Wednesday, 23 April 2025
พระราชทานถุงยังชีพ

27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561 ’ในหลวง ร.10‘ พระราชทานถุงยังชีพแก่ราษฎร 35 ครอบครัว หลังประสบอัคคีภัย ณ ชุมชนบ้านครัวตะวันตก

วันที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561 สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ พลเรือเอก พงษ์เทพ หนูเทพ องคมนตรี ประธานกรรมการบริหารมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เชิญถุงพระราชทาน (เครื่องครัว เครื่องนอน) ไปมอบแก่ราษฎรที่ประสบอัคคีภัยบริเวณชุมชนบ้านครัวตะวันตก ซึ่งได้เกิดเหตุอัคคีภัยเมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561 เวลา 00.27 น. ที่ผ่านมา ทำให้บ้านเรือนราษฎรได้รับความเสียหาย 8 หลังคาเรือน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 35 ครอบครัว ณ สำนักงานเขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น

ในโอกาสนี้ พลเรือเอก พงษ์เทพ หนูเทพ องคมนตรี ได้เชิญพระราชกระแสความห่วงใยของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไปกล่าวกับราษฎรให้ได้รับทราบ ต่างปลื้มปีติและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้

เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา พระราชทานถุงยังชีพ ทร. ส่งเรือผลักดันน้ำ รถ AAV และมนุษย์กบ ให้การช่วยเหลือ ปชช.จากอุทกภัย จ.เชียงราย

สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา พระราชทานถุงยังชีพ แก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดเชียงราย  ด้านกองทัพเรือ จัดกำลัง พร้อมเรือผลักดันน้ำ และยานรบสะเทินน้ำสะเทินบก (รถ AAV)  และมนุษย์กบ ให้การช่วยเหลือประชาชน จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย

พลเรือตรี วีรุดม ม่วงจีน โฆษกกองทัพเรือเปิดเผยว่า ตามที่ได้เกิดสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่จังหวัด เชียงราย ส่งผลให้มีน้ำท่วมบ้านเรือนประชาชนและพื้นที่การเกษตร ในหลายพื้นที่

การนี้ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา องค์ประธานมูลนิธิอนุรักษ์แนวปะการังและสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลไทย ในสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงห่วงใยต่อราษฎรที่ได้รับความเดือดร้อนจากอุทกภัย ในพื้นที่ต่าง ๆ จึงทรงโปรดให้กองทัพเรือ อัญเชิญถุงยังชีพพระราชทานมูลนิธิอนุรักษ์แนวปะการังและสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลไทย ในสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา พร้อมถุงยังชีพจาก กองทัพเรือ และหน่วยงานพันธมิตรของกองทัพเรือ ประกอบด้วย การรถไฟฟ้ามหานคร และธนาคารไทยพาณิชย์ รวมจำนวน 1,100 ชุด  มอบให้กับพี่น้องประชาชนที่ประสบอุทกภัย ในพื้นที่ จังหวัดเชียงราย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน และให้สามารถกลับมาดำรงชีวิตได้ด้วยความปกติสุขในเร็ววัน 

โดยจะมีการมอบถุงยังชีพเพิ่มเติมในโอกาสต่อไป อีกจำนวนหนึ่ง นอกจากนี้แล้วยังจะได้มีการจัดรถครัวสนามลงพื้นที่ เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนและเยียวยา ในเบื้องต้น

