Tuesday, 22 April 2025
ประวิตรวงษ์สุวรรณ

‘บิ๊กป้อม’ จัดเลี้ยงอาหารค่ำแก่ ‘นักกีฬาไทย’ ศึกโอลิมปิก 2024 พร้อมขอบคุณ-ให้กำลังใจ หลังทำหน้าที่เพื่อชื่อเสียงประเทศชาติ

(5 ส.ค. 67) ผู้สื่อข่าวรายงานจากประเทศฝรั่งเศส วันที่ 4 สิงหาคม เวลา 18.30 น. (ตามเวลาท้องถิ่น) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทยฯ ได้จัดเลี้ยงอาหารค่ำให้แก่นักกีฬาทีมชาติไทย พร้อมเจ้าหน้าที่ สต๊าฟ โค้ช และสมาคมกีฬาที่เข้าร่วมการแข่งขันมหกรรมกีฬาโอลิมปิก ปารีสเกมส์ 2024 ณ ทำเนียบเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส โดยมี เอกอัครราชทูต ศรัณย์ เจริญสุวรรณ และภริยาให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น

ทั้งนี้ มีนักกีฬาทีมชาติไทย ที่เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก 2024 จำนวนทั้งสิ้น 51 คน 17 ชนิดกีฬา ซึ่งถือเป็นประวัติศาสตร์ที่มีนักกีฬาไทย ได้รับสิทธิ์เข้าร่วมการแข่งขันในครั้งนี้

สำหรับงานเลี้ยง ได้จัดอาหารบุฟเฟต์ บรรยากาศสบาย ๆ ชิล ๆ สไตล์คนไทย มีอาหารไทย เช่น ผัดกะเพราไก่, แกงเขียวหวานทะเล, ส้มตำไทย, ลาบหมู, ไก่ทอด และทอดมันกุ้ง เป็นต้น

นอกจากนี้ พล.อ.ประวิตร ได้ถ่ายรูปร่วมกับคณะนักกีฬา และได้กล่าวแสดงความชื่นชม ขอบคุณ และให้กำลังใจนักกีฬาและผู้เกี่ยวข้องทุกคนที่มาร่วมงานในวันนี้ พร้อมขอให้ทุกคนได้มุ่งมั่นพยายามพัฒนาความสามารถของตนเองอย่างสม่ำเสมอ

พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ที่ผ่านมานักกีฬาได้มีการเตรียมความพร้อมในการฝึกซ้อม และสามารถได้รับสิทธิ์เข้าร่วมการแข่งขันในมหกรรมกีฬาระดับโลก คือ กีฬาโอลิมปิกปารีสเกมส์ 2024 ในครั้งนี้ นับเป็นความสำเร็จก้าวสำคัญที่มีนักกีฬาทีมชาติของไทยได้เข้าร่วมการแข่งขันจำนวนมาก และได้ทำผลงานอย่างยอดเยี่ยมหลายรายการ

“กีฬาย่อมมีแพ้ มีชนะเป็นเรื่องธรรมดา การรู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัยเป็นเรื่องที่สำคัญยิ่ง การเผยแพร่วัฒนธรรมไทย ผ่านการแข่งขันกีฬานั้นเป็นเรื่องที่น่ายกย่องสำหรับคนไทย จึงขอขอบคุณแทนคนไทย ที่นักกีฬาทุกคน ทุกสมาคม ได้ทุ่มเท ตั้งใจแข่งขันและทำหน้าที่ของตนด้วยดีและเรายังมีรายการแข่งขันอีก ซึ่งยังมีความหวังที่จะได้รับเหรียญ จึงขอให้นักกีฬาได้ทำหน้าที่ของตนให้ดีที่สุด เพื่อชื่อเสียงประเทศชาติและประชาชนชาวไทย ที่ตั้งตารอคอยความสำเร็จของนักกีฬาทีมชาติไทยในครั้งนี้ พร้อมทั้งขอขอบคุณท่านเอกอัครราชทูตและภริยาที่ให้การต้อนรับ และสนับสนุนทีมนักกีฬาทีมชาติไทยและเจ้าหน้าที่ทุกคนในโอกาสนี้ด้วย” พล.อ.ประวิตรกล่าว

ปูด 'ลุงป้อม' เตรียมดัน 'สามารถ' นั่งหัวหน้าพรรคพลังมหาชน ปั้นเกมรบตามทฤษฎีแตกแบงก์พัน รวมพลังรุ่นใหม่สู้ก้าวไกล

