Tuesday, 22 April 2025
ปวินชัชวาลพงศ์พันธ์

‘รศ.ปวิน’ เผยอีกมุม ‘ชัยวุฒิ’ นักการเมืองสายชั้นเชิง แท็กติกเยอะ!! ใครคิดว่า ‘โง่’ ขอแย้งแทน เขาไม่ได้ ‘โง่’

‘รศ.ปวิน’ นักวิชาการมหาวิทยาลัยเกียวโต เผยมุมมองใหม่ หลายคนมองแง่ลบทางความคิด ‘ชัยวุฒิ’ ในบทนักการเมือง แต่แท้จริงแล้ว ลึกๆ มีเรื่องราวซ่อนอยู่มากมายในทุกประเด็น ที่ใครว่า ‘โง่’ ขอแย้งแทน เขาไม่ได้ ‘โง่’

(27 เม.ย. 66) รศ.ปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ นักวิชาการมหาวิทยาลัยเกียวโต ให้สัมภาษณ์ประเด็นที่เกี่ยวข้องกับพรรคพลังประชารัฐ และการเลือกตั้งปี 2566 ผ่าน ‘เนม รติศา วิเชียรพิทยา’ บล็อกเกอร์สาว เจ้าของช่องสรุปข่าวแบบเข้าใจง่าย ในชื่อ NailName ซึ่งออกอากาศทาง YouTube ที่ปัจจุบันมียอดผู้ติดตามมากกว่าครึ่งล้าน โดยบางช่วงได้พูดถึงความสัมพันธ์ระหว่างตน กับ นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัล เพื่อเศรษฐกิจและสังคม และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ระบุว่า…

เป็นความสัมพันธ์ที่ดีใจจุดหนึ่ง แต่อีกมุมก็มองว่าค่อนข้างแปลก ซึ่งเรื่องนี้เล่าให้ฟังเพียงไม่กี่คนเท่านั้น โดยคุณโอ๋ ชัยวุฒิ เคยพยายามปิดตลาดหลวง และอยู่เบื้องหลังการฟ้องร้องตนเองในด้านอาชญากรรมไซเบอร์มาก่อน แต่ก็ไม่เคยไม่พอใจซึ่งกันและกัน ทั้งนี้เคยมีการพูดคุยกันอยู่บ้าง เมื่อครั้งตนเอง เขียนหนังสือเล่มใหม่ และต้องการส่งหนังสือไปให้ ทางคุณโอ๋ ชัยวุฒิ เองก็น่ารัก ยินดีรับหนังสือดังกล่าว บางครั้งในโซเชียลก็มีการโต้ตอบกันบางในเรื่องเล็กๆ น้อยๆ อย่างเมื่อครั้งคุณโอ๋ ชัยวุฒิ ไปทำบุญกับคุณแม่ภรณี ธนาคมานุสรณ์ ตนเองก็เข้าไปคอมเมนต์ ก็ได้รับการตอบกลับมา ว่าคุณแม่ ฝากบุญมาให้ตนเอง ซึ่งก็ถือเป็นเรื่องที่น่ารัก ไม่คิดว่าจะเป็นการพูดคุยกันในรูปแบบบุคคลธรรมดาทั่วไปได้ 

สัมภาษณ์ จาก เมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย เปิดใจ ความรู้สึกถึงประเทศไทย และคนไทย

รองศาสตราจารย์ ปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ นักวิชาการ นักเขียน นักรัฐศาสตร์และอดีตนักการทูตชาวไทย ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองศาสตราจารย์ประจำสถาบันเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา มหาวิทยาลัยเกียวโต ได้โพสต์คลิปสัมภาษณ์ พล.ต.ต.ปวีณ พงศ์สิรินทร์ ที่เมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย โดยพล.ต.ต.ปวีณ ได้ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับประเทศไทยและคนไทยไว้ โดยมีใจความว่า ...

