Monday, 9 June 2025
ปารีส

‘ฝรั่งเศส’ โจรชุม!! ‘เจ้าหญิงกาตาร์’ โดนปล้นกระเป๋าแอร์เมส 11 ใบ ขณะโดยสารรถไฟมาปารีส แถมเจ้าหน้าที่ยังคว้าน้ำเหลวหาขโมย

(30 ก.ค.67) ท่ามกลางการแข่งขันที่เป็นไปอย่างดุเดือดของเหล่านักกีฬาจากหลากหลายประเทศทั่วโลกที่กำลังชิงชัยคว้าเหรียญโอลิมปิก นอกสนามก็มีการแข่งขันเช่นกัน แต่เป็นการแข่งเอาตัวรอดว่าใครจะรอดพ้นจากการถูกจี้ และปล้นนานกว่ากัน เพราะตั้งแต่ยังไม่เริ่มเปิดการแข่งขัน ก็มีข่าวนักกีฬาโดนจี้ โดนปล้นกันชนิดรายวัน ทั้งทุบรถขโมยทรัพย์สิน โดนล้วงกระเป๋า ไปจนถึงความวุ่นวายอย่างการก่อวินาศภัยระบบรถไฟ

แถมล่าสุดมีข่าวฮือฮา เมื่อเจ้าหญิงกาตาร์ ‘อัล มายัสสา บินท์ ฮามาด อัล ธานิ’ ที่มีศักดิ์เป็นลูกสะใภ้ของผู้ครองนครกาตาร์ หนึ่งในครอบครัวที่ร่ำรวยที่สุดในโลก ซึ่งได้เดินทางไปเชียร์นักกีฬาในการแข่งขันโอลิมปิก โดนปล้นกระเป๋าแอร์เมส 11 ใบ ขณะกำลังโดยสารรถไฟความเร็วสูง TGV จากเมืองนีซไปยังปารีส

ทางด้านเจ้าหน้าที่ได้มีการหยุดรถไฟกว่า 20 นาที และพยายามค้นหาขโมย แต่ก็คว้าน้ำเหลว ไม่พบผู้ก่อการและไม่สามารถตามหากระเป๋าแบรนด์หรูได้ เรียกได้ว่าเป็นการปล้นที่มีมูลค่าสูงมาก เพราะแค่กระเป๋าแต่ละใบก็มูลค่าหลักล้านบาทแล้ว แถมด้านในยังมีข่าวว่าบรรจุทรัพย์สินมีค่ามากมายทั้งข้าวของเครื่องใช้ เสื้อผ้า นาฬิกา และอัญมณี เครื่องประดับต่าง ๆ

ไวรัล!! แซว 'ยูซุฟ ดิเค็ก' นักกีฬายิงปืนตุรกี นิ่งเหมือนนักฆ่า ลีลาไม่ต้องมาก เครื่องแต่งกายไม่ต้องแน่น คว้าเหรียญเงิน

(1 ส.ค.67) กลายเป็นไวรัลในสื่อสังคมออนไลน์อีกครั้งกับนักยิงปืนโอลิมปิกในกรุงปารีส 2024 โดยคราวนี้เป็นนาย ยูซุฟ ดิเค็ก (Yusuf Dikec) นักกีฬายิงปืนจากตุรกี วัย 51 ปี หลังจากที่มีภาพของเขาถือปืน โดยไม่มีหูฟังป้องกัน แต่สวมเสื้อยืด และแว่นตา รวมถึงที่อุดหูธรรมดา ด้วยท่าทีที่ใจเย็น ต่างกับนักกีฬาคนอื่นที่อุปกรณ์พร้อม จนทำให้ชาวเน็ตแซวว่าเหมือนมือปืนอาชีพ เย็นยะเยือกเหมือนนักฆ่า

โดยภาพดังกล่าวถูกแชร์เป็นวงกว้างไม่ว่าจะเป็นภายในกลุ่มชาวตุรกีหรือนานาชาติ ซึ่งแม้นาย อิลอน มัสก์ เจ้าของทวิตเตอร์ยังได้มาแสดงความเห็นใต้ภาพ โดยเขียนสั้น ๆ ว่า “เจ๋ง”