(5 ส.ค. 67) นายบุญรวี ยมจินดา หัวหน้าพรรครวมใจไทย (ร.จ.ท.) เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เตรียมตั้งพรรคคู่ขนานชื่อว่าพรรคพลังมหาชน โดยจะให้นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นหัวหน้าพรรค เตรียมพร้อมที่จะสู้กับพรรคถิ่นกาขาวชาววิไล ซึ่งเป็นพรรคสำรองที่พรรคก้าวไกลไปเทกโอเวอร์มา หากในวันพุธที่ 7 ส.ค.ศาลรัฐธรรมนูญมีมติยุบพรรคก้าวไกล

นายบุญรวี กล่าวต่อว่า เรื่องของพรรคพลังประชารัฐหรือ พล.อ.ประวิตร เป็นเรื่องสำคัญของการเมืองในระยะนี้ ตอนนี้ พล.อ.ประวิตรไม่อยู่ไปดูกีฬาโอลิมปิกที่ประเทศฝรั่งเศส ก็เกิดศึกภายในพรรคระหว่างซีก ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรค กับนายสามารถ คนสนิทของพล.อ.ประวิตร จึงเป็นที่มาว่าจะมีการตั้งพรรครองรับคนรุ่นใหม่ที่นายสามารถ จะประสานเข้ามาร่วมพรรค ส่วนพล.อ.ประวิตร ก็จะอยู่ที่พรรคพลังประชารัฐต่อไป

“พล.ประวิตร มองว่านายสามารถ คือคนรุ่นใหม่ที่มีความสามารถ และจะนำพาคนรุ่นใหม่เข้ามาร่วมงานกับพรรคใหม่ได้แบบที่พานายวัน อยู่บำรุง อดีต สส.พรรคเพื่อไทยเข้ามาร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐ จึงทำให้เกิดทฤษฎีแตกแบงก์พันของ พล.อ.ประวิตร โดยหวังว่าจะเป็นพรรคตัวแทนของคนรุ่นใหม่เพื่อไปแข่งกับพรรคก้าวไกล ท่ามกลางกระแสข่าวว่านายทักษิณ ชินวัตร นายใหญ่ของพรรคเพื่อไทย เตรียมเขี่ยพรรคพลังประชารัฐของพล.อ.ประวิตร พ้นจากพรรคร่วมรัฐบาล”ซึ่งความเป็นจริงแล้วนายทักษิณ ชินวัตร รู้ดีว่าถ้าเขี่ยพลังประชารัฐออกจากรัฐบาลนั้นจะยิ่งทำให้บ้านเมืองวุ่นวายถึงขั้นอาจมีการรัฐประหารอีกครั้งก็เป็นได้

'ลุงป้อม' ปลื้ม!! นักกีฬาโอลิมปิก ครั้งนี้ทำดีที่สุดแล้ว ขอให้มุ่งมั่นต่อไป พร้อมบ่นสื่อ "ถามอะไรก็ไม่รู้' หลังถูกซักเรื่อง 'อุ๊งอิ๊ง' เป็นนายกฯ

(16 ส.ค.67) ที่สำนักงานคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ถนนศรีอยุธยา กทม. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทยฯ เปิดห้องรับรองสำนักงานคณะกรรมการฯ เลี้ยงต้อนรับและแสดงความยินดีให้แก่นักกีฬา ผู้ฝึกสอน สมาคมกีฬา และคณะเจ้าหน้าที่ ที่เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 33 ที่กรุงปารีส สาธารณรัฐฝรั่งเศส โดยมีนักกีฬา ผู้ฝึกสอน สมาคม เข้าร่วม

โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก พล.อ.ประวิตร ได้ให้กำลังใจและมอบของที่ระลึกกับบรรดานักกีฬา รวมถึงเซลฟี่กับ น้องเทนนิส น.ส.พานิภัค วงศ์พัฒนกิจ นักกีฬาเทควันโดทีมชาติไทย ที่ได้เหรียญทองในครั้งนี้ รวมถึงทำท่าซารางเฮโย กับโค้ช ชัชชัย เช อย่างอารมณ์ดี

จากนั้นเวลา 12.15 น. พล.อ.ประวิตร กล่าวภายหลังงานเลี้ยงรับรองนักกีฬาโอลิมปิกถึงการพูดคุยกับนักกีฬา ว่า ให้กำลังใจเขา แล้วสื่อให้กำลังใจเขาหรือไม่

