาคุณภาพชีวิตแรงงานด้วยการสร้างสุขภาวะในองค์กร

ในวันนี้ และขอขอบคุณทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงาน สสส.เองเราให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาวะของวัยทำงานทุกคน และเรายินดีที่จะทำงานร่วมกันกับกระทรวงแรงงาน ในการสร้างสุขภาวะให้กับพี่น้องผู้ใช้แรงงานให้มีสุขภาวะที่สมบูรณ์ทั้งร่างกาย จิตใจ สังคม และจิตวิญญาณ เชื่อมโยงกันเป็นองค์รวม เพื่อให้กำลังแรงงานของประเทศเข้มแข็งและเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจต่อไป


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top