ทั้งนี้ นาย ยูซุฟ ดิเค็ก ลงแข่งแบบทีมคู่กับ เซววัล อิลายดา ทาร์ฮาน ก่อนจะคว้าเหรียญเงิน แข่งยิงปืนแบบผสม หลังพ่ายให้กับทีมชาติเซอร์เบีย ซึ่งถือเหรียญรางวัลเหรียญในกีฬายิงปืนเหรียญแรกในประวัติศาสตร์ตุรกี

สำหรับตัวของนาย ยูซุฟ ดิเค็ก นั้นเกิดเมื่อวันที่ 1 มกราคม 2516 และถือเป็นนักกีฬายิงปืนมากประสบการณ์ โดยเคยเป็นตัวแทนตุรกีลงแข่งโอลิมปิกมาแล้วในปี 2555 และ 2559 ก่อนจะคว้าเหรียญรางวัลได้ในที่สุด

'ปารีส' หั่นราคาห้องพักโรงแรม หวังดึงนักท่องเที่ยวช่วงโอลิมปิก 2024 หลังความต้องการฮวบ!! เหตุ 'เงื่อนไขเยอะ-หวั่นความปลอดภัย'

(1 ส.ค. 67) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เปิดฉากกันไปแล้วสำหรับโอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่จัดขึ้น ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งเหล่าธุรกิจ-การค้าของประเทศฝรั่งเศสเริ่มตื่นตัว ตัดสินใจดำเนินการเพื่อดึงนักเดินทางด้วยการลดราคาและยกเลิกข้อกำหนดการพักขั้นต่ำ หลังจากมีบางคนเกิดการลังเลเนื่องจากเห็นว่ามีการโก่งราคาค่าห้องพักก่อนจะถึงการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก

ด้าน สำนักงานการท่องเที่ยว กรุงปารีส รายงานว่า ราคาค่าห้องพักโรงแรมโดยเฉลี่ยในระหว่างโอลิมปิก ลดลงไปอยู่ที่คืนละ 258 ยูโร หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 10,000 บาท จากเดิมที่ราคาในช่วงฤดูร้อนอยู่ที่ 342 ยูโร หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 13,200 บาท ซึ่งปรับเพิ่มขึ้นร้อยละ 70 จากค่าห้องพักโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 202 ยูโร หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 7,800 บาทเมื่อเดือนกรกฎาคม 2023 

ด้าน บริษัทท่องเที่ยว กล่าวว่า นักท่องเที่ยวอาจจะได้ลดราคาห้องพักอีกระหว่างร้อยละ 10-70 เนื่องจากผู้บริหารโรงแรมเสนอราคาพิเศษให้หลังจากความต้องการห้องพักในช่วงโอลิมปิกต่ำกว่าที่คาดหมายไว้ เนื่องจากห้องพักมีราคาสูงและมีความกังวลเรื่องความปลอดภัย บางโรงแรมยกเลิกข้อจำกัดต่าง ๆ รวมถึงวันเดินทางมาถึงและระยะเวลาในการพัก เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวที่ตัดสินใจได้ในวินาทีสุดท้าย

‘วิว กุลวุฒิ วิทิตศานต์’ เอาชนะ ‘ลี ซี เจีย’ จากมาเลเซีย 2-0 เกม สร้างประวัติศาสตร์!! เข้าชิงชนะเลิศ แบดมินตันชายเดี่ยวโอลิมปิก

(4 ส.ค. 67) การแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ปารีส 2024 ในกีฬาแบดมินตันประเภทชายเดี่ยว รอบรองชนะเลิศ หรือ รอบ 4 คนสุดท้าย ระหว่าง ‘วิว กุลวุฒิ วิทิตศานต์’ มืออันดับ 8 ของโลกของไทย ที่รอบก่อนรองชนะเลิศเอาชนะ ฉี ยู่ฉี มือ 1 ของโลกจากจีน พบกับ ลี ซี เจีย มืออันดับ 7 ของโลกจากมาเลเซีย 

สำหรับสถิติการพบกันของทั้งคู่รวม 7 ครั้งหลังสุด นักแบดไทย ชนะไป 4 ครั้ง โดยเกมล่าสุดที่พบกันในศึกอินโดนีเซีย โอเพ่น 2024 เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา วิว กุลวุฒิ เป็นฝ่ายชนะไป 2-0 เกม 