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะต้องพัฒนานักกีฬาเพื่อเตรียมพร้อมสู่การเข้าร่วมโอลิมปิกในครั้งหน้าอย่างไร พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ต้องทำให้ได้เหรียญมากขึ้น ครั้งนี้ถือว่ามากที่สุดแล้ว แต่ต่อไปต้องมากกว่านี้อีก ต้องให้กำลังใจและชักชวนเด็ก ๆ คนไทยทุกคนมาเล่นกีฬาอะไรก็ได้ เพื่อทำชื่อเสียงให้ประเทศชาติและคนไทยมีความสุข

ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้ติดตามเรื่องการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีอย่างไรบ้าง พล.อ.ประวิตร ตอบว่า ถามอะไรก็ไม่ได้ยิน ก่อนจะเดินขึ้นรถยนต์และเปิดกระจกลงมาถามผู้สื่อข่าวว่า อยากจะถามอะไร ผู้สื่อข่าวจึงถามว่า มองอย่างไรที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ได้รับเลือกเป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 31 พล.อ.ประวิตร อุทานว่า "หูย ! ถามอะไรก็ไม่รู้" ก่อนเดินทางกลับทันที

'กก.บห.' พลังประชารัฐ มอบดาบ 'บิ๊กป้อม' ชงชื่อใหม่ได้ หากคุณสมบัติ รมต.ไม่ผ่าน

(23 ส.ค.67) ที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย โฆษกพรรคพลังประชารัฐ แถลงภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค เป็นประธาน ว่า พรรคพลังประชารัฐได้จัดการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค โดยมีกรรมการบริหารพรรคมาร่วมประชุมจำนวน 12 คน จากจำนวน 19 คน ซึ่งครบตามองค์ประชุม เพื่อยืนยันการเข้าร่วมรัฐบาลและการเสนอชื่อบุคคลเพื่อดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีในสัดส่วนของพรรคตามที่ได้มีข้อตกลงกับพรรคเพื่อไทยในฐานะแกนนำจัดตั้งรัฐบาล

ที่ประชุมได้รับทราบเกี่ยวกับการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวันที่ 16 ส.ค.ที่ผ่านมา ตามที่ สส.ของพรรคพลังประชารัฐได้มีมติเห็นชอบให้หัวหน้าพรรคเพื่อไทย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี และต่อมาผู้ประสานงานพรรคร่วมรัฐบาลได้ประสานมายังพรรคพลังประชารัฐเพื่อเสนอรายชื่อบุคคลที่มีความเหมาะสมจะเป็นรัฐมนตรีในสัดส่วนโควตาของพรรคพลังประชารัฐ และในวันที่ 20 ส.ค.67 หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐได้เสนอรายชื่อบุคคลดังกล่าวจำนวน 4 คน ผ่าน นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกฯ ไปแล้วนั้น

พล.ต.ท.ปิยะ กล่าวต่อว่า โดยที่ประชุมได้พิจารณาแล้ว ได้มีมติเกี่ยวกับการเสนอชื่อบุคคลที่เห็นควรเป็นรัฐมนตรีในสัดส่วนของพรรค ดังนี้ พรรคพลังประชารัฐขอยืนยันรายชื่อบุคคลที่พรรคได้เสนอต่อนายกรัฐมนตรีผ่าน นพ.พรหมินทร์ ไปแล้วเมื่อวันที่ 20 ส.ค.ที่ผ่านมา เพื่อให้นายกรัฐมนตรีพิจารณาแต่งตั้งตามข้อตกลงในการร่วมรัฐบาล ทั้งนี้ หากรายชื่อที่ส่งไปแล้วปรากฏว่า มีบุคคลใดบุคคลหนึ่งไม่ผ่านคุณสมบัติในการดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี ทางพรรคเพื่อไทยควรต้องแจ้งกลับมาให้พรรคพลังประชารัฐทราบ เพื่อให้หัวหน้าพรรคซึ่งได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการบริหารพรรคเป็นผู้พิจารณาเปลี่ยนแปลงรายชื่อและเสนอไปใหม่เพื่อทดแทนเท่านั้น