ก่อนอื่นเลยนะครับผมต้องขอขอบคุณคนไทยที่ช่วยกัน เปลี่ยนแปลงประเทศ โดยเฉพาะประเทศของเราที่มันมืดมิดมานาน กลายเป็นประเทศแห่งความหวัง ตรงนี้ต้องขอขอบคุณคนไทยด้วย และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ที่หลายคนมีความปรารถนาดี ต่อผม แน่นอนครับว่าสถานการณ์จะดีกว่าที่ผ่านมามากมาย พล.ต.ต.ปวีณ กล่าวทิ้งท้าย

‘ปวิน’ เตือนสติ!! ศึก ‘กะเทยไทย-กะเทยฟิลิปปินส์’ ชี้ ถ้าไฟชาตินิยมถูกจุด ดับยาก แล้วจะพังทุกฝ่าย

(5 มี.ค.67) จากกรณีเหตุการณ์ ‘กะเทยไทย’ จำนวนมากนัดรวมตัวกันที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ในซอยสุขุมวิท 11 เพื่อเข้าไปทำร้าย ‘กะเทยฟิลิปปินส์’ ที่ยกพวกรุมทำร้ายกะเทยไทย จนได้รับบาดเจ็บ จนตำรวจ สน.ลุมพินี เข้ามาตรึงกำลัง พร้อมเจรจาให้เปิดทางหน้าโรงแรม เพื่อนำกลุ่มชาวฟิลิปปินส์ไปโรงพัก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนำกะเทยฟิลิปปินส์คนแรกออกมา เกิดเหตุการณ์ชุลมุน กลุ่มกะเทยไทยระดมปาขวดเข้าไปใส่กะเทยฟิลิปปินส์ท่ามกลางตำรวจที่ตรึงกำลังอยู่

ก่อนที่กะเทยไทยหลายคนกรูเข้าไปทำร้ายกะเทยฟิลิปปินส์ ทั้งยังกระโดดทิ้งตัวเข้าใส่กลางวงตำรวจและกระหน่ำทุบกะเทยฟิลิปปินส์ไม่ยั้ง ก่อนลากออกมารุมทำร้ายหน้าโรงแรม จนตำรวจเข้าไประงับเหตุจากนั้นควบคุมตัวทั้งกะเทยไทยที่ก่อเหตุทำร้ายและกะเทยฟิลิปปินส์ที่ถูกทำร้ายบาดเจ็บไปยัง สน.ลุมพินี

ด้าน ‘ปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์’ รองศาสตราจารย์ประจำสถาบันเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มหาวิทยาลัยเกียวโต แสดงความคิดเห็นต่อกรณีดังกล่าวได้อย่างน่าสนใจ ความว่า แว็บแรกอาจจะอ่านดูแล้วขำๆ กะเทยไทยยกทัพรุมตบกะเทยปินส์ หลังถูกกะเทยปินส์หยามก่อนที่พาพวกรุมตบกะเทยไทย

แต่ถ้าเราอ่านอย่างมีวุฒิภาวะ เหตุการณ์เกินขอบเขตไปมาก เหมือนกรณีชาวภูเก็ตยกพวกไล่ฝรั่งสวิส ทั้งสองกรณี มีการโหมไฟแห่งชาตินิยม เราเป็นไทยต้องไม่ให้ต่างชาติมาย่ำยี แม้ว่าความจริง ทั้งสองกรณีสามารถใช้มาตรการทางด้านกฎหมายแก้ไขได้โดยไม่ต้องมีใครเจ็บตัวอีก

เอาละค่ะ คำแนะนำของดิชั้นอาจเป็นคำแนะนำแบบนางงาม แต่จากการสอนหนังสือเรื่องชาตินิยมมาหลายปี ถ้าไฟชาตินิยมมันถูกจุดแล้ว ดับยาก แล้วจะพังทุกฝ่าย นี่ยังไม่พูดถึงเรื่องการต้องอยู่ร่วมกับเพื่อนบ้านอย่างสันติ โดยเฉพาะเพื่อนบ้านในอาเซียน เราต้องรักกันไม่ใช่หรอ แล้วไอ้ความพยายามสร้างอัตลักษณ์ภูมิภาคร่วมกันหละ หรือวันนี้ ถูกกองทัพกะเทยไทยบดขยี้หมดแล้ว?