เริ่มเกมทั้งคู่อาศัยความนิ่งเข้าสู้ ทำให้รูปเกมออกมาสูสีเสมอกัน 7-7 ซึ่ง หลี่ ซื่อ เจี๋ย ไม่เข้าฟอร์ม ตรงข้ามกับ ‘วิว’ ที่เล่นได้อย่างยอดเยี่ยมโดยเฉพาะความเหนียวในเกมรับ มีหลอกหน้าไม้ในเกมรุกจนเอาชนะไป 21-14

จากนั้นในเกมสองเป็นทาง ‘วิว’ ที่เล่นได้แน่นอนกว่ามีจังหวะที่ดีนำห่าง 11-6 และสุดท้าย ‘วิว’ ก็คุมสถานการณ์ไว้ได้หมดทำให้เอาชนะไป 2 เกมรวด 21-14 กับ 21-15

ทำให้ กุลวุฒิ วิทิตศานต์ สร้างประวัติศาสตร์เป็นคนไทยคนแรกที่ได้เข้าชิงเหรียญทองแบดมินตันโอลิมปิกและการันตีเหรียญรางวัลแน่นอนแล้ว

โดยจะเข้าไปรอผู้ชนะระหว่าง วิคเตอร์ แอ็กเซลเซน มือ 2 ของโลก จากเดนมาร์ก วัย 30 ปี แชมป์เก่าครั้งที่แล้ว กับ ลักยา เสน มือ 22 ของโลกจากอินเดีย รอบชิงจะมีขึ้นในวันที่ 5 ส.ค. เวลา 19.30 น.

‘โตโยต้า’ ร่วมต้อนรับ ‘วิว กุลวุฒิ’ กลับบ้านด้วยความอบอุ่น พร้อมชวนคนไทย ขับเคลื่อนสู่ทุกความเป็นไปได้ ไปด้วยกัน

เมื่อเร็ว ๆ นี้ นายณัทธร ศรีนิเวศน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ และคณะผู้บริหาร บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ร่วมแสดงความยินดี ต้อนรับ ‘วิว กุลวุฒิ’ นักกีฬา Global Team Toyota Athlete (GTTA) / ทัพนักกีฬาแบดมินตันทีมชาติไทย และโค้ช กลับสู่ประเทศไทยด้วยบรรยากาศที่อบอุ่น 

บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด มีความยินดีอย่างภาคภูมิใจที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุน และพัฒนาวงการกีฬาแบดมินตันในประเทศไทย ผ่านการเป็นการเป็นผู้สนับสนุนการแข่งขันแบดมินตันระดับนานาชาติในประเทศไทย สมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เพื่อให้แฟนกีฬาแบดมินตันไทยได้ชม และเชียร์ทัพนักกีฬาไทย พร้อมสร้างผลงานให้กับนักกีฬาระดับโลกอย่างต่อเนื่อง รวมถึงสานต่อแนวคิด Start Your Impossible ชวนคนไทยขับเคลื่อนสู่ทุกความเป็นไปได้ไปด้วยกัน

Start Your Impossible หรือ ‘เมื่อเริ่มลงมือทำ ทุกสิ่งก็เป็นไปได้’ คือจิตวิญญาณอันแน่วแน่ของโตโยต้าที่ประกาศจุดยืนเป็นครั้งแรกในเดือนตุลาคม 2560 เพื่อแสดงถึงความตั้งใจในการมุ่งมั่นจากบริษัทยานยนต์ สู่การเป็นองค์กรแห่งการขับเคลื่อนสังคมในทุกแง่มุม โดยมีเป้าหมายสูงสุดเพื่อเป็นแรงขับเคลื่อนที่สร้างแรงบันดาลใจและพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้คนบนพื้นฐานความเชื่อว่า ร่างกายและจิตวิญญาณของมนุษย์คือหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนสังคมอย่างมีประสิทธิภาพ

ในประเทศไทย โตโยต้าได้ส่งต่อแนวคิดดังกล่าวผ่านเส้นทางสู่การประสบความสำเร็จของ นักกีฬาทีมชาติไทย โดยเริ่มต้นจากการแข่งขันโอลิมปิก และพาราลิมปิกที่โตเกียว โดยมี น้องเทนนิส เทควันโด (เหรียญทอง) / น้องเมย์ รัชนก แบตมินตัน / โปรเมย์ กอล์ฟ / คุณประวัติ วะโฮรัมภ์ วีลแชร์ เรซซิ่ง (เหรียญเงิน) / น้องปิ่น อัญชญา ว่ายน้ำพาราลิมปิก

