(22 ก.ย. 66) ที่สถานีตำรวจนครบาลทุ่งสองห้อง นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ อดีต สส.บัญชีรายชื่อ และอดีตโฆษกพรรคเพื่อไทย ได้เดินทางเข้ายื่นหนังสือกล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน เพื่อขอให้สอบสวนและดำเนินคดีกับนายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง จาก กรณีที่เห็นว่านายสมชัย ได้สมัครรับเลือกตั้ง สส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย ปี 2566 และสมัคร สส.แบบแบ่งเขต จังหวัดสมุทรสาคร เขตเลือกตั้งที่ 2 เมื่อปี 2562 ทั้งที่อาจมีลักษณะต้องห้ามตามกฎหมาย
นายพร้อมพงศ์ ได้กล่าวว่า เหตุที่ได้เดินทางมายื่นหนังสือกล่าวโทษให้พนักงานสอบสวนได้ทำการสอบสวนและดำเนินคดีกับนายสมชัย ในวันนี้ สืบเนื่องมาจากตนได้ตรวจสอบ ข้อมูลพบว่า เมื่อครั้งที่นายสมชัย ดำรงตำแหน่งกรรมการการเลือกตั้ง ปรากฏข้อเท็จจริงว่า นายสมชัย ได้ถูกคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 4/2561 ลงวันที่ 20 มีนาคม 2561 ให้ยุติการปฏิบัติหน้าที่กรรมการการเลือกตั้ง โดยให้เหตุผลถึงการที่นายสมชัย ได้ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับกระบวนการและกำหนดการเลือกตั้งที่ไม่สมควรเกิดความสับสนที่จะเป็นอุปสรรคต่อการปฏิบัติงานของ กกต. และการจัดการเลือกตั้ง และนายสมชัย ยังได้สมัครเข้ารับการคัดเลือกเป็นเลขาธิการ กกต. โดยไม่ได้ลาออกจากการปฏิบัติหน้าที่กรรมการการเลือกตั้ง ผลของคำสั่งดังกล่าวจึงอาจถือได้ว่า นายสมชัย ได้ถูกคำสั่งให้พ้นจากราชการเพราะประพฤติมิชอบในวงราชการ อันเข้าลักษณะเป็นผู้มีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ 2566 มาตรา 98 (8) ประกอบมาตรา 42 (10) แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2561
ซึ่งหากมีการสอบสวนแล้ว พบว่ามีลักษณะต้องห้ามดังกล่าวจริงก็ถือว่านายสมชัย กระทำการอันฝ่าฝืนมาตรา 151 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2561 ซึ่งมีโทษจำคุกตั้งแต่ 1 ปีถึง 10 ปี และปรับตั้งแต่ 20,000 - 200,000 บาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งมีกำหนด 20 ปี
นายพร้อมพงศ์ ได้กล่าวเพิ่มเติมว่าเมื่อวันที่ 21 ก.ย. ที่ผ่านมาตนได้ไปยื่นหนังสือต่อประธาน กกต. เพื่อให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าวแล้วเช่นกัน หาก กกต. ตรวจแล้วพบว่ามีการกระทำที่ฝ่าฝืนกฎหมายจริง กกต. ก็จะได้ทำการสืบสวนและไต่สวนต่อไป เพราะถือว่าเรื่องดังกล่าวปรากฏต่อ กกต. ที่จะตรวจสอบมูลกรณีดังกล่าวได้ ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง พ.ศ. 2560 ตนเป็นเพียงผู้แจ้งข้อมูลให้ตรวจสอบเท่านั้น นายพร้อมพงศ์ ได้ให้เหตุผลที่มายื่นกล่าวโทษนายสมชัย ว่าเมื่อนายสมชัย ตรวจสอบคนอื่นได้ นายสมชัย ก็ต้องพร้อมที่จะต้องถูกตรวจสอบได้เช่นกันก็ต้องให้เป็นอำนาจหน้าที่ของพนักงานสอบสวนที่จะดำเนินตามอำนาจหน้าที่ต่อไป