Wednesday, 23 April 2025
พล.ต.ท.ยิ่งยศ

“ผบช.ภ.2” สั่งคุมเข้มอาวุธ ป้องกันเมาทะเลาะวิวาทในแหล่งท่องเที่ยว กำชับทำคดีอย่างเป็นธรรม เหตุแทงหนุ่มญี่ปุ่นดับ พร้อมประสานสถานทูต ช่วยเหลือจัดการศพ

(29 ธ.ค. 67) พล.ต.ท.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 (ผบช.ภ.2) สั่งการตำรวจ สภ.เมืองพัทยา จว.ชลบุรี สอบสวนคดีทำร้ายชาวญี่ปุ่นจนเสียชีวิต หน้าสถานบันเทิงแห่งหนึ่ง เมื่อเช้าตรู่ที่ผ่านมา อย่างเป็นธรรมรอบคอบ และกำชับให้ออกมาตรการเข้มในการเฝ้าระวังกลุ่มคน บุคคลที่มีพฤติกรรมสุ่มเสี่ยง ป้องปรามการทะเลาะวิวาท การดื่มสุรา การรวมกลุ่มสังสรรค์ ของประชาชน และนักท่องเที่ยวที่อาจสุ่มเสี่ยงนำไปสู่การทะเลาะวิวาทรุนแรง โดยย้ำว่าต้องเพิ่มความถี่ในการออกตรวจ แสดงกำลังหรือปรากฏกายของเจ้าหน้าที่ พร้อมทั้งการสุ่มตรวจค้นอาวุธอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะในแหล่งท่องเที่ยวที่มีผู้คนจำนวนมาก

ผบช.ภ.2 เผยถึงเหตุการณ์ทำร้ายชาวญี่ปุ่นว่า รับรายงาน จาก พ.ต.อ.นาวิน ธีระวิทย์ ผกก.สภ.เมืองพัทยา ว่า เมื่อเวลาประมาณ 05.57 น. วันนี้ (29 ธันวาคม 2567) ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา รับแจ้งเหตุตรวจสอบพบชายชาวญี่ปุ่นถูกอาวุธมีดแทงที่หน้าอกได้รับบาดเจ็บสาหัส ในย่าน วอล์กกิ้งสตรีท พัทยา โดยนอนหมดสติ ทราบชื่อ นายเซตะ อายุ 27 ปี ประสานนำส่งโรงพยาบาลและเสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนผู้ก่อเหตุ ชื่อนายเดวิด อายุ 36 ปี ชาวไทย สามารถควบคุมตัวได้ทันทีในที่เกิดเหตุ สอบสวนผู้อยู่ในเหตุการณ์ทราบว่าผู้เสียชีวิตเห็นผู้ก่อเหตุมีปากเสียงกับแฟนสาว ถึงขั้นทำร้ายร่างกายอยู่ริมถนน จึงเข้าห้าม เกิดการชกต่อยกัน ก่อนแยกย้าย แต่ผู้เสียชีวิตได้กลับมาหาผู้ก่อเหตุอีกครั้งพุ่งเข้าจะชกต่อย ผู้ก่อเหตุจึงใช้มีดแทงไปที่ผู้เสียชีวิตจนล้มลง แล้ววิ่งหนี แต่ถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคุมตัวไว้ได้

“คดีนี้ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา ตรวจสถานที่เกิดเหตุ ยึดมีดของกลาง สอบปากคำพยานผู้เห็นเหตุการณ์ ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณที่เกิดเหตุ ให้ผู้เห็นเหตุการณ์ชี้ภาพยืนยันตัวผู้ก่อเหตุ นำร่างผู้เสียชีวิตส่งชันสูตร รพ.ตำรวจ ตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกายผู้ต้องหา ตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดในร่างกายผู้ต้องหา โดยได้กำชับให้ดำเนินคดีอย่างเป็นธรรม รอบคอบ พร้อมประสานสถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย เพื่ออำนวยความสะดวกในการประสานญาติ และจัดการศพด้วย” ผบช.ภ.2 กล่าว

ตำรวจภูธรภาค 2 เตรียมรับ 200 แก๊งคอลเซนเตอร์จากปอยเปต เตรียมพนักงานสอบสวนคัดกรองค้ามนุษย์