และล่าสุด สำหรับการแข่งขันโอลิมปิก และพาราลิมปิกที่ปารีส น้องวิว - กุลวุฒิ วิทิตศานต์ (เหรียญเงิน) และคุณกร - พงศกร แปยอ วีลแชร์ เรซซิ่ง ที่ได้รับคัดเลือกให้เป็นตัวแทนประเทศไทย เข้าร่วมเป็นหนึ่งใน Global Team Toyota Athlete หรือ GTTA ซึ่งเป็นผลมาจากการทุ่มเทแรงกาย และแรงใจในการก้าวข้ามขีดจำกัดของตัวเอง พร้อมทั้งเริ่มต้นทำในสิ่งที่คิดว่าเป็นไปไม่ได้… ให้เป็นไปได้

‘สื่อเวียดนาม’ ปรี๊ดแตก!! หลังผลงาน ‘นักกีฬาโอลิมปิก’ ล้มเหลว ชี้!! ไม่ได้ด้อยกว่าชาติใด เตรียมจัดทัพใหม่ ลุ้นต่อไป โอลิมปิกที่อเมริกา

(12 ส.ค. 67) VN Express สื่อเวียดนามสรุปผลการแข่งขันกีฬาปารีส โอลิมปิก 2024 ที่ได้สิ้นสุดลงเมื่อวันอาทิตย์ที่ 11 สิงหาคม ที่ผ่านมา ยอมรับว่าผลงานของทีมชาติเวียดนาม ‘ล้มเหลว’ ไม่ได้เหรียญรางวัลติดมือกลับบ้านแม้แต่เหรียญเดียวติดต่อกันเป็นสมัยที่ 2 ในขณะที่ประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียนต่างมีพัฒนาด้านกีฬาที่แข็งแกร่งขึ้นอย่างเห็นได้ชัด 

เป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 30 ปี ที่เวียดนามไม่ได้เหรียญรางวัลโอลิมปิกถึง 2 สมัยติดต่อกัน นับตั้งแต่งานโอลิมปิก 2020 ที่กรุงโตเกียว และล่าสุดที่โอลิมปิก 2024 ที่กรุงปารีส โดยกีฬาที่เป็นความหวังที่สุดคือ ยกน้ำหนักชายรุ่น 61 กก. แต่ทว่า ทรินห์ วัน วินห์ ล้มเหลวในการยกทั้ง 3 ครั้ง ตกรอบไปอย่างน่าเสียดาย 

จากผลงานของ ทรินห์ วัน วินห์ นอกจากจะดับความหวังของชาวเวียดนามในการลุ้นเหรียญแล้ว ยังสะท้อนให้เห็นถึงความไม่พร้อมของเวียดนามในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกในปีล่าสุดนี้ ที่ทำให้ทีมนักกีฬาเวียดนามไม่ประสบความสำเร็จในการคว้าเหรียญรางวัลกลับบ้านได้

ซึ่งสวนทางกับผลงานในการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ 2023 ที่กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ที่ผ่านมา ที่ทีมนักกีฬาเวียดนามประสบความสำเร็จอย่างมาก สามารถคว้าเหรียญทองได้ถึง 136 เหรียญ ครองตำแหน่งเจ้าเหรียญทองอาเซียนไปได้ และยังทิ้งห่างไทย ที่ได้เหรียญทองมาเป็นที่ 2 ถึง 28 เหรียญ

โดยเวียดนาม จัดเป็น 1 ใน 6 ชาติที่มีความโดดเด่นด้านกีฬาที่สุดในย่านอาเซียน อันได้แก่ เวียดนาม, ไทย, อินโดนีเซีย, มาเลเซีย และ สิงคโปร์ 

แต่ความสำเร็จในกีฬาระดับ ซีเกมส์ ไม่ได้การันตีผลลัพธ์ระดับ เอเชียน เกมส์ หรือ โอลิมปิกสำหรับเวียดนาม เมื่อดูจากผลงานการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ ที่เมืองหังโจว ประเทศจีน เมื่อปี 2023 ที่ผ่านมา เวียดนามจบที่อันดัน 21 จากตารางเหรียญ และเป็นอันดับที่ 6 ในกลุ่มชาติอาเซียน ได้ไป 3 เหรียญทอง ในขณะที่ไทยได้ไป 12 เหรียญทอง เป็นอันดับ 1 ในกลุ่มอาเซียน