'ปวิน' ลั่น!! ศาล รธน.เป็นเครื่องมือของสถาบันฯ เอาไว้ใช้กำจัดศัตรูทางการเมืองครั้งแล้วครั้งเล่า

(8 ส.ค. 67) นายปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ นักวิชาการประจำสถาบันเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา มหาวิทยาลัยเกียวโต และผู้ต้องหาคดี 112 ซึ่งขอลี้ภัยอยู่ในต่างประเทศ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า...

หลังจากเดินทางไปสหรัฐอเมริกาและแคนาดากว่า 2 อาทิตย์ บวกกับอาการเบื่อการเมืองไทย เลยไม่อยากพูดหรือเชียนอะไรในช่วงที่ผ่านมา แต่วันนี้ขอเขียนนิดนึงเรื่องการยุบพรรคก้าวไกล 

...คุณไม่จำเป็นต้องเป็นติ่งส้มที่ต้องมีความโกรธในวันนี้ เพียงแต่ถ้าคุณเป็นคนที่มีใจเป็นธรรม คุณจะรู้ว่า สิ่งที่ก้าวไกลโดน มันเป็นความอยุติธรรมและเป็นความถดถอยของระบอบประชาธิปไตย

...ศาลรัฐธรรมนูญ คือเครื่องมือของสถาบันกษัตริย์ที่ใช้กำจัดศัตรูทางการเมืองครั้งแล้วครั้งเล่า ความน่ากลัวที่ดิชั้นพูดไปในหลายโอกาสก็คือ ในประเทศหนึ่ง ๆ การล่มสลายของสถาบันใดๆ อาจยังทำให้ประเทศไปต่อได้ เราอาจไม่จำเป็นต้องมีสถาบันกองทัพ (ญี่ปุ่น) เราอาจไม่จำเป็นต้องมีสถาบันกษัตริย์ (ฝรั่งเศส) แต่ถ้าสถาบันยุติธรรมล่มสลาย นั่นคือการล่มสลายของชาติ เราจะอยู่อย่างไรถ้าประเทศไร้ซึ่งความยุติธรรม

...ดิชั้นไม่อยากให้ผู้สนับสนุนก้าวไกลยอมรับความพ่ายแพ้นี้ โดยการพูดว่า ยุบแล้วไง ยักไหล่แล้วไปต่อ ไม่ค่ะ คุณพูดแบบนั้นไม่ได้ เพราะเท่ากับคุณยอมรับความชอบธรรมและความเป็นปกติ (normalisation) ของกระบวนการพิกลพิการนี้ เราต้องลุกสู้กับความอยุติธรรมนี้ เราต้องส่งเสียง เท่าที่เราสามารถทำได้ การรอให้มีการตั้งพรรคใหม่ เลือกตั้งครั้งหน้าแล้วหวังจะกลับมาชนะพวกมัน แม้จะเป็นความพยายามที่มีเกียรติและน่าชื่นชม แต่ไม่มีอะไรการันตีว่า การชนะจากหีบเลือกตั้งจะนำไปสู่ชัยชนะของพรรคที่จะเกิดขึ้นใหม่ในที่สุด

....การต่อสู้วันนี้จึงไม่ใช่แค่การดึงเอาระบบยุติธรรมกลับมาสู่สภาพปกติ แต่เราต้องสู้เพื่อให้พื้่นที่ของการพูดถึงมาตรา 112 ต้องมีอยู่ เราไม่สามารถอยู่โดยไม่เห็นว่ามีช้างอยู่ในห้องอีกต่อไป

‘ดร.ปวิน’ สวนเดือด!! ‘นางแบก’ ด่าพรรคส้ม ลั่น!! ไม่เคยจับมือ กับ ‘คนทำลายประชาธิปไตย’

(24 พ.ย. 67) ศ.ดร.ปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ นักวิชาการจากมหาวิทยาลัยเกียวโต ได้โพสต์ข้อความ ‘แรง’ โดยมีใจความว่า ...