เมื่อวันที่ (23 ก.พ. 68) พล.ต.ท.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 (ผบช.ภ.2)  เปิดเผยถึงกรณีทางการกัมพูชาควบคุมตัวแก๊งคอลเซนเตอร์ ที่ตั้งฐานในปอยเปต ประเทศกัมพูชา ได้กว่า 200 คน และเตรียมส่งตัวให้ไทยเพื่อนำตัวเข้าสู่กระบวนการคัดกรองเหยื่อค้ามนุษย์ ทางชายแดนด้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จว.สระแก้ว ว่า ภายหลัง พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ และ พล.ต.ต.ธีระชัย ชำนาญหมอ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 2 ได้เดินทางไปยังประเทศกัมพูชา เพื่อประสานความร่วมมือในการดำเนินการร่วมกันของทั้ง 2 ประเทศในการดำเนินการปราบปรามแก๊งคอลเซนเตอร์ที่ตั้งฐานในฝั่งปอยเปต และทางการกัมพูชาได้ดำเนินการควบคุมตัวขบวนการคอลเซนเตอร์มากกว่า 200 คนซึ่งในจำนวนนี้มีคนไทยมากกว่า 100 คน ในส่วนของตำรวจภูธรภาค 2 จะดำเนินการใน 2 ส่วน คือ การสอบสวนเพื่อคัดแยกเหยื่อค้ามนุษย์ และการประสานข้อมูลการสืบสวนข้อมูลขบวนการคอลเซนเตอร์กับตำรวจกัมพูชา  ขณะนี้ทราบว่าทางการกัมพูชากำลังคัดกรองตามขั้นตอนและกระบวนการทางกฎหมายของกัมพูชาและจะส่งตัวมายังประเทศไทย 

ผบช.ภ.2 กล่าวว่า ได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.ฐิตวัฒน์ สุริยฉาย รอง ผบช.ภ.2 เตรียมแผนการปฏิบัติและกำกับดูแลการปฏิบัติ พร้อมกำชับ พล.ต.ต.ถาวร  ดุลยวิทย์ ผบก.ภ.จว.สระแก้ว จัดพนักงานสอบสวนรองรับการสอบสวนเพื่อการคัดกรองเหยื่อค้ามนุษย์ตามกระบวนการกลไกส่งต่อระดับชาติ : National Referral Mechanism (NRM) ซึ่งจะมีหน่วยงานอื่น ๆ บูรณาการกำลังในการคัดกรองด้วย โดยย้ำว่าการสอบสวนต้องเป็นไปอย่างครบถ้วน ถูกต้อง รอบด้าน ให้ความเป็นธรรม ในส่วนของการประสานงานข้อมูลด้านการสืบสวนขบวนการคอลเซนเตอร์ กำชับให้ประสานงานกับทางกัมพูชาอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้กำหนดการในการส่งตัวขบวนการคอลเซนเตอร์เข้ามานั้นยังอยู่ระหว่างการประสานงาน

ผบ.ตร.สั่งดำเนินคดี - ฟันวินัยเด็ดขาด ด.ต.หัวร้อน ภ.2 แจ้งข้อหาหนัก ชื่นชม “รองสารวัตร” เข้าระงับเหตุรวดเร็ว กล้าหาญ

(25 มี.ค. 68) พล.ต.ท.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 (ผบช.ภ.2) เปิดเผยว่า จากกรณี ด.ต.กิตติศักดิ์ ฯ  สังกัด สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) ก่อเหตุทะเลาะวิวาทกับอดีตแฟนสาว และทำร้ายตำรวจสายตรวจ สภ.สัตหีบ ที่เข้าไประงับเหตุ จนทำให้ ร.ต.ต.พาสกร ภาชูระเบียบนา รองสารวัตรป้องกันปราบปราม สภ.สัตหีบ จว.ชลบุรี ปฏิบัติหน้าที่สายตรวจตู้ยามเตาถ่าน ได้รับบาดเจ็บสาหัส นั้น ได้รายงาน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ทราบ ซึ่ง ผบ.ตร. ได้กำชับให้ดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด ตรงไปตรงมา พร้อมกำชับให้ดำเนินการทางวินัยอย่างเด็ดขาด ตรงไปตรงมา พร้อมกำชับให้ดำเนินการทางวินัยอย่างเฉียบขาดด้วย