และในการแข่งขันปารีส โอลิมปิก 2024 เวียดนามก็ยังไม่สามารถเอาชนะกลุ่มประเทศคู่แข่งด้านกีฬาของอาเซียนได้  โดย ชาติอาเซียนสร้างผลงานคว้าเหรียญโอลิมปิกได้ถึง 15 เหรียญ และเป็นเหรียญทองถึง 5 เหรียญ  

ซึ่งม้ามืดของปีนี้ ต้องยกให้ คาร์ลอส  ยูโล นักยิมนาสติกของฟิลิปปินส์ ที่ทำได้ถึง 2 เหรียญทอง ส่วน  อินโดนีเซีย ได้ไป 2 เหรียญทองเช่นกัน จาก วิดิค ลีโอนาโด ในกีฬาปีนเขา และ ริซกิ จูเนียนสยา จากกีฬายกน้ำหนักชายรุ่น 73 กิโลกรัม ในขณะที่ไทย แม้จะเพียงได้ 1 เหรียญทองจากกีฬาเทควันโด โดย น้อง เทนนิส พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ แต่ทีมนักกีฬาของไทยก็สามารถคว้าเหรียญโอลิมปิกได้ถึง 6 เหรียญ มากที่สุดในกลุ่มชาติอาเซียน

เวียดนามเข้าร่วมกีฬาโอลิมปิกครั้งแรกในปี 1988 แต่สามารถคว้าเหรียญเงินได้เป็นครั้งแรกในงานโอลิมปิก 2000 ที่เมืองซิดนีย์ ออสเตรเลีย  โดย ตรัน ฮิว งาน จากกีฬาเทควันโดหญิง หลังจากนั้นก็มีนักกีฬาเวียดนามเข้าร่วมแข่งขันกีฬาโอลิมปิกมากขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่ง ฮวง ซวน วินห์ สามารถคว้าเหรียญทองแรกให้เวียดนามได้สำเร็จ จากกีฬาปืนอัดลม 10 เมตร ในงานโอลิมปิก ปี 2016 ที่ริโด เดอ จาเนโร ประเทศบราซิล  

แต่ถึงแม้เวียดนามจะพยายามผลักดันศักยภาพของนักกีฬาให้สามารถแข่งขันกับประเทศคู่แข่งในย่านอาเซียนได้อย่างทัดเทียม แต่สื่อเวียดนามยอมรับว่า เพื่อนบ้านในอาเซียนต่างมีพัฒนาการในด้านกีฬาที่ก้าวกระโดดอย่างมาก จนสามารถบรรลุเป้าหมายเหรียญรางวัลในสนามแข่งขันระดับโลกได้มากกว่าเวียดนาม

อีกทั้งสรีระ รูปร่างของนักกีฬาของอาเซียน เป็นหนึ่งในข้อเสียเปรียบ ที่ทำให้ชาติอาเซียนจำเป็นต้องมุ่งเน้นประเภทกีฬาที่กำหนดน้ำหนักในการแข่งขัน อาทิ ยกน้ำหนัก มวยสากล หรือ เทควันโด 

แต่เมื่อมีการบรรจุกีฬาเอ็กซ์ตรีม เข้าไปอยู่ในงานโอลิมปิกมากขึ้น ได้เปิดโอกาสให้นักกีฬาหน้าใหม่จากอาเซียน สามารถทะลุเข้าถึงรอบแข่งไฟนอล  อาทิ น้อง ‘เอสที’ วารีรยา สุขเกษม นักกีฬาไทย วัย 12 ปี ที่อายุน้อยที่สุดในการแข่งขันกีฬาสเก็ตบอร์ตในปารีส โอลิมปิก  หรือความสำเร็จของ  วิดิค ลีโอนาโด ที่คว้าเหรียญทองกีฬาปีนเขาให้กับอินโดนีเซียเป็นครั้งแรก ถือเป็นกลยุทธในการส่งเสริมนักกีฬารุ่นใหม่ที่ได้ผลตอบแทนอย่างน่าภูมิใจ 

