(6 ก.ย. 65) นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า หลังจากที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ต้องเข้ามาทำหน้าที่แทนพล.อ.ประยุทธ์ ปรากฎว่าการทำงานของพล.อ.ประวิตร ในเวลาไม่กี่วันกลับทำได้ดีกว่าพล.อ.ประยุทธ์ มาก เข้าใจปัญหาและเข้าถึงใจประชาชนได้มากกว่าพล.อ.ประยุทธ์ ขนาดทำให้พล.อ.ประยุทธ์ ต้องเสียศูนย์ออกมาแสดงอาการหวงตำแหน่งเดิมอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นการปล่อยรูปนั่งคุยกับนายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกฯ และ รมว. สาธารณสุข นั่งพร้อมกับ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา โดยไม่ได้คำนึงถึงความเหมาะสม เพราะโดยตำแหน่งแล้วนายอนุทิน ที่เป็นรองนายกฯ ย่อมมีฐานะสูงกว่าพล.อ.ประยุทธ์ ที่เป็น รมว. กลาโหมเท่านั้น ยิ่งแสดงถึงภาพการยึดติดและอิจฉาทำใจไม่ได้ที่มีกับพล.อ.ประวิตร ทั้งที่น่าจะรู้ว่าเวลาของตนเองหมดแล้ว แต่ยังพยายามจะดันทุรัง
ล่าสุด พล.อ.ประยุทธ์ลงพื้นที่ กลับเสียคะแนน เพราะนั่งรถกันกระสุนและไม่ยอมเปิดหน้าต่างคุยกับประชาชน โดยอ้างว่าเปิดไม่ได้เพราะเป็นรถกันกระสุน ซึ่งถ้าหากกลัวคนทำร้ายและกลัวตายขนาดนี้ ก็ไม่น่าจะยังดื้อรั้นจะอยู่ตำแหน่งต่อไปอีกเลย ควรออกไปได้แล้ว ทั้งสองเรื่องนี้แสดงถึงความเสื่อมของพล.อ.ประยุทธ์ได้ชัดเจนและพิสูจน์ได้เลยว่าใครเหมาะจะมาเป็นนายกฯ ก็จะทำได้ดีกว่า จากผลงานของพล.อ.ประวิตรเพียงไม่กี่วันมานี้พิสูจน์แล้ว
นายพิชัย กล่าวว่า พล.อ.ประวิตร โชว์ฟอร์มเหนือชั้นกว่าพล.อ.ประยุทธ์ แล้ว ก็อยากให้เร่ง แก้ไขปัญหาของประเทศที่ควรจะเร่งทำทันที อย่าปล่อยให้มีปัญหามากขึ้นเหมือนพลเอกประยุทธ์ ทำโดยนอกจากนโยบายของพรรคพลังประชารัฐที่ยังไม่ได้ทำแล้ว อยากให้เร่งทำ 8 เรื่องดังนี้…
1.) การแก้ไขหนี้ ทั้งหนี้ธุรกิจและหนี้ครัวเรือน โดยจัดระบบการพิจารณาลดหนี้ ลดดอกเบี้ย ยืดเงินต้น เพื่อให้ประชาชนทำธุรกิจและประคองชีวิตต่อได้ โดยหนี้ไม่ท่วม และวิธีแก้ที่ดีที่สุดคือการต้องเพิ่มรายได้ เพื่อให้ชำระหนี้ได้ เรื่องนี้ควรเร่งทำก่อนดอกเบี้ยจะขึ้นไปอีกมาก
2.) การปรับโครงสร้างราคาพลังงาน ทั้งราคาน้ำมัน ก๊าซ และ ไฟฟ้า เพื่อแก้ไขให้ยุติธรรม อย่าให้บริษัทพลังงานและนายทุนพลังงานเอาเปรียบประชาชน
3.) การเจรจาพื้นที่ทับซ้อน ไทย-กัมพูชา เพื่อให้ได้พลังงานในราคาถูก อีกทั้งยังจะมีรายได้เข้ารัฐสามารถนำไปทำสวัสดิการได้
4.) เร่งก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงเชื่อมต่อ หนองคาย-เวียงจันทน์-จีน เพื่อให้ส่งสินค้าไทยไปจีน และนักท่องเที่ยวจีนมาไทยได้