"หากมีการเสนอแต่งตั้งรายชื่อบุคคลอื่นบุคคลใดที่ไม่ได้มาจากรายชื่อที่พรรคพลังประชารัฐเสนอเป็นรัฐมนตรี ทางพรรคขอปฏิเสธรายชื่อดังกล่าวและจะถือว่าไม่เป็นไปตามข้อตกลงที่ทางพรรคเพื่อไทยในฐานะแกนนำจัดตั้งรัฐบาลควรยึดถือและปฏิบัติตามต่อไป"

ผู้สื่อข่าวถามว่า ตั้งแต่วันที่ได้ส่งรายชื่อให้พรรคเพื่อไทย มีการแจ้งกลับมาหรือยังว่า แต่ละคนมีคุณสมบัติครบถ้วน พล.ต.ท.ปิยะ กล่าวว่า ขณะนี้มีการประสานงานกันเป็นระยะ

เมื่อถามว่า ชื่อของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ยังมีคุณสมบัติอยู่ใช่หรือไม่ พล.ต.ท.ปิยะ กล่าวว่า ขณะนี้ในเบื้องต้นมีการพูดคุยกัน แต่ก็ไม่ได้มีการยืนยันว่าจะต้องมีการปรับเปลี่ยนแค่ไหนอย่างไร

ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า รายชื่อที่คุณสมบัติไม่ผ่าน หัวหน้าพรรคสามารถเสนอชื่อให้ทางพรรคเพื่อไทย โดยไม่ต้องผ่านกก.บห.ใช่หรือไม่ พล.ต.ท.ปิยะ กล่าวว่า ใช่ มติที่ประชุมยืนยันชัดเจนว่า กก.บห.ได้มอบอำนาจให้หัวหน้าพรรคเป็นผู้มีอำนาจในการตัดสินใจ แต่หากหัวหน้าพรรคจะมีความเห็นควรจะผ่านกรรมการบริหารพรรคอีกครั้งก็คงจะนำรายชื่อเข้าที่ประชุม กก.บห.

ซักว่า รายชื่อที่ ร.อ.ธรรมนัส ส่งไป ซึ่งยังไม่ผ่านกก.บห.ถือว่าโมฆะหรือไม่ พล.ต.ท.ปิยะ กล่าวว่า ไม่ เพราะ 4 รายชื่อตามที่ กก.บห.ก็ยังยืนยันตามเดิมตั้งแต่วันแรกที่เราเสนอไปเมื่อวันที่ 20 ส.ค. ซึ่งล้วนเป็นรัฐมนตรีเก่าของเราในรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน

ผู้สื่อข่าวถามด้วยว่า สุดท้ายหากรายชื่อไม่ออกมาตามนี้จะดำเนินการอย่างไร พล.ต.ท.ปิยะ กล่าวว่า คงจะต้องคุยกับทางพรรคเพื่อไทย จริง ๆ แล้วเป็นอำนาจของหัวหน้ารัฐบาล แต่โดยมารยาททางการเมืองจะต้องมีการพูดคุยกัน หากรายชื่อที่เสนอไปไม่เหมาะสม หรือคุณสมบัติไม่ครบถ้วน ไม่ชัดเจน ก็ต้องมาคุยกัน เรายินดีพร้อมที่จะเปลี่ยน

ถามว่า การประชุม กก.บห.วันนี้ กลุ่มของ ร.อ.ธรรมนัส ไม่เข้าร่วม สะท้อนถึงรอยร้าวภายในพรรคหรือไม่ พล.ต.ท.ปิยะ กล่าวว่า ไม่ เพราะอาจจะติดภารกิจ มีการแจ้งกก.บห.แล้ว

เมื่อถามว่า รายชื่อที่ไปส่งตั้งแต่วันที่ 20 ส.ค. ยังไม่มีการติดต่ออะไรกลับมาใช่หรือไม่ พล.ต.ท.ปิยะ กล่าวว่า ในทางการยังไม่มีการติดต่อกลับมา เมื่อถามว่า ในที่ประชุม กก.บห.มีการหารือกันถึงการครอบงำข้ามพรรคของคนนอกหรือไม่ พล.ต.ท.ปิยะ กล่าวว่า ไม่ได้พูดคุย เราคุยในหลักเกณฑ์ หลักการ และวิธีการของพรรคเราเท่านั้น