สื่อเวียดนามย้ำว่า นักกีฬาเวียดนาม ไม่ได้ด้อยกว่าชาติใดๆ ในอาเซียน เพียงแต่ต้องกลับมาเรียนรู้ ทบทวนใหม่ ว่าการส่งเสริมทีมชาติของเวียดนามพลาดที่ตรงไหน ก่อนจัดทัพใหม่อีกคร้้ง ในงานโอลิมปิกครั้งต่อไปที่นคร ลอส แอนเจลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา ในปี 2028 

‘อุ้ม ศศิราวรรณ อินทโชติ’ เจ้าของเหรียญทองแดงคนแรก ของนักกรีฑาไทย จากเด็กสาวแขนพิการ ที่พูดน้อย เก็บตัว สู่ความภาคภูมิใจของคนไทย

(8 ก.ย. 67) เพจเฟซบุ๊ก ‘เสียงจากทหารเรือ’ ได้โพสต์ข้อความสุดซึ้งเกี่ยวกับ ‘อุ้ม ศศิราวรรณ อินทโชติ’ เจ้าของเหรียญทองแดงคนแรก ของนักกรีฑาไทย โดยได้ระบุว่า ...

ชีวิตดั่งเทพนิยายขีดเขียนบทให้เธอเดิน
เธอคือสาวงามแห่ง ‘ทุ่งนครลำดวน’
เธอคือ นักกรีฑาหญิงไทยคนแรก ที่คว้าเหรียญพาราลิมปิกมาครอง
จากเด็กสาวที่อยู่ในมุมใดมุมหนึ่งของห้องเรียน
เป็นเด็กที่เก็บตัว พูดน้อยด้วยความพิการแขน
วันนี้เธอทำสำเร็จแล้ว
เธอคือความภูมิใจของ ‘พ่อแม่’ วันที่เธอได้เหรียญครั้งแรกจากการแข่งขัน แม่เธอวิ่งเอาเหรียญไปโชว์ทั่วหมู่บ้าน
และวันนี้ เธอเป็นความภาคภูมิใจขคนไทย
ที่อยากจะบอกก้องโลกว่าภูมิใจและดีใจกับเธอเช่นเดียวกัน

สาวน้อยวัย 21 ปีจาก ‘แดนปราสาทขอม หอมกระเทียมดี มีสวนสมเด็จ เขตดงลำดวน หลากล้วนวัฒธรรม เลิศล้ำสามัคคี’ #ศรีสะเกษ สร้างประวัติศาสตร์ให้กับวงการกีฬาไทย โดยการคว้า ‘เหรียญทองแดง’ พาราลิมปิก ปารีส สำเร็จ ศศิราวรรณ อินทโชติ  

เธอมีหน้าตาที่สะสวย แต่เป็นคนพูดน้อยเก็บตัว และพิการแขนข้างหนึ่ง หรืออาจจะเรียกให้เข้ากับคนยุคนี้ว่า ‘introvert’ นั้นเอง ด้วยแววตาของ ‘คุณครู’ โรงเรียนศรีรัตนวิทยา ที่ศรีสะเกษ ของเธอเห็นว่านี่จะเป็นโอกาสให้เธอเป็นนักกีฬาสร้างรายได้เลี้ยงดูครอบครัวได้ในอนาคตจึงแนะนำ

จากเด็กผู้หญิงที่เก็บตัวมาตลอด ลองเริ่มหัดวิ่งเธอใช้เวลาเพียง 6 เดือนเท่านั้น ขอย้ำว่าเพียง 6 เดือนเท่านั้น ก็สามารถติดธงชาติไทยที่น่าอกเป็นตัวแทนไปแข่งขันระดับนานาชาติเป็นครั้งแรก ที่น่าภาคภูมิใจที่สุดเมื่อออกไปแข่งครั้งแรกที่ได้เหรียญรางวัลกลับมาทันที แต่ดูเหมือนคนที่ภูมิใจมากที่สุดน่าจะเป็น ‘คุณแม่’ ของเธอเสียมากกว่า แม่เธอเอาเหรียญรางวัลวิ่งไปโชว์ ‘คุณป้า’แถวบ้านไปทั่วเลย

ด้วยความสุดยอดของเธอก่อนมาแข่ง ‘พาราลิมปิก’ เธอสร้างบ้านหลังใหม่หลังงามให้พ่อแม่ของเธอสำเร็จ จากรายได้แห่งการวิ่ง