พล.ต.ท.ยิ่งยศ กล่าวว่า ได้รับรายงานจากตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรีว่า หลังเกิดเหตุ พ.ต.อ.คมสรร คำตุ่นแก้ว ผกก.สภ.สัตหีบ ได้สั่งการให้ฝ่ายสืบสวนเร่งคุมตัวผู้ก่อเหตุ กระทั่งเวลา 05.00 น. ด.ต.กิตติศักดิ์ เข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน สภ.สัตหีบ จึงได้ทำการสอบสวนเบื้องต้น ดำเนินคดีข้อหา “เข้าไปกระทำการใด ๆ อันเป็นการรบกวนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ของเขาโดยปกติสุข โดยใช้กำลังประทุษร้าย ในเวลากลางคืน, ทำให้เสียทรัพย์, ทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่ เป็นเหตุให้ได้รับอันตรายสาหัส” โดยตนกำชับให้ดำเนินคดีอย่างรอบคอบ ย้ำว่าแม้เป็นตำรวจก็ไม่มีการช่วยเหลือกัน ยิ่งเป็นตำรวจแล้วทำผิดเสียเองต้องดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด ส่วนการดำเนินการทางวินัย เป็นเรื่องของหน่วยต้นสังกัดที่จะดำเนินการต่อไป
 
ผบช.ภ.2 กล่าวด้วยว่า ต้องชื่นชม ร.ต.ต.พาสกร ที่เข้าระงับเหตุอย่างทันท่วงที โดยวันนี้ได้ มอบหมายให้  พ.ต.อ.อรรถพล  พงษ์สุพรรณ รอง ผบก.ภ.จว.ชลบรี เป็นผู้แทนมอบเงินช่วยเหลือจากกองทุน Police Award และมอบกระเช้าเยี่ยมไข้เป็นการให้กำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่และขอให้หายจากอาการบาดเจ็บโดยไว 

“ชื่นชมในการทำหน้าที่ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ที่เข้าไปช่วยเหลือแก้ปัญหา ระงับเหตุความเดือดร้อนของประชาชนอย่างรวดเร็ว ด้วยความกล้าหาญ แม้ว่าตัวเองจะเสี่ยงอันตราย และจากนี้กำชับให้ตำรวจสายตรวจเพิ่มความระมัดระวังในการเข้าระงับเหตุ โดยเน้นย้ำเรื่องความปลอดภัย” ผบช.ภ.2 กล่าว

ผบช.ภ.2 เยี่ยมให้กำลังใจ ทีมตำรวจ ภ.2 ร่วมภารกิจค้นหาผู้ติดใต้ซากอาคาร กำชับทำเต็มที่ ทุกวินาทีมีค่า

(30 มี.ค. 68) พล.ต.ท.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 (ผบช.ภ.2) ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจตำรวจ ภ.2 จำนวน 200 นาย ที่มาร่วมภารกิจค้นหาผู้ประสบภัยอาคารถล่มจากแผ่นดินไหว ย่านจตุจักร กทม. โดยเดินทางมาถึงตั้งแต่วันที่ 29 มีนาคม ที่ผ่านมา ซึ่งตำรวจจาก ภ.2 ได้รับภารกิจสนับสนุนด้านการจราจร ดังนั้นนอกจากนำอาหาร น้ำดื่มมาฝาก ให้กำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ยังได้กำชับให้ปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลัง ช่วยเหลือสนับสนุนเจ้าหน้าที่หน่วยอื่น ๆ และอำนวยความสะดวกด้านการจราจรให้เจ้าหน้าที่ที่ร่วมภารกิจ ขณะเดียวกันต้องยิ้มแย้มแจ่มใส สื่อสารกับประชาชนอย่างเป็นมิตร โดยให้เข้าใจว่าภารกิจครั้งนี้ “ทุกวินาทีมีค่า” เป็นภารกิจที่แข่งขันกับเวลา และมีความตึงเครียด ทั้งนี้ตำรวจภูธรภาค 2 พร้อมสนับสนุนภารกิจช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มกำลัง และจะอยู่เคียงข้างประชาชนจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย

วันเดียวกัน พล.ต.ต.ฐิตวัฒน์ สุริยฉาย รอง ผบช.ภ.2  ได้เดินทางไปยัง ศูนย์พัฒนาด้านการข่าว (ศพข.) บช.ส. กรุงเทพมหานคร เพื่อตรวจเยี่ยมกำลังพล ที่มาปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากเหตุแผ่นดินไหวในครั้งนี้ โดยได้ให้กำลังใจและแนะนำแนวทางการปฏิบัติงาน มอบเครื่องดื่มและผลไม้เพื่อสนับสนุนกำลังพล เพิ่มขวัญกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top