พล.ต.ท.ปิยะ กล่าวถึงรายชื่อรัฐมนตรีที่พรรคพลังประชารัฐเสนอไปว่า รายชื่อรัฐมนตรีแต่ละพรรค ก็มีมติและความเห็นของแต่ละพรรค แต่หากพรรคใดมัวแต่ฟังเสียงเล็ก เสียงน้อย เสียงทุ้มอะไรพวกนี้ ก็จะไขว้เขว ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นหลักเกณฑ์มาตั้งแต่ดึกดำบรรพ์ที่มีการเมืองมา ควรคุยกันและให้เกียรติการร่วมรัฐบาลซึ่งกันและกัน ซึ่งพรรคพลังประชารัฐยืนยันว่า รายชื่อรัฐมนตรีที่เราส่งไปได้ผ่านการพิจารณาของกรรมการบริหารพรรค แต่หากพรรคเพื่อไทยจะนำคนอื่นมาใช้ในโควตาของพรรคพลังประชารัฐ ถือว่าไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์

ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า กังวลถึงคุณสมบัติของรัฐมนตรีพรรคพลังประชารัฐ ที่อาจเข้าข่ายผิด มาตรฐานจริยธรรมหรือไม่ พล.ต.ท.ปิยะ กล่าวว่า เรื่องนี้เราเข้าใจหัวหน้าพรรค และนายกรัฐมนตรี เพราะตามหลักการ หากเสนอบุคคลที่คุณสมบัติไม่ครบถ้วน หรือไม่เหมาะสม ก็อาจจะมีผลกระทบ ซึ่งทางพรรคเพื่อไทยมีความไม่สบายใจตรงนี้ จึงแจ้งกลับมายังหัวหน้าพรรค ซึ่งทางพรรคยินดีที่จะเปลี่ยนเป็นคนที่เหมาะสม เพราะพรรคพลังประชารัฐมีบุคคลที่เหมาะสม และพร้อมเป็นรัฐมนตรีอยู่หลายคน ไม่ต้องห่วง

เมื่อถามถึงกระแสข่าวว่า พล.อ.ประวิตร จะลาออกจากหัวหน้าพรรค พล.ต.ท.ปิยะ กล่าวว่า ไม่มี หัวหน้าพรรคอยู่กับพวกเราตลอด หากเราไม่ทิ้งท่าน ท่านก็ไม่ทิ้งพวกเรา

‘บิ๊กป้อม’ ห่วงใยผู้ประสบภัยน้ำท่วมจังหวัดแพร่ ส่ง ‘ชัยวุฒิ-พล.ต.ท.ปิยะ’ ลงพื้นที่มอบถุงยังชีพ

(26 ส.ค. 67) พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ มอบหมายให้ นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และพลตำรวจโทปิยะ ต๊ะวิชัย ทีมโฆษกพลังประชารัฐ ลงพื้นที่ วัดปากจอก ต.ทุ่งแล้ง อ.ลอง จ.แพร่ เป็นตัวแทนมอบถุงยังชีพให้แก่ประชาชนที่ประสบปัญหาอุทกภัยในเขต พื้นที่อำเภอลอง จังหวัดแพร่ จำนวน 400 ชุด พร้อมทั้งมอบถุงยังชีพจำนวน 600 ชุด ให้กับตัวแทนนายอำเภอเด่นชัย และตัวแทนนายอำเภอวังชิ้น รับมอบถุงยังชีพ

โดย นายชัยวุฒิ กล่าวว่า พลเอกประวิตร เข้าใจถึงความเดือดร้อนของประชาชนที่บางครัวเรือนยังไม่สามารถกลับเข้าบ้านเรือนได้ เนื่องจากบ้านถูกน้ำท่วมและประชาชนหลายคนยังขาดแคลนเสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่ม รวมถึงการใช้ชีวิตประจำวันก็ได้รับผลกระทบอย่างหนัก พลเอกประวิตร จึงห่วงใยพี่น้องประชาชนที่ประสบภัย โดยขอให้กำลังให้ทุกคนให้ผ่านพ้นวิกฤตินี้ไปได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งพรรคพลังประชารัฐหวังว่ามอบถุงยังชีพที่เรานำมาแจกจ่ายให้กับประชาชนจะสามารถบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้นได้

“พรรคพลังประชารัฐ นำโดยท่านหัวหน้ามีความเป็นห่วงใยความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน ที่กำลังได้รับกับความเดือดร้อน และยากลำบากในครั้งนี้ และขอเป็นกำลังใจให้พี่น้องชาวแพร่ทุกท่าน ผ่านพ้นวิกฤติในครั้งนี้ไปโดยเร็ว” นายชัยวุฒิกล่าว 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top