และแล้วรางวัลแห่งชัยชนะก็มาถึง อุ้ม ศศิราวรรณ อินทโชติ สร้างประวัติศาสตร์ คว้าเหรียญทองแดง พาราลิมปิก ในการแข่งขัน กรีฑา 200 เมตรหญิง คลาส T47 โดยเข้าเส้นชัยด้วยเวลา 25.20 วินาที ที่ สนาม สต๊าด เดอ ฟรองซ์ กรุงปารีส ฝรั่งเศส

เธอบอกหลังคว้าเหรียญสำเร็จว่า 

ดีใจมาก แต่ตอนแรกไม่คิดว่าจะได้เหรียญแค่เข้าชิงก็ดีใจสุดๆแล้ว ขอบคุณทางบ้านที่เป็นกำลังใจให้วันนี้หนูทำสำเร็จแล้ว

PIA โดนจวกเละ เปิดเส้นทางบินปารีส แต่ภาพชวนระทึก คล้ายโศกนาฏกรรม 9/11

เมื่อวันที่ (10 ม.ค.68) สายการบินประจำชาติปากีสถาน ‘ปากีสถาน อินเตอร์เนชั่นแนล แอร์ไลน์’ หรือ PIA ได้กลับมาเปิดให้บริการเที่ยวบินระหว่างอิสลามาบัดและปารีสอีกครั้ง หลังจากที่ก่อนหน้านี้ถูกสำนักงานความปลอดภัยการบินแห่งสหภาพยุโรป (European Aviation Safety Agency) สั่งระงับการบิน เนื่องจากข้อกังวลเกี่ยวกับความสามารถของหน่วยงานการบินของปากีสถานในการรักษามาตรฐานความปลอดภัยตามข้อกำหนดสากล  

ในวันเปิดเที่ยวบินดังกล่าว โซเชียลมีเดียของ PIA ได้เผยแพร่ภาพโปรโมตการกลับมาของเส้นทางบินนี้ แต่กลับเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรง ภาพดังกล่าวแสดงให้เห็นเครื่องบินของสายการบินพุ่งตรงไปยังหอไอเฟล พร้อมฉากหลังเป็นสีของธงชาติฝรั่งเศส และข้อความว่า "Paris, we are coming today."  

ภาพนี้ทำให้ผู้คนในโซเชียลมีเดียนึกถึงเหตุการณ์โศกนาฏกรรม 9/11 ที่เครื่องบินถูกใช้เป็นอาวุธในการโจมตีอาคารในสหรัฐอเมริกาเมื่อปี 2001 ส่งผลให้เกิดเสียงตำหนิในโลกออนไลน์ เช่น “คนทำกราฟิกของสายการบินควรเรียนประวัติศาสตร์ใหม่,” “ทีมการตลาดควรถูกไล่ออก,” และ “ใครคิดว่าโฆษณานี้เหมาะสม?”  

เกี่ยวกับประเด็นนี้ อิสฮัก ดาร์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีต่างประเทศของปากีสถาน เปิดเผยต่อที่ประชุมวุฒิสภาว่า นายกรัฐมนตรีชาห์บาซ ชารีฟ ได้รับทราบเรื่องนี้แล้ว และตำหนิว่าการเผยแพร่ภาพดังกล่าวเป็นความผิดพลาดที่ไม่น่าให้อภัย พร้อมสั่งการให้ตรวจสอบ ระบุผู้รับผิดชอบทันที อีกทั้งให้ถอดภาพจากแคมเปญโปรโมตทันที

สถานทูต ณ กรุงปารีส ร่วมแสดงความยินดี หนังไทย!! คว้ารางวัลใหญ่จาก ‘เมืองคานส์’

(24 พ.ค. 68) สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงปารีส ขอร่วมแสดงความยินดีกับภาพยนตร์ไทยเรื่อง “ผีใช้ได้ค่ะ” หรือ A Useful Ghost ในภาษาอังกฤษ และ Un Fantôme Utile ในภาษาฝรั่งเศส

ซึ่งได้รับรางวัลชนะเลิศ Grand Prize จากเวที Critics Week (Grand prix de la Semaine de la critique) ของเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ในปีนี้ 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top