โฆษกกองทัพเรือ กล่าวต่ออีกว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น กองทัพเรือ โดยพลเรือเอก อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชาการทหารเรือในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพเรือ ได้สั่งการให้  หน่วยเฉพาะกิจเรือผลักดันน้ำกองทัพเรือ จัดกำลังพลและยุทโธปกรณ์  ให้การสนับสนุนทางจังหวัดเชียงราย ในการจัดเรือผลักดันน้ำ จำนวน 20 ลำ พร้อมกำลังพล อุปกรณ์ และยุทโธปกรณ์ ลงไปติดตั้งในพื้นที่อำเภอที่แม่น้ำอิงไหลผ่าน ประกอบด้วย อำเภอป่าแดด อำเภอเทิง อำเภอขุนตาล อำเภอพญาเม็งราย และอำเภอเชียง จังหวัดเชียงราย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการระบายน้ำที่ท่วมขังในพื้นที่ ลงสู่แม่น้ำโขงจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย  พร้อมทั้งให้ กองเรือยุทธการ จัดชุดปฏิบัติการจาก หน่วยสงครามพิเศษทางเรือ (หรือมนุษย์กบ) และหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน จัดยานรบสะเทินน้ำสะเทินบก (AAV) ให้การช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ ทั้งการลำเลียงประชาชน และทรัพย์สิน ออกจากพื้นที่ประสบภัยและพื้นที่เสี่ยง

โดยใน ช่วงบ่ายเมื่อวานนี้ (11 กันยายน 2567 ) กำลังพลชุดแรกจาก จากหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ กองเรือยุทธการ ประกอบด้วย ชุดควบคุมและสนับสนุนและชุดปฏิบัติการพิเศษ พร้อมเรือยางท้องแข็งและเรือยางยุทธวิธี ได้ถูกลำเลียงโดยเครื่องบินลำเลียงแบบ C - 130 ของกองทัพอากาศ ออกเดินทางจากสนามบินอู่ตะเภา ไปยัง จังหวัดเชียงราย แล้ว นอกจากนั้น ยังได้สั่งการให้หน่วยต่างๆ ดำเนินการตามสั่งการดังนี้

- ให้ ฐานทัพเรือกรุงเทพและกรมการขนส่งทหารเรือ จัดหน่วยเคลื่อนที่ ทั้งรถบรรทุก เรือท้องแบนที่มีอยู่ทั้งหมด ขึ้นไปช่วยเหลือ โดยให้ออกเดินทางภายในวันนี้ (11 ก.ย.67)

- ให้ผู้บัญชาการหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง เป็นผู้รับผิดชอบ การปฏิบัติในพื้นที่ จังหวัด เชียงรายทั้งหมด
- ให้หน่วยต่างๆ ของกองทัพเรือ รวมถึงหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ กองเรือยุทธการ จัดชุดปฏิบัติการพิเศษ (หน่วยซีล) ให้การสนับสนุนตามที่ ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพเรือ ร้องขอ
- ให้ฐานทัพเรือกรุงเทพ จัดถุงยังชีพ สำหรับ แจกจ่ายให้กับประชาชน ผู้ได้รับผลกระทบให้ได้มากที่สุด 

นอกจากนั้น ผู้บัญชาการทหารเรือ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพเรือ ยังได้สั่งการให้ ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยพื้นที่ต่าง ๆ ของกองทัพเรือ รวมทั้งหน่วยต่าง ๆ ของกองทัพเรือ เตรียมความพร้อมในการปฏิบัติเชิงรุกทั้งด้านองค์บุคคล องค์วัตถุ และองค์ยุทธวิธี ให้มีความพร้อม ในการช่วยเหลือประชาชนได้ทันที โดยบูรณาการและประสานงานกับหน่วยงานต่าง ๆ ในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งให้มีการสำรวจความเดือดร้อนและความต้องการของประชาชน พร้อมทั้งติดตามการแจ้งเตือนภัยจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด เพื่อให้สามารถช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชน ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

โฆษกกองทัพเรือ กล่าวว่า กองทัพเรือ ยังคงเตรียมความพร้อม ทั้งกำลังพล และยุทโธปกรณ์ ที่จะให้การสนับสนุนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยอย่างต่อเนื่อง โดยสามารถแจ้งขอความช่วยเหลือผ่านสายด่วนศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพเรือ 1696 ตลอด 24 ชั่วโมง


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top