ความน่ารังเกียจของ E นางแบกบางตัว คือการสร้างวาทกรรมว่า พรรคส้มคือจุดสุดยอดของความ Jungไรทางการเมือง ทั้ง ๆ ที่ตัวคุณและพรรคที่คุณสนับสนุนคือ ความ Jungไรทางการเมืองของแท้ อย่างน้อยพรรคส้มก็ไม่เคยจับมือกับคนที่ทำลายประชาธิปไตย คือแทนที่คุณจะไปด่า E พวกทำลายประชาธิปไตยเหล่านั้น กลับมาจิกกัดพรรคที่สมควรได้จัดตั้งรัฐบาล edok 

‘ดร.ปวิน’ ฟาดเดือด!! ขยะแขยง ‘จักรภพ’ ไม่สนใจปชช. ผูกมิตรกับฝ่ายอำมาตย์

(30 พ.ย. 67) ศ.ดร.ปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ นักวิชาการจากมหาวิทยาลัยเกียวโต ได้โพสต์ข้อความถึง นายจักรภพ เพ็ญแข โดยมีใจความว่า ...

สิ่งที่จักรภพพูดมันเป็นอะไรที่น่าขยะแขยงมาก นักการเมือง/พรรคการเมือง/รัฐบาล ไม่ต้องสนประชาชนมากนัก เพราะต้องเอาเวลาไปผูกมิตรกับฝ่ายอำมาตย์ ไม่งั้นการเมืองไปต่อไปได้ โถ E ตอแหล การพูดแบบนี้พูดบน basis อะไร ทำไมเจ้าของประเทศถึงกลายมาเป็นของแถม ขณะที่ E พวกอำมาตย์กลายมาเป็นลำดับความสำคัญ มึงจะบอกว่าให้มองการเมืองแบบตามความเป็นจริง อันนี้ยิ่งน่าตกใจกว่า เพราะนั่นหมายความว่า ไอ้ความเป็นจริงที่ edok นี่พูดถึงก็คือ แม้จะมีการเลือกตั้ง แม้ประชาชนได้ออกไปใช้สิทธิของเจ้าของประเทศ แต่ประชาชนไม่มีสิทธิทางการเมือง เพราะนักการเมือง/พรรคการเมือง/รัฐบาล ต้องใส่ใจเอ็นดูอำมาตย์ทางการเมืองมากกว่า 

ถ้างั้น จะเรียกรัฐบาลนี้ ว่าเป็นประชาธิปไตยเหรอ จะเรียกประเทศนี้ว่าประชาธิปไตยทำไม 

‘ปวิน’ แซะ ‘ลิซ่า’ คบ ‘เฟรเดริก’ เพราะรวย เลยดูดีไปหมด ชี้!! หน้าตา ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย แต่หล่อ!! เพราะเป็นทายาทหลุยส์

(4 ม.ค. 68) นายปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ หนึ่งในผู้ลี้ภัยการเมืองที่ปัจจุบันอาศัยอยู่ที่กรุงเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น ได้มีการโพสต์ข้อความถึง ‘เฟรเดริก อาร์โนลต์’ ซีอีโอทายาทอาณาจักรแบรนด์หรู LVMH แฟนหนุ่มของนักร้องหญิงไทย ‘ลิซ่า’ ลลิษา มโนบาล โดยระบุว่ามีหน้าตาที่ธรรมดา ๆ ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย

แต่ที่ทำให้เจ้าตัวดูดีก็เพราะความรวย นอกจากนี้เจ้าตัวยังแซะ ‘ลิซ่า’ ทำนองว่าคบหาอีกฝ่ายก็เพราะเป็นทายาทหลุยส์ฯ นั่นเอง

โดยข้อความที่เจ้าตัวโพสต์นั้นระบุว่า … 

"ทายาท Louis Vuitton ถ้าไม่ใช่ทายาท ก็เป็นผู้ชายธรรมดาคนหนึ่ง หน้าตา below average แต่พอรวย เลยดูดีไปหมด ดูดีคู่ควรนักร้องสาว เหมาะสมกันดี และดิชั้นก็เชื่อว่า นักร้องสาวรักเค้าไม่ใช่เพราะเค้าเป็นทายาทหลุยส์แต่เป็นเพราะเค้าเป็นแค่ผู้ชายธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น..."

ทั้งนี้โพสต์ดังกล่าวได้มีคนเข้ามาแสดงความเห็นมากมายและส่วนใหญ่ต่างก็ไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่เจ้าตัวโพสต์แต่อย่างใด


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top